ที่ผ่านมาไมโครซอฟท์มี Kinect แยกขายสองรุ่นคือ รุ่นที่มากับ Xbox One สำหรับเกมเมอร์ และ Kinect for Windows v2 สำหรับนักพัฒนา (ไส้ในเหมือนกันทุกประการ)
แต่ไม่นานมานี้ ไมโครซอฟท์เพิ่งออกตัวแปลง Kinect Adapter for Windows เพื่อให้ Kinect รุ่น Xbox One สามารถใช้กับพีซีได้ ทำให้ความจำเป็นที่จะต้องใช้ Kinect for Windows ลดลง วันนี้ไมโครซอฟท์จึงประกาศหยุดผลิต Kinect for Windows เพื่อลดจำนวนรุ่นลงให้เหลือ Kinect เพียงรุ่นเดียว
ปัญหาของนโยบายนี้กลับกลายเป็นเรื่องราคา เพราะนักพัฒนาต้องจ่ายแพงกว่าเดิม จากเดิม Kinect for Windows ตั้งราคา 169.99 ดอลลาร์ กลายเป็นว่าต้องซื้อ Kinect for Xbox One ราคา 149.99 ดอลลาร์ บวกตัวแปลงอีก 49.99 ดอลลาร์
ที่มา - Kinect for Windows Blog
Comments
สงสัยได้แรงบันดาลใจจาก apple, leaner products for fatter profits!
กำไรงามขนาดนั้น แถมมีคนออกมาปกป้อง ใครๆก็อยากเป็นแอปเปิ้ลโดยเฉพาะไมโครซอฟช่วงหลังๆนี่ออกอาการชัด
ผมมองว่ากรณีนี้เป็นเรื่องการบริหารต้นทุนสินค้าค้างสต็อกมากกว่า Kinect มันราคาแพงกว่าหัวแปลง ถ้าสองตัวนี้มีสินค้าค้างสต็อกจำนวนเท่ากัน ก็หมายความว่าเงินที่จมไปกับสินค้าที่ยังขายไม่ออกกรณีที่เป็นหัวแปลงจะน้อยกว่าเยอะ เหลือแค่ 1 ใน 3 แถมพื้นที่ในการเก็บสินค้าก็ใช้น้อยกว่า ในด้านขั้นตอนการผลิตก็ผลิต Kinect แค่รุ่นเดียว ไม่ต้องผลิต 2 รุ่น แถมมีปัญหาว่าถ้ารุ่นนึงขายไม่ออกของเหลือเยอะก็ไม่สามารถเอาไปเสียบใช้แทนอีกรุ่นได้อีก
แต่ทว่าปัญหาทั้งหมดนี้จะไม่เกิดขึ้นเลยถ้า Microsoft ผลิต Kinect สำหรับ Xbox One โดยใช้พอร์ตมาตรฐานตั้งแต่แรก
+1 คือทำไมไม่ทำให้ Xbox One เสียบผ่าน USB - -" มันหน่วงกว่ากัน?
ไฟไม่พอ พอ user ไม่รู้เรื่องอาจจะโวยวายง่ายๆ
ลดๆให้เค้าหน่อยคนจะได้ใช้กันเยอะๆ
คิดว่าเดี๋ยวก็ลดครับเพราะคนบ่นแน่ๆ
เดี๋ยวคงมีโปรโมชั่นละฮะ ซื้อแพ็กคู่ถูกกว่าไรงี้