เชื่อว่าหลายคนคงเคยเห็นการเอาท่อหดหรือลูกปัดเม็ดบีดมาร้อยสายชาร์จโทรศัพท์ทั้งหลายแหล่ ด้วยหวังว่ามันจะช่วยป้องกันการแตกหักของฉนวนเปลือกสายได้ดียิ่งขึ้น ที่เมืองนอกเองก็มีคนมองว่าเรื่องนี้เป็นปัญหาที่น่าจะเป็นโอกาสสร้างผลิตภัณฑ์ออกมาขาย และนี่คือที่มาของ Snakable
Snakable คือชื่อโครงการระดมทุนผ่าน Kickstarter ซึ่งเป้าหมายก็เพื่อสร้างผลิตสาย USB สำหรับใช้งานกับมือถือทั้งหลายโดยมีจุดเด่นที่บริเวณคอของสายที่ยืดหยุ่นทนทานไม่แตกหักง่าย โดยที่ปลายสายด้านหนึ่งจะมีหัวต่อ USB ส่วนปลายสายอีกด้านก็จะมีให้เลือกทั้งแบบ microUSB และแบบ Lightning สำหรับอุปกรณ์ iOS (ซึ่งทีมพัฒนายืนยันว่าจะพัฒนา Snakable ให้ได้มาตรฐานจนผ่านการรับรอง MFI จาก Apple)
ตัวสายจะมีความยาวประมาณ 1.2 เมตร บริเวณคอของสายทั้ง 2 ด้านมีลักษณะเป็นข้อต่อแบบเบ้า (ball and socket) ที่ด้านในกลวงเพื่อให้ตัวนำไฟฟ้าร้อยผ่านได้ ด้านนอกของสายเคลือบด้วยวัสดุพิเศษเพื่อช่วยป้องกันปัญหาการขมวดพันกันของสาย โดยจะมีให้เลือกทั้งสีแดง, ขาว, ดำ, เขียว และส้ม
สำหรับผู้ที่สนใจสั่งซื้อ Snakable นั้นสามารถสั่งจองผ่าน Kickstarter ได้ในราคาถูกสุดเพียงเส้นละ 15 ดอลลาร์ จากราคาขายปลีกในอนาคตที่ตั้งไว้เส้นละ 30 ดอลลาร์ ทั้งนี้ทีมพัฒนาคาดว่าจะสามารถส่งของล็อตแรกได้ประมาณเดือนสิงหาคมนี้ โดยโครงการนี้จะเปิดรับเงินสนับสนุนไปอีก 19 วัน ซึ่งตอนนี้ได้เงินไปแล้ว 11,445 ดอลลาร์ จากเป้าหมาย 28,000 ดอลลาร์
ที่มา - TechCrunch
Comments
สาย iPhone iPad ห่วยจริงๆนะ =_="
ปัญหานี้เจอกันทั่วโลกสินะ
ไอ้ลูกปัดแบบนี้.....เหมือนเคยเห็นในหนัง AV...
ฮาๆๆ ไม่อยากจะบอกเลยว่าคิดเหมือนกัน กลัวจริงๆว่าอาจจะมีคนคิดวิธีใช้ประโชยน์เพิ่มเติมจากการเป็นสายชาร์จ:D (เผ่น)
ผมว่ามันเล็กไปนะครัช อีกอย่างผมกลัวจะชื้นเข้าไปในสายมากกว่าครับ :D (เผ่นด้วยคน)
บล็อกส่วนตัวที่อัพเดตตามอารมณ์และความขยัน :P
ยังไงอ่า ?!?
ทำไมผมก็คิดแบบนี้ ดีนะไม่เป็นสีใสๆ 555
ผมไม่คิดนะ จนกระทั่งอ่านคอมเมนท์นี้ XD
นอกเรื่องนิดหน่อย
อยากรู้ ที่ทำเอาลูกปัด เม็ดบีท มันใส่สายชาร์ท มันจะช่วยให้ทนขึ้นหรอครับ ผมว่ามันไม่น้ำหนักเพิ่ม ดึงสายให้ขาดกว่าเดิมอีกนะ หรือผมคิดผิดหว่า
โครงสร้างมันจะไปบังคับไม่ให้สายบิดงอมากเกินไปจนสายทองแดงของในขาดครับ
ผมคิดว่า
มันเป็นตำแหน่งที่สายเกิดการขาดใน หรือหักในมากที่สุดครับ ปกติสายแถวใกล้ส่วนของหัว(ปลาย) มักเป็นส่วนที่เสียหายจากการใช้งาน เช่น ดึง, การงอ เป็นต้น แต่อันนี้เป็นเหมือนป้องกันการงอที่อาจจะทำให้สายหักได้ เหมือนเราใส่ CAT5e Jack boot ครับ
มันทำให้คนระวังที่จะใช้มากขึ้น -*-
ปัญหานี้ต้องให้ apple เป็นคนแก้
สายชาร์จของ Apple ห่วยทุกตัว(เน้นดีไซน์เนอะ) ตัวนำไฟฟ้าเส้นบางมาก จะขาดหรือลัดวงจรก็ไม่แปลก
ถ้าเป็นพวก iPod รุ่นแรกนี่สายคุณภาพดีมากนะครับ ยางตรงโคนสายอย่างหนาแถมยาวไม่เหนียว ไม่เสื่อมด้วย
แต่หลังๆยิ่งออกยิ่งเล็ก ยิ่งบาง ยิ่งห่วย จะประหยัดต้นทุนไปถึงไหน (คงคิดว่าใครๆก็ต้องง้อสินะ)
ตั้งแต่ 3Gs มาผมว่ามันแย่ขึ้นมากจริงๆนะ
เคยใช้ 3G สายอยู่ยงคงกระพันมาก ส่วนสาย 3Gs ของแม่ซื้อทีหลังแต่พังก่อนสายของ iPod Nano 3rd Gen ก็ยังอยู่ดีจนทุกวันนี้
พังง่ายจริงครับ แต่สายไฟข้างใน ไม่กาก นะผมว่า
@mamuang
อันนั้นเป็นเพราะตัวเครื่องมันจำกัดการดึงกระแส เนื่องจากมัน verify chip ไม่ได้น่ะครับ
แต่สมมุติถ้าเครื่องมันไม่ตรวจสอบชิปแล้วพยายามดึงไฟให้ได้ maximum ตลอด (ซึ่งเป็นไปไม่ได้อยู่ละ) แปลว่าสายแท้มันห่วยครับ (เส้นเล็ก, ความต้านทานเยอะ) มันเลยซดกระแสเยอะกว่าสายอื่นเท่าตัวแน่ะ
ผมไม่ค่อยแนะนำการชาร์จแบบบ้าพลังแบบนี้ครับ ถ้าไม่นับกรณีที่ชาร์จ-สายเก๊ ของแท้เองก็ยังอันตรายไม่น้อยเลย
อีกเรื่องคือเห็นเพื่อนแต่ละคนบ่นว่าทำไมใช้ไปแป๊บๆไม่ถึงวันแบตหมดละ เพราะการอัดเร็วก็ทำให้เก็บไฟไม่อยู่ ของผมเอง จากแหล่งจ่าย 1A ก็หาสายที่มันต้านทานไฟเยอะๆหน่อย ลดกระแสลงให้ได้สัก 500~750mA แค่นี้แบตก็อยู่ได้เป็นวัน-สองวันละ
สั่งที่ชาร์จ Kindle เลยครับ 4.9V ช้าได้ใจ (- -)d
ของดท้หว่ยจริงแต่ก็จำใจใช้ๆไปงะผม
ที่จริงสายของมือถือ droid หลายๆ ตัวก็เส้นเล็ก บาง เหมือน iphone แต่ทำไมไม่ห่วยเหมือนสาย iphone อย่างสายที่มากับ Samsung รุ่นต่างๆ ผ่านไปสองปีก็ยังใช้ได้ดีเหมือนเดิม แต่สายแท้ iphone ปีนึงเปลี่ยนไม่รู้กี่เส้น สุดท้ายต้องหาสายก๊อปถูกๆ มาใช้ เออ... ทนกว่ากันเยอะเลย
จริงเลยอันนี้ สายแท้ซื้อมา 2 เดือน
ขั้วย่นๆตรงขั้วงอแล้วเปลือกลอกออกซะงั้น แต่ส่วนใหญ่ยังใช้ได้นะ
ส่วนสายปลอมนี่ทนจริงแต่ส่วนใหญ่จะพังตรงช๊าตไม่เข้า
สาย galaxy s1 s2 (สายรุ่นเดียวกัน) ของผมทนมาก จนตอนนี้ยังไม่พังเลย
แต่สาย s3 + note2 (รุ่นเดียวกัน) นี่ใช้ได้ 3-4 เดือนพังหมด ไปสั่งของถูกๆมาจาก ebay ยังใช้ได้นานกว่าเลย
เก็บม้วนสายผิดวิธีก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้สายเจ้งไวครับ อีกส่วนหนึ่งคือส่วนผสมของยางที่ใช้มันไม่ทนต่อความชื้นซะเท่าไหร่ ถ้าใช้เสร็จแล้วคอยเช็ดให้แห้งก็อยู่ได้หลายปี ส่วนตัวสายที่ได้มาตั้งแต่รุ่น 3g ก็ยังใช้งานได้ดีถึงปัจจุบัน
ปล.จริงๆ แล้วถ้าสายเจ้งภายในปีที่อยู่ในประกันก็เปลี่ยนได้เรื่อยๆ นะ
ทำสายดีไป อะไหล่สำรองก็ขายไม่ได้สิครับ การตลาดเค้ามั้ง
ใช้ไอนี่อ่ะ
http://store.apple.com/th/product/MD820ZA/A/lightning-to-micro-usb-adapter
แล้วก็สาย อะไรก็ได้หนาๆ work!
ตั้งแต่ใช้มา ยอมรับว่าสายของ Kindle ทนทานจริงๆ เพราะใช้กันหลายมือ (มันต่อมือถือได้หลายรุ่น) คนก็ยืม เปลือกมันก็ร่อน จนเห็นด้านในยอมรับว่าสายด้านในคุณภาพดีสุดๆ เปลือกร่อนก็ยังใช้ได้ สุดท้ายไปซื้อเทปสีๆ มาพันทั้งสายเลย ยังใช้งานได้ดีอยู่
สาย Kindle อีกคน ยาวดีด้วยครับ หลายปีแล้วเปลือกแตกไปเส้นนึงยังไม่ขาดใน ตอนนี้ใช้เส้นที่สองอยู่ แล้วก็มีสำรองอีกห้าเส้น (>_<)
อ่อ จำได้ละ ที่เคลมเครื่องแล้วเค้าไม่ได้เอาสายไปด้วยใช่มั้ยครับ
นั่นล่ะครับ :D
ผมใช้ของโซนี่ตั้งแต่เครื่องเก่าจะ 3 ปีแล้วยังใช้ได้อยู่เลยทนมาก
ผมว่าสาย Nokia น่าจะดีสุด เพราะบริษัทเค้าทำสายไฟมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว (คนใช้ Nokia ว่าจริงป่าว?)
ช่างไฟสมัครเล่น (- -")
สายที่มากับ 920 ผมอ่อนยวบยาบมากครับเลยไม่ค่อยใช้ ในกรุ๊ป Lumia ก็เห็นเปลือกขาดกันกระจายจนเอาสปริงปากกามาสวมไว้กันมันโยก
จริงครับ Micro USB เสียบแน่นดีด้วย (สายของมือถือ Nokia รุ่นเก่านะ)
หลายคนอาจสงสัยว่าทำไมสายชาร์ตของ Apple พังง่าย? ทั้ง ๆ ที่เมื่อก่อนก็ใช้ทนทานดีมาตลอด
เรื่องนี้ไขปริศนาได้ไม่ยาก หากใครเคยดู Ad “Better” ในเดือนที่ผ่านมา (ที่แอบออก Print Adโจมตีบริษัทอื่นเล็ก ๆ ว่าอยากให้ “ลอก” แนวคิดไปใช้ด้วย)
ถึงตรงนี้ก็อาจจะนึกออกแล้วมั้ง แต่ถ้ายังไม่เป็นไร
โดยแคมเปญนี้ Apple ถึงกับทำส่วนของข้อมูลออกมาแยกเฉพาะ
ในเว็บไซท์ของตัวเอง ——> http://www.apple.com/environment/
แล้วเมื่อคลิกเข้าไปดูรายละเอียดในหน้านี้ ——> http://www.apple.com/environment/toxins/
ก็จะพบว่า…
Apple เลิกใช้ PVC ในสายชาร์ตแล้ว จึงน่าจะส่งผลกระทบต่อคุณภาพความยืดหยุ่นของสาย
ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเริ่มเมื่อไหร่ แต่ตอนนี้ทุกสายชาร์ตของ Apple PVC free ตั้งแต่ปี 2013
แต่ถ้าให้ลองเดา ก็น่าจะเริ่มตอนปี 2012 เพราะเป็นตอนที่สาย lightning ออกกับ iPhone 5
สรุป… Apple พยายามรักษ์โลกด้วยการเลิกใช้ PVC ในสายชาร์ต(คิดดูว่า มีผู้ใช้ผลิตภัณฑ์กันกี่สิบล้านคนบนโลก ขยะที่ย่อยสลายไม่ได้จะเท่าไหร่)
แต่… ไม่ประสบผลสำเร็จ เพราะผู้บริโภคก็นำเอาลูกปัดพลาสติกมาร้อยใส่อยู่ดี…
(ใช้เสร็จรออีกไม่กี่ร้อยปีก็ย่อยสลายแล้วแหละ)
โอ้ว พึ่งทราบครับขอบคุณครับ