Sony ไทยเปิดราคาไลน์อัพทีวี Bravia ประจำปี 2022 (รหัส K) ในไทยแล้ว นอกจากคุณสมบัติและฟีเจอร์ต่างๆ ของทีวีที่ปรับปรุงเพิ่ม สิ่งที่แตกต่างคือรุ่นรหัส K จะมาพร้อม Bravia Core บริการสตรีมมิ่งของ Sony สำหรับทีวี Bravia XR โดยสามารถ Redeem ภาพยนตร์ได้สูงสุดถึง 10 เรื่อง และสตรีมมิ่งแบบไม่จำกัดสูงสุดถึง 24 เดือน (ใครเพิ่งซื้อรุ่น J ไปน้ำตาไหล)
ส่วนราคาของรุ่นท็อปๆ มีดังนี้
OLED
- XR-48A90K ราคา 52,990 บาท
- XR-77A80K ราคา 139,990 บาท
- XR-65A80K ราคา 89,990 บาท
- XR-55A80K ราคา 74,990 บาท
4K Full-Array
- XR-85X90K ราคา 126,990 บาท
- XR-75X90K ราคาประกาศเร็วๆ นี้
- XR-65X90K ราคา 49,990 บาท
- XR-55X90K ราคา 40,990 บาท
ที่มา - อีเมลประชาสัมพันธ์
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Comments
ใครเพิ่งซื้อ?รุ่น J
sort แปลก ๆ ตรงรุ่นกับราคา
ราคาถูกลงเยอะมากนะเนี่ย
OLED ผมว่าใช่แต่ LED แพงขึ้นนะผมว่าส่งนตัวดันสนใจ XR-48A90K ราคา 52,990 บาทมากกว่าใช้ 55 นิ้วที่ห้องนอนไม่ไหวใหญ่ไปเล่นเกมทีถอยไปแทบจะหัวเตียงเลย
รู้สึทีวีแพงขึ้นนะ ไม่ใช่แค่ยี่ห้อนี้ ก่อนไน้านี้ ได้ 55” หมื่นต้น โค้ดลด เหลือ 9 ปลาย เดี๋ยวนี้ ไปหมื่นกลาง แล้ว
สรุปแล้ว Full Array กับ OLED อันไหนมันดีกว่ากันครับ ใครใช้แบรนด์นี้บ้างที่มันแพงจัดเพราะอะไรครับ สเป็คเหนือกว่าชาวบ้านเขา หรือแพงเพราะแบรนด์ ที่ผมว่ามันแพงเพราะผมเทียบกับ LG นะครับ เพราะ LG OLED 55" น้ิวนี่มีตั้งแต่สามหมื่นต้นยันสี่หมื่นกลาง บางครั้งพวก Shopee Lazada ลดราคากระหน่ำไปอีก
อย่าดราม่ากับผมนะ ผมเป็นคนใช้งานจริงมาให้ข้อมูลเฉยๆ
จอแบนตัวแรกผมใช้ LG LED 40 นิ้วรุ่น TOP ตอนนั้น ~40k
ใช้งานได้ดี เมนูเร็ว แต่เอามาต่อ PC ออกทีวีเพี้ยนมาก กว่าจะปรับจนพอได้
มีปัญหาเรื่องการ sync กับ PS3 บ้าง ซึ่งไม่รู้จะโทษทีวีดีมั้ย เพราะ PS3 ผมโซนยุโรปและสายมืด
อัพเดต Custom ROM ทีไรลุ้นทุกที นอกนั้นก็ก็ใช้ได้ดีมาเรื่อย
จนกระทั่งความซวยของตัวเองมาเยือนคือเปิดทีวีขณะฝนฟ้าคะนองฟ้าเปรี้ยง
จอกระพริบ ตอนแรกก็ไม่เป็นอะไรดูไปจนจบปิดทีวีนอนและก็เปิดไม่ติดอีกเลย
สิริอายุรวม 5 ปี
ตัวที่ 2 โซหนี้ 55 นิ้ว รุ่น 4k ออกใหม่ๆ ราคาก็ ~40k
ใช้งานได้ดี เมนูหน่วงๆ ตามประสา android เวอร์ชั่นเมียน้อย
แอปช่วงแรก แทบไม่มีอะไรเลย ยังดีที่มี KODI for android TV
ต่อ PC ออกทีวีไม่ต้องปรับอะไรเลย (ก็เพราะมันคนละยุคกับ LG แล้ว)
ไม่มีปัญหาเรื่องการ sync กับ PS3 เลย รวมถึง PS4 (ที่พึ่งซื้อมาใหม่ๆ)ด้วย
และพอเข้าสู่อารยธรรมก็ชอบ Bravia Link มาก สะดวกดี
จนกระทั่งมาถึงบททดสอบที่ทีวีทุกเครื่องในบ้านผมต้องเผชิญ
ฝนตกฟ้าฝ่าเปรี้ยง โซหนี้ นิ่งสนิทครับ ไม่มีอาการกระตุกใดๆ ยังคงทำงานได้เป็นปกติ
แม้หลังจากที่ผมได้ลองปิดเปิดอยู่หลายครั้งด้วยความหลอน
รวมอายุการใช้งานมาแล้ว 7 ปี
ปล.เรื่องคุณภาพ แสงสีเสียง ผมให้ โซหนี้ ชนะ LG นะครับ (วัดจากรุ่นที่ผมได้ใช้เท่านั้นนะ)
ปล2.เคยอ่านจากที่ไหนไม่แน่ใจ แต่เขาบอกว่าทีวีของโซหนี้ทุกเครื่องจะมีวงจรป้องกันฟ้าฝ่าปล3.หลังจาก โซหนี้ ผ่านบททดสอบครั้งนั้น ผมตัดสินใจซื้อ UPS รุ่นที่เชื่อถือได้ ราคาแพงเชียว
เพื่อมาเป็นหลักประกัน พร้อมคิดในใจว่า ทำไมกล้าซื้อทีวีเกือบครึ่งแสน แต่งกกับอุปกรณ์ป้องกันไม่ถึงหมื่น?
ครับ.
ขอบคุณสำหรับความรู้ครับผม ไม่ดราม่าแน่นอน คือเรื่องทีวีนี่ผมพลาดไปหน่อย ก่อนหน้านี้ใช้ LG ไม่ทราบสเป็คแน่ชัดครับรับต่อจากพี่ชายซึ่งย้ายคอนโด เขากี้เกียจขน สีสันสดใสดี ตายตรงฉากกลางคืนมืดอย่าง Harry Potter ภาคท้าย ๆ นี่มืดจัดมองไม่เห็นอะไรเลย ก็อตซิล่า แปซิฟิกริมด้วย พอปรับสว่างก็ดูได้แต่พอฉากปกติดั้งหายเพราะสว่างจัด พอยกให้ญาติต่อ เลยเลือกซื้อเป็น โตชิบ้า เรื่องเครื่องใช้ไฟฟ้าค่อนข้างมั่นใจแบรนด์ญี่ปุ่น
พลาดที่ ๑ คือ ไม่รู้ว่ามันคือ ไฮเซ่นส์ หน้าตาเหมือนกันเด๊ะต่่างกันแค่ขาตั้ง กับโลโก้เครื่อง ในราคาที่แพงกว่าสามพันบาท
พลาด ๒ คือไม่ได้ศึกษาเรื่องจอเรื่องคุณสมบัติเลย เห็นเป็นสี่เคก็เอาเลย (เห็นเว็บเค้าโปรโมท Finetunes จาก Japan) ปรากฎว่าความสว่่างแค่ 350 nits กับ HDR10 น่าจะปลอมเพราะหนัง HDR10 กลายเป็นสีเทาเลย ส่วน Dolby Vision อารมณ์ประมาณว่าถอดรหัสได้แต่จอมีแค่นี้ภาพหมองเลย ร้ายกว่านั้นไม่มีที่ให้ปิดโหมดที่ว่านี้ด้วย ต้องใช้ Apple TV หรือ Android TV Box ที่มีคุณสมบัติปิดได้มาต่อเอา
อยากเปลี่ยนทีวีแต่เข็ดเลยยังไม่ได้เปลี่ยนจนมาถึงทุกวันนี้ครับ เลยลังเลระหว่างฟูลอะเรย์ กับโอเลด เพราะว่าพอดูหนังบนจอ OLED ที่รองรับ DV บน iPhone 13 Promax กับเครื่องที่ไม่รองรับอย่าง Samsung A53 5G ไม่รุ้สึกต่าง ชอบสีฝั่ง Samsung มากกว่าด้วยซ้ำสีสดทะลุตาดี แต่ทั้งสองเครื่องคือเวลาฉากมืดมองไม่ถนัด เร่งจนโทนสว่างปักตา แต่ชอบ SDR บนทีวีมากกว่าไม่มืดเกิน แต่สีซีดไปหน่อย และยังไม่เคยลองแบบฟูลอะเรย์เลยครับ กะจัดชุดใหญ่แต่ยังไม่กล้าตัดสินใจกลัวพลาดอีก เพราะทีวีใส่กระเป๋าไปขายง่าย ๆ เหมือนมือถือไม่ได้ ขนย้ายทีก็ลำบาก
แหะๆ ออกตัวไว้ก่อนครับ เพราะเรื่อง แสงสีเสียง นี่มันแล้วแต่จริตของคนจริงๆ ครับ
...แต่ทั้งสองเครื่องคือเวลาฉากมืดมองไม่ถนัด เร่งจนโทนสว่างปักตา...
อันนี้น่าจะเป็นที่ขนาดหน้าจอมั้ยครับ? 555 มันเล็กไปนะผมว่าที่จะเห็นรายละเอียดในฉากมืดๆ
ขนาดหน้าจอไม่น่าเกี่ยวครับ เป็นที่เทคโนโลยีแหละครับ พวก Oled Contrast ratio มันโหดครับLED บ้าน ๆ สู้ไม่ได้ครับ
ผมดูหนังแบบ HDR ด้วยจอ LED 4K 55" บ้าน ๆ ฉากมันตอนมืด ก็เฉย ๆ มันก็มืดปกติ แต่พอมาดูซ้ำอีกรอบด้วยจอมือถือ Samsung S10 Oled โอโห ในฉากมืดมันมรายละเอียดยิบย่อยเยอะเลยที่จอทีวีมันแสดงผลไม่ได้ ขนาดหน้าจอเล็กนี่ไม่เกี่ยวเลยครับ 555 เลยแอบอิจฉาพวกจอ OLED TV อยู่ครับ แต่ไม่มีเงิน 555
แต่คือ จอมือถือ ไปดูถูกไม่ได้เลยครับ เทคโนโลยีเค้าไม่ใช่ธรรมดาถ้าเทียบกับทีวี อย่างจอ S10 ผมก็ 1440P HDR สว่างสูงสุด 1200 nits เลย ทีวีจะหาจอ 1200 nits นี่ยากครับถ้าไม่ใช่รุ่นบน ๆ
ผมจะแซวเล่นน่ะครับ ว่าจอมันเล็กอาจเห็นรายละเอียดในความมืดไม่ครบถ้วนอันนี้คือ วัดจากสายตาตัวเองล้วนๆ 555
ต้องวัดกันที Game of thrones: the long night ครับ 😂
ส่วนตัวใช้ TV ของ LG มาก่อน อายุตัวมันเองก็ประมาณ 6-7 ปี
ส่วน Sony ยังใช้งานได้ยาวนานกว่าหน่อย โดยมี 2 ตัวที่ใช้งาน 10 ปี+ ตัวล่าสุดตัวที่ 3 ซื้อให้แม่ใช้งานที่บ้านก็ 5-6 ปีแหละ ยังสบายๆ
ส่วนปัญหาของ Sony smart-tv คือเรื่อง S/W เป็นหลัก ใช้ไปสักพักต้องทำใจซื้อ Set Top Box ภายนอกอย่าง Android TV หรือ Apple TV มาต่อเพิ่ม แต่คุณภาพในส่วนของการแสดงผลยังดีเยี่ยม ระบบเสียงก็ตามสภาพทีวีแหละ
ด้านอะไหล่
- ฝั่ง LG เสียแล้วไม่ได้ซ่อมเพราะช่างให้ราคามา ซื้อใหม่ดีกว่า (เลยไปซื้อ Sony แทน)
- ฝั่ง Sony ของผมตัวเครื่องไม่เคยเสีย เจอแต่ adapter เสีย ก็สั่งจาก ศ. Sony มาเปลี่ยน ก็ยังใช้งานได้จนถึงทุกวันนี้
ส่วนปัญหาของ Sony smart-tv คือเรื่อง S/W เป็นหลัก
ผมเห็นด้วยครับ เพราะทีวีราคาครึ่งแสนทำให้มันเลื่อนได้ลื่นๆ หน่อยไม่ได้หรือไง?(คือหงุดหงิดกับตรงนี้)
ด้านอะไหล่- ฝั่ง LG เสียแล้วไม่ได้ซ่อมเพราะช่างให้ราคามา ซื้อใหม่ดีกว่า (เลยไปซื้อ Sony แทน)
คือพยายามเลี่ยงไม่ให้แฟน LG เคือง แต่นั้นละฮะคือสาเหตุที่คบกัน 5 ปีจบ
ผมเลือกฝั่งนี้เพราะเห็นทีวีหลอด 20 นิ้วของแม่ใช้มาตั้งแต่ผมเรียนมัธยมใช้มันจนเบื่อ พอเข้ายุค LCD ก็เลยหาเรื่องเปลี่ยน แต่ไปเลือก LG ก่อน 555
ผมใช้ Full Array อยู่ครับ ตัว Full Array มันคือ LED ที่ตัวเม็ดพิกเซลมันแบ่งเป็นกลุ่มๆ สามารถเปิดปิดตามการแสดงผลเป็นพื้นที่ๆ ได้ครับ จุดที่มืดก็ไม่เปิดไฟ จุดที่แสดงผลก็เปิด ทำให้ประสบการณ์ใช้งานใกล้เคียงกับ OLED ถ้าเป็นการแสดงผลแบบ มืดน้อยกว่าสว่าง อาจจะไม่ชัด แต่ถ้าเป็นมืดสัก 60%-70% ของพื้นที่ เช่นตอนโหลดเกมแล้วมีโลโก้ขึ้น จะเห็นชัดครับว่ามันมืดมด และพิกเซลเปิดเฉพาะพื้นที่โลโก้ (แต่ไม่ได้เปิดเฉพาะจุดโลโก้เป๊ะๆ เหมือน OLED จะยังเห็นเหมือนออร่ารอบๆ โลโก้อยู่) แต่เรื่องความสดของสี contrast ratio ยังด้อยกว่า OLED เล็กน้อยครับ แต่ก็ดีกว่า LED รุ่นล่างอยู่
ส่วนทำไมแพง ผมมองว่ามันวางตัวเหมือน Apple อะครับ (ทำมาก่อนด้วยซ้ำ) คือเป็นของพรีเมี่ยม เรียบ หรู ดีจริง (แต่ดีกว่าเจ้าอื่นแค่ไหน อันนี้ตอบยากแหะ) แต่ส่วนตัวที่ผมชอบคือมาพร้อม Google TV เป็น S/W ที่ผมว่าลงตัวกว่า LG
ผมใช้ Sony มายาว ยาวมาก ซื้อตั้งแต่ FullHD ยังคือสุดยอดทีวี (จนสมัยนี้เค้าจะไป 8k กันแล้ว ฮา) ทีวีผมก็ยังไม่ยอมพังซะที 555555 จะซื้อเปลี่ยนก็ยังคิด มันยังไม่ยอมพังซะทีอ่ะ จะเปลี่ยนก็เสียดาย อะไรแบบนี้ครับ
ส่วนทีวีห้องอื่นนี่เปลี่ยนไปสามตัวละ
ส่วนตัวผมเพิ่งไปถอย เจ้าทีวี Sony มาได้ประมาณ 4 เดือนกว่า OS เป็น Google TV แรกๆ ก็ใช้ดีครับไม่หน่วง แต่เมื่อสักเดือนสองเดือนที่แล้วมี SW Update มา ก็อัพตามระเบียบ หลังจากนั้นพบความเอ๋อของทีวีมัน ตัว WiFi ของเครื่องชอบปิดเองหลังจากปิดเครื่องจากรีโมท วิธีแก้คือต้องกด Restart เจ้าเครื่องมัน ซึ่งปัญหานี้มักจะเจอสัปดาห์ละประมาณ 1 - 2 ครั้ง ไปดูในเว็บนอก เขาแนะนำให้ลองทำ Reset Factory ไอ้ผมก็ขี้เกียจครับ ปัจจุบันเลยแก้ปัญหาที่ปลายเหตุโดยใช้สาย Lan ต่อกับตัวทีวีไปก่อนต้องยอมรับจริงๆ ครับ ว่าเรื่อง SW ของ Sony นี่มันไม่ค่อยโอจริงๆ ครับ
อ้าว เป็นเหมือนกันเลยครับ ผมนึกว่าเป็นเพราะไฟตกซะอีก ก็ว่าอยู่ว่าเสียบไว้กับ UPS แล้ว
เพิ่งซื้อ 55 A80J มาได้เดือนนิด ๆ
ไม่เศร้าที่ตกรุ่น แต่เศร้าที่ Sony Thai กั๊ก Bravia Core ไม่ให้ใช้ทั้ง ๆ ที่เมืองนอกเค้าเปิดตัวมาปีกว่า รุ่นนี้เป็นรุ่นที่เปิดตัวพร้อม Bravia Core เลยด้วยซ้ำ
โดนลอยแพซะงั้น
อยากให้ tv มันปรับแต่ง sub แยกกับภาพได้บ้าง ภาพปรีบมาดี แต่ sub สว่างแสบตามาเลย น่าจะปรับแยกได้ เหมือนได้ยินมาว่สมีไม่กี่ยี่ห้อที่ทำตรงนี้ได้ aony ยังทำไม่ได้
แปลกใจว่าทำไมไม่มีคนเทียบกับ Samsung เลย
That is the way things are.
ไม่มี Dolby Vision ไม่รู้ว่าเค้ามั่นใจในเทคโนโลยีจอภาพ หรือไม่อยากเสียค่าลิขสิทธิ์เพิ่ม แต่มีซาวด์บาร์ dolby atmos ขายนะ เอากะเค้าสิ
อิจฉ่าคนรวยคุยกัน