Skip to main content
โซลูชัน
ผลิตภัณฑ์
อุตสาหกรรม
AI
ทรัพยากร
Skip to main content
โซลูชัน
ผลิตภัณฑ์
อุตสาหกรรม
AI
ทรัพยากร
ทรัพยากร
โซลูชัน
ผลิตภัณฑ์
อุตสาหกรรม
AI
ทรัพยากร
ทรัพยากร

ข้อตกลงของ Google Workspace (ออนไลน์)

ไปที่  ข้อกำหนดเพิ่มเติม  สำหรับบริการที่มีให้กับโครงสร้างพื้นฐานของบัญชีใหม่

  • ข้อตกลง Google Workspace (Online) (“ ข้อตกลง”) นี้ทำขึ้นโดยและระหว่างองค์กรที่ยอมรับข้อกำหนดเหล่านี้ (" ลูกค้า") กับ (ก) Google Asia Pacific Pte. Ltd. (เลขที่จดทะเบียนบริษัท 200817984R) ซึ่งมีสำนักงานอยู่ที่ 70 Pasir Panjang Road, #03-71, Mapletree Business City II, Singapore 117371 หากที่อยู่สำหรับการเรียกเก็บเงินของลูกค้าไม่ได้อยู่ในออสเตรเลียหรือนิวซีแลนด์ หรือ (ข) Google Australia Pty Ltd ซึ่งมีสำนักงานอยู่ที่ Level 5, 48 Pirrama Road, Pyrmont 2009, NSW, Australia หากที่อยู่สำหรับการเรียกเก็บเงินของลูกค้าอยู่ในออสเตรเลีย (“ Google”) สำหรับลูกค้าที่มีที่อยู่สำหรับการเรียกเก็บเงินในนิวซีแลนด์ ข้อตกลงนี้ทำขึ้นโดยและระหว่างลูกค้ากับ Google New Zealand Limited ซึ่งมีสำนักงานอยู่ที่ PWC Tower, Level 27, 188 Quay Street, Auckland, New Zealand 1010 ซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายบริการที่ได้รับอนุญาตในนิวซีแลนด์ และ “ Google” หมายถึง Google Asia Pacific Pte. Ltd. และ/หรือพาร์ทเนอร์ (รวมถึง Google New Zealand Limited) ตามบริบท ข้อตกลงฉบับนี้มีผล ณ วันที่คุณคลิกปุ่ม "ฉันยอมรับ" ด้านล่าง หรือ ณ วันที่มีการลงนามร่วมในข้อตกลง แล้วแต่กรณี (“ วันที่มีผล”) ถ้าคุณยอมรับข้อตกลงนี้ในนามของนายจ้างหรือบุคคลหรือนิติบุคคลอื่น ถือว่าคุณรับรองและรับประกันว่า (i) คุณมีอำนาจตามกฎหมายเต็มที่จะลงนามผูกพันผู้ว่าจ้างหรือบุคคลอื่นภายใต้ข้อกำหนดและเงื่อนไขเหล่านี้ (ii) คุณได้อ่านและทำความเข้าใจกับข้อตกลงนี้ และ (iii) คุณยอมรับข้อตกลงนี้ในนามของบุคคลหรือฝ่ายที่คุณเป็นตัวแทน หากคุณไม่มีอำนาจตามกฎหมายในการลงนามผูกพันแทนนายจ้างหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โปรดอย่าคลิกปุ่ม "ฉันยอมรับ" ด้านล่าง (หรืออย่าลงชื่อในข้อตกลงนี้ ตามแต่กรณี) ข้อตกลงนี้มีผลบังคับต่อการเข้าถึงและการใช้งานบริการของลูกค้าตามที่ระบุไว้ในแบบฟอร์มการสั่งซื้อตามหลักเกณฑ์

    • 1 บริการ

      • 1.1 สถานที่และการถ่ายโอนข้อมูล  สถานที่ทั้งหมดที่ใช้เพื่อจัดเก็บหรือประมวลผลข้อมูลของลูกค้าจะปฏิบัติตามมาตรฐานด้านความปลอดภัยที่ไม่ด้อยกว่ามาตรฐานด้านความปลอดภัยในสถานที่ที่ Google จัดเก็บและประมวลผลข้อมูลประเภทเดียวกันด้วยตนเอง Google ได้ใช้ระบบและกระบวนการที่เป็นมาตรฐานอุตสาหกรรมเป็นขั้นต่ำเพื่อรักษาความปลอดภัยและข้อมูลที่เป็นความลับของข้อมูลของลูกค้า ป้องกันภัยคุกคามหรืออันตรายที่คาดไว้เพื่อให้เกิดความปลอดภัยหรือความถูกต้องของข้อมูลของลูกค้า และป้องกันการเข้าถึงหรือการใช้งานข้อมูลของลูกค้าโดยไม่ได้รับอนุญาต ในการให้บริการ Google อาจโอน เก็บ และประมวลผลข้อมูลของลูกค้าในสหรัฐอเมริกาหรือประเทศอื่นๆ ที่ Google หรือตัวแทนมีหน่วยงานอยู่ ในการใช้บริการเหล่านี้ ลูกค้ายินยอมให้มีการถ่ายโอน ประมวลผล และจัดเก็บข้อมูลของลูกค้า

      • 1.2 การปรับเปลี่ยน

        • a. กับบริการGoogle อาจดำเนินการเปลี่ยนแปลงซึ่งสมเหตุสมผลในเชิงพาณิชย์กับข้อตกลงนี้ในบางโอกาส ถ้า Google มีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในส่วนของบริการ Google จะแจ้งให้ลูกค้าทราบ โดยมีเงื่อนไขว่าลูกค้าจะต้องสมัครรับข้อมูลเพื่อให้ทราบข้อมูลการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวจาก Google

      • 1.3 ข้อกำหนดของ URL Google อาจดำเนินการเปลี่ยนแปลงที่สมเหตุสมผลในเชิงพาณิชย์กับข้อกำหนดของ URL ในบางโอกาส ถ้า Google เปลี่ยนแปลงข้อกำหนดของ URL ในส่วนที่มีสาระสำคัญ Google จะแจ้งให้ลูกค้าทราบโดยการส่งอีเมลไปยังที่อยู่อีเมลการแจ้งเตือนหรือโดยการเตือนลูกค้าผ่านทางคอนโซลผู้ดูแลระบบ ถ้าการเปลี่ยนแปลงมีผลเสียหายต่อลูกค้าอย่างเป็นรูปธรรม และลูกค้าไม่ยอมรับการเปลี่ยนแปลงนี้ ลูกค้าต้องแจ้ง Google ผ่านศูนย์ช่วยเหลือภายใน 30 วันหลังจากได้รับการแจ้งเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลง ถ้าลูกค้าแจ้ง Google ดังที่กำหนดไว้ ลูกค้าจะยังคงอยู่ภายใต้ข้อกำหนดที่มีผลก่อนการเปลี่ยนแปลงในทันที จนถึงสิ้นสุดระยะเวลาของบริการปัจจุบันในขณะนั้นสำหรับบริการที่เกี่ยวข้อง ถ้ามีการต่ออายุบริการที่เกี่ยวข้อง บริการดังกล่าวจะได้รับการต่ออายุภายใต้ข้อกำหนด URL ในขณะนั้นของ Google

        1.4 ชื่อโดเมนของลูกค้า ลูกค้ามีหน้าที่รับผิดชอบต่อการขอรับและรักษาสิทธิ์ที่จำเป็นสำหรับการใช้งานของ Google และลูกค้าของชื่อโดเมนของลูกค้าภายใต้ข้อตกลงดังกล่าว Google อาจตรวจสอบยืนยันว่าลูกค้าเป็นเจ้าของหรือควบคุมชื่อโดเมนของลูกค้า หากลูกค้าไม่ใช่เจ้าของหรือควบคุมชื่อโดเมนของลูกค้า Google จะไม่มีภาระหน้าที่ในการให้บริการแก่ลูกค้า

        1.5 โฆษณา Google จะไม่แสดงโฆษณาในบริการหรือใช้ข้อมูลของลูกค้าเพื่อวัตถุประสงค์ในการโฆษณา

        1.6 ข้อกำหนดเฉพาะของบริการ ข้อกำหนดเฉพาะของบริการถือว่าเป็นการรวมไว้ด้วยวิธีการอ้างอิงในข้อตกลงนี้

    • 2 ภาระหน้าที่ของลูกค้า

      • 2.1 การปฏิบัติตามข้อกำหนด ลูกค้าจะใช้บริการตามนโยบายการใช้งานที่ยอมรับได้ Google อาจเปิดให้บริการแอปพลิเคชัน คุณลักษณะ หรือการทำงานเพิ่มเติมสำหรับบริการในบางขณะ ซึ่งการใช้งานอาจขึ้นอยู่กับการยินยอมของลูกค้าที่จะปฏิบัติตามเงื่อนไขเพิ่มเติม นอกจากนี้ Google จะจัดให้มีผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช่ Google Workspace (นอกเหนือจากบริการ) สามารถใช้งานได้โดยลูกค้าและผู้ใช้ปลายทางของลูกค้าตามข้อกำหนดของผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช่ Google Workspace และข้อกำหนดในการให้บริการของ Google เฉพาะสำหรับผลิตภัณฑ์นั้นๆ ถ้าไม่ประสงค์จะเปิดใช้งานผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช่ Google Workspace ลูกค้าสามารถเปิดใช้งานหรือปิดใช้งานได้ตลอดเวลาผ่านคอนโซลการดูแลระบบ

        2.2 ชื่อแทน ลูกค้าเป็นผู้รับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียวในการตรวจติดตาม ตอบสนอง และประมวลผลอีเมลที่ส่งไปยังชื่อแทน "abuse" และ "postmaster" สำหรับชื่อโดเมนของลูกค้า แต่ Google อาจตรวจสอบอีเมลที่ส่งไปยังชื่อแทนเหล่านี้สำหรับชื่อโดเมนของลูกค้า เพื่อให้ Google สามารถระบุการใช้บริการในทางที่ผิดได้

        2.3 การดูแลบริการของลูกค้า ลูกค้าสามารถระบุผู้ดูแลระบบ 1 คนหรือหลายคนผ่านทางคอนโซลผู้ดูแลระบบ ซึ่งเป็นผู้ที่มีสิทธิ์ในการเข้าถึงบัญชีผู้ดูแลระบบและดูแลบัญชีของผู้ใช้ปลายทาง ลูกค้าจะต้องรับผิดชอบต่อ: (ก) การรักษาความลับของรหัสผ่านและบัญชีผู้ดูแลระบบ (ข) การมอบหมายบุคคลที่ได้รับอนุญาตให้เข้าถึงบัญชีผู้ดูแลระบบ และ (ค) ดำเนินการให้มั่นใจวากิจกรรมทั้งหมดที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับบัญชีผู้ดูแลระบบจะเป็นไปตามข้อตกลงนี้ ลูกค้ายอมรับว่าความรับผิดชอบของ Google จะไม่รวมถึงการจัดการภายในหรือการดูแลบริการสำหรับลูกค้า และ Google เป็นเพียงผู้ประมวลผลข้อมูลเท่านั้น

        2.4 ความยินยอมของผู้ใช้ปลายทาง ผู้ดูแลระบบของลูกค้าอาจสามารถเข้าถึง ตรวจสอบ ใช้งาน หรือเปิดเผยข้อมูลที่ผู้ใช้ปลายทางสามารถใช้งานได้ภายในบัญชีผู้ใช้ปลายทาง ลูกค้าจะขอรับและรักษาหนังสือแสดงความยินยอมทั้งหมดที่จำเป็นจากผู้ใช้ปลายทาง เพื่ออนุญาตให้: (i) ลูกค้าสามารถเข้าถึง ตรวจสอบ ใช้ และเปิดเผยข้อมูลนี้ และเพื่อให้ Google กำหนดให้ลูกค้าสามารถดำเนินการดังกล่าว และ (ii) Google สามารถให้บริการได้

        2.5 การใช้งานที่ไม่ได้รับอนุญาต ลูกค้าจะใช้ความพยายามตามความเหมาะสมในเชิงพาณิชย์เพื่อป้องกันการใช้งานบริการที่ไม่ได้รับอนุญาต และยุติการใช้งานที่ไม่ได้รับอนุญาตใดๆ ก็ตาม ลูกค้าจะแจ้งแก่ Google ในทันทีเมื่อทราบว่ามีการใช้งาน หรือการเข้าถึงบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต

        2.6 ข้อจำกัดในการใช้งาน นอกเหนือจากกรณีที่ Google ให้ความยินยอมแบบเจาะจงเป็นลายลักษณ์อักษร ลูกค้าต้องไม่ดำเนินการต่อไปนี้หรือใช้ความพยายามอันสมเหตุสมผลทางพาณิชย์เพื่อไม่ให้บุคคลที่สามดำเนินการต่อไปนี้ (ก) จำหน่าย จำหน่ายต่อ เช่าบริการแก่บุคคลที่สาม หรือดำเนินการใดๆ ในลักษณะเทียบเท่า (เว้นแต่ว่าได้รับอนุญาตอย่างชัดแจ้งในข้อตกลงฉบับนี้) (ข) พยายามทำวิศวกรรมย้อนกลับกับบริการหรือส่วนประกอบใดๆ (ค) พยายามสร้างบริการทดแทนหรือบริการที่ใกล้เคียงผ่านการใช้งานหรือเข้าถึงบริการ (ง) ใช้บริการเพื่อทำกิจกรรมที่มีความเสี่ยงสูง (จ) ใช้หรือเข้าถึงบริการในลักษณะที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อหลีกเลี่ยงการเสียค่าธรรมเนียม หรือ (ฉ) ใช้บริการในการจัดเก็บหรือโอนข้อมูลใดๆ ของลูกค้าที่มีการควบคุมการส่งออกตามกฎหมายควบคุมการส่งออก และลูกค้ามีหน้าที่รับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียวต่อการปฏิบัติตาม HIPAA

        2.7 คำขอของบุคคลที่สาม ลูกค้ามีหน้าที่รับผิดชอบต่อการตอบกลับคำขอของบุคคลที่สาม Google จะดำเนินการภายในขอบเขตที่กฎหมายกำหนดและตามข้อกำหนดของคำขอของบุคคลที่สาม เพื่อ: (ก) แจ้งแก่ลูกค้าโดยทันทีเมื่อได้รับคำขอของบุคคลที่สาม (ข) ปฏิบัติตามคำขออันสมเหตุสมผลของลูกค้าเกี่ยวกับการพยายามที่จะคัดค้านคำขอของบุคคลที่สาม และ (ค) ให้ข้อมูลและเครื่องมือแก่ลูกค้าตามที่จำเป็นในการที่ลูกค้าจะตอบสนองต่อคำขอของบุคคลที่สาม ขั้นแรก ลูกค้าจะดำเนินการเพื่อขอรับข้อมูลที่จำเป็นในการตอบสนองต่อคำขอของบุคคลที่สามด้วยตนเอง และจะติดต่อ Google เฉพาะเมื่อมีเหตุผลอันสมควรที่ไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลดังกล่าวเท่านั้น

    • 3 การเรียกเก็บเงินและการชำระเงิน

      • 3.1 การเรียกเก็บเงิน ลูกค้าจะจ่ายค่าธรรมเนียมทั้งหมดสำหรับบริการ ระบบจะใช้เครื่องมือวัดของ Google เพื่อตรวจสอบการใช้งานของลูกค้าของบริการ ลูกค้าจะเลือกตัวเลือกในการเรียกเก็บเงินต่อไปนี้ หรือจากตัวเลือกอื่นๆ ที่ Google มีให้ในแบบฟอร์มการสั่งซื้อได้เมื่อส่งใบสั่งซื้อบริการ Google อาจเปลี่ยนแปลงข้อเสนอตัวเลือกการเรียกเก็บเงิน รวมถึงการจำกัดหรือหยุดเสนอตัวเลือกการเรียกเก็บเงินใดๆ เมื่อแจ้งให้ทราบอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรเป็นเวลาสามสิบวัน (ซึ่งอาจดำเนินการทางอีเมล) ตัวเลือกการเรียกเก็บเงินอาจไม่มีให้กับลูกค้าทุกราย ลูกค้าชำระค่าบริการโดยใช้ตัวเลือกการชำระเงินที่ระบุในข้อ 3.2 ด้านล่าง

      • 3.2 แผนรายเดือน หากลูกค้าเลือกตัวเลือกนี้ จะไม่ถือว่ามีข้อผูกพันในการซื้อบริการตามระยะเวลาที่ระบุไว้ แต่จะต้องชำระค่าบริการแบบรายเดือน โดย Google จะเรียกเก็บเงินกับลูกค้า (1) ค่าบริการตามการใช้บริการในแต่ละวันของลูกค้าในเดือนก่อนหน้า และ (2) รายเดือนหลังจากที่ใช้บริการ Google จะให้อัตรารายเดือนแก่ลูกค้าสำหรับบริการเมื่อลูกค้าสั่งซื้อบริการ และจะใช้อัตรานี้ในการคำนวณค่าบริการตามอัตราส่วนที่เกิดขึ้นจริงสำหรับการใช้งานรายวันของลูกค้าในเดือนนั้น ในการคำนวณค่าบริการ การใช้บริการไม่เต็มวันจะปัดเป็น 1 วัน

        • a. แผนรายปี หากลูกค้าเลือกตัวเลือกนี้ ถือว่ามีข้อผูกพันในการซื้อบริการจาก Google เป็นระยะเวลา 1 ปี Google จะเรียกเก็บเงินกับลูกค้าตามระยะเวลาที่ลูกค้าเลือกในแบบฟอร์มการสั่งซื้อ

        • b. การเรียกเก็บเงินที่เป็นทางเลือก Google อาจเสนอตัวเลือกหรือแผนที่เป็นทางเลือกในการเรียกเก็บเงินในบางเวลา (ตัวอย่างเช่น ในแบบฟอร์มการสั่งซื้อ) แก่ลูกค้า ในกรณีที่ลูกค้ายอมรับตัวเลือกหรือแผนการเรียกเก็บเงินที่เป็นทางเลือก เงื่อนไขของตัวเลือกหรือแผนนั้นจะมีผลตามที่ระบุในข้อเสนอ

    • 4 การชำระเงิน การชำระเงินทั้งหมดจะชำระเป็นดอลลาร์สหรัฐอเมริกา ยกเว้นที่ระบุเป็นอย่างอื่นในแบบฟอร์มการสั่งซื้อหรือใบแจ้งหนี้

        • ก.  บัตรเครดิตหรือบัตรเดบิต ค่าธรรมเนียมในการสั่งซื้อที่ลูกค้าชำระเงินด้วยบัตรเครดิต บัตรเดบิต หรือการชำระเงินแบบอื่นที่ไม่ใช่ใบแจ้งหนี้จะครบกำหนดเมื่อสิ้นเดือนที่ลูกค้าได้รับบริการ สำหรับการชำระเงินด้วยบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิต ตามแต่ละกรณี (1) Google จะเรียกเก็บค่าบริการทั้งหมดจากลูกค้า เมื่อครบกำหนดชำระ และ (2) ค่าบริการเหล่านี้ถือว่าชำระล่าช้า หลังจากครบสามสิบวันนับจากวันสิ้นเดือนที่ลูกค้าได้รับบริการนั้น

          ข.  ใบแจ้งหนี้ การชำระเงินตามใบแจ้งหนี้จะครบกำหนดชำระภายในสามสิบวันนับจากวันที่ในใบแจ้งหนี้ ยกเว้นที่ระบุไว้เป็นอย่างอื่นในแบบฟอร์มการสั่งซื้อ และถือว่าชำระล่าช้าหลังจากวันที่ดังกล่าว

          ค.  การชำระเงินแบบอื่น ลูกค้าจะเปลี่ยนวิธีการชำระเงินตามตัวเลือกที่มีในคอนโซลผู้ดูแลระบบได้ Google อาจอนุญาตให้ใช้การชำระเงินแบบอื่นๆ โดยกำหนดให้ใช้งานได้ภายในคอนโซลผู้ดูแลระบบ การชำระเงินแบบอื่นๆ ดังกล่าวอาจมีข้อกำหนดเพิ่มเติม ซึ่งลูกค้าต้องยอมรับก่อนใช้รูปแบบการชำระเงินเพิ่มเติมนั้นๆ

      • 4.1 การชำระเงินล่าช้า การชำระเงินล่าช้าอาจมีดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 1.5 ต่อเดือน (หรืออัตราสูงสุดที่กฎหมายกำหนด ถ้าน้อยกว่านี้) นับจากวันที่ครบกำหนดชำระจนถึงวันที่ชำระครบเต็มจำนวน ลูกค้าต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมดตามที่สมควร (รวมถึงค่าทนาย) ที่เกิดขึ้นแก่ Google ในการเรียกเก็บเงินค้างชำระหรือชำระล่าช้า ยกเว้นกรณีที่จำนวนเงินที่ค้างชำระหรือล่าช้านั้นเกิดจากความผิดพลาดในการเรียกเก็บเงินของ Google

      • 4.2 การระงับสำหรับกรณีที่ไม่ชำระเงิน

        • a. การระงับอัตโนมัติ ลูกค้ามีเวลา 30 วันในการชำระค่าบริการที่ล่าช้าให้กับ Google ถ้าลูกค้าไม่ชำระค่าบริการที่ล่าช้าให้กับ Google ภายใน 30 วัน Google จะระงับการใช้บริการของลูกค้าโดยอัตโนมัติ การระงับจะดำเนินไปจนกว่าลูกค้าชำระค่าบริการคงค้างให้แก่ Google จนครบถ้วน

          b. ระหว่างการระงับ ถ้าลูกค้าใช้แผนการชำระเงินแบบรายเดือน และลูกค้าถูกระงับการใช้บริการเนื่องจากไม่ได้ชำระเงิน Google จะหยุดการเรียกเก็บเงินค่าบริการรายเดือนระหว่างการระงับบริการเนื่องจากไม่ได้ชำระเงิน ถ้าลูกค้ามีข้อผูกพันรายปีสำหรับบริการกับ Google Google จะเรียกเก็บเงินค่าบริการรายเดือนกับลูกค้าระหว่างการระงับบริการของลูกค้าเนื่องจากไม่ได้ชำระเงิน และลูกค้าต้องชำระค่าบริการค้างชำระทั้งหมด เพื่อที่จะใช้บริการต่อไป

          c. การยุติบริการหลังจากการระงับ ถ้าลูกค้ายังอยู่ในสถานะระงับเนื่องจากไม่ได้ชำระเงินเป็นเวลามากกว่า 60 วัน Google อาจยุติการให้บริการลูกค้าเนื่องจากการละเมิดตามข้อ 11

    • 5 ภาษี

      • ก. ลูกค้าต้องรับผิดชอบชำระภาษีทั้งหมด และต้องชำระเงินค่าบริการแก่ Google โดยไม่หักค่าภาษีใดๆ ถ้า Google มีภาระหน้าที่ตามกฎหมายที่จะชำระหรือเก็บภาษี จะมีการส่งใบเรียกเก็บตามจำนวนเงินที่เหมาะสมให้แก่ลูกค้า ยกเว้นกรณีที่ลูกค้าแสดงใบรับรองการยกเว้นภาษีที่ถูกต้องซึ่งได้รับการอนุมัติโดยหน่วยงานภาษีที่เหมาะสมแก่ Google หากกฎหมายกำหนดให้ลูกค้าหักภาษี ณ ที่จ่ายกับ Google ลูกค้าต้องให้ใบกำกับภาษีอย่างเป็นทางการ หรือเอกสารอื่นที่เหมาะสมแก่ Google เพื่อสนับสนุนการชำระเงินดังกล่าว

      • ข. ลูกค้าจะให้ข้อมูลประจำตัวผู้เสียภาษีที่เหมาะสมกับ Google ที่อาจต้องใช้เพื่อให้แน่ใจว่ามีการปฏิบัติตามข้อกำหนดและหน่วยงานราชการที่เหมาะสมในเขตอำนาจศาลที่เกี่ยวข้อง ลูกค้าจะไม่มีความรับผิดชอบในการจ่าย (ชำระคืนให้ Google) ภาษี ดอกเบี้ย หรือค่าปรับที่เกิดจากการประกาศที่ไม่ถูกต้องจากลูกค้า

    • 6 ใบสั่งซื้อ ถ้าลูกค้าต้องการหมายเลขใบสั่งซื้อในใบแจ้งหนี้ ลูกค้าจะแจ้งให้ Google ทราบ และ Google จะรวมหมายเลขใบสั่งซื้อไว้ในใบแจ้งหนี้หลังจากได้รับแจ้ง ถ้าลูกค้าไม่ให้หมายเลขใบสั่งซื้อ ถือว่าลูกค้าสละสิทธิ์ในการขอรับใบสั่งซื้อ และ (ก) Google จะส่งใบแจ้งหนี้ให้กับลูกค้าโดยไม่มีหมายเลขใบสั่งซื้อ และ (ข) ลูกค้ายอมรับที่จะชำระเงินตามใบแจ้งหนี้โดยไม่มีการอ้างอิงหมายเลขใบสั่งซื้อ ข้อกำหนดในการให้บริการใดๆ ในใบสั่งซื้อไม่มีผลกับข้อตกลงนี้ และถือเป็นโมฆะ

    • 7 บริการสนับสนุนด้านเทคนิค

      • 7.1 โดยลูกค้า ลูกค้าจะต้องดำเนินการกับคำถามและข้อร้องเรียนจากผู้ใช้ปลายทางหรือบุคคลที่สามเกี่ยวกับการใช้บริการของลูกค้าหรือผู้ใช้ปลายทาง โดยแบกรับค่าใช้จ่ายทั้งหมดเอง ลูกค้าจะใช้ความพยายามที่สมเหตุสมผลในเชิงพาณิชย์ เพื่อแก้ไขปัญหาการสนับสนุนก่อนที่จะยกระดับให้กับ Google

      • 7.2 โดย Google หากลูกค้าไม่สามารถแก้ไขปัญหาด้านการสนับสนุน ลูกค้าสามารถแจ้งปัญหาแก่ Google ตามหลักเกณฑ์ TSS ในกรณีนี้ Google จะให้บริการ TSS แก่ลูกค้าตามหลักเกณฑ์ TSS

    • 8 การระงับ

      • 8.1 ของบัญชีผู้ใช้ปลายทางโดย Google ถ้า Google ทราบถึงการละเมิดข้อตกลงโดยผู้ใช้ปลายทาง Google อาจขอให้ลูกค้าระงับบัญชีผู้ใช้ปลายทางที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะเจาะจง ถ้าลูกค้าไม่สามารถปฏิบัติตามคำขอของ Google ในการระงับบัญชีของผู้ใช้ปลายทาง Google อาจดำเนินการเอง ระยะเวลาของการระงับโดย Google จะเป็นการระงับจนกว่าผู้ใช้ปลายทางได้แก้ไขการละเมิดซึ่งทำให้เกิดการระงับนั้นๆ

        8.2 ปัญหาด้านความปลอดภัยในกรณีฉุกเฉิน ภายในเงื่อนไขข้างต้น ถ้ามีปัญหาการรักษาความปลอดภัยในกรณีฉุกเฉิน Google อาจระงับการใช้งานที่เป็นการล่วงละเมิดโดยอัตโนมัติ การระงับจะดำเนินการในขอบเขตขั้นต่ำ และมีระยะเวลาขั้นต่ำที่จำเป็นเพื่อป้องกันหรือยุติปัญหาการรักษาความปลอดภัยที่เป็นกรณีฉุกเฉิน หาก Google ระงับบัญชีผู้ใช้ปลายทางด้วยสาเหตุใดๆ ก็ตามโดยไม่มีการแจ้งล่วงหน้าแก่ลูกค้า Google จะแสดงสาเหตุสำหรับการระงับให้แก่ลูกค้าโดยเร็วที่สุดอย่างสมเหตุสมผล ทั้งนี้จะเป็นไปตามคำขอของลูกค้า

    • 9 ข้อมูลที่เป็นความลับ

      • 9.1 ภาระหน้าที่ คู่สัญญาแต่ละฝ่ายจะ: (ก) คุ้มครองข้อมูลที่เป็นความลับของอีกฝ่ายด้วยมาตรฐานความระมัดระวังเดียวกับที่ใช้คุ้มครองข้อมูลที่เป็นความลับของตนเอง ไม่ว่าในกรณีใดๆ และ (ข) ไม่เปิดเผยข้อมูลที่เป็นความลับ ยกเว้นสำหรับบริษัทผู้ร่วมดำเนินการ พนักงาน และตัวแทนที่จำเป็นต้องทราบ และได้รับความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรในการเก็บรักษาข้อมูลไว้เป็นความลับ คู่สัญญาแต่ละฝ่าย (และพนักงานและตัวแทนของบริษัทผู้ร่วมดำเนินการที่มีการเปิดเผยข้อมูลที่เป็นความลับ) สามารถใช้ข้อมูลที่เป็นความลับเพียงเพื่อปฏิบัติตามสิทธิ์และดำเนินการตามภาระหน้าที่ตามข้อตกลงนี้เท่านั้น พร้อมทั้งใช้ความระมัดระวังที่สมเหตุสมผลเพื่อคุ้มครองข้อมูลดังกล่าว คู่สัญญาแต่ละฝ่ายมีหน้าที่รับผิดชอบต่อการกระทำของพนักงานและตัวแทนของบริษัทผู้ร่วมดำเนินการของตนในการละเมิดหัวข้อนี้

      • 9.2 ข้อยกเว้น ข้อมูลที่เป็นความลับจะไม่รวมถึงข้อมูลที่: (ก) ผู้รับข้อมูลที่เป็นความลับทราบอยู่แล้ว (ข) กลายเป็นข้อมูลที่เป็นสาธารณะโดยไม่ใช่ความผิดของผู้รับ (ค) ผู้รับพัฒนาขึ้นโดยอิสระ หรือ (ง) ผู้รับได้รับมาจากบุคคลอื่นโดยชอบด้วยกฎหมาย

      • 9.3 การเปิดเผยที่จำเป็น คู่สัญญาแต่ละฝ่ายสามารถเปิดเผยข้อมูลที่เป็นความลับของอีกฝ่ายได้ต่อเมื่อมีการกำหนดตามกฎหมาย แต่หลังจากที่: (ก) ใช้ความพยายามอันควรแก่เหตุผลในเชิงพาณิชย์สำหรับการแจ้งให้อีกฝ่ายทราบ และ (ข) ให้โอกาสอีกฝ่ายคัดค้านการเปิดเผยข้อมูล ทั้งนี้จะสามารถเปิดเผยได้ถ้ามีการอนุญาตตามกฎหมาย

    • 10 สิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญา คุณลักษณะของตราสินค้า

      • 10.1 สิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญา ยกเว้นที่กำหนดไว้อย่างชัดเจนในที่นี้ ข้อตกลงนี้ไม่มีการให้สิทธิ์แก่ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด ทั้งโดยนัยและอื่นๆ สำหรับเนื้อหาหรือทรัพย์สินทางปัญญาของอีกฝ่าย ระหว่างทั้ง 2 ฝ่าย ลูกค้าจะเป็นเจ้าของสิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญาทั้งหมดในข้อมูลของลูกค้า และ Google จะเป็นเจ้าของสิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญาทั้งหมดในบริการ

        10.2 การแสดงคุณลักษณะของตราสินค้า Google สามารถแสดงคุณลักษณะของตราสินค้าของลูกค้าซึ่งได้รับอนุญาตโดยลูกค้าเท่านั้น (การอนุญาตดังกล่าวเกิดขึ้นจากการที่ลูกค้าอัปโหลดคุณลักษณะของตราสินค้าของตนเข้าสู่บริการ) และภายในพื้นที่ซึ่งกำหนดให้ของหน้าเว็บบริการ ลูกค้าสามารถระบุลักษณะการใช้งานได้ด้วยการใช้คอนโซลผู้ดูแลระบบ Google อาจแสดงคุณลักษณะของตราสินค้าของ Google ในหน้าเว็บบริการเพื่อระบุว่า Google เป็นผู้ให้บริการนี้ คู่สัญญาทั้ง 2 ฝ่ายไม่สามารถแสดงหรือใช้คุณลักษณะของตราสินค้าของอีกฝ่ายนอกเหนือไปจากที่อนุญาตตามข้อตกลงนี้ โดยไม่ได้รับความยินยอมอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรจากอีกฝ่าย

        10.3 ข้อจำกัดเกี่ยวกับคุณลักษณะของตราสินค้า การใช้งานคุณลักษณะของตราสินค้าของฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดจะใช้เพื่อประโยชน์ของฝ่ายที่ถือสิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญาสำหรับคุณลักษณะของตราสินค้าเหล่านั้น ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดสามารถยกเลิกสิทธิ์ของอีกฝ่ายในการใช้คุณลักษณะของตราสินค้าของตนตามข้อตกลงนี้ พร้อมทั้งแจ้งให้อีกฝ่ายทราบอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรและระบุระยะเวลาที่จะยุติการใช้งานอย่างสมเหตุสมผล

    • 11 การประชาสัมพันธ์ลูกค้ายอมรับว่า Google สามารถรวมชื่อและคุณลักษณะของตราสินค้าของลูกค้าในรายชื่อลูกค้าของ Google ทั้งทางออนไลน์และในเอกสารส่งเสริมการขาย ลูกค้ายอมรับว่า Google อาจอ้างถึงลูกค้าในทางวาจาว่าเป็นลูกค้าของผลิตภัณฑ์หรือบริการของ Google ที่อยู่ภายใต้ข้อตกลงนี้ หัวข้อนี้อยู่ภายใต้เงื่อนไขของข้อ 7.3 (ข้อจำกัดของคุณลักษณะของตราสินค้า)

    • 12 การรับรอง การรับประกัน และข้อจำกัดความรับผิดชอบ

      • 12.1 การรับรองและการรับประกัน คู่สัญญาแต่ละฝ่ายรับรองว่าตนมีอำนาจและสิทธิ์เต็มที่ในการทำข้อตกลง คู่สัญญาแต่ละฝ่ายรับประกันว่าจะปฏิบัติตามกฎหมายและระเบียบข้อบังคับที่เกี่ยวข้องในการให้หรือใช้บริการ ตามแต่ละกรณี (รวมถึงกฎหมายการแจ้งกรณีการละเมิดความปลอดภัย) Google รับประกันว่าจะให้บริการตาม SLA ที่มีผลบังคับใช้

        12.2 ข้อจำกัดความรับผิดชอบ ภายในขอบเขตที่กฎหมายอนุญาตให้ทำได้ ยกเว้นที่ได้ระบุไว้อย่างชัดแจ้งในที่นี้ (ก) ทั้ง 2 ฝ่ายไม่มีหรือไม่ให้การรับรองหรือรับประกันไม่ว่าในรูปแบบใด ไม่ว่าจะเป็นโดยชัดเจน โดยนัย ตามกฎหมายหรืออื่นใด และ (ข) แต่ละฝ่ายไม่มีส่วนรับผิดและได้รับการยกเว้นจากการรับประกัน เงื่อนไข การรับรอง ข้อผูกพัน และข้อกำหนดอื่นใด รวมถึง แต่ไม่จำกัดเพียง การรับประกันคุณค่าการเป็นสินค้า ความเหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์อย่างหนึ่งอย่างใดโดยเฉพาะ และการไม่ละเมิดข้อกำหนดต่างๆ Google ไม่รับรองเกี่ยวกับเนื้อหาหรือข้อมูลที่สามารถเข้าถึงโดยหรือผ่านบริการ ลูกค้ารับทราบว่าบริการนี้ไม่ใช่บริการโทรศัพท์ และบริการนี้ไม่สามารถเริ่มต้นหรือรับการติดต่อทางโทรศัพท์ได้ รวมถึงการโทรศัพท์ในกรณีฉุกเฉินผ่านทางเครือข่ายโทรศัพท์ผ่านชุมสายสาธารณะ

    • 13 ระยะเวลา

      • 13.1 ระยะเวลาของข้อตกลง ข้อตกลงนี้จะมีผลบังคับตลอดระยะเวลา

      • 13.2 ระยะเวลาของบริการและการซื้อระหว่างระยะเวลาของบริการ Google จะให้บริการแก่ลูกค้าภายในระยะเวลาของบริการ ยกเว้นกรณีที่คู่สัญญาทั้ง 2 ฝ่ายตกลงเป็นอย่างอื่นอย่างเป็นลายลักษณ์อักษร บัญชีผู้ใช้ปลายทางที่ซื้อระหว่างระยะเวลาของบริการใดๆ จะมีระยะเวลาที่กำหนดเป็นสัดส่วนโดยสิ้นสุด ณ วันสุดท้ายของระยะเวลาของบริการ

      • 13.3 การต่ออายุ

        • ใช้แผนรายเดือน เมื่อใช้แผนรายเดือน ลูกค้าจะไม่มีข้อผูกพันที่จะซื้อบริการตามระยะเวลาที่กำหนดไว้ล่วงหน้า ดังนั้น จะไม่มีการต่ออายุสำหรับแผนรายเดือน แต่ Google จะเรียกเก็บเงินค่าธรรมเนียมกับลูกค้าตามเงื่อนไขของข้อ 3.1(ก) ข้างต้น

          แผนรายปี เมื่อสิ้นสุดระยะเวลาในแต่ละช่วง บริการจะต่ออายุตามตัวเลือกที่ลูกค้าระบุไว้ในหน้าคำสั่งซื้อหรือคอนโซลผู้ดูแลระบบ

          โดยทั่วไป ลูกค้าสามารถเปลี่ยนจำนวนบัญชีผู้ใช้ปลายทางที่จะต่ออายุด้วยการแจ้งจำนวนบัญชีที่ต้องการต่ออายุกับ Google ผ่านคอนโซลผู้ดูแลระบบ ลูกค้าจะชำระเงินให้กับ Google ตามอัตราค่าบริการปัจจุบัน ณ ขณะนั้น สำหรับบัญชีผู้ใช้ปลายทางที่ต่ออายุทั้งหมด ยกเว้นกรณีที่ลูกค้าและ Google ตกลงร่วมกันเป็นอย่างอื่น ถ้า Google ไม่ประสงค์ให้มีการต่ออายุบริการ จะแจ้งให้ลูกค้าทราบถึงความประสงค์นี้อย่างเป็นลายลักษณ์อักษรอย่างน้อย 15 วันก่อนสิ้นสุดระยะเวลาของบริการปัจจุบันในขณะนั้น การแจ้งไม่ต่ออายุนี้จะมีผลเมื่อสิ้นสุดระยะเวลาของบริการปัจจุบันในขณะนั้น

      • 13.4 การขอบัญชีผู้ใช้ปลายทาง ลูกค้าสามารถขอบัญชีผู้ใช้ปลายทางโดย: (i) แจ้งผู้จัดการบัญชีของ Google ที่ได้รับมอบหมาย หรือ (ii) สั่งซื้อบัญชีผู้ใช้ปลายทางผ่านทางคอนโซลผู้ดูแลระบบ

      • 13.5 การแก้ไขอัตราค่าบริการ Google อาจแก้ไขอัตราค่าบริการสำหรับระยะเวลาของบริการถัดไป โดยแจ้งให้ลูกค้าทราบอย่างเป็นลายลักษณ์อักษร (ซึ่งรวมถึงการแจ้งผ่านอีเมล) อย่างน้อย 30 วันก่อนที่จะเริ่มต้นระยะเวลาของบริการถัดไป

    • 14 การยุติ

      • 14.1 การยุติเนื่องจากการละเมิด คู่สัญญาทั้ง 2 ฝ่ายสามารถระงับการปฏิบัติตามหรือยุติข้อตกลงนี้ได้ ถ้า: (i) อีกฝ่ายละเมิดข้อตกลงอย่างชัดเจนและไม่แก้ไขการละเมิดดังกล่าวภายใน 30 วันหลังจากได้รับการแจ้งอย่างเป็นลายลักษณ์อักษร (ii) อีกฝ่ายยุติการดำเนินธุรกิจ หรืออยู่ระหว่างการไต่สวนคดีฟ้องล้มละลาย และไม่มีการจำหน่ายคดีภายใน 90 วัน หรือ (iii) อีกฝ่ายละเมิดข้อตกลงนี้อย่างชัดเจนมากกว่า 2 ครั้ง แม้ว่าจะมีการแก้ไขการละเมิดดังกล่าวแล้วก็ตาม

      • 14.2 ผลของการยุติบริการ หากข้อตกลงนี้ยุติการใช้งาน: (i) สิทธิ์ที่คู่สัญญามีให้ต่ออีกฝ่ายจะสิ้นสุดในทันที (ยกเว้นที่กำหนดไว้ในส่วนนี้) (ii) Google จะให้สิทธิ์ในการเข้าถึงและความสามารถในการส่งออกข้อมูลของลูกค้าแก่ลูกค้าเป็นระยะเวลาที่เหมาะสมในเชิงพาณิชย์ในอัตราค่าบริการขณะนั้นของ Google สำหรับบริการนั้นๆ (iii) หลังจากระยะเวลาที่เหมาะสมในเชิงพาณิชย์ Google จะลบข้อมูลของลูกค้าโดยนำตัวชี้ไปยังข้อมูลของลูกค้าในเซิร์ฟเวอร์ที่ใช้งานของ Google ออก และเขียนทับเมื่อเวลาผ่านไป และ (iv) คู่สัญญาแต่ละฝ่ายจะส่งคืนหรือทำลายข้อมูลที่เป็นความลับอื่นๆ ทั้งหมดของอีกฝ่ายในทันที เมื่อมีการร้องขอ ถ้าลูกค้าที่ใช้แผนการชำระเงินแบบรายปียุติข้อตกลงก่อนที่จะหมดเวลาของแผนการชำระเงินรายปี Google จะเรียกเก็บเงินจากลูกค้า และลูกค้าต้องรับผิดชอบต่อการชำระเงินให้กับ Google สำหรับจำนวนเงินค้างชำระที่เหลือสำหรับข้อผูกพันรายปีของลูกค้า

    • 15 การให้ความคุ้มครอง

      • 15.1 โดยลูกค้า ลูกค้าจะให้ความคุ้มครอง ป้องกัน และดำเนินการให้ Google พ้นจากความรับผิด ความเสียหาย และค่าใช้จ่ายทั้งหมด (รวมถึงค่าระงับคดีและค่าทนายตามสมควร) ที่เกิดจากการอ้างของบุคคลที่สาม: (i) เกี่ยวกับข้อมูลของลูกค้าหรือชื่อโดเมนของลูกค้า (ii) ว่าคุณลักษณะของตราสินค้าของลูกค้าละเมิดหรือถือครองสิทธิบัตร ลิขสิทธิ์ ความลับทางการค้า หรือเครื่องหมายการค้าของบุคคลที่สามโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรือ (iii) เกี่ยวกับการใช้บริการของลูกค้าหรือผู้ใช้ปลายทางที่ละเมิดข้อตกลง

      • 15.2 โดย Google Google จะให้ความคุ้มครอง ป้องกัน และดำเนินการให้ลูกค้าพ้นจากความรับผิด ความเสียหาย และค่าใช้จ่ายทั้งหมด (รวมถึงค่าระงับคดีและค่าทนายตามสมควร) ที่เกิดจากการอ้างของบุคคลที่สามว่าเทคโนโลยีของ Google ที่ใช้ในการให้บริการ หรือคุณสมบัติของตราสินค้าของ Google ละเมิดหรือถือครองสิทธิบัตร ลิขสิทธิ์ ความลับทางการค้า หรือเครื่องหมายการค้าของบุคคลอื่นโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย แม้ว่าจะมีเงื่อนไขดังที่กล่าวมา ไม่ว่าในกรณีใดๆ ก็ตาม Google จะไม่มีภาระหน้าที่หรือความรับผิดภายใต้หัวข้อนี้ที่เกิดขึ้นจาก: (i) การใช้บริการหรือคุณสมบัติของตราสินค้าของ Google ในรูปแบบที่มีการแก้ไขหรือร่วมกับเนื้อหาที่ไม่ได้มาจาก Google และ (ii) เนื้อหา สารสนเทศ หรือข้อมูลที่มาจากลูกค้า ผู้ใช้ปลายทาง หรือบุคคลที่สาม

      • 15.3 การละเมิดที่อาจเกิดขึ้น

        • a. การซ่อมแซม ทดแทน หรือแก้ไข หาก Google เชื่ออย่างมีเหตุผลว่าบริการละเมิดสิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญาของบุคคลที่สาม Google จะ: (ก) รักษาสิทธิ์สำหรับลูกค้าเพื่อให้สามารถใช้งานบริการอย่างต่อเนื่อง โดย Google เป็นผู้แบกรับค่าใช้จ่าย (ข) ให้สิ่งทดแทนที่มีการทำงานเทียบเท่ากันซึ่งไม่ละเมิดสิทธิ์ หรือ (ค) แก้ไขบริการเพื่อไม่ให้บริการละเมิดสิทธิ์อีกต่อไป

          b. การระงับการใช้งานหรือการยุติ หาก Google เชื่อว่าตัวเลือกที่กล่าวข้างต้นไม่สมเหตุสมผลในเชิงพาณิชย์ Google สามารถระงับการใช้งานหรือยุติการใช้งานของลูกค้าสำหรับบริการที่ได้รับผลกระทบ ถ้า Google ยุติบริการที่ได้รับผลกระทบ Google จะคืนเงินให้ตามอัตราส่วนสำหรับค่าบริการที่ยังไม่มีการให้บริการและลูกค้าได้ชำระแล้ว ตามระยะเวลาหลังจากการยุติบริการดังกล่าว

      • 15.4 ทั่วไป ฝ่ายที่ขอให้มีความคุ้มครองจะต้องแจ้งให้อีกฝ่ายทราบในทันทีเกี่ยวกับข้อเรียกร้องและร่วมมือกับอีกฝ่ายในการแก้ต่างข้อเรียกร้อง ฝ่ายที่ให้ความคุ้มครองจะสามารถควบคุมและมีอำนาจเต็มในการแก้ต่าง ยกเว้น: (ก) การระงับคดีที่กำหนดให้ฝ่ายที่ขอให้มีความคุ้มครองยอมรับผิด หรือชำระเงิน จะต้องได้รับความยินยอมอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรจากฝ่ายนั้นก่อน และความยินยอมดังกล่าวจะต้องกระทำโดยไม่รีรอหรือล่าช้าโดยปราศจากเหตุผล และ (ข) อีกฝ่ายสามารถเข้าร่วมการแก้ต่างในคดีโดยมีทนายความของตนเองและแบกรับค่าใช้จ่ายเอง ภายในขอบเขตที่กฎหมายกำหนดให้ดำเนินการได้ การให้ความคุ้มครองข้างต้นเป็นการชดเชยเพียงอย่างเดียวของคู่สัญญาตามข้อตกลงนี้ สำหรับการละเมิดโดยคู่สัญญาอีกฝ่าย ต่อสิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญาของบุคคลที่สาม

    • 16 ข้อจำกัดความรับผิด

      • 16.1 ข้อจำกัดความรับผิดทางอ้อม ภายในขอบเขตที่กฎหมายกำหนดให้ดำเนินการได้ คู่สัญญาทั้ง 2 ฝ่ายจะไม่มีความรับผิดตามข้อตกลงนี้ สำหรับกรณีการสูญเสียรายได้ การขาดทุนหรือค่าใช้จ่าย หรือความเสียหายทางอ้อม กรณีพิเศษ กรณีที่เกิดขึ้นเองหรือเป็นผลจากเหตุการณ์อื่น เป็นข้อยกเว้น หรือความเสียหายที่เป็นบทลงโทษ แม้ว่าคู่สัญญานั้นๆ ได้ทราบหรือควรได้ทราบถึงโอกาสที่จะเกิดความเสียหาย การขาดทุนหรือค่าใช้จ่ายนั้นแล้ว และแม้ว่าการจ่ายค่าเสียหายโดยตรงจะไม่สามารถถือเป็นการเยียวยาได้ก็ตาม

        16.2 ข้อจำกัดเกี่ยวกับจำนวนเงินของการรับผิด ภายในขอบเขตที่กฎหมายกำหนดให้ดำเนินการได้ คู่สัญญาทั้ง 2 ฝ่ายจะไม่ต้องรับผิดภายใต้ข้อตกลงนี้เป็นจำนวนเงินเกินกว่าที่ลูกค้าชำระให้แก่ GOOGLE ตามข้อตกลงนี้ในช่วงเวลา 12 เดือนก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์อันเป็นเหตุแห่งความรับผิด

        16.3 การยกเว้นสำหรับข้อจำกัด ข้อจำกัดความรับผิดเหล่านี้จะมีผลภายในขอบเขตสูงสุดที่กฎหมายอนุญาต แต่จะไม่มีผลต่อการละเมิดภาระหน้าที่เกี่ยวกับข้อมูลที่เป็นความลับ การละเมิดสิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญาของฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดซึ่งกระทำโดยบุคคลที่สาม หรือภาระหน้าที่เกี่ยวกับการให้ความคุ้มครอง

    • 17 เบ็ดเตล็ด

      • 17.1 การแจ้ง ยกเว้นที่ระบุไว้เป็นอย่างอื่นในที่นี้ (ก) การแจ้งทั้งหมดจะต้องกระทำเป็นลายลักษณ์อักษร และส่งถึงแผนกกฎหมายและบุคคลที่ติดต่อหลักของแต่ละฝ่าย และ (ข) การแจ้งจะถือว่าได้ส่งมอบแล้ว: (i) เมื่อมีการยืนยันการรับเป็นลายลักษณ์อักษรถ้าส่งโดยผู้ส่งเอกสาร บริษัทรับส่งเอกสารด่วน หรือ เมื่อได้รับ ถ้าส่งทางไปรษณีย์โดยไม่มีการยืนยันการรับ หรือ (ii) เมื่อยืนยันด้วยการรับอัตโนมัติหรือบันทึกอิเล็กทรอนิกส์ ถ้าส่งทางโทรสารหรืออีเมล

        17.2 การมอบหมาย คู่สัญญาทั้ง 2 ฝ่ายไม่สามารถมอบหมายหรือโอนส่วนหนึ่งส่วนใดของข้อตกลงนี้หากไม่ได้รับความยินยอมจากอีกฝ่าย ยกเว้นแก่บริษัทผู้ร่วมดำเนินการ โดยมีเงื่อนไขดังนี้: (ก) ผู้รับมอบหมายยอมรับอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรที่จะมีข้อผูกพันตามข้อกำหนดของข้อตกลงนี้ และ (ข) ฝ่ายที่มอบหมายยังคงมีความรับผิดต่อภาระหน้าที่ที่เกิดขึ้นตามข้อตกลงนี้ก่อนที่จะมีการมอบหมาย การพยายามโอนหรือมอบหมายใดๆ จะถือเป็นโมฆะ

        17.3 การเปลี่ยนการควบคุม เมื่อมีการเปลี่ยนการควบคุม (เช่น การซื้อหรือขายหุ้น การควบรวมบริษัท หรือการทำธุรกรรมองค์กรในรูปแบบอื่นใด) นอกเหนือจากการปรับโครงสร้างหรือปรับองค์กรเป็นการภายในของ Google และบริษัทผู้ร่วมดำเนินการ: (ก) คู่สัญญาฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดที่มีการเปลี่ยนการควบคุมจะต้องแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรถึงคู่สัญญาอีกฝ่ายภายใน 30 วัน นับแต่วันที่มีการเปลี่ยนการควบคุม และ (ข) คู่สัญญาอีกฝ่ายสามารถยุติข้อตกลงนี้ได้ทันทีในระหว่างที่มีการเปลี่ยนการควบคุม และภายใน 30 วันนับจากได้รับการแจ้งอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรตามหัวข้อย่อย (ก)

        17.4 สิ่งที่อยู่เหนือการควบคุม คู่สัญญาทั้ง 2 ฝ่ายไม่มีส่วนรับผิดต่อการปฏิบัติที่ไม่เพียงพอ ภายในขอบเขตที่เกิดจากสภาวะ (ตัวอย่างเช่น ภัยธรรมชาติ สงครามหรือการก่อการร้าย จราจล สถานการณ์ด้านแรงงาน การดำเนินการของภาครัฐ และความขัดข้องของอินเทอร์เน็ต) ซึ่งอยู่นอกเหนือความควบคุมในวิสัยของคู่สัญญาทั้ง 2 ฝ่าย

        17.5 ไม่มีการสละสิทธิ์ การไม่บังคับใช้ข้อบัญญัติใดๆ ในข้อตกลงนี้ไม่ถือเป็นการสละสิทธิ์

        17.6 การเป็นโมฆะบางส่วน ถ้ามีบทบัญญัติใดในข้อตกลงนี้ไม่สามารถบังคับใช้ได้ ส่วนอื่นๆ ที่เหลือของข้อตกลงนี้จะยังคงมีผลบังคับอย่างสมบูรณ์

        17.7 ไม่มีตัวแทน คู่สัญญาต่างเป็นผู้รับเหมาอิสระ และข้อตกลงนี้จะไม่ทำให้เกิดตัวแทน พันธมิตรทางธุรกิจ หรือกิจการร่วมค้า

        17.8 ไม่มีผู้รับผลประโยชน์ที่เป็นบุคคลที่สาม ยกเว้นที่ระบุไว้เป็นอย่างอื่นอย่างชัดเจน ไม่มีส่วนใดในข้อตกลงนี้ที่จะทำให้เกิดหรือให้สิทธิ์และผลประโยชน์ซึ่งจะสนับสนุนบุคคลอื่นนอกเหนือจากคู่สัญญาของข้อตกลงนี้

        17.9 การเยียวยาที่สามารถกระทำได้ ไม่มีส่วนใดในข้อตกลงนี้ที่จำกัดสิทธิ์ของคู่สัญญาในการแสวงหาการเยียวยาที่สามารถกระทำได้

      • 17.10 กฎหมายที่บังคับใช้

        • a. สำหรับลูกค้าที่มีการเรียกเก็บเงินในออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ อินเดีย ญี่ปุ่น สิงคโปร์ ข้อตกลงนี้เป็นไปตามกฎหมายของแคลิฟอร์เนีย โดยยกเว้นกฎสำหรับการเลือกกฎหมายของแคลิฟอร์เนีย สำหรับข้อพิพาทที่เกิดจาก หรือเกี่ยวข้องกับข้อตกลง คู่สัญญายินยอมที่จะอยู่ภายใต้เขตอำนาจศาลอันเป็นส่วนบุคคลและเฉพาะตัวของศาลที่อยู่ในซานตาคลาราเคาท์ตี แคลิฟอร์เนีย

          b. สำหรับลูกค้าอื่นๆ ทั้งหมดที่มีการเรียกเก็บเงินในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ข้อตกลงนี้เป็นไปตามกฎหมายของแคลิฟอร์เนีย โดยยกเว้นกฎสำหรับการเลือกกฎหมายของแคลิฟอร์เนีย ทุกฝ่ายเห็นพ้องว่าจะพยายามอย่างสุดความสามารถในการประนีประนอมข้อพิพาทเกี่ยวกับข้อตกลงนี้ (“ข้อพิพาท”) ภายใน 30 วันหลังจากที่เกิดข้อพิพาทขึ้น หากข้อพิพาทไม่ได้รับการคลี่คลายภายใน 30 วัน ข้อพิพาทดังกล่าวจะต้องได้รับการไกล่เกลี่ยโดยอนุญาโตตุลาการตาม International Centre for Dispute Resolution of the American Arbitration Association และปฏิบัติตาม Expedited Commercial Rules ที่มีผลบังคับ ณ วันที่ของข้อตกลงนี้ โดยจะมีอนุญาโตตุลาการ 1 ท่านที่คัดเลือกตามข้อตกลงร่วมกันของคู่สัญญา การไกล่เกลี่ยจะดำเนินการเป็นภาษาอังกฤษในซานตาคลาราเคาท์ตี รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา คู่สัญญาแต่ละฝ่ายสามารถอุทธรณ์ต่อศาลที่มีเขตอำนาจเพื่อขอการบรรเทาทุกข์โดยคำสั่งห้ามที่มีความจำเป็นในการปกป้องสิทธิ์ของตนในระหว่างที่รอข้อยุติของอนุญาโตตุลาการ การตัดสินใจใดก็ตามที่มอบให้ไว้โดยอนุญาโตตุลาการจะถือเป็นที่สิ้นสุดและผูกพันคู่สัญญาทั้ง 2 ฝ่าย และคำตัดสินในเรื่องดังกล่าวอาจมอบให้โดยศาลใดก็ได้ที่มีเขตอำนาจ อนุญาโตตุลาการอาจสั่งให้มีการบรรเทาทุกข์อย่างยุติธรรมหรือโดยคำสั่งห้ามซึ่งสอดคล้องกับการชดเชยและข้อจำกัดต่างๆ ในข้อตกลงนี้ ข้อมูลทั้งหมดที่เปิดเผยอันเกี่ยวข้องกับการไกล่เกลี่ย รวมถึงความมีอยู่ของอนุญาโตตุลาการจะถือเป็นข้อมูลที่เป็นความลับซึ่งอยู่ภายใต้บังคับของหัวข้อ 6 ของข้อตกลงนี้ อย่างไรก็ตาม คู่สัญญาสามารถเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวนี้ให้แก่ศาลที่มีความเหมาะสมภายใต้ข้อกำหนดเรื่องการรักษาข้อมูลที่เป็นความลับตามที่จำเป็นเพื่อขอการบังคับใช้คำชี้ขาดหรือคำตัดสินของอนุญาโตตุลาการ หรือเพื่อแสวงหาการบรรเทาทุกข์ใดๆ ตามที่ได้รับอนุญาตภายใต้เงื่อนไขของข้อตกลงนี้

      • 17.11 การแก้ไข การแก้ไขใดๆ จะต้องกระทำเป็นลายลักษณ์อักษร และต้องระบุอย่างชัดเจนว่าเป็นการแก้ไขข้อตกลงนี้

        17.12 การบังคับใช้ในภายหลัง หัวข้อต่อไปนี้จะยังคงมีผล แม้ว่าข้อตกลงนี้จะหมดอายุหรือยุติลง: หัวข้อ 3, 6, 7.1, 11.2, 12, 13, 14 และ 15

        17.13 ข้อตกลงฉบับสมบูรณ์ ข้อตกลงนี้และเอกสารทั้งหมดที่อ้างถึงในที่นี้ เป็นข้อตกลงทั้งหมดของคู่สัญญา เกี่ยวกับหัวเรื่องนั้นๆ และมีผลเหนือข้อตกลงที่มีอยู่ก่อนหน้าหรือในขณะเดียวกันในหัวเรื่องนั้นๆ ข้อกำหนดใน URL ใดที่อ้างอิงถึงในข้อตกลงนี้ ให้ถือว่ามีการรวมไว้ในที่นี้ด้วย

        17.14 การตีความข้อกำหนดที่ขัดแย้งกัน หากมีข้อขัดแย้งระหว่างเอกสารที่ประกอบเป็นข้อตกลงนี้ เอกสารจะมีผลบังคับตามลำดับ ได้แก่ แบบฟอร์มคำสั่งซื้อ ข้อตกลง และข้อกำหนดที่อยู่ใน URL หากลูกค้าลงชื่อในข้อตกลงฉบับพิมพ์กับ Google เพื่อรับบริการ ข้อตกลงฉบับพิมพ์นั้นจะมีผลเหนือกว่าข้อตกลงออนไลน์นี้

        17.15 สำเนาคู่ คู่สัญญาทั้ง 2 ฝ่ายจะทำข้อตกลงนี้เป็นสำเนาที่เหมือนกันทั้งหมด รวมถึงการใช้โทรสาร, PDF, หรือสำเนาอิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ ซึ่งเมื่อใช้ร่วมกันจะถือเป็นเอกสารทางกฎหมาย 1 ฉบับ

    • 18 คำนิยาม

      • " นโยบายการใช้งานที่ยอมรับได้" หมายถึงนโยบายการใช้งานที่ยอมรับได้สำหรับบริการที่มีใน  https://workspace.google.com/terms/use_policy.html  หรือ URL อื่นที่ Google อาจแจ้งให้ทราบ

        " ผู้จัดการบัญชี" หมายถึงบุคลากรด้านธุรกิจของ Google ที่ทำงานร่วมกับลูกค้าเกี่ยวกับการซื้อบริการของลูกค้า

        " บัญชีผู้ดูแลระบบ" หมายถึงบัญชีสำหรับการดูแลระบบที่มีให้โดย Google แก่ลูกค้าเพื่อวัตถุประสงค์ในการดูแลบริการ การใช้บัญชีผู้ดูแลระบบต้องใช้รหัสผ่าน ซึ่ง Google จะจัดให้แก่ลูกค้า

        " คอนโซลผู้ดูแลระบบ" หมายถึงเครื่องมือออนไลน์ที่มีให้โดย Google แก่ลูกค้าเพื่อใช้ในการรายงานและฟังก์ชันการดูแลระบบอื่นๆ

        " ผู้ดูแลระบบ" หมายถึงบุคลากรด้านเทคนิคที่ลูกค้ากำหนดซึ่งดูแลระบบบริการแก่ผู้ใช้ปลายทางในนามของลูกค้า

        " โฆษณา" หมายถึงโฆษณาออนไลน์ที่แสดงแก่ผู้ใช้ปลายทางโดย Google ยกเว้นโฆษณาที่มาจากผลิตภัณฑ์โฆษณาใดๆ ที่ไม่ใช่ส่วนหนึ่งของบริการ (เช่น Google AdSense) ซึ่งลูกค้าเลือกที่จะใช้กับบริการ

        " บริษัทผู้ร่วมดำเนินการ" สำหรับคู่สัญญาแต่ละฝ่าย หมายถึง: (ก) บริษัทแม่ของคู่สัญญาทั้ง 2 ฝ่าย และ (ข) โครงสร้างองค์กรที่คู่สัญญาทั้ง 2 ฝ่ายมีอำนาจควบคุมโดยตรงหรือโดยอ้อม หรือมีการควบคุมโดยตรงหรือโดยอ้อมจากบุคคลหรือกลุ่มของบุคคลเดียวกับคู่สัญญาฝ่ายนั้น

        " คุณลักษณะของตราสินค้า" หมายถึงชื่อทางการค้า เครื่องหมายการค้า เครื่องหมายบริการ โลโก้ ชื่อโดเมน และคุณลักษณะของตราสินค้าที่เป็นเอกลักษณ์ของแต่ละฝ่าย ตามที่กำหนดโดยฝ่ายนั้นๆ ในเวลาต่างๆ (และหากฝ่ายหนึ่งคือ Google คุณลักษณะของตราสินค้าจะรวมถึงคุณลักษณะของตราสินค้าของบริษัทผู้ร่วมดำเนินการของ Google)

        " ข้อมูลที่เป็นความลับ" หมายถึงข้อมูลที่เปิดเผยโดยฝ่ายหนึ่งแก่อีกฝ่าย ตามข้อตกลงนี้ที่มีการระบุว่าเป็นความลับ หรือถือเป็นความลับในกรณีปกติตามสถานการณ์นั้นๆ ข้อมูลของลูกค้าคือข้อมูลที่เป็นความลับของลูกค้า

        " ข้อมูลของลูกค้า" หมายถึงข้อมูลต่างๆ รวมถึงอีเมล ที่มีให้ สร้างขึ้น ส่งผ่านหรือแสดงผ่านทางบริการโดยลูกค้าหรือผู้ใช้ปลายทาง

        " ชื่อโดเมนของลูกค้า" หมายถึงชื่อโดเมนที่ลูกค้าเป็นเจ้าของหรือควบคุม ซึ่งใช้ร่วมกับบริการและระบุไว้ในแบบฟอร์มการสั่งซื้อ

        " ปัญหาด้านความปลอดภัยที่เป็นกรณีฉุกเฉิน" หมายถึงข้อใดข้อหนึ่งต่อไปนี้: (ก) การใช้บริการของลูกค้าในลักษณะที่ละเมิดนโยบายการใช้งานที่ยอมรับได้ ซึ่งอาจรบกวน: (i) บริการ (ii) การใช้บริการของลูกค้ารายอื่น หรือ (iii) เครือข่ายหรือเซิร์ฟเวอร์ของ Google ที่ใช้เพื่อให้บริการ หรือ (ข) การเข้าถึงบริการของบุคคลที่สามโดยไม่ได้รับอนุญาต

        " ผู้ใช้ปลายทาง" หมายถึงบุคคลที่ลูกค้าอนุญาตให้ใช้บริการ

        บัญชีผู้ใช้ปลายทาง หมายถึงบัญชีที่ Google ให้บริการซึ่งกำหนดโดยลูกค้าผ่านบริการสำหรับผู้ใช้ปลายทาง

        " กฎหมายเกี่ยวกับการควบคุมการส่งออก" หมายถึงกฎหมายและระเบียบข้อบังคับที่ควบคุมการส่งออกและการส่งออกซ้ำทั้งหมด รวมถึง Export Administration Regulations ("EAR") ที่บังคับใช้โดยกระทรวงพาณิชย์ของประเทศสหรัฐอเมริกา การลงโทษทางการค้าและเศรษฐกิจที่บังคับใช้โดยสำนักงานควบคุมสินทรัพย์ในต่างประเทศของกระทรวงการคลังของประเทศสหรัฐอเมริกา และ International Traffic in Arms Regulations ("ITAR") ที่บังคับใช้โดยกระทรวงการต่างประเทศของประเทศสหรัฐอเมริกา

        " ค่าธรรมเนียม" หมายถึงจำนวนเงินที่ Google เรียกเก็บกับลูกค้าเป็นค่าบริการตามที่อธิบายในแบบฟอร์มการสั่งซื้อ

        " ศูนย์ช่วยเหลือ" หมายถึงศูนย์ช่วยเหลือของ Google ที่สามารถเข้าถึงได้ที่ http://www.google.com/support/  หรือ URL อื่นๆ ที่ Google อาจมีให้

        " กิจกรรมที่มีความเสี่ยงสูง" หมายถึงการใช้งาน เช่น การปฏิบัติการในหน่วยงานด้านนิวเคลียร์ การควบคุมการจราจรทางอากาศ หรือระบบช่วยชีวิต ซึ่งการใช้งานหรือการทำงานล้มเหลวของบริการอาจนำไปสู่การเสียชีวิต การบาดเจ็บ หรือความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อม

        HIPAA หมายถึงกฎหมาย Health Insurance Portability and Accountability Act ปี 1996 ซึ่งอาจมีการแก้ไขในบางเวลา และระเบียบข้อบังคับใดๆ ที่ออกภายใต้กฎหมายนี้

        " ระยะเวลาบริการเริ่มต้น" หมายถึงระยะเวลาในการให้บริการที่เกี่ยวข้อง โดยเริ่มในวันเริ่มให้บริการและดำเนินการต่อไปตามช่วงระยะเวลาที่กำหนดไว้ในแบบฟอร์มการสั่งซื้อ

        " สิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญา" หมายถึงสิทธิ์ทั่วโลกทั้งในปัจจุบันและอนาคตตามกฎหมายสิทธิบัตร กฎหมายลิขสิทธิ์ กฎหมายว่าด้วยเครื่องหมายการค้า กฎหมายสิทธิ์โดยชอบธรรมและสิทธิ์อื่นๆ ที่คล้ายกัน

        " ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช่ Google Workspace" หมายถึงผลิตภัฑณ์ Google ที่ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของบริการ แต่อาจเข้าถึงได้โดยผู้ใช้ปลายทาง โดยใช้การลงชื่อเข้าใช้และรหัสผ่านของผู้ใช้ปลายทาง ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช่ Google Workspace คือผลิตภัณฑ์ที่กำหนดไว้ที่ URL www.google.com/support/a/bin/answer.py?answer=181865  หรือ URL อื่นๆ ที่ Google อาจแจ้งให้ทราบ

        " ข้อกำหนดสำหรับผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช่ Google Workspace" หมายถึงข้อกำหนดที่มีให้ใน URL ต่อไปนี้  https://workspace.google.com/terms/additional_services.html  หรือ URL อื่นที่ Google อาจแจ้งให้ทราบ

        " ที่อยู่อีเมลสำหรับการแจ้งเตือน" หมายถึงที่อยู่อีเมลที่ลูกค้ากำหนดเพื่อรับการแจ้งเตือนทางอีเมลจาก Google ลูกค้าสามารถเปลี่ยนที่อยู่อีเมลนี้ได้ผ่านทางคอนโซลผู้ดูแลระบบ

        " แบบฟอร์มการสั่งซื้อ" หมายถึงหน้าคำสั่งซื้อออนไลน์หรือเอกสารการสั่งซื้ออื่นๆ ที่เป็นที่ยอมรับของ Google ตามข้อตกลงนี้ ซึ่งลูกค้ากรอกข้อมูลเมื่อลงชื่อสมัครใช้และระบุบริการ โดย Google จะให้บริการแก่ลูกค้าภายใต้ข้อตกลงนี้ และอาจรวมถึง (i) ข้อกำหนดในการเรียกเก็บเงินและการต่ออายุ (ii) ค่าธรรมเนียม (iii) จำนวนและระยะเวลาของบริการเริ่มต้นของบัญชีผู้ใช้ปลายทาง (iv) วิธีชำระเงินที่ใช้ได้ และ (v) ชื่อโดเมนของลูกค้า

        " วันที่เริ่มต้นบริการ" คือวันที่ Google จัดให้ลูกค้าใช้บริการได้ วันที่นี้จะอยู่ในระยะ 1 สัปดาห์นับจากที่ Google ได้รับแบบฟอร์มการสั่งซื้อที่มีข้อมูลครบถ้วน ยกเว้นกรณีที่คู่สัญญาตกลงไว้เป็นอย่างอื่น

        " หน้าเว็บบริการ" หมายถึงหน้าเว็บที่แสดงบริการแก่ผู้ใช้ปลายทาง

        " ข้อกำหนดเฉพาะของบริการ" หมายถึงข้อกำหนดระบุบริการมากกว่า 1 บริการที่ https://workspace.google.com/terms/service-terms/

        " บริการ" หมายถึงบริการหลักที่เกี่ยวข้องของ Google Workspace (เช่น Google Workspace Premier Edition หรือ Google Workspace และ Google ห้องนิรภัย) ที่ Google จัดหาให้และใช้โดยผู้ใช้ภายใต้ข้อตกลงฉบับนี้ โปรดดูคำอธิบายบริการที่ https://workspace.google.com/terms/user_features.html  หรือ URL อื่นที่ Google อาจแจ้งให้ทราบ

        " ระยะเวลาของบริการ" หมายถึงระยะเวลาบริการเริ่มต้นและระยะเวลาต่ออายุสำหรับบริการที่เกี่ยวข้อง

        " SLA" หมายถึงข้อตกลงระดับการให้บริการใน https://workspace.google.com/terms/sla.html  หรือ URL อื่นๆ ที่ Google อาจแจ้งให้ทราบ

        " ระงับ" หมายถึงการปิดการเข้าถึงบริการหรือบางส่วนของบริการ ตามแต่กรณี ในทันทีเพื่อป้องกันการใช้บริการ

        " ภาษี" หมายถึงอากร ภาษีศุลกากร หรือภาษี (นอกเหนือจากภาษีเงินได้ของ Google) ที่เชื่อมโยงกับการขายบริการ รวมถึงค่าปรับและดอกเบี้ยที่เกี่ยวข้อง

        " ข้อกำหนด" หมายถึงข้อกำหนดของข้อตกลง ซึ่งจะเริ่มต้น ณ วันที่มีผลต่อเนื่องไปจนถึง (i) การสิ้นสุดระยะเวลาของบริการ หรือ (ii) ข้อตกลงสิ้นสุดลงตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในที่นี้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่าข้อใดเกิดขึ้นก่อน

        " คำขอของบุคคลที่สาม" หมายถึงคำขอจากบุคคลที่สามสำหรับระเบียนข้อมูลเกี่ยวกับการใช้บริการของผู้ใช้ปลายทาง คำขอของบุคคลที่สามอาจเป็นหมายค้นตามกฎหมาย คำสั่งศาล หมายศาล คำสั่งตามกฎหมายที่มีผลบังคับอื่นๆ หรือคำยินยอมอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรจากผู้ใช้ปลายทางที่อนุญาตให้มีการเปิดเผย

        " TSS" หมายถึงบริการสนับสนุนทางเทคนิคที่มีให้โดย Google แก่ผู้ดูแลระบบระหว่างระยะเวลาตามหลักเกณฑ์ TSS

        " หลักเกณฑ์ TSS" หมายถึงหลักเกณฑ์ของบริการสนับสนุนด้านเทคนิคของ Google ที่มีผลในขณะนั้นสำหรับบริการ โปรดดูหลักเกณฑ์ TSS ที่ URL https://workspace.google.com/terms/tssg.html  หรือ URL อื่นที่ Google อาจแจ้งให้ทราบ

        " ข้อกำหนดของ URL" หมายถึง "นโยบายการใช้งานที่ยอมรับได้", "ข้อตกลงระดับการให้บริการ" และ "หลักเกณฑ์ TSS"

  • เวอร์ชันพฤศจิกายน 2018

Design a Mobile Site
View Site in Mobile | Classic
Share by: