หลังเกิดเหตุเที่ยวบิน MH370 หายไปอย่างไร้ร่องรอยเมื่อปี 2014 ตอนนี้สายการบิน Malaysia Airline พอจะหาหนทางป้องกันการเกิดเหตุดังกล่าวแล้ว จากการเซ็นข้อตกลงกับ Aireon, FlightAware and SITAONAIR บริษัทด้านอุตสาหกรรมการบิน ในการใช้ระบบติดตามเครื่องบินผ่านดาวเทียมแบบเรียลไทม์เป็นสายการบินแรกในโลก
คาดว่าระบบนี้จะถูกนำมาใช้งานจริงในช่วงปีหน้า ซึ่งทาง Malaysia Airline จะรู้ได้ทั้งตำแหน่ง ความเร็ว ความสูงได้ทุกลำ ไม่ว่าจะอยู่ตำแหน่งไหนของโลก โดยข้อมูลนี้จะถูกอัพเดตทุกๆ นาที
ด้านองค์กรการบินระหว่างประเทศ (International Aviation Organization) มีข้อกำหนดเพื่อป้องกันการเกิดเหตุแบบ MH370 ว่าทุกสายการบินจะต้องอัพเดตข้อมูลที่ตั้งของเครื่องบินทุกๆ 15 นาทีภายในเดือนพฤศจิกายนปี 2018 และภายในปี 2022 สายการบินจะต้องอัพเดตข้อมูลทุก 1 นาที กรณีเครื่องบินเกิดเหตุฉุกเฉินด้วย
ที่มา - CNN
Comments
อัพเดททุกๆนาทีก็ไม่น่าเรียก realtime นะ
คำว่า realtime ของแต่ละระบบมี interval ที่แตกต่างออกไปครับ คนสาย IT มักจะเห็น realtime เป็นแบบทันทีทันใด ความเป็นจริงมันก็ไม่ได้ทันทีทันใดขนาดนั้นครับ แต่มันตอบสนองเร็วอยู่ในระดับที่เรารู้สึกว่าทันทีทันใด ส่วนสำหรับสายการบินเขาอาจจะรับได้ใน interval ดังกล่าวครับ ตราบใดที่ยังแจ้งกลับมาอย่างต่อเนื่องในขอบเขตเวลาที่กำหนดก็ยังถือว่าอยู่ในคำจำกัดความของคำว่า realtime ได้อยู่ มันแค่อาจจะรู้สึกขัดกับความหมายของคำเท่านั้นเอง :)
SPICYDOG's Blog
real time ไม่ได้แปลว่า instantaneous หรือ no delay ครับ และเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่มี delay ครับ
ระบบ real time แปลว่าระบบที่มีการการันตี timing ครับ
1 millisec ก็มีช่องว่างครับถ้าจะบอกว่ามันไม่ได้ส่งตลอด
ถ้ามองแบบนั้น กดคีย์บอร์ดไปสั่ง คอมก็ไม่เรียลไทม์ครับ แหม
แล้วควรจะเรียกอะไรดีละครับ ผมว่ามันส่งข้อมูลทุกๆ Interval มันก็น่าจะเรียกได้เหมือนกันนะ
มือใหม่!! ใหม่จริงๆนะ
จะทำให้คนกล้านั่งมากขึ้นไหม นี่ถามเพื่อน จะชวนไปเที่ยวด้วยตั๋วโปรไม่มีใครยอมไป
ไม่จำเป็นเลย ปล่อยเป็นอุบัติเหตุ ถือว่าทำดีที่สุดแล้ว
แล้วคุณไม่คิดว่าญาติเขาอยากได้ศพไปบำเพ็ญกุศลหรือ นักวิทยาศาสตร์ได้ข้อมูลมาพัฒนาระบบการบินที่ดีขึ้นบางหรอครับ??
ปล. นึกถึงสคบ.ฝ่ายยานต์คนหนึ่งพูดกรณีฟอร์ตเฟียสต้าเลย "ถ้าคุณอยากได้รถที่ปลอดภัยคุณก็ต้องซื้อรถคันละ 20 ล้าน"
อย่างน้อยๆก็ควรไปเก็บกล่องดำนะครับ เหตุการณ์แบบเดิมจะได้ไม่เกิดซ้ำ
ควรจะทำตั้งนานแล้ว ล้าหลังมากๆมือถือขนาดเล็กหายยังใช้ GPS ตามได้ เครื่องบินขนาดใหญ่หายดันตามหาไม่ได้
GPS มันไม่ได้ใช้ส่งสัญญาณนะครับ กลางทะเลไม่มีเสามือถือเนอะ
ปกติเขามี Emergency Position Indicating Radio Beacon หรือ EPIRB อยู่แล้วครับ
เฮ้ออออ
เหมือนเป็นการบอกกลายๆว่า "อย่างน้อยเราจะค้นหาศพคุณได้แน่นอน" (มันคือดีใช่มั้ย?) (-_-")
จริงๆน่ามีการสร้างระบบที่สามารถอพยพผู้โดยสารในเวลาเครื่องบินตกได้นะเนี้ย
ดีแท้แน่นอนครับ แทนที่จะ "สูญหายอย่างปริศนา" ต่อไปนี้ก็สามารถพิสูจน์ทราบได้ทันทีไม่ต้องเสียเวลา ประกันก็จ่ายไป ญาติก็นำศพไปบำเพ็ญกุศล แล้วกรณีมีผู้รอดชีวิตก็สามารถช่วยเหลือได้ทันท่วงทีด้วยครับ
แล้วในแอพ flight radar นี่มันไม่ไช่ระบบติดตามหรือครับ เห็นกดดูได้ทุกลำ มีข้อมูลความเร็ว ความสูง ต้นทาง ปลายทางบอกเกือบหมด
ิอันนั้นจับจาก ads-b (beacon บนเครื่องที่ประกาศข้อมูลตัวเองให้คนอื่นเห็น) ครับ ซึ่งแก้ไขข้อมูลได้ และแน่นอนว่าปิดได้
ที่สำคัญคือ ถ้าไปกลางมหาสมุทร ไม่มีตัวรับสัญญาณนี้ก็จบครับ
อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทุกชิ้นต้องมีไฟเลี้ยง แต่ในกรณี MH 370 ดับทุกอย่างแม้กระทั่ง GPS ในตัว engine เอง
ถ้าผมใช้ตรรกะตามข้อความที่ผมพิมพ์มา.... ติดไปก็เปลืองเงินเปล่า สู้ทำกล่องดำที่มันส่งสัญญาณแรงๆและอยู่ได้นานๆดีกว่า(หรือทำให้มันลอยน้ำไปเลย)
ก็ทำระบบ GPS อันนี้ให้แยกออกจากระบบเดิม แล้วปิดไม่ได้ ก็จบแล้วครับ
กล่องดำ ถึงจะส่งได้ไกล นาน ขนาดนไหน แต่ถ้าไม่รู้ตำแหน่งใกล้เคียงบริเวณที่หาย ก็งมงายังไงก็ไม่เจอหรอกครับ
ยัดแบตลงไปในตัวนิดหน่อยแล้วทำแบบห้ามปิด (คือตัดไฟได้ แต่ก็จะทำงานจากแบตตัวเองต่อไปจนหมด) น่าจะเพียงพอเหลือเฟือต่อการใช้งานในระยะเวลา flight time นะครับ
วันก่อนเห็นออกทีวีช่องข่าวของสิงคโปร์เรียก "Virtual Blackbox" เคลมว่าไม่สามารถปิดระบบได้แม้ถูกไฮแจ็ก.