อีเมลที่ถูกเปิดเผยเนื่องจากการต่อสู้ในชั้นศาลในแคลิฟอร์เนียระบุว่า ผู้ก่อตั้งแอปเปิลอย่าง Steve Jobs และซีอีโอของกูเกิลอย่าง Eric Schmidt สมคบกันในการกดเงินเดือนของพนักงานโดยตกลงกันว่าจะไม่พยายามจ้างพนักงานของอีกฝ่าย รวมไปถึงจะแบ่งปันข้อมูลอัตราค่าแรงและลงโทษผู้ที่ละเมิดข้อตกลง
ข้อตกลงระหว่างยักษ์ใหญ่ในซิลิคอนแวลลีย์ถูกค้นพบครั้งแรกโดยกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ซึ่งสืบสวนคดีต่อต้านการผูกขาดและต่อมาได้เป็นฐานให้เกิดการฟ้องคดีแบบกลุ่มในนามของพนักงานที่ค่าจ้างต่ำกว่าที่ควรจะเป็นกว่า 100,000 คน ส่งผลให้ความเสียหายของพนักงานที่กลายเป็นรายได้ขององค์กรสูงถึง 9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณสามแสนล้านบาทไทย)
นอกจากนี้ในการสืบสวนอื่น ยังพบว่าซีอีโอของ eBay ในอดีตอย่าง Meg Whitman (ปัจจุบันเป็นซีอีโอ HP) ก็ได้ทำข้อตกลงในลักษณะเดียวกันกับบริษัทซอฟต์แวร์ชื่อ Intuit รวมทั้งยังอาจมีข้อตกลงแบบเดียวกันกับกูเกิลอีกด้วย
ข้อตกลงดังกล่าวถูกอ้างในชั้นศาลว่ามีขึ้นระหว่าง Apple, Google, Intel, Adobe, Intuit, และ Pixar โดยตัวอย่างอีเมลที่ตอบโต้กันมีเช่น
ในช่วงต้นปี ค.ศ. 2005 Jobs ถึง Sergey Brin ในเรื่องความพยายามจ้างทีม Safari > ถ้าคุณ (Brin) จ้างคนเหล่านั้นแม้แต่คนเดียว นั่นคือสงคราม
Brin สั่งการไปยังฝ่ายบริหารบุคคลให้หยุดการกระทำดังกล่าวทันที จนกว่าจะมีการตกลงกัน
ในปี ค.ศ. 2007 หลังจากที่ Jobs ทราบว่าผู้เฟ้นหาพนักงานของกูเกิลมีการติดต่อกับพนักงานของแอปเปิล Jobs ฟอร์เวิร์ดอีเมลนั้นถึง Schmidt พร้อมข้อความว่า > ผมจะพอใจยิ่งถ้าฝ่ายสรรหาพนักงานเลิกทำเช่นนี้
พนักงานสรรหาคนดังกล่าวถูกไล่ออกในชั่วโมงถัดมา
Bruce Chizen ซีอีโอของ Adobe ตอบ Jobs หลัง Jobs ทราบว่า Adobe พยายามจ้างพนักงานของแอปเปิล ซึ่ง Chizen ตอบมาว่า เข้าใจว่าข้อตกลงนี้ครอบคลุมถึงเฉพาะพนักงานระดับหัวแถวเท่านั้น > ผมนึกว่าเราตกลงกันที่จะไม่พยายามจ้างพนักงานระดับอาวุโสเท่านั้น ผมเสนอให้เราทำเช่นนั้นต่อไป ยังหารือกันได้ น่าจะดีถ้าเราเห็นพ้องกัน
Jobs ตอบว่า > โอเค ผมจะได้บอกฝ่ายสรรหาพนักงานของเราว่าสามารถติดต่อพนักงานคนใดก็ได้ของ Adobe ที่ไม่ใช่ผู้บริหารระดับสูงหรือรองประธาน นี่ผมเข้าใจจุดยืนของคุณถูกไหม?
Chizen ยอมถอยทันที > ผมว่าผมเห็นด้วยกับการไม่พยายามชักชวนพนักงานของจากทั้งสองบริษัท ถ้าคุณตกลงตามนั้น ผมจะบอกคนของผมให้
น่าสนใจที่สิ่งเหล่านี้มาจากปากของผู้บริหารซึ่งในแต่ละวันพร่ำพูดชมเชยความงดงามแห่งตลาดเสรี การแข่งขัน และความสามารถในการกำหนดราคาที่เป็นธรรม แต่ในทางลับ เขาเหล่านั้นต่างหลีกเลี่ยงการพยายามแย่งชิงพนักงาน และดำเนินนโยบายที่ทำให้ตลาดบิดเบี้ยวเพื่อให้สินทรัพย์อันมีค่าที่สุดของบริษัทอย่างพนักงาน ได้รับค่าแรงน้อยที่สุดเท่าที่เป็นไปได้
ที่มา - [Pandodaily](http://pando.com/2014/01/23/the-techtopus-how-silicon-valleys-most-celebrated-ceos-conspired-to-drive-down-100000-tech-engineers-wages/) via [Business Insider](http://www.businessinsider.com/apple-google-recruitment-emails-lawsuit-2014-1)
Comments
ไม่ใช่ว่า ไม่อยากให้ข้อมูลของงาน รั่วไหลเหรอ
อีเมล นะครับ
แก้แล้วครับ
ผมว่าถ้าสนับสนุนให้เกิดการซื้อตัว (หรือจะเอาเงินฟาดหัว) พนักงานจากบริษัทอื่นๆหรือโดยเฉพาะอย่างยิ่งบริษัทคู่แข่งได้ ในมุมหนึ่งบริษัทห้างร้านไม่วุ่นวายตายหรอกชักรึ
อเมริกาเขาไปไกลครับ มองในมุมลูกจ้าง ว่ามีสิทธิ์
เป็นสิทธิ์ของบริษัทที่จะจ้างใคร ไม่จ้างใครอยู่แล้วนิ?
นึกว่าจะพยายามไม่ขึ้นเงินเดือนซะอีก
คุณก็ลองนึกภาพว่า คุณมีคุณสมบัติครบถ้วนทุกประการแต่บริษัทบอกว่าคุณเป็นคนเหนือ, ใต้, ออก,ตก เลยไม่จ้าง เพราะไม่ใช่คนกทม.อะไรแนวๆนี้สิครับ
หาบริษัทใหม่?
สมมติว่าบริษัทที่เกี่ยวข้องกับ สายงานของคุณไม่ยอมรับคุณเข้าทำงาน และคุณจำเป็นต้องทำงานในบริษัท เดิม ในอัตราเงินเดือนที่ต่ำคุณอาจจะมีเรื่องไม่พอใจในสวัสดิการ หรือ ความเฮงซวยของหัวหน้า วัฒนธรรมองค์ คุณไม่สามารถย้าย ตัวคุณไปทำงานในบริษัทอื่น ที่ไกล้เคียง หรือรองรับศักยภาพของคุณได้ และได้เงินเดือนมากกว่า สวัสดิการที่ดีกว่า คุณเหลือทางเลือก
1 ไปทำงานอื่นในบริษัทเล็กๆ ที่เกี่ยวข้องกับงานเดิม ในอัตราเงินเดือนต่ำกว่าเดิม สวัสดิการที่ลดลง
2 เบนเข็มอาชีพไปทำงาน ในสายงานอื่น
3 เปิดกิจการเอาเอง (ซึ่งคนส่วนใหญ่ไม่มีทุนให้ทำเช่นนั้น)
ข้อ 3 นี่ถ้าเจ๋งจริงก็สามารถไปเสนอไอเดียหาผู้ลงทุนได้ครับ
จำได้ว่าเคยอ่านเจอว่าจ๊อบส์พยายามปกปิดรายชื่อทีมงานที่ร่วมสร้างสรรอุปกรณ์ชิ้นใหม่ คงจะกลัวเกิดการซื้อตัวไปด้วยละมั้ง
ใช่ครับ ปกติบางแวดวงจะใช้เป็นตัวย่อ เช่น สุรศักดิ์ ช. เป็นต้น อย่างผมเคยทำเกี่ยวกับการ์ดเกม ตอนใส่เครดิสเขาก็จะใส่นามสกุลผมเป็นตัวย่อ
เพจตัวอย่างผลงานถ่ายภาพ / วีดีโอ
โหดดดดดด
ผมว่าอันนี้โหดเหมือนกัน
แบบตาต่อตา ฟันต่อฟัน ไม่มีการเจรจาแบบทูต
ถ้าเป็นยมทูตพอได้มั้ง TT _ TT
+1 ครับ โหดเหมือนกันแต่ไม่มีใครรับกรรมเต็มๆ แบบกรณีแรก
เว้นแต่ยมทูตจะมาเยือน (O_o)
ใครไม่รัก Jobs ไม่เชื่อฟัง Jobs แล้ว ก็ออกจากกูเกิลไปซะ
:-)
ข้ามบริษัทกันเลยทีเดียว นี่ขนาดยานแม่ เอ้ย สำนักงานใหม่ยังไม่เสร็จนะครับเนี่ย
อดีตซีอีโอ หรือเปล่าครับ
ประเทศไทยก็ทำครับ กรณีบริษัทที่ประกอบธุรกิจประเภทเดียวกัน ถือเป็นมารยาททางธุรกิจ เราจึงค่อยเห็นผู้บริหารหรือพนักงาน RS ย้ายไป Grammy หรือ Dtac ย้ายไป AIS
มีช่วงนึงที่นักแต่งเพลง RS นี่ย้ายตรงเข้าแกรมมี่กันเป็นว่าเล่นเลยนะครับแต่พักหลังๆ เริ่มเห็นคนแกรมมี่ย้ายไป RS บ้างแล้วเหมือนกัน
โลกเสรีเหรอ หึหึ ก็แค่ทุนนิยมแหละ
Happiness only real when shared.
จำได้ว่าเคยอ่านข่าวเรื่องนี้ Schmidt เองก็โดนศาลเรียกไปสอบเรื่องนี้มาแล้วด้วย
ช่างไฟสมัครเล่น (- -")
น่าสนใจที่ไปเอาอีเมลมาจากไหน รัฐบาลสหรัฐสามารถสอดส่องของประชาชนของตัวเองได้ตลอดเวลาเลยหรอ ต้องรู้ทุกอย่างเลยใช่ไหมว่าทุกคนกำลังคุยอะไรกัน น่ากลัวนะแบบนั้น
เนียครับ มีการฟ้องร้องโดยกลุ่มพนักงาน แล้วระหว่างการไต่สวนก็มีการเปิดเผยอีเมล และมีการ เรียกผู้บริหารไปให้ปากคำ ด้วย
ช่างไฟสมัครเล่น (- -")
ผมว่าอเมริกาน่ากลัว รัฐบาลรู้และแทรกแซงทุกเรื่อง
คนมักบอกว่าการที่อเมริกาอาจล่มสลายนั้นเป็นเรื่องเป็นไปได้ยาก แต่ดูไปดูมามันชักจะไม่แน่
ตอนนี้กำลังจะขยายเพดานหนี้อีกละ
เรื่องนี้แทรกแซงก็ดั ประชาชนก็ได้ประโยขน์ครับ
สรุปจ๊อบส์โหดสุด
กฏหมายไทยก็สามารถกำหนดได้นะครับ เช่นไม่ให้ประกอบกิจการอย่างเดียวกับนายจ้าง จำไม่ได้ว่าสูงสุดกี่ปี นึกถึงพนักงานที่ไปเรีนจนได้สูตรทำขนมแล้วเปิดกิจการเองมันก็นะ
กฎหมายไทยไม่ได้กำหนดจำนวนปีครับ เอาแค่ตามเหมาะสมอาจจะ 3 ปี 5 ปี แล้วก็ไม่ได้ห้ามเด็ดขาด แต่ห้ามเฉพาะบริเวณที่นายจ้างประกอบกิจการเท่านั้น ประมาณว่าคุ้นเคยกับลูกค้าดีแล้ว เลยแยกตัวมาเปิดเองแข่งกับนายแจ้งซะเลย แถมได้ต้นทุนโดยการแย่งลูกค้าที่ตัวเองสนิทมากกว่าไปด้วย
แต่กรณีที่เป็นลูกจ้างเหมือนเดิม แต่ย้ายไปบริษัทคู่แข่ง ผมจำไม่ได้ว่ามีการห้ามนะครับ
A smooth sea never made a skillful sailor.
business ethic เรื่องนี้ ตอบยากจริงๆ
สตีฟ จ๊อบ เป็นพวกจักรวาลหมุนรอบตัวเองจริงด้วย ถึงว่ามาระดับแนวหน้าของโลกได้ เรียนไม่สูงก็จริง แต่ความคิดเฉียบขาดมาก
Jobs ดุเดือดจริงๆ แต่ก็แสดงให้เห็นว่ามุมกลับกัน Adobe ก็กลัวโดนแย่งบุคคลากรเฮะ
เหมือนว่าพนักงาน Apple จะเป็นที่ต้องตาของใครต่อใครแฮะ
บางบริษัทให้เซ็นสัญญาว่าออกแล้วจะไม่ทำงานให้คู่แข่ง 6 เดือน