กระทรวงไอซีทีร่วมมือกับสำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) หรือ สรอ., สำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) และเขตอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ประเทศไทย ทำระบบ Government Software as a Service (G-SaaS)บริการซอฟต์แวร์ออนไลน์ภาครัฐ เป็นซอฟต์แวร์พื้นฐานจำนวน 11 โปรแกรมให้หน่วยงานภาครัฐใช้งาน
ซอฟต์แวร์ออนไลน์ภาครัฐที่ให้บริการบริการจะมี 11 กลุ่ม โดย 3 กลุ่มแรกสามารถให้บริการได้ทันทีคือ
- Saraban as a Serviceบริการระบบสารบรรณกลางอิเล็กทรอนิกส์สำหรับหน่วยงานภาครัฐ โดย EGA กำหนดมาตรฐานของระบบสารบรรณอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อให้ผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ทางด้านนี้ 4 รายใหญ่ของไทยสามารถเชื่อมระบบเอกสารถึงกันได้ ระบบนี้เปิดให้หน่วยงานรัฐลองใช้งานฟรี 1 ปี
- SMS as a Serviceบริการส่งข้อความ(SMS) ผ่านเว็บไซต์ เพื่อการประชาสัมพันธ์หรือติดต่อสื่อสารภายในหน่วยงาน รวมถึงการแจ้งข่าวประชาสัมพันธ์ให้กับประชาชน
-
Conference as a Serviceระบบห้องประชุมเสมือน พัฒนาต่อมาจาก GIN Conference เพื่อเป็นการประชุมทางไกลผ่านเครือข่ายภาครัฐ
สำหรับซอฟต์แวร์ที่อยู่ระหว่างการศึกษาและทดสอบ จำนวน 8 ชนิดจะประกอบด้วย
-
Office on Cloud ซึ่งเป็นบริการซอฟต์แวร์ออฟฟิศเพื่อการสร้างเอกสาร ตารางคำนวณ รวมถึงงานนำเสนอ ซึ่งจะสนับสนุนการทำงานได้จากทุกที่ทุกเวลา
- Personal Storageระบบบริการจัดเก็บข้อมูลภาครัฐ
- Government Website as a Serviceระบบเว็บไซต์ภาครัฐ
- Conference as a Service ในระดับขั้นสูงหรือ Premium
- SMART IVR (Interactive Voice Response)
- Streaming as a Service
- Antivirus (Client Security for GIN)
- Private Instant Messaging
ที่ผ่านมาทาง EGA หรือ สรอ. ได้เปิดบริการประเภท Infrastructure as a service (G-IaaS) หรือพวกโครงสร้างพื้นฐาน ไม่ว่าจะเป็นระบบ ฐานข้อมูล และอื่นๆ ตามด้วย Platform as a service (G-PaaS) ที่เกี่ยวพันกับระบบปฏิบัติการต่างๆ ถือเป็นสิ่งที่หน่วยงานรัฐยอมรับได้ในระดับหนึ่งแล้ว เป้าหมายที่ ICT และ EGA ได้ดำเนินการต่อในครั้งนี้คือ การเป็น Software as a service (G-SaaS) หรือบริการซอฟต์แวร์ออนไลน์ภาครัฐที่จะเป็นทางเลือกให้ภาคราชการไทยได้มีโอกาสเลือกใช้ซอฟต์แวร์ที่ทำงานผ่าน Government Cloud Service (G-Cloud) เชื่อมต่อกับโครงสร้างบริการอื่นที่มีอยู่ใน GIN ของ EGA และทุกอย่างอยู่บนมาตรฐานเดียวกัน ทำให้การเชื่อมต่อการทำงานของโปรแกรม ข้อมูล และเครือข่ายเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน
น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กล่าวในงานแถลงข่าวว่า
“การริเริ่มทำโครงการนำร่อง G-SaaS มีความจำเป็นอย่างมาก เนื่องจากหากปล่อยให้เกิด ตามธรรมชาติแล้ว บริการนี้จะไม่สามารถเกิดขึ้นได้เลย เพราะที่ผ่านมาหน่วยงานรัฐที่ใช้ซอฟต์แวร์ทั้งหลายหาใช่ผู้ที่พัฒนาซอฟต์แวร์เองแต่อย่างใด เป็นการจัดซื้อจัดจ้างผู้ให้บริการระบบ หรือ System Integrators หรือ SI มาจัดการให้ ซึ่งก็เป็นไปได้ที่จะมีการเลือกซอฟต์แวร์ไทยเข้ามาร่วมด้วยแต่ถือว่าน้อยมาก และที่ผ่านมา SI เหล่านั้นก็ต้องเป็นบริษัทขนาดใหญ่ที่มีประสบการณ์การทำงานร่วมกับหน่วยงานรัฐมานาน โอกาสที่จะให้ซอฟต์แวร์ไทยรายใหม่ๆ ได้แจ้งเกิดในเวทีภาครัฐเป็นไปได้น้อยมาก และที่สำคัญแต่ละหน่วยงานก็ต้องใส่ความต้องการในด้านการทำงานของตนเองเป็นหลัก และโอกาสที่จะให้ซอฟต์แวร์ของตนเองไปเชื่อมกับหน่วยงานภายนอกแทบจะไม่มีความเป็นไปได้เลย ภาคราชการไทยจึงเสียงบประมาณจำนวนมากไปกับระบบไอทีที่แม้จะมีความทันสมัย แต่ไม่สามารถนำประสิทธิภาพเหล่านั้นมาใช้ได้อย่างเต็มที่”
ดร.ศักดิ์ เสกขุนทด ผู้อำนวยการสำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) กล่าวในงานแถลงข่าวว่า
ในเบื้องต้น EGA จะยังไม่ลงไปสู่ซอฟต์แวร์เฉพาะทางที่เกี่ยวกับการทำงานของหน่วยงานที่เป็นลักษณะเฉพาะ
ในระบบ G-SaaS ทาง EGA จะทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางประสานการให้บริการและสร้างมาตรฐาน ให้กับหน่วยงานภาครัฐ ช่วยลดความซ้ำซ้อนและสามารถเข้าถึงข้อมูลได้จากทุกที่ อีกทั้งยังเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้กับหน่วยงานภาครัฐ เพียงแค่หน่วยงานนั้นแจ้งผ่านระบบจดหมายอิเล็กทรอนิกส์กลางเพื่อการสื่อสารในภาครัฐ (Mailgothai) ก็สามารถเข้ารับบริการที่ EGA เปิดให้บริการได้ทันที ทำให้หน่วยงานต่างๆ ได้ใช้ซอฟต์แวร์ที่ได้มาตรฐานกลางภาครัฐที่คัดเลือกโดย EGA, ลดขั้นตอนการจัดซื้อ, ลดค่าใช้จ่ายด้านเทคโนโลยีเสารสนเทศ, มีมาตรฐานความปลอดภัยของข้อมูลในการทำธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ในระดับภาครัฐกับภาครัฐ, สะดวกในการใช้งานได้จากทุกที่ ทุกเวลา และเป็นมาตรฐานเดียวในการติดต่อสื่อสาร
สำหรับภาคเอกชนที่เข้าร่วมจะเกิดประโยชน์คือ ผู้เข้าร่วมพัฒนาระบบงานด้าน e-Government ให้กับภาครัฐ ถือเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของบริษัท, เพิ่มโอกาสทางธุรกิจ และได้เปิดตลาดสู่ภาครัฐไปจนถึงระดับนานาชาติ, มีโอกาสนำข้อมูลภาครัฐไปพัฒนาบริการให้กับประชาชน ขณะที่ภาคประชาชนประชาชนจะได้รับบริการที่มีความสะดวก รวดเร็ว ทั่วถึง และเท่าเทียมไม่ว่าจะอยู่ที่ใดก็ตาม ทั้งในสถานที่ของหน่วยงานภาครัฐ หรือผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตได้จากทั่วโลก
ที่มา - อีเมลประชาสัมพันธ์ สรอ.
Comments
เยี่ยมครับ อันนี้ น่าจะแก้ปัญหา web โดน แฮกได้ (หรือไม่ก็โดนทีเดียว หมดเลย) แต่มาถูกทางแล้วครับ
แก้ปัญหา web โดน แฮก ยังไง?Saraban,SMS,Conference
"ระบบนี้เปิดให้หน่วยงานรัฐลองใช้งานฟรี 1 ปี"หลังจากหนึ่งปี จะเกิดอะไรต่อไปครับ
จ่ายตังค์
เท่าที่ผมเข้าใจ คือ ระบบอัฐยายซื้อขนมยายครับเอาเงินออกจากกระเป๋าซ้ายไปเข้ากระเป๋าขวา
คือ กรม ก. เบิกเงินจากกระทรวงการคลังตามงบประมาณรายจ่ายประจำปี ไปจ่ายให้กับ สรอ. แล้ว สรอ. นำเงินหลังหักค่าใช้จ่ายส่งคืนกระทรวงการคลัง
A smooth sea never made a skillful sailor.
Personal Storage ระบบบริการจัดเก็บข้อมูลภาครัฐ
จะเหมือนกับ Personal Storage บน PC เช่น FoxPro หรือ Microsoft Access เปล่า ...หนอ
+1 เริ่มสักที
ดูในแบบฟอร์มขอใช้งาน Saraban as a Service ซอฟท์แวร์เป็นของเอกชนทำไมไม่พัฒนาเองครับ
ผมคิดว่าให้เอกชนทำ แต่ให้ผู้ใช้งานเป็นผู้เลือกก็น่าจะถูกแล้วเพราะพัฒนาเองต้นทุนน่าจะสูงมากๆนะครับ
+1
เป็นปัญหาหลักของ it ภาครัฐ คือ ไม่สร้างคน แต่เน้นซื้อของ
หลายระบบไม่ตอบโจทย์ผู้ใช้ ผู้สร้างไม่เข้าใจ แก้ไขต้องใช้เงิน
จนต้องย้ายหรือสร้างใหม่ สุดท้ายข้อมูลไม่อันหนึ่งอันเดียว สังเคราะห์ข้อมูลในภาพรวมไม่ได้
ต่างจากระบบมหาวิทยาลัยที่สร้างคน แล้วเอาคนสร้างระบบปรับปรุง สนับสนุน เปลี่ยนแปลง ได้ตามสถานะการ
Office เป็นของเจ้าไหนน้อ ถ้าไม่ใช่ MS จะมีเสียงก่นด่าว่าใช้ยากตามมาไหม?
เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!
ถ้าเป็นของ MS ก็น่าจะรันบน Cloud ของ MS อย่าง Office 365 หรือเปล่า ?
เห็นว่ายังไม่ได้ตัดสินใจเลือกนะครับ กำลังเปรียบเทียบกันอยู่
น่าจะ opensource ทุกๆ ตัว ด้วยเนอะ