นอกจากจะเปิด งานสัมมนาสำหรับ Project Ara โครงการพัฒนาโทรศัพท์ปรับแต่งสเปคได้ ทีมงานเบื้องหลังโครงการนี้พูดถึงราคาของมือถือรุ่นแรกของ Project Ara (มีชื่อเล่นว่า Grayphone) ว่าตั้งเป้าไว้ที่ 50 เหรียญต่อเครื่อง
ในราคา 50 เหรียญ ผู้ซื้อจะได้โครงของตัวเครื่องที่มีกรอบ หน้าจอ และชิป Wi-Fi เท่านั้น ส่วนใครอยากเลือกสเปคในส่วนไหนก็จัดการซื้อมาต่อเติมเพิ่มกันเอง
สำหรับการประกอบตัวเครื่อง กูเกิลวางแผนจะสร้างร้านเล็กๆ ให้ผู้ใช้ที่ซื้ออุปกรณ์สามารถมาประกอบเครื่องได้ โดยจะมีเครื่องมือที่จำเป็นเตรียมไว้ให้
จากราคาที่ออกมา ทีมพัฒนาของ Project Ara บอกว่าแนวคิดนี้ไม่ได้ตั้งเป้าทำมาเพื่อหารายได้ แต่เพื่อทำให้แนวคิดโทรศัพท์ปรับแต่งสเปคได้นั้นเกิดการพัฒนาอย่างก้าวกระโดด ซึ่งน่าเริ่มได้เห็นกันในช่วงต้นปี 2015 ครับ
ที่มา - TIME
Comments
ชอบแนวคิดนี้ แต่คหสต.คิดว่าไปไม่รอดแน่นอน ไม่เห็นจุดเด่นที่จะเอาชนะมือถือธรรมดาๆได้เลย
ลองคิดว่า บางคนต้องการมือถือเสปคแรงๆ แต่ราคาถูก เพื่อเล่นเกมส์ มือถือนี้ทำให้เค้าใด้โดยการตัดส่วนของกล้องออก แล้วเลือกหน้าจอความละเอียดกลางๆให้
ลองคิดว่า บางคนต้องการมือถือกล้องเทพ แต่ราคาถูก เพื่อถ่ายรูป มือถือนี้ทำให้เค้าใด้โดยการลดส่วนของ cpu gpu ลง แล้วเอาไปโปะที่กล้อง
ลองคิดว่า บางคนต้องการมือถือจอเทพ แต่ราคาถูก เพื่อดูหนัง มือถือนี้ทำให้เค้าใด้โดยการลดราคาของชิ้นส่วนอื่นๆ แล้วมาโปะที่จอกะเเสียง
มือถือนี้คือ "เสื้อสั้งตัด" จุดเด่นคือ "ความพอดีตัว"
ดังนั้น สำหรับคนที่ไม่ต้องการฟังชั้นอะไรเป็นพิเศษราคา $50 ก็คือจุดเด่นที่คนสั้งต้องการ
samsung ใหญ่แค่ใหน ?https://youtu.be/6Afpey7Eldo
+1 เหมือนคอมประกอบกับคอมสำเร็จรูป ที่มันตอบสนอมกลุ่มผู้ใช้ต่างกันไป
ผมว่ามันต่างกันนะ ที่เมื่อก่อนคนสั่งคอมประกอบเพราะมันไม่มีเจ้าไหนขายเครื่องสำเร็จรูปแบบจริงๆจังๆ จะมีก็เป็นรูปแบบองค์กรมากกว่า คนเลยต้องไปซื้อคอมประกอบ
แต่มือถือมันเริ่มมาจากแบบสำเร็จรูป คนที่อยากใช้แบบง่ายๆคงไม่คิดจะไปสั่งประกอบ ส่วนคนที่อยากได้ไฮเอ็นด์ก็น่าจะซื้อแบบสำเร็จรูปได้ราคาถูกกว่าสั่งประกอบ
แล้วอุปกรณ์ IT สมัยนี้ไม่เกินสองปีก็ตกรุ่นแล้วการจะมาเปลี่ยนชิ้นส่วนโดยการซื้อเฉพาะชิ้นผมว่าทำราคาดึงดูดให้คนซื้อได้ยากนะครับ ไหนจะค่าสต๊อกแยกชิ้นอีก
เช็กราคาคอมประกอป กับคอมสำเหร็จรูปเสปคเดียวกัน ...
กลับเข้าเรื่องดีกว่า ผมย้ำเรื่องความต้องการของแต่ละคนไม่เหมือนกัน "อุปกรณ์ IT สมัยนี้ไม่เกินสองปีก็ตกรุ่นแล้ว" จริง "ลูกค้าต้องการเปลี่ยนทีเดียวทั้งหมด" ผมว่าไม่จริงนะครับ
samsung ใหญ่แค่ใหน ?https://youtu.be/6Afpey7Eldo
+1 เก็บหน้าจอไว้ใช้นานๆ เลยครับ :D
เพราะผู้ผลิตมันมีเยอะ คอมประกอบเลยถูกกว่าคอมสำเร็จรูปไงครับ แต่ตอนนี้ราคาไม่ต่างกันมากหรือบางทีคอมสำเร็จรูปกลับถูกกว่าด้วยในเสปคกลางๆ
แต่ผู้ผลิตมือถือที่พร้อมจะมาขายฮาร์ดแวร์แยกชิ้นจริงต้องรับความเสี่ยงจะขายชิ้นเดียวถึงจะดูแลสต็อกไหว คงไม่มีแบบออกชิ้นส่วนทุกชิ้นในแบรนด์เดียว อย่าง ASUS เองก็ทำแค่ MB กับ VGA เป็นหลัก ชิ้นส่วนอื่นๆต้องใช้เจ้าอื่น ปัญหาเรื่องเข้ากันได้ก็เป็นอีกหนึ่งปัญหาครับ
ส่วนเรื่องความต้องการที่จะเปลี่ยนชิ้นส่วนทีเดียวทั้งชิ้น ผมยังคิดว่าสินค้า Smartphone มันกลายเป็นสินค้า Emotional แลัวครับ นอกจากซื้อมาใช้งาน มันยังรองรับการตอบสนองอารมณ์ผู้ซื้อ และแสดงถึงรสนิยมของผู้ใช้ไปแล้ว (เครื่องผมสามถึงห้าปีจะเปลี่ยนครับถ้าไม่พัง)
คำถามคือ ... ผู้ผลิตมือถือที่พร้อมจะมาขายฮาร์ดแวร์แยกชิ้นต้องรับความเสี่ยงจะขายชิ้นเดียวถึงจะดูแลสต็อกไหว แล้ว ผู้ผลิตมือถือยกชุดไม่ต้องรับความเสี่ยงจะขายไม่ออกทั้งเครื่องหรือ ?
samsung ใหญ่แค่ใหน ?https://youtu.be/6Afpey7Eldo
เสื้อสั่งตัดแพงกว่าเสื้อตลาดทุกตัวครับ อย่าลืมคิดสเกลการผลิตที่ทำให้ต้นทุนต่อหน่อยลด
เสื้อสั้งตัด ไม่มีความเป็น mass อยู่ครับ แต่ชิ้นส่วนมือถือสามารถผลิตแบบ mass ใด้
samsung ใหญ่แค่ใหน ?https://youtu.be/6Afpey7Eldo
"จากราคาที่ออกมา ทีมพัฒนาของ Project Ara บอกว่าแนวคิดนี้ไม่ได้ตั้งเป้าทำมาเพื่อหารายได้ แต่เพื่อทำให้แนวคิดโทรศัพท์ปรับแต่งสเปคได้นั้นเกิดการพัฒนาอย่างก้าวกระโดด ซึ่งน่าเริ่มได้เห็นกันในช่วงต้นปี 2015 ครับ"
เค้าเอาจริงแฮะ
Pitawat's Blog :: บล็อกผมเองครับ
ทำเร็วๆหน่อย คงขายโมโตเพราะเหตุนี้ไม่งั้นค่ายอืนไม่ทำอุปกรณ์ให้เลือกประกอบ
"ส่วนใครอยากอัพสเปคในส่วนไหนก็จัดการซื้อมาต่อเติมเพิ่มกันเอง"
ผมไม่เรียกว่า "อัพสเปค" เพราะถ้าไม่ทำอะไรเลยก็ใช้งานไม่ได้
ต้องบอกว่า"เลือกสเปค" คือเลือกมาใส่ถึงจะใช้งานได้
ผมซื้อเคสคอม,จอ ผมต้องเลือกสเปคmainboard ,cpu,Hddมาใส่
อยากเห็นไว ๆ ครับมือถือ lego ชัด ๆ
อันนี้เค้าทำเล่นๆ หรือเอาจริงอ่ะ
ถ้าเอาจริงๆ คนนอกวงการจะเข้าใจไหมเนี่ย
โทรศัทพ์ => โทรศัพท์
Peoject Ara => Project Ara
ที่สำคัญคือ อะไรเสียอะไรเก่า อัพเดทกันได้เนี่ย ชอบเลย
คือ 50 ยังใช้ไม่ได้สินะ อยากรู้ขั้นต่ำที่ทำให้มันรันได้มากกว่า
May the Force Close be with you. || @nuttyi
หลาย Comments ไม่ได้พูดถึงเรื่องตกหล่นเลย ลองคิดสิถ้ามันตกขึ้นมา... กระจาย :P
น่าจะขันน็อตยึดไว้ล่ะครับ
เคล็ดลับที่ทำให้ Nokia 3310แข็งแกร่งที่สุดในปฐพีก็คือมันดีดตัวเองออกจากกันเวลาตกพื้นนี่แหละครับ แรงกระแทกลดลงเป็นกอง
"With the first link, the chain is forged. The first speech censured, the first thought forbidden, the first freedom denied, chains us all irrevocably."
ถ้าทำให้มีขนาดเล็ก+น้ำหนักเบาได้ไม่ต่างจากมือถือสำเร็จรูปมากนัก ก็มีโอกาศเกิดครับเหมือนจะเคยมีnotebookแนวคิดแบบนี้มาก่อนแต่ไปไม่รอดเพราะมันใหญ่และหนัก พกยากนี่แหละ แต่งานนี้กูเกิ้ลดันเองก็มีความเป็นไปได้
ระหว่าง PCB ที่วางเลย์เอาพอดีแล้วกับแผ่นบอร์ดที่ต้องรับรองช่องเชื่อมต่อ ทั้งขนาดและการใช้ไฟคงต่างกันเยอะนะครับ เวลาผ่านไปอาจวิจัยให้ก้าวหน้าขึ้นได้ แต่ระบบรวมที่มีกำลังเงินมากกว่า (เพราะเป็นกระแสหลัก) ก็คงพัฒนาไปได้ไกลกว่าในเวลาเท่าๆ กัน
เอาเป็นว่าของดีที่มีอยู่แล้วอย่างแบตและ sdcard ยังถูกเอาออกเลย ถ้าอยาก repair & recycle แค่กลับมาดูตรงนี้ก่อนดีกว่าครับ
ถ้าฮาร์ดแวร์กับซอฟแวร์ไม่ไปด้วยกัน ผมว่าให้ประสบการณ์การใช้งานสู้มือถือจากค่ายดังได้ยาก มือถือแบบนี้คงได้แค่ตลาดเฉพาะกลุ่ม