พร้อมไป (PromptPai)เป็นการระบุตำแหน่งสถานที่โดยใช้ตัวเลข (Map code) แทนข้อมูลที่อยู่แบบเดิม ซึ่งยาวและไม่แม่นยำ รหัสพร้อมไป มี 2 รูปแบบ คือ
นอกจากนี้ รหัสพร้อมไปยังสามารถแสดงได้ในรูปแบบ QR Code ให้สแกนกันได้ง่าย ๆ อีกด้วย(คิดภาพว่าข้ึน Taxi แล้วส่งรหัสพร้อมไปให้ เป็นอันเข้าใจตำแหน่งเดียวกันได้เลย)
ตัวอย่างข้างต้น เป็นรหัสพร้อมไปของ สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน)
ตัวอย่างการใช้งาน
- ใช้รหัสพร้อมไปในการระบุตำแหน่งที่อยู่ แทนที่จะต้องให้ลูกค้าพิมพ์ที่อยู่ หรือ วาดแผนที่ เพื่อส่งสินค้า
- ใช้รหัสพร้อมไปในการระบุตำแหน่งจุดหมายปลายทางที่ต้องการเดินทาง เวลาขึ้นรถแท็กซี่ หรือ รถโดยสารสาธารณะอื่นๆ ฯลฯ
ทดลองใช้ได้ที่: https://promptpai.com/
ผู้พัฒนาระบบแอปหรือเว็บ สามารถเชื่อมโยงข้อมูลจากระบบพร้อมไป ไปใช้ และสามารถเรียกใช้ API ได้จากเว็บพร้อมไป https://promptpai.com/ws ได้ทันที
ระบบนี้พัฒนาโดยคนไทย สำหรับคนไทยและชาวต่างชาติที่ต้องการจำเลขสถานที่ง่ายๆและจะเป็นข้อมูลแบบเปิด (open data) สถานที่ทั้งหมดที่เกิดจากผู้ใช้จะถูกเผยแพร่แบบสาธารณะ (ยกเว้นสถานที่ส่วนตัว) ไม่ผูกติดกับซอฟต์แวร์หรือลิขสิทธิ์ของบริษัทต่างชาติใดๆ
อีกทั้งผู้ใช้สามารถใช้งานรหัสพร้อมไปได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายด้วยครับ
อ้างอิงข่าวจาก: https://map.longdo.com/blog/2019/10/15/promptpai/
Comments
มันต่างยังไงกับส่งลิงค์ google map รึครับ
ต่างกันหลายอย่างอยู่ครับ
บางกรณีส่ง link ไม่สะดวก เช่น ขึ้นรถแท็กซี่จะบอกจุดหมายปลายทาง หรือ กรอกแบบฟอร์มส่งของ (ที่ปัจจุบันต้องกรอกบ้านเลขที่, ถนน อะไรยืดยาว เปลี่ยนเป็นกรอกเลข 8 หลัก เลขเดียวจบ
กรณีที่ส่ง link ได้ง่ายๆ การส่ง Google Maps URL ก็ดูจะสะดวกดี แต่ปัญหาคือ ข้อมูลทั้งหมดอยู่กับ Google ซึ่งเป็นบริษัทเอกชนจากประเทศสหรัฐอเมริกา เราแค่ใช้บริการของเค้าได้ตามช่องทางที่เขากำหนด (ซึ่งบางทีมีค่าใช่จ่าย)
ส่วนพร้อมไป ฐานข้อมูลที่อยู่ที่เกิดขึ้นเป็น Open data ทุกฝ่ายสามารถนำไปใช้ได้ครับ จะเอาไปต่อยอดยังไงก็ทำได้
สรุปว่าต้องเข้าไป generate ที่อยู่ของตัวเองก่อนแล้วบอกเขาเป็นรหัส น่าจะเป็นไปได้อยู่มั้ง เหมือนช่วนรัฐทำ database
ใช่ครับ (ต้องเข้าไป generate รหัสสำหรับที่อยู่ตัวเองก่อน) หรือจะใช้รหัสที่มีคนอื่นทำไว้แล้ว (แบบสาธารณะ ไม่ใช่สถานที่ส่วนตัว) ก็ได้ครับ
แต่ไม่ใช่ตรงไม่ใช่ภาครัฐนะครับ อันนี้บริษัทเอกชนสัญชาติไทย
แนะนำให้เรียบเรียงใหม่นะครับ อ่านแล้วยังงงอยู่มาก ไม่เข้าใจว่าแก้ pain point อะไร มันมีประโยชน์ยังไง (โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับแอพแผนที่ที่ทุกคนมีมันติดเครื่องอยู่แล้ว) เอาไปประยุกต์ใช้อะไรได้บ้าง
เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!