ในงาน WWDC ที่ผ่านมา แอปเปิลได้เปิดตัว Mac Pro ซึ่งเป็นฮาร์ดแวร์ตระกูล Mac ตัวสุดท้ายที่เปลี่ยนมาใช้ชิป Apple Silicon ทำให้ไลน์สินค้า Mac ทั้งหมดเปลี่ยนจากอินเทล มาเป็น Apple Silicon ตาม โรดแมพ ที่แอปเปิลบอกว่าใช้เวลาประมาณ 2 ปี
Mac Pro เป็นสินค้า Mac ที่แอปเปิลวางตำแหน่งไว้บนสุด ในด้านประสิทธิภาพการใช้งาน มีราคาที่สูง และใส่คุณสมบัติต่าง ๆ เพื่อรองรับการใช้งานผู้ผลิตงานสร้างสรรค์มืออาชีพ ที่ถือเป็นกลุ่มคนที่มีบทบาทสำคัญต่อวงการ Mac มายาวนาน ช่วยย้ำจุดขายที่ Mac ต่างจากพีซี
อย่างไรก็ตาม Mac Pro รุ่นใหม่ที่ใช้ชิป M2 Ultra ก็ถูกตั้งข้อสงสัยว่ากลุ่มลูกค้าที่ใช้ Mac Pro มายาวนาน จะยังสนใจใช้ Mac Pro หรือไม่ เมื่อแอปเปิลก็เปิดตัว Mac Studio ที่ อัพเกรดเป็นชิป M2 Ultra ได้เช่นเดียวกัน โดยความแตกต่างที่ Mac Pro มีมากกว่าคือ จำนวนพอร์ต, ช่องเสียบ PCI Express, ช่องระบายอากาศ และ ล้อสำหรับเคลื่อนย้ายสะดวก ขณะที่สเป็กประมวลผล แรม หน่วยความจำ อัดได้สูงสุดเท่ากัน อีกทั้ง Mac Pro ที่ปกติผู้ใช้งานมักเติมการ์ดจอเข้าไปช่วยประมวลผล แต่ชิป Apple Silicon ตอนนี้ยังไม่รองรับการเพิ่มการ์ดจอเอง
The Verge สอบถามความเห็นจากผู้ใช้ Mac Pro มายาวนานในงานตัดต่อ-สร้างสรรค์ภาพยนตร์ คนแรกคือ Zach Passero ซึ่งทำงานตัดต่อแอนิเมชั่นและเอฟเฟกต์ภาพ เขาเปลี่ยนจาก Mac Pro มาใช้ MacBook Pro 16 นิ้ว ชิป M1 Max พบว่าประสิทธิภาพการทำงานด้านวิดีโอ ทำได้เท่ากับเดสก์ท็อปเดิม แต่นี่เป็นแล็ปท็อป เขาจึงไม่แน่ใจว่าคุ้มหรือไม่ที่จะกลับไปใช้ Mac Pro
Kevin Ford ช่างภาพและผู้ตัดต่อสารคดีที่ใช้ Mac Pro มาตั้งแต่รุ่นถังทรงกลม จนถึงรุ่นแร็ก บอกว่าตอนนี้เขาเพิ่งใช้ MacBook Pro 16 นิ้ว ตัวล่าสุดชิป M2 Max และคงไม่กลับไปใช้ Mac Pro แล้ว เพราะ MacBook Pro นี้สามารถตัดต่อวิดีโอระดับ 6K และเกรดสีได้ถูกต้อง งานชิ้นล่าสุดที่เขาทำลง Netflix ก็ตัดต่อระหว่างนั่งเครื่องบินหรืออยู่ในโรงแรม ซึ่งถ้าใช้ Mac Pro จะไม่ได้ความสะดวกนี้
ที่มา: The Verge
Comments
ตอนแรก ชิป M2 Ultra คือ M2 Max 2 ตัวมาต่อกัน
ตอนแรกนึกว่า Mac Pro จะได้ M2 Ultra 2 ตัว มาต่อกันพร้อม อัดแรม ต่อ M2 Ultra ได้อีก 1 เท่าตัวจาก 192 GB เป็น 384 GB
นั้นหมายความว่า ต่อ Mac pro 1 เครื่องอาจจะมี แรมได้ถึง 768 GB เลยที่เดียว ถ้า Apple ยัดมาแบบนั้น บรรเทิงงง
ปล. อยากให้ Mac ทุกเครื่อง Design ให้มันทำความ สะอาดง่ายๆๆ
ผมว่าคนจำนวนนึงยังสงสัยว่า ไอ้ช่อง PCI Express บน Mac Pro จะเอาไปใช้กับอะไรได้บ้าง บวกกับคนจำนวนมากที่ย้ายมาแม็คแล้วเจอว่าทุกอย่างต้องต่อ external หมดเลยจัด external accessory ไว้หมดแล้ว และ hardware จำนวนนึงก็รันบน Thunderbolt หรือ USB ได้สบาย ๆ PCI Express บน Mac Pro เลยอาจจะยังไม่ค่อยดึงดูดนักครับ
พวกผู้ผลิตฮาร์ดแวร์จำนวนนึง (เช่นพวก audio interface) ก็ทยอยปรับตัวมาทำเป็น external hardware ในช่วงเวลาสิบปีให้หลัง แล้วคนก็ปรับตัวเข้ามันเรียบร้อย จะให้กลับไปเป็น internal เหมือนเดิมคงต้องเป็นพวกที่ต้องการ bandwidth จริง ๆ
ปล. ไปเห็นว่า UAD ตัว PCIe ใช้กับ Apple Silicon ได้แล้ว
+1 เอาจริง ๆ นึกไม่ออกถึงกลุ่มลูกค้า Mac Pro ตัวล่าสุดเลย PCI Express นึกออกก็แค่ Audio Interface กับ SSD แล้ว Audio นี่ก็อย่างที่คุณว่าเลยมันมี External หรือถ้าไม่มี ก็ใช้กล่อง External ได้ ซื้อ Mac studio ถูกกว่ากันเยอะ แล้วต่อ external เอานึกออกอย่างเดียวว่า Mac pro รุ่นต่อไปอาจจะเป็น Ultra *2
แล้ว Audio Interface แบบเสียบภายในสมัยนี้นี่ เท่าที่ผมลองหาเล่น ๆ ล่อไปหลัก 64+ channel กันแล้ว ซึ่งแบบระดับโปรบางคนยังใช้ไม่ถึงครึ่งเลยครับ
คือถ้าให้มองว่าสำหรับโปร ผมว่ามันก็โปรระดับบน ๆ แล้วเหมือนกัน
ผมว่าการ์ด PCI-E ของ Mac ยังเหลือที่ยืนอยู่ แต่จะไปสายมืออาชีพแทนซะมากกว่า
เช่นการ์ด RAID, FC ต่อ Storage, FCoE ต่อ Network, การ์ด GPU พิเศษ เน้นสาย AI กับ CAD, Capture card และพวก NVME ที่ผมว่ามีตลาดและคนใช้งานแน่ๆ
ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว
มันก็มีคนใช้แหละครับแต่มันน่าจะลดลงไปมาก น่าจะเหลือแบบพวกตัดต่อวิดีโอในโปรดักชั่นจริงอย่างเดียวละมั้ง (สายออดิโอ้นี่เหมือนจะพอเพียงกันละ) ที่ต้องใช้ I/O ความเร็วสูงขนาดนั้น
ทำของดีเกินไป ซินะ ฮ่าๆ
ตลาด Mac Pro กลายเป็นขยับขึ้นไปอีกหรือเปล่านะ หรือคงไม่ขยับเพราะสเป้นเหมือนกันแค่เพิ่ม I/O ได้
กลายเป็นว่าตลาดลงลงมาเหลือเฉพาะคนที่ทำงานนั่งโต๊ะตลอดเวลา ซึ่งดูจะมีอีกเยอะเลยที่พร้อมจะโดดเข้าไปหาความคล่องตัวของ MBP มาแทน
น่าเอามาทำ server
น่าจะเหลือพวกใช้การ์ด PCIe สำหรับต่อ NVMe กรณีต้องการพื้นที่ตัดต่อเยอะๆๆ โดยยังคงความเร็วสูงมากๆ
แต่ก็นั่นแหล่ะ คงเหลือคนเห็นความจำเป็นน้อยลงไปอีก
ไม่มีคำว่าเพียงพอสำหรับ macOS ถ้าบอกว่าพอคือคุณไปไม่สุด หรือไม่ได้ใช้มันเต็มที่
สรุปคือ Macbook Pro ประสิทธิภาพดีเกินไป เพียงพอต่อความต้องการแล้ว เลยไม่มีความจำเป็นต้องเปลี่ยนมาใช้ Mac Pro ในตอนนี้
ทำของมาดีเกินก็แบบนี้แหละ (คำชม)
คล้ายๆกับก่อนหน้านี้ที่ว่า ยอดขาย iPad ไม่ขยับ เพราะทำมาดีเกินไป คนใช้จนกว่าจะพัง ไม่ยอมซื้อใหม่ 5555
Point ของMac proคือmac ที่สามารถอัพเกรดได้ภายหลังทั้ง memory graphics card แต่ Apple กลับเอา SOC มาใส่ซะงั้น
ตัว GPU.ก็ยอมรับว่าแรงสำรับระบบ SOC แต่มี benchmark ออกมาว่าแค่ประมาณ RTX 4070 เท่านั้นคงเทียบไม่ได้กับ MPX module ของรุ่นก่อนหน้า
ตัว cpu ก็น่าจะเร็วกว่า Xeon Wอยู่แต่ยังเทียบกับตัวท๊อปตระกูล Raptor Lake ไม่ได้อยู่
ความเร็วไม่ต่างกันมาก แต่ใช้แทนกันได้
ผมมองว่า Apple ทำแบบนี้เพราะอยากหาข้ออ้างในการดรอปไลน์ Intel เร็ว ๆ มากกว่า เพราะมันเป็นก้างขวางคอตัวเดียวจริง ๆ ที่จะทำให้ Apple หยุดรองรับ Intel Platform ได้สักที จะยอดขายหรืออะไรก็ตามแต่ Apple ไม่สน ไม่กะจะทำกำไรจากมันอยู่แล้ว จากการออกแบบเครื่องก็รู้เลยว่าแค่ Reuse เคสเดิมแล้วตีโปงบอร์ดให้กว้างขึ้น เพิ่ม Interface ที่ไม่รู้จะรองรับอุปกรณ์ไหนบ้าง แล้วจบแค่นั้นจริง ๆ ทำให้ทั้งบอร์ดโล่งมาก โล่งจนน่าจะเอาหมาทั้งตัวเข้าไปอยู่ได้ ขนาด ARM Workstation อื่น ๆ ยังเปิดพื้นที่รองรับอุปกรณ์และการอัปเกรดที่มากกว่าแบบหลายขุม
ปล. มีคนทดสอบแล้ว Mac Pro M2 Ultra ผลทดสอบเท่า ๆ กับ Mac Studio M2 Ultra เลย และผลการทดสอบบางอย่าง Mac Pro ดันแพ้ (ได้ยังไงก็ไม่รู้) ซะงั้น การระบายความร้อนก็แปลก ๆ ต่างจาก Mac Studio ที่ Form Factor เล็กกว่าแต่ดันจัดการความร้อนได้ดีกว่า