สรอ. เซ็นสัญญาร่วมกับกรมการปกครอง เก็บข้อมูลประชาชนขึ้นระบบคอมพิวเตอร์กลุ่มเมฆ เชื่อมโยงบริการภาครัฐ
จากที่รัฐบาลชุดนายกยิ่งลักษณ์ ชินวัตรได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภาไปเมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2554 หนึ่งในนั้นมีนโยบายการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี ซึ่งมีแผนจะยกระดับสมรรถนะของส่วนราชการ และหน่วยงานของรัฐให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้น พร้อมปรับปรุงบริการระบบบริการประชาชน เพื่อปูทางสู่การเป็นรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (อ่านรายละเอียดได้จากข้อที่ 8.1.4 จาก สำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี หรือดาวน์โหลดได้ ที่นี่ )
ตอนนี้รายละเอียดการปรับปรุงดังกล่าวถูกเปิดเผยระหว่างการลงนามบันทึกสัญญาข้อตกลงระหว่างสำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (สรอ.) กับกรมการปกครอง โดยเป้าหมายเร่งด่วนคือการสร้างระบบ Citizen Smart Info (CSI) สำหรับเก็บข้อมูลของประชาชนไว้ในระบบคอมพิวเตอร์กลุ่มเมฆของรัฐบาลที่จะเชื่อมต่อกันภายในระหว่างหน่วยงานภาครัฐ หรือที่เรียกกันว่า Government Information Network (GIN 2.0) และสามารถเรียกใช้ข้อมูลได้ผ่านบัตรประชาชนที่เป็นสมาร์ทการ์ด ปรับปรุงจากแบบเดิมที่ต้องลากสายเข้าไปยังศูนย์ข้อมูลส่วนกลางของกรมการปกครองเท่านั้น
ในเบื้องต้นข้อมูลที่เก็บไว้ใน CSI จะเป็นข้อมูลที่มีอยู่บนหน้าบัตร และเอกสารที่เก็บข้อมูลไว้กับกรมการปกครอง (ทะเบียนบ้าน ทะเบียนสมรส เป็นต้น) เพื่อให้สามารถใช้ร่วมกับบริการของภาครัฐต่างๆ เช่นการตรวจสอบสิทธิบัตรทอง หรือกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับภาครัฐอื่นๆ แทนวิธีการเดิมอย่างการถ่ายเอกสาร
ส่วนการนำไปใช้ร่วมกับหน่วยงานอื่นของภาครัฐ บัตรประชาชนสมาร์ทการ์ดก็จะทำหน้าที่เหมือนเป็น token สำหรับยืนยันการเข้าใช้ข้อมูล เพื่อใช้เข้าถึงข้อมูลที่ไม่ได้ถูกเก็บไว้ที่กรมการปกครองได้ เช่นตรวจสอบข้อมูลการชำระภาษี ผ่านกรมสรรพากร หรือการต่อใบขับขี่ ผ่านกรมขนส่งทางบก เป็นต้น โดยข้อมูลทั้งหมดก็จะถูกเก็บไว้ที่ GIN เช่นกัน
ในอนาคตกระทรวงไอซีทีคาดหวังว่าจะมีการใช้ข้อมูล CSI ร่วมกับธุรกรรมของภาครัฐในช่องทางที่เพิ่มขึ้น เช่นผ่านแอพ หรือผ่านเว็บแอพได้
จากแผนงานของสรอ. ระบุว่าปัจจุบันอยู่ในระหว่างการพัฒนาระบบ GIN ให้มีประสิทธิภาพ และเริ่มย้ายบริการหลักของหน่วยรัฐ อาทิ สำนักงานประกันสังคม และสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เข้ามาในระบบแล้ว และคาดว่าจะเพิ่มมากกว่า 30 หน่วยงานภายในปีหน้า และเกินครึ่งภายในสามปี
สำหรับการเข้าถึงข้อมูลของภาคเอกชนนั้น ในปัจจุบันยังไม่สามารถทำได้เนื่องด้วยข้อติดขัดทางด้านกฎหมาย กรมการปกครองจึงได้อนุญาตให้ใช้โปรแกรมสำหรับอ่านข้อมูลจากบัตรประชาชนสมาร์ทการ์ดที่เรียกว่า Smart Card Off-line มาใช้แทน ซึ่งจะสามารถอ่านข้อมูลจากชิปในบัตรประชาชน และดึงข้อมูลหน้าบัตร รวมถึงภาพใบหน้าเพื่อใช้ยืนยันตัวได้ทันที (ใครที่ไปเปิดบัญชีใหม่กับธนาคารกรุงไทยคงได้ลองใช้ไปบ้างแล้ว) ส่วนประเด็นเรื่องความปลอดภัยของข้อมูลที่เก็บไว้ในชิป IC นี้แม้ว่าทางรัฐบาลจะยืนยันว่ามีความปลอดภัยสูง แต่ในทางปฏฺิบัตินั้น บัตรสมาร์ทการ์ดที่เราใช้กันอยู่ ซึ่งเป็นไปตามมาตรฐาน ISO 7816 มีเครื่องสำหรับอ่าน/เขียนได้แล้ว ตัวบัตรเปล่าเองก็หาซื้อได้ไม่ยากนัก ทางที่ดีก็ควรระวังอย่าให้หาย และระวังการใช้งานกับบางห้างร้านที่อาจเอาข้อมูลของเราไปทำสำเนาได้
เพื่อเป็นการทดสอบระบบต่างๆ ว่าสามารถทำงานได้ดีหรือไม่ สรอ. จึงจัดทำกล่องที่ใช้สำหรับตรวจสอบข้อมูล CSI ผ่านบัตรประชาชนสมาร์ทการ์ดไปติดตั้งในจังหวัดที่กำลังดำเนินโครงการ Smart Province อย่างจังหวัดนครนายก ให้ประชาชนสามารถเข้าถึงข้อมูลของภาครัฐได้ผ่านกล่องดังกล่าว โดยกล่องนี้จะลักษณะคล้ายๆ กับกล่องสำหรับดูทีวี ในอนาคตจะสามารถนำไปติดตั้งตามบ้าน และใช้งานร่วมกับแอพพลิเคชันอื่นได้
สำหรับงบประมาณในการพัฒนาศูนย์ข้อมูลของสรอ. ในปีนี้อยู่ที่ 50 ล้านบาท และจะเพิ่มขึ้นในปีต่อๆ ไปอีกด้วย
Comments
อนุญาต ไม่มีสระอิครับ
สาธุ ขอให้จริงจังกันด้วยเถิด อย่าให้สวยงามแต่ในกระดาษเลย
@mamuang
ชื่อไม่มงคลเล้ย - -'
ฮา
Coder | Designer | Thinker | Blogger
Goverment Information Network = GIN?
เมาแน่ เอิ๊ก... (ล้อเล่นนะครับ :P)
I'm ordinary man; who desires nothing more than just an ordinary chance to live exactly what he likes and do precisely what he wants.
น่าจะอ่านว่า "จิน" นะครับ
ถ้ามีใคร hack ข้อมูลคนไทยทั้งประเทศไป จะมีความเสียหายแบบไหนเกิดขึ้นบ้าง?
มองไม่ออกนอกจากเรื่องศาสนาที่ระบุไว้ในบัตรประชาชน
ขนาดยังไม่ได้แฮก...ยังมีคนต่างด้าวชื่อไทยๆ มากมาย หุๆ
แน่ๆครับ จะมีระหัสบัตรประชาชนไว้สมัครเกมอือเลย
gen เอาก็ได้ครับ
อ่านแล้วเคลิ้มครับ และสนับสนุนให้พัฒนาต่อๆ ไปเรื่อยๆ ทุกรัฐบาล
ปล่อยเนื้อปล่อยตัว ยกกระบัตร สำเนาทะเบียนบ้าน ติตต่อราชการอีกไม๊ด
Destination host unreachable!!!
เท่าที่พบเจอมายังเป็นไปไม่ได้เลยที่หลายๆหน่วยงานจะยอมเชื่อมข้อมูลกัน โดยเฉพาะหน่วยงานที่อำนาจหน้าที่ใกล้เคียงกัน
ขอ Security เจ๋งๆนะ เพราะข้อมูลเหล่านี้สามารถไปอ้างอิงเป็นบุคคลนั้นๆได้เลย ....เช่นเวลาติดต่อขอข้อมูลในบัตรเครติดจากบริษัทต่างๆ ...
ข่าวต่อไป: Server GIN โดนแฮค ประชาชน ถ่ายสำเนาเอกสาร มายืนยันตัวเองที่สำนักงานเขต ด่วน
สรอ (สำนักงาน e-gov) คือ สบทร (GITS, หรือ IT ภาครัฐ) เก่านี่เอง (สนง สังกัดภายใต้ สวทช) เลยลองเข้าไปค้นใน wiki สบทร พบว่า GINet นี่เก่าแก่พอตัวโดยเริ่มวางแผนพัฒนากันมาตั้งแต่ ปี พศ 2540 แล้ว
เมื่อเข้าไปในเวบ สรอ มีข่าว G-cloud (government cloud service) ลงไว้อยู่ด้วย ซึ่งผมว่าดูดีมีอนาคตทีเดียว ( ข่าวเมื่อวันที่ 3 พค 2555 ) อย่างไรก็ตามผมพบว่ายังมีหน่วยงานที่เข้ามาร่วม G-cloud อยู่ค่อนข้างน้อยเพียง 3 หน่วยงานเท่านั้น ( อ้างอิง ) หรือว่านี่จะเป็นปัญหา classic ของหน่วยงานของรัฐของประเทศเราสินะ
สุดท้าย ทิศทางนโยบายดูดีครับ อยากให้พัฒนาข้อมูลให้เชื่องโยงกันได้โดยเร็ว และเปิดให้บริการประชาชนใช้งานได้ในวงกว้างภายในระยะเวลาไม่นานนะครับ
@ Virusfowl
I'm not a dev. not yet a user.