Geoffrey Hinton หนึ่งในผู้บุกเบิกวงการ AI สาย neural networks และเป็นผู้คิดเทคนิค backpropagation ประกาศลาออกจากกูเกิล หลังทำงานครึ่งตัวในทีม Google Brain มาตั้งแต่ปี 2013 (อีกครึ่งตัวทำงานอยู่ที่ University of Toronto)
Hinton ที่ตอนนี้อายุ 75 ปีแล้ว ให้สัมภาษณ์กับ The New York Times ว่าเขาตัดสินใจลาออกจากกูเกิล เพราะต้องการเป็นอิสระในการวิจารณ์ผลกระทบทางลบของ AI ที่ชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ โดยเขาวิจารณ์กระบวนการพัฒนา AI ว่าควรชะลอลงจนกว่าวงการนักวิจัยจะเข้าใจมันดีพอ
มุมมองของ Hinton คือ AI ส่งผลกระทบต่อสังคมมนุษย์หลายอย่าง ทั้งการเข้ามาแทนที่คน ทำให้คนตกงาน ไปจนถึงการที่ AI เรียนรู้พฤติกรรมไม่ดีจากข้อมูลจำนวนมาก แล้วคนกลับเชื่อ AI เพราะมองว่า AI ฉลาดกว่าเก่งกว่า
Hinton ย้ำว่าเขาไม่ได้ลาออกจากกูเกิลเพราะต้องการวิจารณ์กูเกิล เขาได้โพสต์ข้อความในทวิตเตอร์ว่าจริงๆ แล้วกูเกิลมีความรับผิดชอบต่อผลกระทบของ AI อย่างมาก สิ่งที่เขาอยากวิจารณ์คือวงการ AI ในภาพรวมต่างหาก
In the NYT today, Cade Metz implies that I left Google so that I could criticize Google. Actually, I left so that I could talk about the dangers of AI without considering how this impacts Google. Google has acted very responsibly.
— Geoffrey Hinton (@geoffreyhinton) May 1, 2023
Hinton ถือเป็น "เจ้าพ่อ" ของวงการอีกคนหนึ่ง ลูกศิษย์ของเขามีทั้ง Ilya Sutskever ผู้ร่วมก่อตั้ง OpenAI, Yann LeCun หัวหน้าฝ่าย AI ของ Meta, Alex Graves จาก DeepMind รวมถึงอาจารย์และนักวิจัยสาย AI อีกเป็นจำนวนมาก
Hinton ก่อตั้งบริษัทชื่อ DNNresearch Inc. ในปี 2012 ร่วมกับลูกศิษย์ของเขาบางคน แต่เปิดได้ไม่นานก็โดนกูเกิลซื้อกิจการ ทำให้เขาย้ายมาทำงานในทีม Google Brain ด้วย (Ilya Sutskever ลูกศิษย์ที่ตามมาด้วยกัน ก็อยู่กับกูเกิลแล้วค่อยลาออกไปตั้ง OpenAI) ตัวเขาได้รางวัล Turing Award ซึ่งเทียบกับรางวัลโนเบลสาขาคอมพิวเตอร์ในปี 2018
Geoffrey Hinton ไปพูดที่งาน Google I/O '19
ที่มา - The New York Times , Ars Technica
Comments
หาดูได้ตามกลุ่มอวย AI ต่าง ๆ เช่น AI art
เชื่อว่าทุกกลุ่มก็มีทั้งคนที่มีวิจารณญาณ เห็นด้วย ไม่เห็นด้วย มองว่ามันมีความเป็น grey areaและคนปากแจ๋วครับ(พวกหลังก็จะเสียงดังๆ หน่อย)
มันก็น่ากลัวอยุ่นะ นักวาดรูป กว่าจะเสร็จแต่ละงานก็นาน ใช้เอไอไม่นาน
สมมุติว่ามันทำงานแทนพนักงานออฟฟิต "ในปัจจุบัน" ได้ 70%มันจะเป็นยังไงต่อ?
คนต้องนั่งอยู่บ้านรอรับ UBIหรือมันจะมีอาชีพใหม่ๆเพิ่มขึ้นมา แล้วมันจะเป็นงานแบบไหน?
ถ้า AI มันยังไปไม่ถึงระดับ มันก็แค่เราเหมือนมีคนและ AI ที่ทำงานได้เยอะขึ้นน่ะครับ งานในโลกมันมีเยอะมากแบบมากๆ ขาดแคลนแรงงานกันอยู่ตลอด
https://www.youtube.com/watch?v=qpoRO378qRY
เมื่อกี้นั่งฟังสัมภาษณ์ผ่านๆ Geoffrey บอกประมาณว่า AI ไม่น่าทำให้คนตกงาน น่าจะทำให้คนทำงานได้มากขึ้น ง่ายขึ้น เทียบกับตู้เอทีเอ็ม ที่ตอนนำมาใช้ใหม่ๆ คนจะบอกว่าพนักงานธนาคารจะตกงาน ซึ่งไม่จริง คนก็แค่ไปทำงานอื่น
Geoffrey พูดหลายทีว่า google ค่อนข้าง conservative และระวังการนำ AI ออกมาใช้ เทียบกับไมโครซอฟท์ที่ดูระวังน้อยกว่า
สิ่งที่ Geoffrey กังวล ดูเหมือนจะการนำ AI ใช้ไปในสงคราม บอกว่านี่คือสาเหตุที่เค้าไม่ทำงานที่ US เลย เพราะเงินทุนจากกระทรวงกลาโหมจะทำให้เทคโนโลยีไปสู่อาวุธมากขึ้น แต่ในอีกทาง แกยกชื่อปูตินขึ้นมา บอกว่าเพราะผู้นำบางคนก็พยายามก่อสงคราม เรื่องนี้เลยพูดยาก
ดิจิตอลเป็นการแทนค่า AI ก็ประมวลผลการแทนค่า แต่ติ่ง AI บอกว่าทำได้เหมือนมนุษย์วาดรูปAI ไม่ได้ใช้ตามอง ไม่ได้เอามือจับดินสอซะหน่อย
คนที่พยายามใช้ AI ในทางสร้างสรรค์
ก็พบว่า AI ยังไม่สมบูรณ์พอ หรือไม่นึกถึงผลกระทบที่ตามมา
ทำให้เกิดผลเสียที่อาจจะมาหักลบผลดีลงไปแบบฮวบฮาบ
ขณะที่คนพยามใช้ AI ในทางทำลายถึง AI จะทำงานผิดพลาด ก็ยากจะเกิดผลดีมาหักลบผลเสีย
อันนี้ก็เห็นด้วย ตัวอย่างก็มีให้เห็นในบอร์ดต่างประเทศ แชร์บทความที่ AI สร้างไปทั้งแบบนั้นเลย ขาด empathy ของความเป็นคนไปเลย เพราะคนเรามันต้องมีการ double check ใส่ใจในเนื้อหาที่เราจะแชร์เพื่อไม่ให้คนที่เข้ามาอ่านเข้าใจผิด นี่เล่นมา AI ให้มา 100 ก็ลงไปทั้ง 100 เลย
เห็นด้วยกับคุณ Geoffrey นะ แต่เดี๊ยวก็จะมีคนมาบอกว่า พยายามดึงช้า เพราะกลัวใครบางคนตามไม่ทันอีก
ผมว่าการที่เราเร่งพัฒนา AI มากเกินไป ก็เหมือนรีบออกกฎหมายกัญชาเสรีโดยไม่มีกฎหมายควบคุมนั่นแหละ