ไมโครซอฟท์ประกาศอัปเดต Microsoft Teams บน iPad ให้รองรับการเชื่อมต่อกล้องเว็บแคมภายนอก เพื่อการใช้งานที่ต้องการภาพคมชัดความละเอียดสูงขึ้น หรือการปรับระดับใช้งานที่เหมาะสม ซึ่งเป็นข้อจำกัดเมื่อต้องใช้กล้องหน้าของ iPad
Microsoft Teams แบบใช้งานกล้องเสริมกับ iPad รองรับในระบบปฏิบัติการ iPadOS 17 ขึ้นไป โดยเชื่อมต่อกล้องกับพอร์ต USB-C จากนั้นเลือกกล้องที่ต่อเสริมเป็นกล้องที่ใช้งานขณะประชุมผ่าน Teams และสามารถเปลี่ยนมาเลือกใช้กล้องหน้าของ iPad ก็ได้
ไมโครซอฟท์บอกว่ากล้องที่ใช้งานต้องรองรับ USB-C แต่กล้องปัจจุบันส่วนใหญ่รองรับอยู่แล้ว
ไมโครซอฟท์ยืนยันปัญหาของบริการ Microsoft 365 โดยมีรายงานทั้งการใช้งาน Outlook และโปรแกรมอื่นตั้งแต่เวลาประมาณ 21:00น. วันจันทร์ที่ 25 พฤศจิกายน 2024 ตามเวลาในไทย
ข้อมูลจาก Downdetector มีการรายงานปัญหาทั้ง Outlook , Teams และ Microsoft 365
Microsoft Teams เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ (อีกแล้ว) ชื่อ Storyline มันคือการเขียนบล็อกหรือโพสต์ขนาดยาวแบบใส่รูปได้ ใส่วิดีโอได้ แท็กชื่อคนอื่นได้ จัดฟอร์แมตข้อความได้ ฯลฯ สำหรับการโพสต์เนื้อหายาวๆ เช่น สรุปยุทธศาสตร์ของบริษัท ประกาศแนะนำเพื่อนร่วมงานคนใหม่ หรือเขียนข้อความชื่นชมเพื่อนร่วมงาน ทั้งหมดทำได้จาก Teams โดยตรง (มองเป็นข้อความอีกประเภทของ Teams) ไม่ต้องไปเขียนในแอพภาพยนอกแล้วโยนลิงก์เข้ามาในภายหลัง
ฟีเจอร์ Storyline ยังรองรับการกดติดตาม (follow) เพื่อนร่วมงาน แบบเดียวกับบริการ social network ทั่วไปได้ด้วย ช่วยให้เราไม่พลาดการอัพเดตของเพื่อนร่วมงาน หรือผู้บริหารของบริษัทที่อาจโพสต์ข้อมูลสำคัญๆ ผ่าน Storyline
ฟีเจอร์นี้จะเปิดให้ใช้งานแบบพรีวิวช่วงต้นปี 2025
ไมโครซอฟท์ปรับหน้าตาของ Teams เวอร์ชันเดสก์ท็อป โดยจะรวมเอาแท็บ Chat สำหรับคุยส่วนตัว และแท็บ Teams ที่มีห้อง (channel) เข้าด้วยกันเป็นแท็บเดียว โดยภายในจะแยกเซคชั่นย่อยอีกที
ข่าวการควบรวมแท็บ Chat/Teams เริ่มขึ้นมาตั้งแต่เดือนสิงหาคม ด้วยเหตุผลว่าผู้ใช้สับสนระหว่าง Chat/Teams และมักใช้งาน Chat เพียงอย่างเดียว ตอนนี้ Teams แก้ไขเรียบร้อยแล้ว และเปิดทดสอบแบบ public preview
ที่มา - Microsoft
Microsoft Teams มีฟีเจอร์ใหม่จำนวนมากที่ประกาศในงาน Ignite 2024 เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ฟีเจอร์ที่น่าสนใจคือ Live Transcription หรือการถอดเสียงในห้องประชุมออนไลน์ รองรับการถอดเสียงหลายภาษาพร้อมกันแล้ว
การมาถึงของฟีเจอร์นี้ทำให้ผู้เข้าประชุมสามารถพูดภาษาของตัวเอง ระบบจะถอดเสียงพูดเป็นข้อความ transcript แล้วแปลเป็นภาษาที่ต้องการให้ได้ทันที ฟีเจอร์นี้รองรับการถอดเสียง 51 ภาษา และแปลเป็นภาษาอื่นได้ 31 ภาษา ฟีเจอร์นี้จะเปิดให้ใช้ช่วงต้นปี 2025 ดูตัวอย่างในคลิปประมาณนาทีที่ 4:00
นอกจากนี้ ฟีเจอร์การสรุปประชุม (intelligence meeting recap) ยังสามารถเลือกให้สรุปออกมาเป็นภาษาที่ต้องการได้แล้ว (เช่น ประชุมภาษาอังกฤษ สรุปออกมาเป็นภาษาญี่ปุ่น) ฟีเจอร์นี้จะเปิดให้ใช้ปี 2025
ไมโครซอฟท์เริ่มปรับโฉมของไคลเอนต์ Microsoft Teams for Personal เวอร์ชันใช้งานกับบัญชีส่วนตัว (ก่อนหน้านี้ใช้ชื่อว่า Microsoft Teams (free)) โดยไคลเอนต์เวอร์ชันวินโดวส์และเว็บ จะได้ปรับหน้าตาใหม่ สีสันสดใสขึ้น ให้ดูเหมาะกับการใช้งานส่วนตัว ให้แตกต่างจากบัญชีองค์กร
ไมโครซอฟท์ออกอัพเดตไคลเอนต์ Microsoft Teams ตัวใหม่สำหรับการใช้งานบน virtual desktop/remote desktop ให้มีประสิทธิภาพดีขึ้น โดยเฉพาะการใช้งานวิดีโอคอลล์
เหตุผลที่ Teams ต้องมีไคลเอนต์แยกสำหรับการรันบน Virtual Desktop Infrastructure (VDI) เป็นเพราะวิธีการประมวลผลของเครื่องเสมือนบน VDI แยกส่วนไคลเอนต์-เซิร์ฟเวอร์กัน (ดูภาพประกอบ) จึงต้องมีไคลเอนต์เฉพาะที่ออกแบบมาเพื่อสถาปัตยกรรมของ VDI ให้ทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น
มีเอกสารภายในของ Disney หลุดออกมาสู่สาธารณะ ว่าบริษัทกำลังย้ายระบบแชทภายในจากเดิมใช้ Slack มาเป็น Microsoft Teams ด้วยเหตุผลเรื่องข้อมูลหลุด
เอกสารนี้เป็นอีเมลของ Hugh Johnston ซีเอฟโอของ Disney ที่แจ้งต่อพนักงานว่ากำลังจะย้ายระบบ Slack โดยทีมเทคโนโลยีมีกำหนดเริ่มย้ายในช่วงไตรมาส 4 ของปี 2024 และจะเสร้จสมบูรณ์ในไตรมาส 1 ปี 2025
ก่อนหน้านี้เคยมีกลุ่มแฮ็กเกอร์ชื่อ Nullbulge อ้างว่าสามารถเจาะระบบ Slack ของ Disney และได้เอกสารภายในขนาด 1.1TB ไปเผยแพร่ต่อสาธารณะในช่วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา การเจาะระบบครั้งนี้เกิดจากคอมพิวเตอร์ของพนักงานรายหนึ่งถูกเจาะ ส่งผลให้ข้อมูลใน Slack ที่พนักงานรายนี้เข้าถึงได้นั้นหลุดตามไปด้วย
ไมโครซอฟท์ประกาศว่า Microsoft Teams เวอร์ชันใหม่ ที่สามารถล็อกอินสลับบัญชีองค์กรและบัญชีส่วนตัวได้ในแอปเดียว เริ่มอัปเดตทั่วไปให้ผู้ใช้งานทั้ง Windows 10, Windows 11 และ Mac แล้ว หลังจาก ออกพรีวิวมาเมื่อต้นปี โดยสามารถรออัปเดตอัตโนมัติ หรือสั่งอัปเดตทันทีผ่าน Microsoft Store
ในการใช้งานหลายบัญชี ทำได้โดยเพิ่มบัญชีที่ต้องการใช้งานตรงมุมบนขวา เวลาสลับบัญชีก็เลือกได้จากตรงนั้น รองรับการข้ามระหว่างบัญชีส่วนตัว และบัญชีองค์กร (Work, Education)
Teams ที่ล็อกอินหลายบัญชี จะมีหน้าต่างแสดงก่อนเข้าร่วมประชุม ให้เลือกว่าจะเข้าร่วมประชุมด้วยบัญชีใด ซึ่งหากการประชุมอนุญาตให้เข้าร่วมแบบไม่ต้องใช้บัญชี Teams ก็เลือกได้เช่นกัน
The Verge อ้างอิงถึงแอปพลิเคชั่น Microsoft Teams เวอร์ชั่นภายในของไมโครซอฟท์เองว่ากำลังรวมเมนู Teams และ Chat เข้าด้วยกัน
แนวทางการแยกระหว่าง Teams และ Chat สร้างความสับสนให้ผู้ใช้ Microsoft Teams เสมอมา ทำให้องค์กรจำนวนมากมักใช้งานเฉพาะ Chat โดยทิ้งฝั่ง Teams เอาไว้เพราะใช้งานลำบากกว่า แม้ว่าฝั่ง Teams จะมีฟีเจอร์สำคัญๆ เช่น การรองรับ webhook ก็ตาม
แอปแชตองค์กรยอดนิยมอย่าง Slack รวมแชตเป็นหน้าจอเดียวกันหมด โดยแบ่งเป็นเพียง Channels และ Direct Messages แต่ Channels นั้นไม่มีการแบ่งห้องย่อยซ้ำอีกเหมือน Teams
เวอร์ชั่นนี้ยังเป็นเวอร์ชั่นภายในของไมโครซอฟท์เท่านั้น ไม่มีความชัดเจนว่าจะปล่อยสู่ผู้ใช้ทั่วไปเมื่อใด
คณะกรรมการธิการยุโรปหรือ EC (European Commission) ประกาศแจ้งไมโครซอฟท์ โดยมีมุมมองเบื้องต้นว่าไมโครซอฟท์ละเมิดกฎหมายด้านการแข่งขันของยุโรป จากการพ่วง Microsoft Teams ไปกับ Office 365 และ Microsoft 365 ทำให้แอพพลิเคชันสำหรับการติดต่อสื่อสารและทำงานร่วมกันนี้ ได้เปรียบเหนือกว่าคู่แข่ง
ก่อนหน้านี้ EC ประกาศ จะดำเนินการสอบสวนเรื่องนี้อย่างเป็นทางการ หลังจาก Slack ได้ร้องเรียนมาตั้งแต่ปี 2020
ไมโครซอฟท์เปิดตัว Microsoft Places บริการตัวใหม่พลัง AI ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของลูกค้าที่ซื้อไลเซนส์ Teams Premium เพื่อให้พนักงานในองค์กรสามารถบริหารจัดการ และพบปะใช้พื้นที่ในสำนักงานได้ดีมากขึ้น Places จึงเข้ามาแก้ปัญหาวิธีที่คนเลือกทำงาน และสถานที่ที่ทำงาน
ฟีเจอร์ใน Places ได้แก่ การกำหนดสถานที่ทำงานในปฏิทิน ให้คนในทีมสามารถเห็นตำแหน่งเราได้ เมื่อต้องการนัดพบปะ AI จะแนะนำเวลาและสถานที่ที่เหมาะสมสำหรับทุกคนให้ หัวหน้าทีมก็สามารถพิจารณาและกำหนดวันให้ทีมเข้าสำนักงานเพื่อประชุมพูดคุยได้ดีขึ้น
Places ยังใช้ความสามารถของ Copilot สร้างเครื่องมือแนะนำพนักงานแต่ละคน เช่น วันที่ควรเข้าสำนักงาน เพราะเป็นวันที่มีการประชุมแบบพบปะเห็นหน้า หรือคนในทีมส่วนใหญ่อยู่สำนักงาน เป็นต้น
กูเกิลประกาศว่า Google Chat ตอนนี้รองรับการรับส่งข้อความไปกลับ ร่วมกับแพลตฟอร์มแชทอื่นได้แก่ Slack และ Microsoft Teams แล้ว มีผลกับผู้ใช้งาน Workspace ทุกคน จากก่อนหน้านี้เปิดให้ใช้งานผ่านโปรแกรมเบต้าของ Workspace
กูเกิลประกาศฟีเจอร์การรับส่งข้ามแพลตฟอร์มของ Google Chat ตั้งแต่งาน Google Cloud Next ในปีที่แล้ว โดยเป็นความร่วมมือกับ Mio แพลตฟอร์มเชื่อมต่อการทำงานข้ามค่ายระหว่าง Google Workspace กับ Microsoft 365
ทั้งนี้ลูกค้า Workspace ที่ต้องการใช้ฟีเจอร์ดังกล่าว ต้องมีไลเซนส์ของ Mio ด้วย
ที่มา: กูเกิล
ไมโครซอฟท์มีแผนขาย Microsoft 365 ที่ไม่พ่วง Teams มาให้ โดยจะขายแยกต่างหาก มีผลกับผู้ใช้งานทั่วโลก หลังจากไมโครซอฟท์ขาย Microsoft 365 ในรูปแบบดังกล่าว กับกลุ่มประเทศในสหภาพยุโรป (EU) เพื่อเลี่ยงข้อกล่าวหาผูกขาด
ก่อนหน้านี้ในกลุ่มประเทศสหภาพยุโรป ไมโครซอฟท์ถูก Slack ร้องเรียน เรื่องการผูกขาด จากการพ่วง Teams มาใน Microsoft 365 ซึ่ง EU ก็ประกาศ เริ่มสอบสวนกรณีดังกล่าว เมื่อกรกฎาคมปีที่แล้ว แต่ไมโครซอฟท์ก็ตัดสินใจเพิ่ม Microsoft 365 แบบขายแยก Teams ในเดือนถัดมา แต่มีผลเฉพาะในประเทศกลุ่มสหภาพยุโรป
ไมโครซอฟท์ประกาศฟีเจอร์ Copilot ให้กับ Microsoft Teams โดยเป็นการอัพเกรดฟีเจอร์ชุดใหญ่รอบที่สอง หลังเพิ่ม Copilot เข้ามาใน Teams ช่วงเดือนพฤศจิกายน 2023
Copilot in meetingsเพิ่มการสรุปแชทในห้องประชุม นอกเหนือจากการถอดเสียงการประชุม (transcript) ที่มีอยู่เดิมแล้ว ช่วยเก็บรายละเอียดของการประชุมได้ครบถ้วนทุกประเด็น หากในห้องมีทั้งคนคุยเสียงและแชทคุยกัน ฟีเจอร์นี้จะเปิดใช้ในเดือนพฤษภาคม
ปัญหาเรื่อง ไคลเอนต์ Microsoft Teams บนพีซีมี 2 ตัวที่ดันชื่อเหมือนกัน (ต่างกันแค่สีของตัว T และวงเล็บด้านหลัง free กับ work or school) แต่ใช้ร่วมกันไม่ได้ เพราะเป็นบัญชีส่วนตัว vs บัญชีองค์กร สร้างความสับสนให้ผู้ใช้จำนวนมากมายาวนาน
ล่าสุดปัญหานี้กำลังจะหมดไป เพราะไมโครซอฟท์จะรวมไคลเอนต์ทั้งสองเวอร์ชันเข้าเป็นตัวเดียวกัน ล็อกอินหลายบัญชีพร้อมกัน กดสลับไปมาที่ไอคอนหน้าเราตรงมุมขวาบนของหน้าจอได้แล้ว (บริษัทที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลก เพิ่งคิดได้เนอะ) เราสามารถเปิด Teams สองหน้าต่างแยกบัญชีกัน มีไอคอนที่ Taskbar แยกกันได้ด้วย (ตามภาพมี Teams สีสว่างและสีมืดรันอยู่พร้อมกัน)
ไมโครซอฟท์ออกพรีวิว Windows 11 เวอร์ชัน 24H2 ซึ่งจะเปิดให้ดาวน์โหลดทั่วไปภายในปีนี้ มีการเปลี่ยนแปลงสำคัญคือ Microsoft Teams จะรองรับการใช้งานทั้งบัญชีส่วนตัว (Personal) และสลับบัญชีทำงาน (Work) ได้เลย จากเดิมที่ผู้ใช้งานต้องดาวน์โหลด Teams สองไคลเอนต์แยกกัน
ไมโครซอฟท์บอกว่าการรวม Teams ในแอปเดียวนี้ เป็นหัวข้อที่ผู้ใช้งานเรียกร้องเข้ามาโดยตลอด จึงอัพเดต Teams ให้รองรับความต้องการดังกล่าว ทั้งนี้ผู้ใช้งานสามารถเรียก Teams ที่ล็อกอินแยกบัญชีเป็นสองไอคอนในทาสก์บาร์ได้ด้วย
นอกจากนี้การแจ้งเตือนบน Windows ก็ปรับปรุง โดยมีรายละเอียดมากขึ้น พร้อมระบุว่าเป็นการแจ้งเตือนของบัญชีใด
ไมโครซอฟท์ประกาศนำแอปในกลุ่ม Microsoft 365 มาลงใน App Store ของเฮดเซต Apple Vision Pro ซึ่งจะเริ่มส่งมอบให้ลูกค้าในอเมริกาวันที่ 2 กุมภาพันธ์นี้
โดยไมโครซอฟท์บอกว่าแอปที่นำมาลงได้แก่ Microsoft Teams, Word, Excel, PowerPoint, Outlook, OneNote และ Loop ทั้งหมดมาพร้อมกับฟีเจอร์ด้าน AI Copilot
ฟีเจอร์เฉพาะสำหรับ Vision Pro ในแต่ละแอปตัวอย่างเช่น PowerPoint กับ Word มีโหมดทำงานแบบ Immersive Environment เพื่อให้ทดลองซ้อมนำเสนอหรือเพิ่มโฟกัสในการทำงาน, Excel เพิ่มพื้นที่แสดงผลตาราง-กราฟ, Teams รองรับฟีเจอร์ persona ที่แสดงใบหน้า
ไมโครซอฟท์รายงานปัญหาของ Microsoft Teams ซึ่งผู้ใช้งานอาจพบปัญหาหลายอย่าง เช่น ไม่สามารถล็อกอินได้, ไม่สามารถเชื่อมต่อระบบได้ และข้อความช้า เป็นต้น โดยอัพเดตสถานะปัญหานี้หมายเลข TM710344 ใน Admin Center
ปัญหานี้ไมโครซอฟท์บอกว่าเริ่มพบตั้งแต่เวลา 21:55น. วันที่ 26 มกราคม ตามเวลาในไทย โดยถึงตอนนี้สถานะการใช้งานส่วนใหญ่เริ่มเป็นปกติ แต่ผู้ใช้งานบางส่วนอาจยังพบปัญหาการใช้งานบางฟังก์ชัน เช่น การโหลดประวัติ Copilot, การรับ-ส่งข้อความ อาจช้า รวมทั้งการแจ้งเตือนก็ช้าด้วย, การกลับเข้าร่วมประชุมอาจพบปัญหา
ไมโครซอฟท์ เปิดตัว Mesh for Teams บริการประชุมโลกเสมือนด้วยร่างอวตาร ตั้งแต่ปลายปี 2021 และ เปิดทดสอบจริงๆ แบบ public preview เมื่อเดือนตุลาคม 2023
วันนี้ Microsoft Mesh ปรับสถานะเป็นรุ่นเสถียร เปิดใช้งานทั่วไป (general availability) เรียบร้อยแล้ว รองรับการใช้งานบนพีซี ( แอพ Microsoft Mesh ) และผ่านแว่น Oculus Quest ( Quest Store )
ไมโครซอฟท์ประกาศแผนการอัพเดตชุดใหญ่ให้ Microsoft Teams ประเด็นสำคัญที่สุดคงเป็นการแก้ปัญหาการประชุมข้ามกันระหว่าง Microsoft Teams (free) แบบใช้ส่วนตัว และ Microsoft Teams เวอร์ชันองค์กร ที่เป็นปัญหามายาวนานและสร้างความสับสนให้ผู้ใช้
ในอัพเดตรอบเดือนกุมภาพันธ์ ผู้ใช้ Microsoft Teams ทั้งสองแบบจะสามารถประชุมร่วมกันในไคลเอนต์ Teams ที่ตัวเองใช้อยู่ได้แล้ว แก้ปัญหาการประชุมข้ามเวอร์ชันผ่านไคลเอนต์ไม่ได้ แล้วต้องไปเข้าผ่านเว็บเบราว์เซอร์เป็น guest แทน
ฟีเจอร์ใหม่อย่างอื่นที่ Teams จะได้อัพเดตคือ
หลัง OpenAI เกิดปัญหาในบริษัทจนกระทั่ง Sam Altman อดีตซีอีโอย้ายไปอยู่ไมโครซอฟท์ และ พนักงานแสดงความไม่พอใจบอร์ดจำนวนมากจนมีแนวโน้มว่าจะเกิดเหตุการณ์บริษัทแตก บริษัทต่างๆ ก็ยื่นข้อเสนอให้กับพนักงาน OpenAI กันยกใหญ่ โดยเฉพาะ Salesforce ที่ถึงกับออกมายืนยันว่าจะเสนอผลประโยชน์ให้เท่าเดิม
ประเด็นหนึ่งที่หลายคนอาจสังเกตคือ OpenAI ประชุมไล่ Sam Altman ออกด้วย Google Meet แม้ไมโครซอฟท์เคยลงทุนใน OpenAI มาแล้วอาจจะถึงหมื่นล้านดอลลาร์
ไมโครซอฟท์ประกาศฟีเจอร์ใหม่ของ Microsoft Teams หลายอย่างในงานสัมมนา Microsoft Ignite ทั้งความสามารถจาก Copilot ที่มากขึ้น และฟีเจอร์ที่ใช้ AI ซึ่งน่าจะถูกใจใครหลายคน
Copilot ใน Microsoft Teams เพิ่มหลายความสามารถ เช่น สั่งไม่ให้ทำบันทึกการประชุม, ตัวช่วยสร้างข้อความในกล่องแชทของห้องประชุม, เพิ่ม Copilot ใน Channel, ตัวช่วยสรุปเฉพาะเนื้อหาสำคัญในการประชุม (recap)
นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ AI เพิ่มเติมได้แก่ Voice Isolation ระบบแยกเสียง เพื่อให้เสียงของเราที่เป็นผู้พูดเด่นชัดขึ้นในการประชุม โดยจะลดเสียงรบกวนและเสียงผู้พูดคนอื่นลง
ไมโครซอฟท์ประกาศปล่อย Windows 11 อัพเดต 23H2 โดยที่ไม่มีฟีเจอร์อะไรใหม่มากนัก
เหตุผลเป็นเพราะไมโครซอฟท์เปลี่ยนมาใช้วิธีออกฟีเจอร์แยกจากตัว OS ผ่านอัพเดตรายเดือนมาได้สักพักแล้ว ฟีเจอร์ใหม่ส่วนใหญ่ เช่น Windows Copilot เพิ่งออกผ่านอัพเดตรอบเดือนกันยายน (ที่อยู่บน 22H2) ทำให้ตัว 23H2 มีสถานะเป็นเพียงแกนระบบปฏิบัติการ (baseline OS) ลักษณะเดียวกับ Android เวอร์ชันหลังๆ ที่ตัวแกน OS แทบไม่มีอะไรใหม่ที่ผู้ใช้มองเห็น เป็นการเปลี่ยนเทคโนโลยีฐานเท่านั้น
หากผู้ใช้กดอัพเดตรอบเดือนกันยายนไปแล้ว จะแทบไม่เห็นอะไรใหม่ใน 23H2 แต่ถ้ายังไม่อัพเดตรอบเดือนกันยายน มากดรอบพฤศจิกายน (23H2) ทีเดียว ก็จะได้ของใหม่ทั้งหมด
ไมโครซอฟท์ประกาศว่า Microsoft Teams เวอร์ชันใหม่ ที่ยกเครื่องสถาปัตยกรรมให้ทำงานเร็วขึ้น ใช้ทรัพยากรน้อยลง ตอนนี้เปิดให้ใช้งานทั่วไปแล้วทั้ง Windows และ Mac หลังจากออก เวอร์ชันพรีวิวมาเมื่อต้นปี
ใน Teams เวอร์ชันใหม่นี้ ไมโครซอฟท์บอกว่าความเร็วเพิ่มขึ้นสองเท่า ใช้แรมน้อยลง 50% และพื้นที่ดิสก์ลดลง 70% เทียบกับเวอร์ชันก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นผลจากการ เปลี่ยนมาใช้พื้นฐานบน WebView2 แทน Electron เดิม