หลังเหตุการณ์ พร้อมเพย์ล่มวันนี้ ธนาคารแห่งประเทศไทยก็ออกมาระบุว่าได้รับรายงานตั้งแต่ช่วง 7 โมงเช้าวันนี้ โดยโพสรายงานเรื่องนี้ประกาศออกมาตอนบ่ายสองโมงครึ่งที่ผ่านมา หลังจากธนาคารต่างๆ ประกาศแจ้งเตือนผู้ใช้ในช่วงเที่ยง
ผมเองทราบว่าระบบมีปัญหาครั้งแรกคือช่วง 10 โมงวันนี้ ลำดับเวลาดังนี้
- ช่วง 11 โมงเมื่อผมทดสอบด้วยตนเองก็ยังพบว่ามีปัญหาอยู่ นั่นคือ ระบบทำงานต่อทั้งที่มีปัญหาและไม่มีการแจ้งเตือนอย่างน้อย 4 ชั่วโมง
- ธนาคารต่างๆ เริ่มปิดบริการพร้อมเพย์และ แจ้งเตือนลูกค้าในช่วงเที่ยง 5 ชั่วโมงหลังระบบล่ม
- ธนาคารแห่งประเทศไทยออกประกาศรับทราบปัญหา 7 ชั่วโมงครึ่งหลังระบบล่ม
- ระบบกลับมาทำงานช่วง 4 โมงเย็น 9 ชั่วโมงหลังระบบล่ม
ระบบไอทีมีปัญหาคงเป็นเรื่องปกติ แต่การแจ้งเตือนที่ล่าช้าก็เป็นคำถามสำคัญว่าเราจะเชื่อมั่นระบบและการกำกับดูแลระบบนี้ได้มากน้อยแค่ไหน
ที่มา - ธนาคารแห่งประเทศไทย
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Comments
เร่งผลักดันให้ใช้ แต่ไม่มีมาตรการดูแล ระบบล่ม ที่ดีพอ ความเชื่อมั่นต่อระบบ คงหายไปเยอะ อาจถึงขั้นจะทำให้โครงการไปต่อยาก
ผมว่าเป็นบ่อยๆ ได้พับเสื่อแน่นอน ยังจะบังคับให้ใช้อีก สุดยอดจริงๆครับ
แค่มนุษย์คนนึงที่อยากรู้เกี่ยวกับวงการไอที
บทความค่อนข้าง bias เกินไป ได้รับแจ้งก็ต้องตรวจสอบก่อนว่ามีปัญหาจริงหรือไม่ ไม่ใช่ปิดบริการทันทีหรือประกาศมั่วๆ และกว่าจะตามคนมาในหยุดก่อนวันปีใหม่อีกมันไม่ใช่ง่าย
ผมเจอข่าวแรกจากทวีต ลองโอนเอง สองรอบ ไม่เกิน 10 นาทีครับ
ถ้าระบบแบบนี้ไม่มี oper ดูระบบในวันหยุดจริง คงต้องออกประกาศเตือนประชาชนให้ระมัดระวังการใช้งานในวันหยุดครับ
lewcpe.com , @wasonliw
ทำแค่นั้นแล้วประกาศเป็นทางการได้เลยหรือ จะไบแอสไบแอสไปไหน ระบบไอทีไม่ใช่เรื่องง่ายๆนะคับ
ขึ้นกับแบงค์ชาติรับผิดชอบใครครับ ถ้ารับผิดชอบชื่อเสียง PromptPay ก็คงอย่างที่คุณว่า ไม่ล่มจริง ไม่เป็นข่าวก็อย่าประกาศ
ถ้ารับผิดชอบ เงินของประชาชนว่าไม่ให้ตกหลุมดำ เงินหายไปช่่วงสิ้นเดือน 2-3 วันก็ใช่ครับ ต้องรีบประกาศลดความเสียหาย
lewcpe.com , @wasonliw
ไหนลองเล่า procedure และระยะเวลาที่เหมาะสมในการแจ้งประชาชนของ national payment gateway หน่อยครับ
ทำอะไรถึงต้องใช้เวลา 7 ชั่วโมงเพื่อรับรู้ปัญหา และตรวจสอบปัญหาจนถึงแจ้งประชาชน
ช่วยเล่าความ "ไม่ง่าย" หน่อยครับ
ตามปรกติแล้ว ระบบพวกนี้จะต้องมี monitor และเมื่อ monitor แจ้งว่าระบบมีปัญหาตั้งแต่ครั้งแรกก็ควรถูกส่งให้ support เข้าไปดูแล
แล้วถ้ามีปัญหา error ติด ๆ กันจำนวนหนึ่งในช่วงสั้น ๆ (จริง ๆ แค่สัก 10-20 transaction ภายใน 1 นาทีก็เห็นชัด ๆ แล้วครับว่ามันพัง) ตรงนี้จะต้องรายงานให้ระดับ director รับรู้แล้วว่ามีปัญหา แล้วเมื่อ director รับทราบแล้วก็น่าจะตัดสินใจว่าจะทำอย่างไรต่อได้ภายในเวลาไม่น่าเกิน 15 นาที
ผมคิดว่า ณ.จุดนี้ ระบบควรจะทำการปฎิเสธ transaction ทั้งหมด แบงค์ต้นทางจะไม่ได้ตัดเงิน คนจะเห็นว่าไม่สามารถโอนเงินได้ แต่เงินจะยังไม่ถูกหักออกไปครับ
ผมไม่รู้ว่า PromptPay เนี่ยมันจะทำงานหักเงินที่ต้นทางเลยเมื่อทำ Transaction หรือว่าต้องรอให้ตัว Processor รับเข้าระบบก่อนแล้วค่อยหักนะครับ
คงแยกระบบกันครับ ต้นทางพอส่ง request ให้กับ gateway เสร็จแล้วคงสั่ง commit เลยส่วนอีก hop ที่เหลือก็ตามบุญตามกรรม
ดีไม่ดี gateway ดันตอบกลับมาว่า 200 แต่ความจริงมันพังอยู่ด้านหลังก็เป็นได้ครับ คือที่คิดแบบนี้เพราะถ้าไม่ตอบด้วย 200 ต้นทางก็ไม่น่าจะ commit นะ
ก็อย่างที่คุณ mr_tawan กล่าวครับ monitoring กับ log ก็น่าจะมีติดตั้งไว้อยู่แล้ว ของพวกนี้มันรัวใส่ไม่ยั้งถ้ามี error ด้วยซ้ำ
ผมถึงคิดไม่ออกว่าทำไมต้องรอ 7 ชั่วโมง แล้วก็เลยอยากได้ความเห็นจากคุณ maoindie ว่าระบบไอทีมันยากอย่างไร และยากตรงไหน มีส่วนใดที่ทำให้ต้องใช้เวลา 7 ชั่วโมง
ตอนนี้ก็รอความกรุณากันไปก่อนครับ
ธนาคารต่าง ๆ เริ่มแจ้งเตือนหลังระบบล่ม 5 ชม. แค่นี้ก็ Fail ละ จะใช้เวลานานไปไหน ถ้าบอกว่าไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ไหนขอขั้นตอนที่ทำให้แน่ใจหน่อยสิครับว่ามันยากตรงไหน?
แถมความตลกคือ ธปท. ควรจะเป็นคนสั่งให้ ธ. ต่าง ๆ เช็คแล้วพอมั่นใจว่าล่มจริงควรจะแจ้งเองด้วยซ้ำ ตัวเองเป็นเจ้าภาพแท้ ๆ รอให้ธนาคารอื่นแจ้งก่อน แล้วตัวเองแจ้งทีหลังอีกหลาย ชม. นี่โคตร Fail (ถ้าแจ้งหลัง ธ. อื่นนิดนึงนี่พอเข้าใจได้นะ) ที่งงไปกว่านั้น พอออกมาแจ้งรับทราบปัญหาแล้ว ดันแก้ได้ภายในสอง ชม. ซะงั้น ใช้เวลารับรู้ว่าเกิดปัญหามากกว่าใช้เวลาแก้ปัญหามาก ๆๆๆ ตลกไป๊
สัมผัสได้ถึงความไบแอสจริม ๆ ๕๕๕
เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!
ตลกดีครับ ระบบที่ผมเคยดูแลมี SLA ที่สองชั่วโมง เคยทำไอทีจริงๆ เหรอครับ
ผมว่าไม่เกินไปครับ เรื่องนี้เกี่ยวกับการเงินระดับประเทศจะมาอ้างว่าช่วงเทศกาลไม่ได้ ถ้าไฟแนนซ์ระดับ อบต. ก็ว่าไปอย่าง
kbank เคยล่มทุกสิ้นเดือนอยู่พักนึง
ข้อนี่เห็นด้วยเลย
ล่มทำให้ทำรายการไม่ได้ แต่นี่ทำรายการได้แต่เงินไม่เข้าคิดว่าอันไหนหนักกว่ากันครับ
อธิบายหน่อยครับ ว่าเกี่ยวอะไรกับ kbank และมีกรณีใดๆ ที่มันเกี่ยวข้องกัน
ผมว่าบทความนี้ก็รายงานตามความเป็นจริงแล้วความเห็นของผู้เขียนก็สะท้อนความใส่ใจของธนาคารนะครับ ส่วนที่คุณบอกว่าให้มันชัดเจนก็แค่ธนาคารสั่งให้ทุกแบงค์ดาวน์ระบบแล้วรีบให้ธนาคารแจ้งแล้ว ตัวเองก็แจ้งว่ากำหนดหาสาเหตุขอปิดชั่วคราวมันก็จบครับ ซัมซุงก็สั่งเก็บก่อนประกาศสาเหตุไม่เห็นต้องรอหาสาเหตุแล้วค่อยปิดหรือแจ้งเลย...
ขอโทษครับ เคยทำงานวงการไอทีหรือเปล่า
บริษัทผม ถือ oncall 24/7 ปีใหม่ต้องมีคนเฝ้าเพราะมีเรื่อง SLA มากมาย
ไอ้ที่บอกว่าปีใหม่ตามคนยาก ถ้า client ได้ยินก็หนีหมดสิ
ประเด็นคือ Client ไม่มีทางเลือกครับ เพราะมีเจ้าเดียว
เหอะๆๆ
ผมอ่านมานานแล้ว เพิ่งสมัครสมาชิก ตั้งแต่ก่อนพร้อมเพย์เปิดตัว ผมเห็นมีบทความอยู่เรื่อย ๆ อ่านแล้วก็ดูรู้สึกว่าเป็นการเขียนในแง่ดี การเขียนรายการการล่มแบบนี้ เป็นการเตือนสติหน่วยงานมากกว่า ว่าควรจะจัดการปัญหาและแจ้งปัญหาได้ดีกว่านี้
มันไม่ควรนานขนาดนั้นครับ แค่เช็คเบื้องต้นว่ามีปัญหา ก็ปิดบริการก่อนได้แล้วครับ เรื่องเงินทอง policy มันสูงนะครับ และที่สำคัญงาน it ต้องมีฝ่าย support standby เป็น standard อยู่แล้วครับ ตามคนมาแก้อาจต้องใช้เวลา แต่สั่งปิดบริการไม่ควรนานครับ
ในแถลงการณ์อาจจะหมายถึงอย่างนี้ก็ได้นะครับ
คงต้องรอดูแถลงการณ์เต็มๆตอนฝุ่นหายตลบอีกที
ถ้าตั้งใจบอกแบบนี้จริงก็นับว่าเรียงประโยคได้ประหลาด ถ้าผมเขียนน่าจะเป็น
lewcpe.com , @wasonliw
ทำอะไรช้ามากจริงๆ ถึงไม่อยากแจ้งคนทั่วไปก็ควรรีบประสานแบงก์ให้เอาระบบลงก่อน ไม่ใช่ให้คนโอนไปติดเรื่อยๆ แบบนี้
ผมไม่ทราบว่าทำไมคุน lew ถึงแอนตี้พร้อมเพย์ แต่ผมว่าไม่ควรมีบทความลักษณะนี้บน blognone นะคับสื่อควรรายงานอย่างเป็นกลาง ไม่ควรใส่ความเห็นส่วนตัวลงไป จิงๆน่าจะมีปุ่มรีพอทบทความไม่เหมาะสมนะ
จาก https://www.blognone.com/writing_guideline
เราเชื่อมั่นในความไม่เป็นกลาง อย่าลังเลที่จะใส่ความคิดเห็นส่วนตัวถ้าเห็นสมควร อย่างไรก็ตาม คุณต้องทำใจรับไว้ด้วยว่าเราก็เปิดโอกาสให้ความคิดเห็นที่ตรงข้ามกับคุณเช่นเดียวกัน
อ่านไป 98 รอบยังไม่รู้สึกหบแอส
ถึงกับต้องคอมเมนท์ย้ำสองรอบเลยเหรอครับ กลัวคนอื่นไม่คล้อยตามเหรอครับ
เป็นแนวทางการเขียนข่าวของที่นี่แหละ
ในยุคนี้คนอ่านต้องสร้างภูมิคุ้มกันเองว่าจะสามารถแกะข้อเท็จจริงออกจากอารมณ์ได้มากน้อยแค่ไหน เป็นที่น่ากังวลพอสมควรว่าการศึกษาของโลกยังตามแนวทางที่ข่าวไปไว ไวจนเกินความคิดวิเคราะห์ของคนเราด้วยซ้ำ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ต้องสร้างความเข้าใจกันอย่างเร่งด่วนในสังคมเลยล่ะ
ขอชื่อสื่อที่เป็นกลางหน่อยครับ .. ไม่ว่าจะสำนักไหน ในประเทศ หรือต่างประเทศก็ตาม ;)
my blog
ผมอ่านข่าวทั้งวัน บอกเลยว่าผมไม่รู้สึกว่าข่าวนี้มีไบแอสอะไรเลยครับ
ในฐานะคนใช้งาน การไม่รายงานหรือปิดระบบให้ทันเวลา คือสิ่งที่ร้ายแรงมากกว่าครับ จริงอยู่ระบบพร้อมเพย์ล่มได้ และจริงอยู่ที่เหตุเกิดในวันที่ไม่น่าจะมี transaction หนาแน่น แต่นี่คือระบบระดับชาติ และมีคนไม่น้อยพึ่งพิงระบบนี้ในการส่งต่อหรือย้ายเงินระหว่างกัน ต่อให้ transaction ครั้งละบาทเดียวก็ตามเถิด การแก้ไขปัญหาจึงต้องรีบดำเนินการ และควรแถลงแต่เนิ่นๆ
แม้การให้ข่าวอาจจะต้องรอยืนยันก่อนว่าเกิดจากอะไร แต่ถ้าปัญหาเกิด upfront ก็ควรรีบแจ้ง รีบปิด แล้วค่อยออกมาพูดสาเหตุทีหลังก็ได้ครับ
I'm ordinary man; who desires nothing more than just an ordinary chance to live exactly what he likes and do precisely what he wants.
อ่านหลักการของ Blognone ก่อนโพสรึยังครับ?
ผมไม่แน่ใจว่าทำไมคุณถึงคิดถึงว่าผมแอนตี้พร้อมเพย์นะครับ แต่ผมยืนยันว่าไม่ได้แอนดี้โดยตัวมันเอง แม้จะมีข้อตำหนิหลายครั้ง
ที่เหลือระบบ PromptPay ไม่มีปัญหาอะไร โอนเงินฟรีเป็นเรื่องดี แต่ระบบที่ดีไม่ควรตั้งบนฐานของการ "บูชายัญ" คนซวยบางกลุ่ม วันนี้คนจะจ่ายค่างวด บิลโทรศัพท์ บัตรเครดิต จ่ายหนี้ ฯลฯ เขาโอนหากันวันนี้แล้วเงินหาย พรุ่งนี้โดนปรับดอกเบี้ย ITMX/BOT ตามไปจ่ายดอกเบี้ย+ค่าปรับให้เขาหรือ
หรือวันนี้ตั้งแต่เช้าแม่ค้าจตุจักรงงๆ ว่าลูกค้าจ่ายแล้วไม่ได้เงินกันไปกี่รายแล้ว จ่ายซ้ำกันไปกี่รอบ จนไม่ได้แล้วจ่ายเงินสดกันไปกี่รายการ คนเหล่านั้นเขาจะทำเรื่องคืนเงินกันอย่างไร
เรื่องเหล่านี้เป็นความรับผิดชอบของธนาคารแห่งประเทศไทยผู้กำกับดูแลระบบการเงินธนาคารทั้งสิ้น
lewcpe.com , @wasonliw
เห็นด้วยกับคุณลิ่วทุกข้อครับ โดยเฉพาะเรื่องกั๊กไม่ให้ผูกกับเลขบัญชีได้นี่ ผมรับไม่ได้ครับ
แล้วเท่าที่อ่านข่าวนี้ ผมก็เห็นว่าเป็นการรายงานข่าวแบบปกติมากๆ เป็น timeline มาเฉยๆเลยครับ
อคติน่าจะอยู่ในใจคนตีความมากกว่าครับ
เรื่องการผูกกับหมายเลขประชาชนมันก็ส่วนตัวจริงๆแต่หมายเลขโทรศัพท์ไม่น่าส่วนตัวเท่าไหร่ ยิ่งเวลาซื้อของเจอคนขายใช้เบอร์ที่ลงขายผูกกับพร้อมเพย์ ผมว่าลูกค้าก็น่าจะอุ่นใจหน่อยเวลาโดนโกงก็น่าจะแจ้งความได้ง่ายๆเพราะเบอร์ที่ผูกกับพร้อมเพย์คงไม่ไปยกเลิกง่ายๆ
ผมไม่เห็นด้วยแค่บังคับครับ ถ้าเปิดเลขบัญชีพร้อมเลขอื่นๆ แล้วแม่ค้าคนไหนจะแสดงอยากใช้เบอร์โทรหรือเลขบัตรประชาชนเพื่อรับเงินผมคงไม่ไปต่อว่าอะไร
lewcpe.com , @wasonliw
ลองเสนอข่าวในเวอร์ชั่นเป็นกลาง ในความเห็นของคุณมาดูครับ
เห็นด้วยครับ เขียนใส่ Google Docs ก็ได้
ผมอ่านสองรอบ ยังหา bias ที่ว่าไม่เจอ ช่วยเขียนที่มันดีกว่านี้มาหน่อยเถอะ
มันไม่ง่ายเลยที่จะทำ GIF ให้มีขนาดน้อยกว่า 20kB
เรื่องเงิน policy สูง อีกทั้งยังเกี่ยวกับความเชื่อมั่น ทุกอย่างมันต้องพร้อมรับสถานการณ์อย่างฉับไวมากกว่านี้ ข่าวรายงานตาม time line แค่นี้ถือว่ากลางมากแล้วนะครับ
ส่วนตัวใช้มาทั้งปีไม่มีปัญหา ยังดีที่วันนี้ไม่มีเงินต้องโอน
ติ่ง promptpay ก็มา
ขนาดผมออกไปแนวติ่งๆ ผมยังรับไม่ได้กับความล่าช้าในการประกาศเลย
ผมกลัวมนุษย์คีบอร์ดมากกว่า ตอนพิมพ์ แต่ไม่ได้ลงมือทำเองมักจะพูดว่าง่ายๆ ขนมทุกอย่าง มั่นใจแค่ไหนถ้าพวกคุนรับผิดชอบระบบนี้คุนจะทำได้เร็วกว่า 7 ชม.ในระบบที่เกี่ยวกับราชการ
และถามจริงถ้าเขายกเลิกพร้อมเพย์ แล้วให้คุนโอนเงินระบบเดิมค่าธรรมเนียมแพงเหมือนเดิมเอาหรือเปล่า จริงๆถ้าไม่ชอบก็โอนระบบเดิมได้ไม่ใช่เหรอ
และที่น่ากลัวสุดคือการประชดประชัน อยากรุ้ว่านั่งต่อหน้าจะพูดอะไรน่ากลัวกันขนาดนี้ไหม
เป็นบ้าอะไรมากหรือเปล่าครับ เค้าไม่ได้บอกให้แก้ภายในชั่วโมงสองชั่วโมง ไม่ได้บอกให้ยกเลิกระบบ
ที่เค้าจะสื่อก็คือระบบใหญ่ขนาดนี้ เวลาขัดข้องควรเร่งด่วนในการ'สื่อสาร'ให้ชัดเจน เพื่อที่จะให้เกิดความน่าเชื่อถือ
คนที่ bias คือคุณเองหรือเปล่า? อีกอย่างการกระทำของคุณมัน'ไร้มารยาท'มากนะครับ เผื่อยังไม่รู้
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
+1 ผมว่าไปไกลเกินจะกู่กลับแล้วแหละครับ แค่ detect ปัญหาแล้วรีบสื่อสารออกมา ยอมให้ได้นานขนาดนี้ ระดับองค์กรไม่ใช่เล็ก ๆ ผมว่านี่เป็นอีกเหตุผลที่นักลงทุนไม่อยากมาไทยแหละ ทำอะไรดูเหลาะแหละไปหมด
เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!
เออ...โวยวายว่า "เป็นบ้าอะไรมากหรือเปล่าครับ" ในเว็บบอร์ดแบบนี้
ทำแบบนี้ดูมารยาททรามไปหน่อยนะครับ เผื่อไม่รู้
ไม่รู้ครับ บอกตรงๆ และไม่คิดจะแก้ไขด้วย
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
ไม่ได้บอกเพื่อให้แก้ครับ บอกเพื่อทราบเฉยๆ
เพราะในความคิดผม มาตรฐานโดยรวมของเว็บนี้ลดลงอย่างมากในประมาณหนึ่งเดือนที่ผ่านมา
เข้าใจได้ว่าเป็นเพราะต้องการสร้างจำนวนผู้กดเข้าเว็บเพิ่มขึ้นเพียงเท่านั้นเอง
ผมไม่เชื่อว่าการพยายามใส่ร้ายผู้อื่นโดยไร้เหตุผล จนเกือบทุกคนมาค้าน แต่ก็ยังพยายามเบี่ยงประเด็นและสุดท้ายพยายามกล่าวหาและท้าทายผู้อื่นที่ไม่เห็นด้วย จะถูกถามว่า "เป็นบ้าอะไรมากหรือเปล่าครับ" ไม่ได้ครับ
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
ผมไม่ค่อยชอบพวกมากลากไปนะครับ ใจเย็นอีกนิดครับ เห็นด้วยว่าเค้าพยายามใส่ร้ายผู้อื่นโดยไร้เหตุผล (คือไม่เห็นบอกเสียทีว่าตกลงที่ไบแอสนี่มันไบแอสยังไง) แต่ผมว่าปกติคุณ McKay ไม่แรงขนาดนี้นะ?
ผมกลับชอบแรงแบบนี้แหะ โดยเฉพาะกับเม้นนี้ของข่าวนี้
ปล. อ่านกระทู้นี้บันเทิงข้ามปีเลย สวัสดีปีใหม่ครับ
ผมพูดตามสิ่งที่คุณ maoIndie รู้สึกหน่ะครับ
ถ้าตามอ่านดีๆจะพบว่า comment นี้เป็น 'main' comment ที่สามของคุณ maoIndie หลังจากที่ main comment ก่อนๆ'ผลตอบรับ'ไม่ดีครับ
การสร้าง main comment ใหม่ ใจความเดิมๆ เพิ่มเติมคือกล่าวหาท้าทายคนที่ไม่เห็นด้วยเนี่ย ผมว่าข้อความของผมคงไม่ได้แรงไปหรอกมั้งครับ
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
คนอื่นเค้าเตือนก็ฟังๆไว้หน่อยก็ได้มั้งครับ ผมคนนึงก็รู้สึกว่ามันแรงไป
ใครจะแรงมา เราไม่แรงกลับมันก็จบ บรรยากาศก็ไม่เสียด้วยครับ
เค้าคือคนเดียวกันนี่ครับ
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
คนละคนกันครับ
อยู่ๆจะมาบอกว่าสองคนเป็นคนเดียวกันก็ดูจะมโนไปหน่อยนะครับ
นอกจากจะโวยวาย ไม่ฟังคำเตือนจากผู้อื่นแล้ว ก็ยังเป็นจอมมโนอีกหรอ
ตั้งแต่commentก่อนแล้วที่คุณมโนไปว่าทุกคนเห็นด้วยกับคุณหมด
ครั้งนี้ก็จะมาบอกว่าสองคนที่ไม่รู้จักกันเลยเป็นคนเดียวกันอีก
...
คุณน่าจะมีlogicที่ป่วยมากๆนะ
คนเราควรตั้งอยู่บนหลักการและเหตุผลนะครับ
Hmm....
Now I'm suspecting...
แน่ใจนะครับ? อยากให้ผมบรรยายหลักการและเหตุผลไหมครับ?
จะเห็นว่าข้อความที่ 1 และข้อความที่ 2-3 ไม่เป็นเหตุเป็นผลกัน ไม่เกี่ยวเนื่องกัน ถ้าคุณเป็นคนละคน ข้อความที่ 2-3 คงเปลี่ยนเป็นประมาณ 'เพราะผมรู้สึกว่าคุณพูดแรงไป' ไม่ใช่การบรรยายเหตุผลทางความคิดเกี่ยวกับเว็บ
ทั้งที่ข้อความของคุณ Patchan ที่ว่า "ดิ้นเป็นกุ้งเต้นโดนมะนาว" เป็นข้อความที่คุณไม่ควร reply แบบนั้น เพราะยังไม่เคยมีใคร'แย้งความคิดเห็นส่วนตัวของคุณ' และยังไม่เคยมีใครคิดว่า'คุณไม่รับฟังความคิดเห็นที่ตรงข้าม' นอกจากคุณจะเป็นคุณ maoindie
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
ระวังหน้าแตกนะครับ ตรรกะป่วยๆแบบนี้เอานู้นเอานี้มาโยงกันมั่วเลย
ในโลกนี้ไม่จำเป็นต้องมีคนเห็นต่างเพียงหนึ่งคนเท่านั้นนะครับ อาจจะมีคนเห็นต่างมากกว่าหนึ่งคนเพียงแต่มีคนไม่กี่คนอยากจะมาแย้งก็ได้นะครับ
ผมว่าคุณควรจะปรับlogicของตัวเองใหม่นะ
น่าขำจริงๆมาบอกว่าใครไม่รู้เป็นคนเดียวกัน
เรื่องฮารับปีใหม่เลยถถถถถถถถถถถถถ
คนที่ตัดสินคงเป็นคนอื่นครับ ไม่ใช่คุณและผม
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
เอาจริง ๆ ผมก็สงสัยว่าคนเดียวกัน (แต่เป็นร่างอวตาร) อยู่เหมือนกัน
Coder | Designer | Thinker | Blogger
ข้อสงสัยของคุณผิดนะครัช5555
ตอนแรกผมก็สงสัยว่าคนเดียวกันมั้ย แต่ตอนนี้ชัวร์เลย
ตำหนิเขา โดยใช้คำพูดแบบนี้ ไม่ทำให้อะไรๆดีขึ้นมาหรอกครับ
ในกรณี มา war ไม่หยุดหย่อน โดยไม่รับฟังคำชี้แจงใดๆคุณ ลิ่วผมว่า "โวยวายว่า 'เป็นบ้าอะไรมากหรือเปล่าครับ' " สุภาพไปด้วยซ้ำครับ
มีหลาย ๆ คนในนี้ทำงานที่เกี่ยวกับ Transaction Processor อยู่นะ
โดยปรกติระบบที่เกี่ยวกับการเงินจะมีระเบียบเกี่ยวกับการตอบสนองต่อปัญหา (เช่นการบังคับให้มี Disaster Recovery Site เป็นต้น) โดยจะต้องทำให้ได้ภายในเวลาจำกัด ไม่เช่นนั้น Regulator จะมีบทลงโทษครับ (ผมไม่แน่ใจว่าระบบไทยมีแบบนี้หรือเปล่านะครับ เพราะไม่ได้ทำงานกับระบบในไทย) คนที่อยู่สายการเงินจะต้องตอบสนองค่อนข้างเร็ว เพราะถ้าคุมสถานการณ์ไม่ได้ ความเสียหายมันจะสูงมากครับ
จากประสพการณ์ส่วนตัว โปรแกรมที่ทำงานตอนสิ้นปีมักจะมีปัญหา สาเหตุคือปีนึงมันทำงานแค่ครั้งเดียว และการทดสอบอาจจะทำได้ไม่ทั่วถึง (ขึ้นกับความสามารถของนักพัฒนาและนักทดสอบระบบด้วยครับ) และถ้าเคยมีการแก้ปัญหาก็อาจจะเป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าแล้วไม่ได้กลับมาทำต่อ ผมว่า วันสิ้นปีเนี่ย สำหรับมนุษย์ไอทีการเงินควรจะ stand by พร้อมรับปัญหาที่จะเกิดขึ้นได้ตลอดเวลาครับ เพราะว่ามันเป็นวันที่มักจะเกิดปัญหาใหญ่
ผมเห็นความเห็นนี้แล้วเป็นห่วงครับ ผมก็ทำงานเกี่ยวข้อง PromptPay นะ ITMX เป็นตัวกลาง ถ้าระบบมีปัญหาหา ควรยุติการดำเนินการเพื่อตรวจสอบก่อน ถ้าวันนี้เงินเดือนพนักงานผมออก แล้วผมโอนผ่าน Promptpay เงินตัดออกไปแล้ว แต่ไม่ถึงมือพนักงาน ผมจะบอกพนักงานว่าอะไรครับ พนักงานจะด่าผมหรือด่า PromptPay ดี ใครควรจะเดือนร้อน ถ้าผมโอนไม่ได้แต่ต้น ผมก็แค่หาวิธีอื่นไห้พนักงาน เข้าใจ Scenario ในการแก้ไขปัญหาหรือยังครับ ไม่ได้บอกว่าปัญหาเกิดไม่ได้
ผิดแล้วต้องแก้ไข หาจุดที่ recover ได้เร็วที่สุด ดีที่สุด เผลอๆถ้าผลสอบออกมาว่า Bug เรื่องง่ายๆ จะยิ่งฮากันเข้าไปใหญ่
ถ้ากว่าจะแจ้งเตือนว่ามีปัญหาตั้ง 7 ชั่วโมงกว่าก็คงไม่มีใครอยากจะใช้หรอกครับ
คุน -> คุณ
เดี๋ยวๆๆๆๆ
ประเด็นคือแบบนี้ครับ
แม้มันจะเป็นส่วนหนึ่งของหน่วยงานราชการ แต่ระบบด้านธนาคารถือว่าต้องการความถูกต้องของ transaction และเหตุการณ์นี้มันไม่ควรจะเกิดขึ้น ไม่ควรจะมี down time และถึงแม้ว่ามันจะมี ก็ควรต้องแจ้งให้ทราบเมื่อเกิดปัญหาให้เร็วที่สุดเพราะทั้งหมดนั้นมันเป็นข้อมูลของลูกค้า เป็นเงินของลูกค้า
ประเด็นมันไม่เกี่ยวหรอกครับว่ามันคือพร้อมเพย์หรือไม่ แต่ปัญหาที่เกิดคือการประกาศถึงปัญหาที่ส่งผลต่อการใช้จ่ายของประชาชน ซึ่งมันทำให้ความน่าเชื่อถือของระบบนี้ลดน้อยลงไป และมันอาจจะทำให้คนขยาด ไม่อยากจะใช้งานต่ออีก ซึ่งมันไม่ใช่ผลดีเลย
Coder | Designer | Thinker | Blogger
ไปหัดเถียงให้ตรงประเด็นก่อนดีมั้ย ก่อนจะว่าคนอื่น ประชดประชัน อ่อน ไม่เคยผ่านงานระบบ อะไรพวกนี้
สงสัยจะมีส่วนได้ส่วนเสียกับระบบนี้ ดิ้นเป็นกุ้งเต้นโดนมะนาว
แจ้งเพื่อทราบครับว่า "ไม่"ได้มีส่วนได้ส่วนเสียใดๆกับระบบนี้ทั้งสิ้นครับและก็ไม่ได้ดิ้นด้วยครับ ผมเพียงแต่ใส่ความคิดเห็นส่วนตัว และเปิดโอกาสรับฟังความคิดเห็นที่ตรงข้ามกับผมด้วยเช่นเดียวกัน
เค้าไม่ได้ reply คุณไม่ใช่เหรอครับ•••
อ้าว•••ขอโทษครับ คิดว่าเหมารวมผมไปด้วย ผมอ่านไม่ดีเอง
ผมไม่รู้ว่าคุณดีลกับระบบราชการมากน้อยแค่ไหน (เอาง่ายๆ คือผมไม่ทราบเลย) แต่ในฐานะที่เรียนมาเพื่อฝึกไปเป็นข้าราชการไม่มากก็น้อย มันมีสิ่งที่เรียกว่าการ 'มอบอำนาจ' และ 'กระจายอำนาจ' ครับ
ผมไม่ปฏิเสธว่า 7 ชม. ในระบบราชการเป็นปาฎิหาริย์ (สำหรับคนที่ไม่คาดหวังกับระบบราชการแบบผม) แต่ในเวลาเดียวกัน ระบบที่ต้องอาศัยความเร็วในการแก้ปัญหาแบบนี้ 7 ชั่วโมง เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ สิ่งที่คนอื่นมองไม่ใช่การแก้ไขปัญหาในระบบ แต่เป็นเรื่องการจัดการกับสถานการณ์เฉพาะหน้า ระบบควรพักใช้งานตั้งแต่ 8 โมงเช้า (เอาอย่างแย่ที่สุดนะครับ) พอรู้ว่ามีปัญหา หรือควรประสานกับทุกธนาคารทันทีที่ปัญหามันเกิด
ถ้าคุณบอกว่า คนไม่เข้าใจระบบราชการ ถ้าอย่างนั้นผมต้องถามกลับว่า แล้วการมอบหรือกระจายอำนาจที่มาพร้อมกับตัวกฎหมายบางฉบับ (เช่นใน พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน หรือกฎหมายอื่นๆ) มันไม่เกิดขึ้นหรือ? ถ้าอย่างนั้นแปลว่ามันต้องมีปัญหาในเชิง 'โครงสร้าง' ในการบริหารองค์กรแล้วครับ และนั่นจะเป็นปัญหาใหญ่กว่าพร้อมเพย์ล่มในวันนี้แน่นอน
I'm ordinary man; who desires nothing more than just an ordinary chance to live exactly what he likes and do precisely what he wants.
ผมเข้าใจว่าคณะทำงานเป็นเอกชนไม่ใช่เหรอครับ
ลักษณะเป็นแบบประชารัฐครับ (ผมเกลียดคำนี้โดยส่วนตัวนะ เพราะมันคือลักษณะของภาครัฐและเอกชนร่วมกันทำ แต่ก็ไม่น่าจะมีคำพูดอะไรที่สะท้อนความร่วมมือลกษณะใกล้เคียงกันแบบนี้)
I'm ordinary man; who desires nothing more than just an ordinary chance to live exactly what he likes and do precisely what he wants.
เอ่อ .... จะบอกว่าคนอ่านเว็บนี้ส่วนมากทำงานอยู่กับเรื่อง IT กับธนาคารนี่แหละครับ
ไอ้เรื่องระบบล่มเนี่ย ผมว่าหลายๆคนมีประสบการณ์เยอะเลยแหละ
เขาไม่ได้บอกให้แก้แบบทันที อย่าเบี่ยงประเด็น ผมอ่านที่หลายคนพิมพ์นี้พูดเป็นเสียงเดียวกันเรื่องเดียว คือรู้ปัญหาตั้งแต่ 7 โมงเช้า ทำไมไม่รีบออกประกาศแจ้งเตือนว่ามีปัญหา ปล่อยให้ทางธนาคารต้องรู้ตัวเองทีล่ะเจ้า
สมัยทำ itruemart.com ตอนจัดโปรสินค้าบาทเดียว คนเข้ามาจนล่มในวันแรก คำถามแรกที่ทีมคิดคือ... จะออกแบบหน้า Error ยังไงให้ไว คนฝั่งทรูเลยทำออกมาเป็นรูปหุ่นยนต์ (ภายในเรียกกัน bad bad robot) คือคิดกันว่า
1. Error ต้องขึ้นไว้ให้ทีสุด เพราะปล่อยหน้า Error จริงๆ ออกไปไม่ได้2. ทำยังไงให้คนไม่ด่าไปซะก่อน เลยเอาหุ่นยนต์แบ๋วๆ ขึ้นไปก่อน
พอหน้า Error ขึ้นไป จากนั้น War room กันรัวๆ รีบแก้ปัญหากัน
คือคิดถึงคนใช้งานเต็มที่ ถ้าเจอปัญหาก็ต้องปิดระบบลงไปก่อน ไม่ให้สั่งซื้อได้ ถ้ายังปล่อยให้คนเข้าระบบ เราก็ตรวจปัญหาไม่ได้ แต่ส่วนที่ระบบพร้อมเพย์ทำคือยังปล่อยให้คนทำ transaction ได้ ส่วนตัวในฐานะ Developer บอกได้เลยว่าผิด ยิ่งถ้ารู้ปัญหาแล้วอะ การ take action มันไม่ได้ยากขนาดนั้น (แต่ที่น่ากลัวคือผู้ใหญ่ไม่ให้ take action นี้แหละ ซึ่งประเด็นนี้น่าคิดกว่า)
ส่วนตัวคิดว่าแน่ล่ะว่าปัญหาเกิดจาก ITMX แต่ที่น่าคิดว่าคือ ITMX น่าจะรู้ แต่ทำอะไรไม่ได้ เพราะ transaction มันเกิดจากธนาคาร (ไม่รู้ได้ตกลงกรณีเคสการปฏิเสธ transaction ไว้ไหม) แต่แบงค์ชาติอาจไม่ได้แจ้งธนาคาร หรือแจ้งแล้วแต่ไม่ได้ทำช่องทางปิดระบบที่ส่วน front กว่าจะ deploy front แต่ล่ะส่วนก็กินเวลา
เอาจริงๆ ปัญหาทั้งมวล "แบงค์ชาติควรโพสลง Facebook หลังได้รับรายงานระบบล่มทันที ไม่ใช่ปล่อยมา 7 ชั่วโมงครึ่ง" แล้วจะบอกว่า transaction เดี๋ยวจะไล่ปรับให้ อะไรก็ว่าไป แต่เล่นเงียบ 7 ชั่วโมงครึ่งนี้คืออะไร แถมปล่อยให้ธนาคารอื่นออกมาแจ้งกันก่อนซะงั้น
ตรงนี้ล่ะประเด็น
ปล. ผมเกลียดความเห็นเชิง "ไม่ชอบก็ยกเลิกไป" อารมณ์แบบขู่ "อย่าออกความเห็นนะเดี๋ยวไม่ได้ใช้" ชีวิตมันมีไม่ซ้ายจัดก็ขวาจัดเหรอครับ ส่วนในความเป็นจริง ไม่มีืทางยกเลิกด้วยเหตุผลแบบเด็กๆ หรอก เพราะ PO ในนั้นเอาหน้าตัวเองเสียบไว้อยู่ ไม่ว่าจะองค์กรแบบไหนก็ตามเถอะ
มันไม่ง่ายเลยที่จะทำ GIF ให้มีขนาดน้อยกว่า 20kB
ไม่อยากลบที่โพสไปเลยเลยมาเสริมตรงนี้
มะกี้อ่านความเห็นคุณ foizy แล้วเห็นด้วยเลย บางทีที่ผมพูดเคสข้างบนนี้อาจทำไม่ได้เลยถ้าระบบภายในมีปัญหาทางการเมือง ยกตัวอย่างข้อมูลลูกค้าธนาคารอาจไม่สามารถให้ promtpay ได้ทั้งหมด (ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลการเมืองหรือความปลอดภัยก็ตาม)
บางทีการที่ตรวจสอบไม่ได้เลยว่าส่วนไหนเสียหาย + ใครออกประกาศพลาดก็กลายเป็นหมา
ถ้าคิดในกรณีแบบนี้ก็น่าลำบากใจยิ่งกว่าเดิมซะอีก
ปล. เคยทำงานอะไรแบบนี้ ไม่อยากเจออีกเหมือนกัน ขอให้แก้ API ทำไม่ได้ บอกหลายบริษัทใช้เยอะ แต่ดันมา deploy API ใหม่กลางห้องประชุม (Dev รู้แต่คนอื่นไม่รู้) สรุปที่ Dev พูดปัญหาไปก็หมาเลย
มันไม่ง่ายเลยที่จะทำ GIF ให้มีขนาดน้อยกว่า 20kB
Maoindie สมกับชื่อ เมา - อินดี้ จริงๆเลย หุหุ
เป็นคำถามที่ทุกคนถามตั้งแต่ต้นว่ามีความพร้อมแค่ไหน
ในการดำเนินการ และรักษาให้ระบบคงอยู๋
นี่ถ้าตลาดหุ้นไม่ปิดนะมีเห็นหุ้นธนาคารร่วงนิดๆแน่ๆ......
ส่วนตัวคิดว่าที่ไม่ประกาศไม่ใช่ทำงานช้าครับ
คิดว่าเพราะไม่อยากโดนด่า คือ
ไม่อยากเดือดร้อน หรือไม่ก็อยากให้โดนด่าน้อยที่สุด
จาก ปสก. ส่วนตัว
ล่ม 7 โมงผมว่ารู้ตัวตั้งแต่ 30 นาทีแรกแล้วหละครับ
และคงเคลียร์ว่าจะทำยังไงตั้งแต่ 8 โมงแล้ว
ซึ่งตอนแรกอาจจะประเมินว่าสักไม่เกินเที่ยงอาจจะเสร็จงั้นรอ
แก้เสร็จเที่ยงแล้วประกาศดีกว่า อารมณ์ประมาณ
"ระบบมีปัญหาแต่แก้เสร็จแล้ว แล้วจะทำไม"จะได้โดนด่าน้อยๆ
แต่อุบัติเหตุเกิดขึ้นเสมอ
ดูจากที่แจ้งว่า "ธนาคารทราบตั้งแต่ช่วงเที่ยง"
คิดว่าตอนนั้นหนะคือลอง test ไม่ผ่าน
ธนาคารต้องประกาศเพื่อลดผลกระทบแล้ว
ปล.เป็นหนึ่งในความเป็นไปได้ครับ
คิดว่าใช่mindset คนไทยส่วนใหญ่เป็นแบบนี้จริงๆ
ผมก็ไม่เห็นว่าบทความจะ Bias นะครับ. เอาเป็นว่าปัญหามาจากอะไรไม่รู้ แต่ว่า วันหยุดสิ้นปี คงไม่เหมาะกับการใช้เป็นข้ออ้างสำหรับระบบเงินของประเทศนะครับ SLA จริงๆ ควรจะมีกำหนดกรอบ แล้วมีสถานะออนไลน์บอกด้วยซ้ำไป และความสำคัญ ไม่ได้อยู๋ที่ การต้องแก้ให้ได้ในสองชั่วโมง แต่การสื่อสาร นั่นแหละครับที่สำคัญ
.
ผมก็ยังใช้เป็นปกติต่อไป ก็ยังเชื่อว่าพวก Transaction ด้านการเงิน คงไม่ไหลเข้าหลุ่มดำ และใช้เวลานานเท่าไหร่ถึง Recovery กลับมาได้เท่านั้นเอง
เพียงแต่การสื่อสาร มันลดความเสียหายได้ ถ้าหากอยากดูตัวอย่างที่ดีก็ลองดูระบบออนไลน์หลักๆ ก็ได้ครับ ผมคิดว่านั่นเป็นสาระสำคัญของข่าวนี้.
Warun.in.th
จะพังข้ามปีไหมน้อ
ขนาดว่าคนใช้ยังไม่แพร่หลายทั้งประเทศนะเนี่ย ไม่ต้องพูดถึงว่าจะดัน cashless แบบจีนเลย
แจ้งเตือนช้าเกินไประบบนี้มี IT Operator เฝ้าmonitor ตลอด24/7 แน่นอน ไม่ต้องอ้างวันหยุดไรหรอก ถ้าไม่มีคนเฝ้าเลยนี่ไม่ผ่านมาตรฐานแล้ว
ถ้าเทียบกับพวก VISA แค่ connection ไป gateway ล่มหรือไม่เสถียร ก็มีลูกค้าโทรมาด่า cc จนหูชาแล้ว เพราะรูดซื้อยอดมากๆไม่ได้ เนื่องจากจะรูดได้แค่วงเงินจำกัดตามเงื่อนไขVISA(ถ้าจำไม่ผิดแค่ 1500บาท) identified ปัญหาแล้วต้องออกประกาศแจ้งเตือนภายในเวลาไม่เกินชั่วโมงหรอกครับ
นี่ห้าชั่วโมง ก็เกินไป
ธปท.จะกดดันแบ๊งค์ต่างๆให้ใช้ national switching เพื่อลด cost จ่ายให้เครือข่ายเมืองนอก ก็ควรทำตามมาตรฐานเมืองนอกด้วย ไม่ใช่มาตรฐานแบบไทยๆ
ระบบก็มีผิดพลาดกันได่ ถ้าแก้ไขทันอนาคตข้อผิดพลาดก็จะน้อยลง นี่ยังถือว่าดีที่ยังผิดพลาดใหญ่แค่ครั้งเดียวในช่วงปีนี้ ถ้าเทียบกับสิ่งที่สร้างมาใหม่ทั้งหมด ไม่งั้นถ้าผิดพลาดทุกเดือนคงแจ้งเกิดไม่ได้แน่ๆ
ใช่ครับ แต่ปัญหาใหญ่สุดของเรื่องนี้ผมว่ามันอยู่ที่ปล่อยให้ระบบเป็นหลุมดำดูดเงินอยู่นานมากแสดงว่ามันต้องมีปัญหาอะไรสักอย่างในแผนงานลองคิดดูครับ โอนเงินจะเอามาใช้ กลายเป็นไม่เหลือเงินให้ใช้ ถ้าต้นทางไม่หักก็ว่าไปแต่นี่ต้นทางก็หักปลายทางก็ไม่ได้
รู้สึกโชคดีที่ไม่ใช้ครับ ดีใจ รอให้คนในระบบเป็นหนูทดลองกันไปก่อนนะครับ
+1 ผมก็นั่งยองๆ ดูคนโวยวายกันไป
คนนั้นเค้ากำลังจะตกงานหรอครับ ดูเดือดร้อนจังเลย ขอให้โชคดีครับ สวัสดีปีใหม่
May the Force Close be with you. || @nuttyi
คนที่ไม่รู้จักความสำคัญของเสถียรภาพของระบบการเงินนี่ผมว่าอ่อนต่อโลกมากเลยนะ นี่มันระบบการเงินระดับชาตินะคุณ วันหยุด วันปีใหม่ จะวันไหน ๆ ระบบมันก็ต้องพร้อมที่จะตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ ยิ่งถ้าระบบล่มก็ต้องแจ้งประกาศเตือนเพื่อจำกัดความเสี่ยงให้น้อยที่สุด ไม่ใช่ตีเนียนเงียบ ๆ มึน ๆ เผื่อฟลุ้คหาทางแก้ไขได้เร็ว จะได้ไม่ต้องแจ้งว่าระบบตัวเองมีปัญหาเพื่อรักษาหน้าตาชื่อเสียงของระบบตัวเอง
ถ้าห่วงแต่รักษาหน้าตา คิดแบบนี้มันคือการทำงานแบบวัฒนธรรมแย่ ๆ ที่ไม่มีความเป็นมืออาชีพ
That is the way things are.
procedure หรือวิธีในการรับมือปัญหา และการสื่อสารยังไม่มืออาชีพพอจริงๆ
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
ผมก็ติ่งพร้อมเพย์นะครับ ขอเป็นกำลังใจให้คนทำงานทุกคนครับสวัสดีปีใหม่นะครับเพื่อนๆสมาชิก :D
แย่มาก ระบบถูก Implement มาได้ยังไง ?? ไม่เคยเทสเรื่อง failure เลยเหรอ ? DR site, backup system ??? ผ่านช่วงเทส go live ออกมาได้ไง?? 7 ชั่วโมงปล่อยให้ down กับบริการ transaction ด้านการเงินแบบนี้โคตรแย่
ลักษณะนี้ DR Site ไม่ช่วยนะครับ DR มันจะทำงานเมื่อเกิด disaster เช่น ไฟตก ไฟดับ ไฟไหม้ แผ่นดินไหวตึกถล่ม
แต่กรณีนี้น่าจะเกิดจาก application ทำงานผิดพลาดในช่วงเวลาปีใหม่ครับ
(เกิดปัญหาตอน 7 โมงเป๊ะ อาจจะเกี่ยวข้องกับ timezone) จะมีกี่ DR จะมีกี่ backup ก็ไม่ช่วยอะไรครับ เพราะมันผิดเหมือนกันหมด
ผมว่าเคสแบบนี้ควรติงหน่วยงานที่กำกับดูแล จะได้ปรับแก้ไขครับ ไม่ใช่ "ตีเนียน" แล้วพวกติ่งก็มาบอกอีกว่าระบบล่มกันได้ ถ้าเป็นเงินก้อนที่สำคัญกับคุณ ก็จะเข้าใจแน่นอน ระบบสำคัญระดับประเทศขนาดนี้ปล่อยให้ล่มได้ถึง 7 ชม.บอกตรงๆว่า "แย่มาก" ครับแต่ที่ต้องขอบอกว่า "ห่วยแตก" ก็คือ "เงิน" ของประชาชนที่โอนไปแล้วแต่ไม่ถึงปลายทาง แถมต้องรอเงินกลับมาอีก 2-3 วัน อันนี้ผมว่ามันเป็นอะไรที่โหดร้ายมากครับโดยเฉพาะคนที่เค้าไม่มีเงินสำรอง
สยองแทนทีม Dev เลยครับผมม
ผมทดสอบทำธุรกรรมตอน 11.09 น. เงินมาเข้าตอน 21.50 น. ครับ
ไม่รู้ท่านอื่นๆ เป็นไงกันมั่ง
ผม BBL->SCB ตอนเขียนข่าวแรก (10.50) เงินมา 21.20 ครับ
lewcpe.com , @wasonliw
แบงก์ชาติออกข่าวว่าพร้อมเพย์ล่มตอนบ่ายสองเกือบครึ่งเพราะอะไร?
เพราะนักข่าวไปถามเรื่องนี้กับแบงก์ชาติตอนบ่ายโมงครึ่งครับ!
ถ้านักข่าวไปถามเร็วกว่านั้น แบงก์ชาติก็คงตอบเร็วกว่านั้นแล้ว...
อันนี้ร้ายแรงนะครับ เป็นการกล่าวหาว่าแบงค์ชาติไม่สนใจจะเตือนประชาชนด้วยตัวเองเลย
lewcpe.com , @wasonliw
เท่าที่ได้ข้อมูลมาทั้งข่าว ทั้งคนในนี้ ทั้งจากเพื่อนฝูง ผมมองว่าไปโทษที่ ธปท. หรือ ก.คลัง หรือ รัฐบาล ไม่ได้ตรงๆ นะ
ที่ต้องถามไปให้หนักๆ คือ ITMX ทำอะไรอยู่หลังจากได้รับแจ้งจาก ธปท. ปัญหาคืออะไร ต้องชี้แจ้งให้ชัดเจน เพราะคุณรับผิดชอบระบบนี้ทั้งประเทศ และถ้ามันออกไป ตปท. ด้วยจะไม่ใช่แค่นี้
ITMX ต้องออกมาอธิบายให้ได้ แล้ว ธปท. ต้องมีมาตรการหรือลงโทษหรือคาดโทษ ITMX เพื่อเรียกความมั่นใจกลับมา
โทษ ธปท. นี่ล่ะครับถูกแล้ว ธปท. จะไปไล่บี้ ITMX หรือธนาคารก็ตามสะดวกเลย ผมเข้าใจว่า ITMX ก็ซื้อซอฟต์แวร์มาอีกที ต้นเหตุจริงๆ อาจจะเป็น software vendor อันนั้นก็ก็ต้องไปไล่บี้กันตามสาย
บี้กันเสร็จแล้วก็ออกประกาศได้ (และควรออก) ว่าปัญหาเกิดจากอะไร ปีหน้าจะมีอีกไหม ใครโดนลงโทษอย่างไร
lewcpe.com , @wasonliw
ต้นเหตุอาจเกิดจาก itmx คุมสถานการณ์ไม่ได้ส่วนนึง แต่ ธปท. ก็ปัดสวะไม่ได้ครับที่คุมให้มันเป็นไปตามสิ่งที่ควรจะเป็นไม่ได้เพราะเป็นบทบาทหน้าที่ของตัวเองโดยตรง
คหสต.เหตุแบบนี้ผมรับได้ที่ 5ช.ม. นะ 7นี่เกินไปมาก2ช.ม. ให้เป็นระดับการจัดการของผู้ดูแลระบบ อีก2ช.ม.ให้เวลาประสานงานแจ้งข่าวกรณีเอาไม่อยู่ แถมอีก ช.ม. เตรียมสคริป sla ระดับนี้คิดว่ากำลังดี
ปล.เม้นข่าวนี้เยอะเกินคาดเพราะมีคนแนวสาวกออกมา สรุปคือข่าวไหนอยากดังต้องมีสาวกมามันถึงจะดังนะครับไม่ใช่เพราะว่าเป็นข่าวแอปเปิลถึงจะดัง จริงๆคือสาวกตะหาก
รวมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นทั้งสองท่านไว้ตรงนี้ละกัน
คืออย่างที่ผมบอกละครับ ว่ามองว่าโทษ ธปท. ตรงๆ แบบคุณรับผิดไปคนเดียวคงไม่ได้ ธปท. โดนแน่ๆ คือแจ้งความผิดปกติให้ประชาชนทราบช้าเพราะในฐานะพูดกำกับดูแลยังไงซะ ถ้า ITMX หายไม่ตอบอะไรเลย ธปท. ก็ควรเป็นผู้บอกอะไรซักอย่างออกมาก่อนจะเกิดความเสียหายขนาดใหญ่ เพราะนี้ธนาคารประกาศก่อน ธปท. ก็เท่ากับโดนตบหน้าอย่างแรงไปแล้ว แต่ช้าเกินไปหรือช้าเกินไปเท่าไหร่ เอาตัวผมตัวท่านเป็นที่ตั้งไม่ได้เกณฑ์ไม่เท่ากัน มันต้องดูมาตรฐานโดยทั่วไปว่าระบบแบบเดียวกันเขายอมรับกันที่เท่าไหร่ แล้วดูว่าของเรามีไหม ทำได้ตามที่เขียนไว้ไหม
แต่ผมค่อนข้างมองไปที่ ITMX เพราะเขาเป็นผู้รับผิดชอบระบบโดยตรง มันต้องมีอะไรออกมาจาก ITMX ให้มากกว่านี้ หรือมีช่องทางสื่อสารกับประชาชนให้มากกว่านี้ เพราะเราไม่รู้สถานะ ผมนึกถึงกรณี ARL บ้านเราที่แรกๆ มีปัญหาคนด่า รฟท. กันหมดเพราะไม่รู้จะโทษใครดี แล้ว ARL ก็ไม่มีช่องทางติดต่อประชาสัมพันธ์เลย ผมเลยมองว่าเราว่าให้ถูกคนจี้ไปให้ถูกจุดมันก็น่าได้ผลที่ชัดเจนกว่า
ประสบการณ์จริงเมื่อเช้าตอนตื่นนอน 8โมงนิดๆ
-เอ้ยค่ามือถือเลยกำหนดมาวันนึงแล้วยังไม่ได้จ่าย
-จ่ายออนไลน์สิแต่จำรหัส iBanking ของ ธ.กรุงเทพไม่ได้งั้นโอน Promptpay ไปกรุงไทยสิจำได้จ่ายแบบนี้ทุกเดือน กดโอน
-เอะมันสิบนาทีก็แล้วไม่เข้าอีกเหรอชักแปลกๆ ครึ่ง ชม. ก็ยังไม่เข้า มันยังไงแล้วที่ผ่านๆมาโอนให้แม่ผ่านระบบนี้แม่ไม่ได้ใช้แอปมือถือเช็คเลยมันเข้าจริงหรือเปล่าวะเนี่ย
-ทำไงละ call center จะช่วยได้เหรอ?? ลองโทรดูก็ได้ Bank ต้นทาง สาย busy ตลอดเวลานี่มันอะไรกัน bank ปลายทางก็ไม่มีมนุษย์รับสรุปพยายามอยู่นานมากเป็น ชม. ยอมแพ้ต่อ call center ไม่รู้ระบบ queing มันเป็นยังไงนะแต่รอเป็นครึ่ว ชม. ก็ไม่ได่คุย
-โอเค pantip ละกัน กระทู้ผู้ร่วมชะตากรรมรัวๆ
-คำถามคือ ไม่มีใครมาแจ้งอะไรที่มันเป็นทางการกันเลยเรอะ นี่มันปัญหาใหญ่มาก คิดย้อนกลับไปว่านี่ถ้าต่างประเทศนะคงต้องมีคนรับผิดอบกันใหญ่โต นี่แหละเทศไทยไงที่เราเติบโตมาในสังคมที่คนคิดว่าเรื่องมันน่าจะอลุ่มอะหล่วยกันได้ เป็นความคิดที่คิดว่ารอแก้ได้ก็จบๆกันไปยอมๆกันไป...สรุปเงินเข้าทุ่มกว่าๆ ระหว่างนี้ก็ต้องไปจ่ายด้วยวิธีอื่น
ถ้าเอาบทบาท ธปท. นี่จะบอกว่าแจ้งเตือนช้าเกินไป ก็ยังไม่รู้ว่ามาตรฐานของคำว่าเกินไปอยู่ตรงไหนนี่ล่ะครับ
แม้การทิ้งช่วง 7 ชั่วโมงก็ไม่ใช่เรื่องดี แต่ประกาศไวเกินไปก็อาจจะไม่ใช่เรื่องดี
ปัจจัยหลักๆผมว่า เค้า(ธปท.) น่าจะคาดหวังหรือกำหนดกรอบความขัดข้องให้สั้นกว่านั้นมากๆ (นั่นคืองานแบงก์กิ้ง มันควร resolve เสร็จในชั่วโมงแรก หรือสองชั่วโมงแรกแล้ว ถ้าเป็นความขัดข้องที่ไม่ได้แพลนไว้ว่าจะดาวน์)
ไอเส้นแบ่งตรงไวไป หรือช้าไปเนี่ยแหล่ะที่น่ากังวล (ในฐานะผู้ประกาศ)
......
คือประกาศที่สำคัญที่สุดที่น่าจะหายไปคือการ Acknowledge และ Alert ในแบบกำกวมๆ -- ถ้าคิดว่าต้องมีประกาศเร็วก็อาจจะทำได้แค่นั้น
(สมมติตั้ง Estimation ว่ามันควรแก้เสร็จตั้งแต่สองชั่วโมงแรก แต่ถ้าแก้ไม่เสร็จจะประกาศอะไรบ้าง เพราะมันก็จะพาไปตื่นตระหนกและเป็นกระจายวงกว้าง ... ซึ่งถ้าประกาศพังไปแล้วมีประกาศว่าซ่อมแล้ว .. ประกาศพังอาจจะกระจายทั่วประเทศแล้ว แต่ประกาศซ่อมอาจจะออกมาตอนกิจกรรมกินข้าวครอบครัวเลยไม่ได้แชร์ แล้วมันจะเหมือนเรื่องอื่นๆที่แชร์กันผ่านโซเชียล คือ ข่าวปิดอยู่นานรู้กันทั่ว ข่าวแก้ส่งไม่ถึงปลายทาง)
ในอีกหลายๆมิติ อาจจะเช่น ถ้าไม่ได้คอนเฟิร์มให้ครบว่า "พังทั้งระบบทุกระบบ" ก็ออกมาห้ามใช้งานได้ไม่เต็มปากอีก (เกิดเอ่ยปากบอกว่า PromptPay ใช้งานไม่ได้ แต่สถานการณ์กลายเป็นระดับ local .. ดันมีแบงก์ที่ใช้งานได้ปกติออกมา ก็เป็นเรื่องราวฟ้องร้อง/เสถียรภาพ และอื่นๆอีกหลายอย่าง หรือเผลอๆไปถึง bluff กันอีก)
ดังนั้นถ้าว่ากันที่ 7 ชั่วโมง .. เอาจริงๆ ส่วนตัวเลยมองว่า หาก"จำเป็นต้องมีการแจ้งอย่างเป็นทางการจาก แหล่งใดก็ได้แหล่งหนึ่ง" ก็น่าจะจัดว่านานไปมากจริงๆ (ทั้งนี้มองว่าธนาคารแต่ละธนาคารควรเป็นผู้แจ้ง...อิงเอาตัวอย่างว่า แอพทุกธนาคาร ใส่โฆษณามาได้ ใส่ข้อความ nag screen ได้ รวมถึงสามารถบล๊อคไม่ให้เกิดการโอนได้ที่ระดับธนาคารก่อนแล้ว ซึ่งการเตือนควรเกิดตรงนั้น โดยไม่ต้องถึงมือของ ธปท. ด้วยซ้ำ ...แม้กระทั่งตู้ก็สามารถแจ้งเตือนได้ SMS ก็ยังได้, Line Official ก็ยังได้ ... ผมมองว่าการ official จาก ธปท. มันต้อง confirm หลายอย่างประกอบกันตามเหตุผลข้างบน แต่การไม่มีการแจ้งเตือนจากธนาคารแสดงถึงความหละหลวมในการ alert ของธนาคารแต่ละธนาคารเสียมากกว่า ซึ่งธปท.ก็ควรไปกำกับดูแลลงโทษกันอีกที)
แต่คราวนี้เลยมองว่า ในแง่ลายลักษณ์อักษรที่เป็นบทบาทของธปท. ผมว่า 7 ชั่วโมงไม่ได้เลวร้ายมากขนาดนั้น(ใช้คำว่าเลวร้ายประมาณนึง คือส่วนตัวผมคิดว่าใน tier ของ ธปท. ควรจะประกาศไม่เกิน 4 ชั่วโมงหลังเกิด incident และ tier ของแต่ละธนาคารเองควรอยู่ในระยะ 2 ชั่วโมงเป็นอย่างมาก--คือให้เวลาแก้ 1 ชั่วโมงเป็นอย่างมาก+เตรียมถ้อยคำและดำเนินการแถลงอีก 1 ชั่วโมงเป็นอย่างมาก) ...
ในเคสนี้สิ่งที่เลวร้ายจริงๆคือ หากในที่สุดไม่ได้มีบทลงโทษต่อระบบธนาคาร/housekeeping อะไรเลยนั่นต่างหาก
ผมว่า ธนาคารแต่ละแห่งก็ไม่อยากเสี่ยง ออกประกาศไปโดยที่ตัวเองก็ไม่มีข้อมูลครบถ้วน (คนที่รู้ดีที่สุดในตอนนั้นน่าจะเป็น ITMX ซึ่งน่าจะเป็นคนที่ monitor ระบบอยู่) ถ้าออกประกาศไปเลยว่าระบบมีปัญหา แต่ปรากฎว่าเป็นที่ตัวธนาคารตัวเอง ก็จะโดน ธปท.เล่นงานในฐานะ regulator อีกต่อ
คือมองภาพว่า ธ.ต้นทางคือ ส่ง transaction ไปเรียบร้อย ได้รับ confirm กลับมาเรียบร้อย ก็มองว่าระบบตัวเองทำงานปรกติ ในทางกลับกัน ธ.ปลายทางไม่ได้รับ transaction มา ก็ยิ่งไม่รู้เรื่องเข้าไปใหญ่
แล้วใครเป็นเจ้าของ PromptPay คนนั้นก็ต้องเป็นคนประกาศครับ (ว่าแต่ในกรณีนี้ถือว่าใครเป็นคนดูแล ITMX หรือ ธปท. ? ผมไม่แน่ใจแฮะ)
นั่นล่ะครับ คือผมว่ามันอยู่ในโมเดลที่(กลัวโดนการ)จ้องจะเล่นกันเองอยู่ในที .. อะไรๆมันเลยช้าไปหมด
กว่าจะฟันธงลงไปได้ว่าเป็นตัวตรงกลาง (Promptpay TX) .. เพราะเงินออก แต่เงินไม่เข้า คนที่ควรประกาศเยอะสุดเลยผมก็ยังมองว่าเป็นธนาคารนั่นแหล่ะ ..
ทำงานจริงวงการไหน escalation ใช้เวลาอยู่แล้ว ยิ่งเรื่องใหญ่ใช้เงินหรือเกี่ยวกับเงินต้องใช้เวลา (Tradeoff ในหลายมิติมาก : เงินแบงก์ เงินลูกค้า การชดเชย ปัญหา ข้อเท็จจริง ชื่อเสียง) ผมยังมองว่าถ้าเรื่องฉุกเฉินขนาดนี้ตัวธนาคารไม่ได้มีธงจะ Prevent เองอยู่ตั้งแต่แรก ยังไงก็ช้าเกินไปครับ .. แบงก์เองก็รู้ว่าโอนไปแล้วบันทึกเงินออกแล้ว แบงก์เองก็รู้ว่าไปไม่ถึง .. นี่ไม่รู้เหมือนกันว่า แบงก์เดียวกันถึงหรือเปล่า (ถ้าไม่ถึงแบงก์เองก็ต้องรู้อีก)
ยิ่งเคสแบบนี้ ถึง ธปท.จะรับรู้ ผมว่าก็อยู่ในทรงเดียวกันคือ ถ้ายังไม่รู้ว่าเป็นทุกเจ้าจริงหรือเปล่า ก็ยากจะออกประกาศ (ถึงเป็น regulator เอง แต่ก็อยู่ใต้กฎหมายและโดนเล่นงานได้อยู่ดีถ้าประกาศออกมาผิดสำนวน)
ดังนั้น ถ้ายังไงจะเอา fastest response ก็คงต้องมาจากเจ้าที่อยู่ใกล้ลูกค้า ซึ่งในเคสนี้คงหนีไม่พ้นแต่ละธนาคารอยู่แล้ว
จริงๆ อาจจะมอง/อนุมานเอาจากเคสนี้ได้ว่า ถ้าเอาลูกค้า/เจ้าของเงินเป็นสำคัญ อะไรๆควรจะเร็วมากๆ แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าเอาเรื่องชื่อ(ของธนาคาร/ธปท/(ไม่)พร้อมเพย์) เป็นตัวตั้ง มันก็เลยช้ากันไปทั้งระบบ
......
แต่ถ้าจะตำหนิ ธปท. ก็คือ ละดับขั้นตอนวิธีการประกาศ ต้องไวกว่านี้ ชัดกว่านี้ แล้วก็แผนรับมือคงต้องดีกว่านี้จริงๆนั่นล่ะ
ถ้าเทียบกับ procedure ของฝั่งบัตรเครดิต
ธนาคารเจ้าของบัตร ต้องเป็นฝ่ายแจ้งลูกค้าทันทีครับ โดยต้องยืนยันปัญหากับทาง network ก่อน(เช่น VISA,MASTER) คืออาจจะไม่รู้ root cause(เพราะมันเป็นหน้าที่ของ networkในการแก้ไข) แต่ต้องรับรู้อยู่แล้วว่ามันกำลังเกิดปัญหาและรอการแก้ไข ที่สำคัญคือการแจ้งลูกค้าของตัวเองครับ (ถ้าเป็นบัตรเครดิต ก็คือแจ้งเจ้าของบัตร และเจ้าของ edc เทียบกับฝั่ง promptpay ก็คือร้าน QR code)
ธนาคารรับรู้แน่ๆว่าเกิดปัญหา ผมเชื่อว่าสิบนาทีแรก ลูกค้าก็โทรไปด่า cc ธนาคารจนหูชา ก็แปลกใจว่า รู้แล้วทำไมไม่แจ้งลูกค้าคนอื่นต่อ หรือรอการยืนยันจาก ITMX ล่าช้า?
แบบนี้เหมือนโยนภาระออกไป ทำไมไม่ปฎิบัติให้เหมือนกับฝั่งบัตรเครดิต ที่ธนาคารจะปกป้องลูกค้าตัวเองโดยทันทีมากกว่า (หรือเพราะบัตรเครดิตทำให้เกิดรายได้ถ้าแก้ไขไม่ได้ก็อดรายได้ แต่ promptpay แทบไม่ก่อเกิดรายได้และเป็นของตายเนื่องจากเงินลูกค้าอยู่ในมืออยู่แล้ว เลยไม่ค่อยสนใจ?)
ผมเชื่อว่าที่สื่อสารช้า ทั้งจากธนาคารและ ธปท. มาจาก itmx อาจจะ "ขอเวลาตรวจสอบ" ซึ่งกว่าจะรู้ scope ของปัญหาแล้วตอบกลับมาก็คงช้า ทางธนาคารเองก็อาจจะมีข้อตกลงแบบ ถ้า itmx ไม่บอกให้ปิดก็ปิดไม่ได้ ก็เป็นได้ครับ เพราะถ้าอยู่ๆ มีแบงก์ไหนปิดเองจะกลายเป็นว่าขาหาย ธุรกรรมไม่ครบวง คนอาจจะพาลไปด่า itmx แทน
ช่วยตอบอันนี้ให้ครับว่า ถึงครับ เพราะเวลาเราสั่งโอน แต่ละแบงก์ (หรืออย่างน้อยก็แบงก์ที่ผมลอง) จะเอาเลขที่ pp มาวนในถังข้อมูลตัวเองก่อนว่าเป็นเลข pp ที่สมัครไว้ที่แบงก์ตัวเองไหม ถ้าใช่ก็ทำธุรกรรมภายในธนาคารเองเลย ไม่ผ่าน itmx ครับ
เมื่อเช้าผมลองสองเคส เคสข้ามธนาคารเงินหาย ส่วนในธนาคารเดียวกันใช้ได้ปกติครับ
SLA มากหรือน้อยแค่ไหน ก็ควรจะเปรียบเทียบกับ network มาตรฐานแบบ VISA MASTER ครับ(หรืออาจจะ JCB,CUP ตามไปด้วย)
ITMX ตั้งขึ้นมาเพื่อเป็น local network/ National switching เพื่อทดแทน ลดต้นทุนค่า transaction processing ที่ต้องจ่ายให้ network ต่างชาติ ตามนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย
ก็ควรที่จะดำเนินการตามมาตรฐานระดับนานาชาติด้วย เห็นบางท่านยกตัวอย่างราชการว่า 7ชั่วโมงก็เร็วแล้ว คือมันอ้างไม่ได้เลยครับ กับการแข่งขันในสายการเงิน เราไม่ใช่ประเทศปิดแบบเกาหลีเหนือที่จะต้องจำทนยอมรับมาตรฐานที่ต่ำกว่าตลาดทั่วไปแบบนี้นะครับ
ทีีเคยพบเห็น network ระดับชาติ ระบบดาวน์กันหลายชั่วโมงก็มีครับ แต่เขาแจ้งเตือนได้รวดเร็วมาก ทำให้ชี้แจงกับลูกค้าและร้านค้าต่างๆได้ทันการณ์
ครับ ผมคิดตามนี้ล่ะ
คือแบงก์สามารถ Prevent ความเสียหายได้เองโดยไม่ต้องผ่านแบงก์ชาติ (และน่าจะรู้ว่าเงินไม่เข้าตั้งแต่ 3 นาทีแรกที่ธุรกรรมเกิดปัญหา ผ่าน Callcenter หรือช่องทางอื่นๆ)
ส่วนตัวผมมองว่าในเคสของ ธปท. นั้น ที่สำคัญควรเป็นการประกาศ Confirm/สรุปเหตุการณ์/ขนาดผลกระทบ/สิ่งที่ต้องทำวิธีป้องกัน/บทลงโทษ/ความรับผิดชอบ เสียมากกว่า . ซึ่งตรงนี้ผมว่านานหน่อย(4ชั่วโมง+)ก็ไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้น (แต่ก็ต้องอนุมติหรือให้สิทธิ์ในการจัดการแก่ธนาคารในกรอบเวลาที่เร็วมากๆ คือ <1ชั่วโมง ด้วย)
ผมว่าเรื่องใหญ่สุดสำหรับเคสนี้คือฝั่งแบงก์ (ซึ่งใกล้ลูกค้าสุด ใกล้ปัญหาสุด รับรู้เร็วสุด) เลือกนิ่งเฉยๆ หรือไม่ Escalate ให้เร็วกว่านี้ ไม่แจ้งให้เร็วกว่านี้ และไม่ได้มีกระบวนการใดๆเพื่อแก้ปัญหาอย่างเห็นชัดเสียมากกว่า
คือมันแปลว่าทุกแบงก์เลยนะ ถ้าเงินลูกค้าไหลออกไป จะทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นไม่สนใจไปก่อนถ้าแบงก์ทำเช่นนั้น ความน่าไว้ใจแบงก์มันจะอยู่ที่ไหน
ผมว่านะกระบวนการนี้มันมีหลุมดำอยู่ที่แบงค์ชาติ(หรือ ITMX ไม่รู้ใครสั่งใแบงค์ได้)ครับเพราะกระบวนการป้องกันลูกค้าระดับ VISA MASTERCARD ธนาคารก็ทำกันปกติอยู่แล้วแค่ทำให้ Promtpay ทำไมจะทำไม่ได้ แต่น่าจะติดคอขวดที่เวลาทำต้องรายงานใครก่อนถึงจะอนุมัติได้ เพราะยังไงแบงค์ก็อยากทำใจจะขาดแน่ๆ เพราะลูกค้าตัวเองมีปัญหาแบงค์โดนถล่มก่อนครับแบงค์ชาตินิมันโดนด่าแค่ในเว็บสายไอทีหรือคนที่รู้เรื่องระดับหนึ่งครับ คนส่วนใหญ่น่าจะโทษแบงค์กันเยอะกว่า
ถ้าหมายถึงฝั่งแบงค์ต้นทางนี่จะลำบากหน่อยครับ เพราะโปรเซสมันจบสมบูรณ์ เงินตัดเรียบร้อย แถมตัวเซอร์วิสก็น่าจะตอบกลับมาว่ากระบวนการมัน success ถ้าลูกค้าไม่โทรจิก ตัวต้นทางก็ไม่น่ารู้ครับ
กรรมการของ IT/MX นี่คนแบงค์ทั้งนั้นนะ
ผมยังให้น้ำหนักว่าความบกพร่องอยู่ที่ ธปท. ที่เลือกจะไม่แจ้งสาธารณชนมากกว่า เพราะเชื่อว่าสถานการณ์มันแย่มาตั้งแต่ 30 นาทีที่เริ่มมีปัญหาแล้ว
และถ้าย้อนไปดูรูปด้านบน จะมีไฮไลท์สีเหลือง บอกว่า ธปท. รู้ตั้งแต่ 7 โมงแล้ว แต่เลือกที่จะเงียบ
แบงก์ต้นทางลำบากในการเช็คไหม ผมว่าไม่นะครับ แบงก์ได้รับการคอมเพลนในไม่เกิน 5 นาทีแรกแน่นอน เพราะทุกคนรู้ว่าเดี๋ยวนี้โอนปุ๊บเข้าปั๊บ ถ้าโอนเงินแล้วจะไม่เช็คปลายทางจริงๆหรือ
(โพรเซสปกติเลยของคนโอนเงิน เมื่อโอนเสร็จย่อมต้องเช็คปลายทางอยู่แล้ว ถ้าทุกเคสที่เป็น Cross banking ไม่สามารถโอนผ่านได้ แบงก์จะได้รับการแจ้งทั้งในฝั่งขาออก -พอดีผมโอนเงินผ่านพร้อมเพย์แล้วเงินไม่เข้ากระเป๋าปลายทาง- // และทั้งในฝั่งขาเข้า -มีคนโอนเงินมาให้ เค้าบอกว่าเงินตัดแล้ว แต่เงินไม่เข้ากระเป๋าผม)
ซึ่งด้วยจำนวนคนใช้ ยังไงแบงก์ก็รู้ทั้งสองข้างเองโดยปริยายแล้ว (ถ้าไม่รู้ แสดงว่าจำนวนเคสปัญหาน้อยมาก และคนแจ้งน้อยมาก ซึ่งขัดกับที่บอกว่าเรื่องใหญ่ แบงก์ชาติต้องประกาศ)
จะยังไงก็ตามในธนาคารในฐานะ "ผู้ถือเงินตัวจริง" ควรต้องสามารถเบรคธุรกรรมได้ หรือเสนอค้านแบงก์ชาติ หรือเร่งโพรเซสให้แบงก์ชาติ รวมไปถึงขัดขวางได้ด้วย คือปัญหามันเกิดกับธนาคารที่เปิดพร้อมเพย์ทุกธนาคาร แล้วถ้า escalate ให้แบงก์ชาติบอกไม่ได้ + ไม่กล้าพอที่จะฝ่า regulation บางอย่างเพื่อสวัสดิภาพการเงินของลูกค้า (ซึ่งเอาจริงๆถ้าฟ้องร้องหรือสั่งอะไรขัดมา ไปถึงศาล ถ้าศาลให้แบงก์ชาติชนะ มันคงเป็นการเมืองถึงชั้นศาลและศาลจะเสียความน่าเชื่อถือไปด้วย)
ทุกแบงก์พร้อมใจกันใส่เกียร์ว่างหมด รอ ธปท.ประกาศ มันเหมือนไฟไหม้อ่ะครับ ทุกคน/เจ้าหน้าที่ก็ต้องเข้าไปดับก่อน ไม่ว่าจะตึกไหนก็ตาม แล้วก็ระงับต้นเพลิงให้ได้ ... เจ้าของตึกต้องจัดการก่อน ลดความเสียหาย ยังไงก็ได้ แต่ถ้าให้เจ้าของ ต้องไปแจ้งนิติบุคคลหมู่บ้านก่อนว่าจะเอารถเข้ามาดับนะแล้วนิติบุคคลหมู่บ้านก็เงียบ แถมไม่ห้าม ไม่แจ้ง ไม่ประกาศ งานดับไฟ กับป้องกันคนไม่เกี่ยวข้องเข้ามาใช้งาน เลย "หยุด" ไปซะหมด .... ผมว่าแค่ตั้งต้นที่ตรงนี้ก็น่าจะผิดแล้ว
......... ย้ำอีกที ไม่ได้คิดว่า ธปท.ไม่ผิดนะครับ แต่คนที่ใกล้ที่สุดแต่ละคน ถ้าเอาลูกค้าเป็นตัวตั้งจริงๆ บางอย่างมันก็ต้องตัดสินใจเพื่อไม่ให้เกิดความเสียหาย ซึ่งแต่ละคนที่มีอำนาจตัดสินใจก็คนระดับประเทศทั้งนั้น (ตัวแทนแบงก์ในระดับรัฐบาล ตัวแทนแบงก์ในระดับธุรกิจ ตัวแทนในหลายภาคส่วน) และครั้งนี้ ไม่มีรายใดเลยที่จะตัดสินใจเพื่อลูกค้า ทุกเจ้าเพลย์เซฟเพื่อตัวเองล้วนๆ ... ผมเลยเน้นว่า แล้วลูกค้าที่ฝากเงินไว้ จะไว้ใจธุรกรรมในอนาคตได้ไง
แล้วถ้าเป็นเงินโอนต่างประเทศมีปัญหา ประเทศปลายทางไม่ตอบ แบงก์ชาติไม่พูด ... ก็หายไปทั้งกลีบเมฆ รู้ตัวอีกที เงินไหลไปไหนแล้วก็ไม่รู้ หรือถ้าคาดว่าอาจจะผิดบัญชี ต้องรอ ไม่ตัดสินใจเอง แล้วค่อยมาทวงคืน ผมว่ามันก็ไม่ใช่ ... เคสนี้ยังดีคือ time ผิด แค่เงินยังไม่เข้า แล้วถ้าเคสที่เลขบัญชีผิด/resolve ผิด แล้วต้องรอประกาศแบงก์ชาติโดยไม่ทำอะไรเลย ผมว่ามันไม่ใช่อ่ะครับ
........ บางอย่างผมว่ามันก็ต้องตัดสินใจเพื่อผลประโยชน์มหาชนก่อน แล้วจึงไปไล่บี้ regulator ให้จัดการอย่างเหมาะสมนะครับ ไม่งั้นเจอ regulator เลวๆ เอื่อยๆหน่อยแบบนี้ ... ก็ว่าตามกันทั้งนั้น แล้วใส่เกียร์ว่างกันหมด ลูกค้าก็ตายกันหมดสิครับ
ผมคิดว่า เนื่องจาก PP ไม่ได้เป็นระบบของธนาคารเอง (แค่เข้าไปต่อเฉยๆ) การแจ้งเตือนอย่างเป็นสาธารณะนั้นจึงทำไม่ได้ (คิดว่าติดที่ข้อกฎหมายนะ) ทำได้อย่างมากก็แค่แจ้งผู้ใช้รายคนน่ะครับ
"ถ้าจริง" ผมคงต้องเตือนคนทั่วไปเลยครับว่า "อย่าใช้" เพราะระบบมันเลวมากขนาดที่ออกแบบให้เตือนเมื่อมีปัญหาไม่ได้
ซึ่งผมคิดว่าคุณคิดไปเองครับ ข้อจำกัดแบบนี้มันไม่มีในโลกหรอก
lewcpe.com , @wasonliw
ถ้าเทียบแบบนั้น VISA MASTER ก็ไม่ใช่ระบบของธนาคาร(ในไทย)
เข้าไปต่อเฉยๆ แล้วจ่ายค่า transaction processing เฉยๆเช่นกัน
ผมว่า ITMX ที่เป็นเจ้าของระบบจะต้องเป็นคนตอบ
ลูกค้าใช้แล้วพบความผิดปกติ -> แจ้ง cc ธนาคาร->ธนาคารเปิด ticket เร่งด่วนถาม ITMX-> ITMX จะต้องรีบตอบหรือแจ้งเตือน หากแก้ไขไม่ได้ในเวลาที่กำหนด->แบ๊งชาติที่กำกับดูแล จะต้องออกมาสั่งการไปทุกธนาคาร
อ่านๆ ดู ก็เห็นด้วยหลายข้อเลยครับ มันควรจะแจ้งเตือนจากต้นทาง และก็ it/mx และธปท.เลย ทุกฝ่ายควรช่วยกันรับผิดชอบ
ผมตำหนิธปท. ในฐานะผู้กำกับดูแลครับ
กระบวนการธนาคารทั้งหมดที่คุณว่ามา ธปท. ต้องกำหนดให้ธนาคาร ต้องทำ ถ้าไม่ทำมีโทษ ธนาคารจะให้บริการ PromptPay หรือ ITMX จะให้บริการ switching อยู่ภายใต้การกำกับดูแลและอนุญาตของธปท. ทั้งสิ้น
เหตุการณ์ครั้งนี้บอกว่า ธนาคารไม่ทำก็ได้ อยากประกาศล่าช้าไปห้าชั่วโมงก็ทำได้ ต้องถามว่ากระบวนการอนุญาตของธปท. รัดกุมแค่ไหน ไม่มีข้อกำหนดเวลาเกิดเหตุเพื่อลดผลกระทบเลยหรือ? ธนาคารและ ITMX ถึงสามารถรอให้ระบบอมเงินไว้ 5 ชั่วโมงแล้วค่อยประกาศ
เหตุการณ์จะไม่ใช่ความผิดของธปท. ถ้ามีการประกาศและปิดระบบอย่างรวดเร็ว "ภายใต้ข้อกำหนดตามใบอนุญาตของธปท." ตัวธปท. จะไม่ประกาศเองก็ได้ครับ (แต่ก็ควรประกาศอยู่ดี เหมือนเวลาโฆษณา PromptPay ธปท. ก็ช่วยสารพัด)
ถ้าธปท. บอกว่ามีกำหนดไว้แล้ว ธนาคารและ ITMX ไม่ทำตาม พรุ่งนี้วันทำการ ถ้าคนธปท. มาอ่านผมแนะนำให้ออกจดหมายข่าวเลยครับ ว่าจะลงโทษใครอย่างไรบ้าง
lewcpe.com , @wasonliw
ถ้ามองในประเด็นนี้ก็น่าสนใจนะครับทั้งในมุมไม่กำหนด (ไม่กำกับดูแล)
และในมุม ไม่ทำ (ถ้าไม่มีข้อบังคับ) vs ไม่ทำ (เพราะมีข้อบังคับห้ามไว้)
แต่ก็เน้นเหมือนเดิมคือผมว่า ผิดทั้งคู่ แต่ผมมองว่าแบงก์ แสดงท่าทีที่แย่กว่า
นี่คืออาจเพราะผมมองว่า ต่อให้ไม่เขียนบังคับ ก็ต้องทำ (ค่อนข้างเป็น Best practice ในที)
พอธนาคารไม่ทำ สำหรับผมมันดูแย่ไปเลยนะครับ คือเป็นแสดงความไม่ใส่ใจของธนาคารแทน
ส่วนตัวให้น้ำหนักความใส่ใจเยอะ เพราะ เรื่องที่ควรทำในวงการการเงินหลายเรื่อง ไม่ได้เขียนไว้เป็นลายลักษณ์อักษร ... ถ้าต้องให้เขียนกฎ กติกา ข้อบังคับทุกข้อนี่ก็หนักเกินไป
แต่ promptpay เป็นอะไรที่หละหลวมในหลายมิติต่อเนื่องมาตั้งแต่แนวคิดเลยจริงๆ
ระบบการเงินระดับประเทศ ไม่ใช่ร้านอาหาร michelin star เขาไม่ใช้ความใส่ใจกันครับ (มีก็ดี แต่เขาไม่คุยกันแบบนั้น) เขาใช้มาตรฐานและข้อบังคับกำหนดกันทั้งนั้น
ผมทำงานด้านไอทีการเงินมาบ้าง (แต่ไม่ใช่ธนาคาร ซึ่งปกติควบคุมหนักกว่า) พวกนี้ลงย่อยๆ เลยครับ กี่ชั่วโมงกี่นาทีใครต้องติดต่อได้ ใครต้องอนุมัติ ต้องยกเรื่องขึ้นไปหาใคร ใครต้องมาปรากฎตัวในห้อง NOC ดิสก์เข้ารหัสอยู่ต้องเอากุญแจจากใคร ฯลฯ
lewcpe.com , @wasonliw
คือในมุมนั้นก็เข้าใจครับ
แต่ก็เข้าใจว่ามันไม่ได้มี case ว่าใครต้องตัดสินใจ "ว่าอะไร" บ้าง และเข้าใจว่าขั้นตอนว่าใครต้องทำอะไรก็มีอยู่แล้ว
(อิงจาก Timeline, การรับรู้ การเข้าแก้ไขของแต่ละอัน)
คือที่ใช้คำว่าใส่ใจนี่คือผมมองว่าใน Escalation Ladder ในเคสนี้ไม่น่าจะต้อง "ไปถึงชั้นบนสุด" ก่อน alert นะครับ
หมายถึงว่าใครต้องทำอะไรมัน "ควร" มีหมด (ผมยังตั้งสมมติฐานในเรื่องนี้แบบนี้) แต่ที่ไม่มั่นใจคือ ในเอกสารเขียนถึงใคร "มีสิทธิ์"/"ต้อง"/"ห้าม" alert ...ซึ่งผมยังมองว่าบน ladder นี้มันมีคนที่ alert ได้ก่อนแบงก์ชาติด้วยนะครับ (แปลว่า ผมคาดเดาว่าใน Incident response procedure มีตัวเลือก Alert or escalate) แล้วทุกชั้นในแต่ละแบงก์เลือก escalate โดยไม่ใช้สิทธิ์ใน alert เลย (ลอยตัว) ซึ่งตรงนี้ผมว่า โดยการเขียน incident response ทั่วๆไป ระดับบริหารสูงๆแบงก์ ตัดสินใจการแจ้งเตือน ในเคสที่เกิดปัญหาเงินอาจหาย หลายๆ เรื่องได้เลยโดยไม่ต้องไปถึงแบงก์ชาติอยู่แล้ว (อันนี้คือความใส่ใจในแกนแรก)
ส่วนความใส่ใจในแกนที่สองคือ ความใส่ใจตอนเขียน incident response procedure ซึ่งเท่าที่เข้าใจ ผมว่าทุกแบงก์มีตัวแทนร่วมประชุมหมดล่ะ ... ดังนั้นการไม่ได้เขียนหน้าที่ต้อง alert ชัดเจนขนาดนี้ ก็แสดงว่าทีมที่เขียน irp ไม่ใส่ใจอีกเหมือนกัน
...........
ถ้าเป็นแบบนั้นตามคุณ lew ว่า .. promptpay ไม่น่าใช้ถึงขั้นวิกฤติเลย
ถ้าเอาตามที่คุณ lew บอก ผมก็เห็นด้วยนะ คือในกรณีที่ธนาคารไม่แจ้งประชาชน หรือไม่ปิดระบบ
อันนี้ก็โทษเป็นความผิดธปท.ในฐานะผู้กำกับดูแลได้เช่นกัน ไม่มีบทลงโทษ ไม่มีระเบียบปฏิบัติที่เหมาะสมแก่ธนาคาร
คือธปท.ดูแลโดยรวม ฉะนั้นก็มีหน้าที่รับหน้าเสื่อเต็มๆ ครับ ธนาคารผิด IT/MX ผิด ถามว่าควรไล่เบี้ยกับใคร? ถ้าตามระบบก็ด่าธปท.ครับ ไม่ยอมกำกับดูแลแจ้งข่าวสาร ฯลฯ
ทำงานแบบไม่มี SLA หรือไง
เรื่องนี้มันร้ายแรงและกระทบกับความเชื่อใจในระบบเต็มๆ เห็นความเห็นในเชิงวิชาการมามากแล้ว ขอออกความเห็นแบบชาวบ้านบ้างครับ
สมมติตอนนั้นแทบไม่มีเงินซื้อข้าวกิน มีเหลือติดอยู่ในบัญชีไม่ถึง 100 บาท เลยรวบรวมโดยโอนเข้าจากอีกบัญชีเพื่อให้สามารถกดออกมาได้ หลังจากโอนแล้วพบว่าเงินหายสาบสูญไปแบบงงๆ ถ้าในสถานการณ์ปกติที่ไปเจอตู้เอทีเอ็มแล้วตู้แจ้งว่ากดเงินไม่ได้ก็คงแค่เซ็งๆ แต่นี่ต้องทนหิวไปอีกไม่รู้เมื่อไหร่ ต้องทนหิวไปนานแค่ไหน ในกรณีแบบนี้ก็คงยากที่จะทำให้ลูกค้าคนนี้กลับมาเชื่อใจและกลับมาใช้บริการใหม่ในอนาคตอีก
( Based on a true story XD )
แย่มากจริงๆครับ หวังว่าจะไม่เกิดขึ้นอีกแล้วสรุปสาเหตุได้หรือยัง
ทะเลาะกันจัง จริง ๆ คือ พร้อมเพย์มันไม่พร้อมด้วยระบบ ซึ่งเป็นอะไรที่คาดหมายกันมาตั้งแต่เริ่มระบบแล้ว ให้เด็ก ม.เขียนเอนจิ้น ทำอะไรมากมาย ประสบการณ์ก้ไม่มีที่ไม่พูดคือเห็นว่าให้โอกาสเด็กมันทำ แค่นั้นเอง ส่วนเรื่องความไว้ใจระบบ ผมให้ 0 ตั้งแต่แรกเริ่ม
อย่าว่าโง้นงี้เลยนะ ปัญหาพวกนี้ผมคิดว่ามันต้องเจอแน่ ๆ มาตั้งแต่เริ่มทำระบบแล้ว ผมแค่รอนั่งดูว่า ใครจะรับผิดชอบความเสียหายเท่านั้นเอง
ก็รัฐไทย คุณจะเอาอะไรมากมาย ก็รู้กันอยู่ ยิ่งเป็นรัฐทหารด้วย
เด็กม.นี่คือม.อะไรหรอ
แล้วที่คุณพูดทั้งหมดมาเป็นความจริงแค่ไหน ขอทราบเป็นข้อมูลที ช่วยยืนยันด้วยหลักฐานด้วยนะ
แล้วอยู่ดีๆก็โยงเข้าการเมือง???
ถ้าเป็นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งคงไม่มัปัญหาใช่ไหมครับ