เทคโนโลยีช่วยขับขี่อัตโนมัตินับเป็นเทคโนโลยีที่คนจำนวนมากรอคอย เพราะจะช่วยทำให้การขับขี่บนท้องถนนมีความปลอดภัยมากขึ้น ลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุได้ หรือแม้กระทั่งทำให้การจราจรคล่องตัวมากขึ้น โดยเทคโนโลยีขับขี่อัตโนมัตินั้นอาจจะแบ่งออกเป็น 5 ระดับ ได้แก่
- ระดับ 1 ระบบช่วยขับ: เช่น คุมความเร็วรถ (cruise control), เบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ
- ระดับ 2 ช่วยขับบางส่วน: ตัวรถขับขี่ได้เองในบางภาวะ เช่น เคลื่อนตัวตามรถติดอัตโนมัติ
- ระดับ 3 ขับขี่ได้ทั้งหมดอย่างมีเงื่อนไข: ผู้ขับขี่ต้องพร้อมเข้าควบคุมรถตลอดเวลา แม้ปกติแล้วรถจะขับไปด้วยตัวเอง
- ระดับ 4 ขับขี่ด้วยตัวเองแทบทั้งหมด: รถสามารถเดินทางอัตโนมัติได้ แต่อาจขอความช่วยเหลือผู้ขับขี่บางเวลาเท่านั้น ผู้ขับขี่ไม่ต้องสนใจถนนหากรถไม่ได้ร้องขอแต่อย่างใด
- ระดับ 5 รถอัตโนมัติเต็มรูปแบบ: ไม่ต้องมีผู้ขับขี่อีกต่อไป รถบางรุ่นอาจจะไม่มีแม้แต่พวงมาลัย
NEW MG HS รถ SUV ที่มาพร้อมกับระบบช่วยขับขี่ Advanced Driver Assistance System (ADAS) ที่มีระบบย่อยถึง 11 ระบบ และระบบความปลอดภัย Synchronized Protection System อีก 14 ระบบ ทำให้ NEW MG HS เป็นรถที่มีระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติในระดับที่ 2 ซึ่งนอกจากจะมีเทคโนโลยีความปลอดภัยมากมาย ดีไซน์สวยงามแล้ว ยังมีราคาที่จับต้องได้ในช่วงหนึ่งล้านบาทกว่าๆ เท่านั้น
ระบบ ADAS ของ NEW MG HS แบ่งตามกลุ่มฟีเจอร์ออกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มระบบที่ช่วยป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดจากมุมอับสายตา RDA (Rear Drive Assist), กลุ่มระบบเตือนและควบคุมให้รถอยู่ในเลน LAS (Lane Assist System), และกลุ่มระบบที่ช่วยในการขับขี่ FDA (Front Drive Assist)
RDA ป้องกันอุบัติเหตุจากมุมอับ
RDA (Rear Drive Assist) เป็นกลุ่มระบบที่อาศัยเซ็นเซอร์ด้านหลังรถ ตรวจจับรถหรือวัตถุอื่นที่กำลังเข้าใกล้รถ ทำการเตือนให้ผู้ขับขี่รับรู้แม้จะเป็นมุมอับที่มองไม่เห็นจากกระจกหลัง กระจกข้าง หรือบางครั้งไม่ทันระวัง เช่น การเปิดประตูรถ กลุ่มระบบนี้แบ่งออกเป็น 4 ระบบย่อยได้แก่
- ระบบช่วยเตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน LCA (Lane Change Assist) เซ็นเซอร์ด้านหลังจะตรวจจับว่ามีรถกำลังเข้ามาใกล้รถของเราหรือไม่ โดยจะเตือนระหว่างผู้ขับขี่เปิดไฟเลี้ยวเพื่อเปลี่ยนเลน
- ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา BSD (Blind Spot Detection) ช่วยแจ้งเตือนว่ามีรถในมุมอับสายตาที่ผู้ขับขี่อาจมองไม่เห็น ทำงานอัตโนมัติเมื่อขับรถเร็วกว่า 30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
- ระบบช่วยเตือนขณะถอยหลัง RCTA (Rear Cross Traffic Alert) เตือนสิ่งผิดปกติด้านหลังขณะถอย ทำงานอัตโนมัติเมื่อถอยด้วยความเร็วต่ำกว่า 9 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
- ระบบช่วยเตือนการเปิดประตู DOW (Door Open Warning) ลดอุบัติเหตุจากการที่มีรถกำลังแซงขณะเปิดประตูด้วยการแจ้งเตือนรถด้านหลังทั้งซ้ายและขวาขณะรถหยุดนิ่ง
LAS ช่วยเตือนและช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน เพิ่มความปลอดภัย
LAS (Lane Assist System) เป็นกลุ่มระบบที่อาศัยกล้องหน้ารถที่ติดตั้งอยู่ในกระจกมองหลัง ช่วยจับภาพสภาพถนนและเส้นแบ่งเลนอัตโนมัติ ทำให้สามารถช่วยควบคุมพวงมาลัยให้รถตรงเลนตลอดเวลา โดยระบบจะทำงานเมื่อความเร็วรถมากกว่า 60 กม./ชม ประกอบด้วย
- ระบบช่วยเตือนรถออกนอกเลน LDW (Lane Departure Warning) เตือนทั้งในรูปแบบเสียง พร้อมแสดงรูปภาพบนหน้าปัด และมีการสั่นที่พวงมาลัย เพื่อเตือนผู้ขับขี่ให้แก้ไขทิศทางของรถ
- ระบบควบคุมเมื่อรถออกนอกเลน LDP (Lane Departure Prevention) เป็นระบบจะช่วยควบคุมและปรับองศาพวงมาลัย เพื่อให้รถกลับมาอยู่ในเลน หากล้อรถใกล้จะทับเส้นหรือทับเส้นแล้ว
- ระบบควบคุมให้อยู่ในเลน LKA (Lane Keep Assist) ช่วยควบคุมรถให้รถอยู่ตรงกลางเลนตลอดเวลา และหากตรวจพบว่าผู้ขับขี่ไม่ได้ควบคุมพวงมาลัยอย่างต่อเนื่อง ระบบจะส่งสัญญาณเสียงเตือน พร้อมแสดงสัญลักษณ์บนแผงหน้าปัด เพื่อเตือนให้ผู้ขับขี่จับพวงมาลัย
FDA กลุ่มระบบที่ช่วยในการขับขี่
FDA (Front Drive Assist) เป็นกลุ่มฟีเจอร์อัตโนมัติที่อาศัยทั้งกล้องด้านหน้าและเรดาร์เพื่อตรวจจับวัตถุด้านหน้า แบ่งเป็น 4 ระบบ ดังนี้
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ACC (Adaptive Cruise Control) เปิดให้ผู้ขับขี่ตั้งความเร็วรถที่ต้องการ พร้อมกับระยะห่างจากรถคันหน้าได้ เมื่อพบรถคันหน้าที่ขับช้ากว่าที่ตั้งไว้ รถจะลดความเร็วได้เองพร้อมทิ้งระยะห่าง
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ TJA (Traffic Jam Assist) ระบบช่วยขับขณะรถติด โดยจะควบคุมความเร็วให้รถเคลื่อนที่ตามรถคันหน้าโดยอัตโนมัติ
- ระบบช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถยนต์คันหน้าในขณะขับขี่ FCW (Forward Collision Warning) ระบบจะช่วยเตือนหากพบว่าอยู่ใกล้รถยนต์คันหน้าเกินไปและเสี่ยงต่อการชน ด้วยการส่งสัญญาณเสียงพร้อมแสดงข้อความเตือนบนหน้าปัด เพื่อให้ผู้ขับขี่ชะลอความเร็วหรือเบรก
- ระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ IHC (Intelligent High-Beam Control) หากระบบตรวจพบว่าถนนมีไฟส่องสว่างไม่เพียงพอ และไม่มีรถสวนทางมา ระบบจะเปิดไฟสูงให้อัตโนมัติ และลดไฟลงทันทีเมื่อพบรถสวนทางมา ป้องกันการรบกวนผู้ร่วมถนนคันอื่นๆ
จากฟีเจอร์ทั้งหมด ทำให้เห็นว่าแม้ NEW MG HS ยังเป็นรถอัตโนมัติระดับสองที่ยังต้องอาศัยผู้ขับขี่ควบคุมรถตลอดเวลา แต่ทุกฟีเจอร์ก็ช่วยแจ้งเตือนผู้ขับขี่ในจุดที่อาจจะพลาดไปได้ ช่วยให้การขับขี่มีความปลอดภัยขึ้นอย่างมาก และการมีระบบอัตโนมัติเช่นนี้เป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนาไปสู่ระบบอัตโนมัติระดับสูงขึ้นไปในอนาคต
สนใจสัมผัสระบบรถอัตโนมัติระดับที่สองของ NEW MG HS สามารถติดต่อศูนย์ MG ใกล้บ้านเพื่อทดสอบ NEW MG HS ได้แล้ววันนี้ที่ศูนย์ MG ทั่วประเทศ
Comments
ใช้ดีครับ
พาดหัวว่าราคาสุดคุ้ม แต่เนื้อหาไม่มีราคา
เดี๋ยวคนขายก็จะมาแปะว่า
in box ครับ
^_^
กี่ล้าน
หรือ ผู้เขียนต้องการให้ถามแบบนี้ ???
#อวยMG
Coder | Designer | Thinker | Blogger
A: ใช้ MG HS ขับ ๆ อยู่ สักพัก ไม่ต้องขยับพวงมาลัย ก็ถึงที่ทำงานได้ เท่ไหมล่ะ
B: เฮ้ย มันขับให้เองได้ สุดยอดไปเลยครัช
A: เปล่า รถเสีย ขึ้นยานแม่ แล้วให้ยานแม่ไปส่งที่ทำงานด้วย
Coder | Designer | Thinker | Blogger
ผมใช้จริง ขับมา 10000 km ไม่เคยมีปัญหาอะไรเลยครับคุณโพสความเท็จนี่มีความรับผิดชอบไหมครับ
คุณไม่เจอ แต่ไม่ใช่ว่าคนอื่นจะไม่เจอนะครับ
ผมไม่ได้พูดความเท็จ เพราะยี่ห้อนี้ปัญหามันเยอะจริง ก่อนคุณจะมาว่า (หรืออวย) คุณควรหาข้อมูลมาก่อนนะครับ
Coder | Designer | Thinker | Blogger
ขออนุญาตแสดงความคิดเห็นแบบไร้แก่นสาร
หนึ่งหมัดจุก ๆ
เล่นมุกใช่ไหมครับ
ให้ถึงแสนโลค่อยคุยอีกทีครับ หมื่นโลมันแค่เริ่มต้นเอง
แสนโลผมเปลี่ยนรถละครับ ไม่ต้องเป็นห่วง ปกติรถเก๋งผมใช้ไม่เกิน 7 ปีอยู่ละ
โห ผมนี้ใช้ไปดวงจันทร์ได้ทุกคัน
7ปี วิ่งไม่ถึงแสนโล ถึงว่ากล้าใช้ MG
ผมว่าไม่น่าจะถึงแสนโล ปกติคงไม่ค่อยจะได้ขับ
อยู่แต่อู่กับบนรถสไลด์
เพื่อนผมรถดับกลางสี่แยกไฟแดงมาแล้วครับ ยี่ห้อนี้
กับอีกคน พวกฟังก์ชั่นอำนวยความสะดวกที่โฆษณาทั้งหลายแหล่ ใช้ปีเดียว พังแล้วหมด
ทำไมคนขับยี่ห้อนี้มีแต่ "ผมขับมา 1,000 / 5,000 / 10,000 km แล้วไม่เจอปัญหา"ยี่ห้ออื่นเขาใช้กันเป็นแสนๆ km ก็ไม่มีปัญหา รถ SUV บ้านผมก็วิ่งเดือนละหลายพัน km แล้ว
แต่คนไม่เคยขับรถยี่ห้อนี้ชอบจิกกัด
ไม่จำเป็นต้องลองทุกอย่างก็ได้ครับ แค่รู้จักหาข้อมูล
ยี่ห้อนี้มันใหม่อยู่หนิครับ คนใช้ถึงแสนน้อยอยู่แล้ว รุ่นนี้ก็เพิ่งออกไม่นาน คนเค้าแชร์ประสบการณ์ใช้งานเค้าก็แชร์ข้อเท็จจริงที่เค้าเจอไม่เห็นแปลกเลยครับ ถ้าต้องรอถึงแสน ถึง 3 ปี 5 ปีค่อยแชร์ได้ คนจะเอาข้อมูลอะไรในการพิจารณาละครับ ตัวผมเองใช้ 100,000 นี่สิบปีเลย แต่ผมเลือกเจ้าตลาด มั่นใจกว่า
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
เข้าใจว่ารถยังใหม่อยู่ แต่ถ้าขับมาแค่หมื่นโลก็ไม่น่าจะออกมาพูดได้หรือเปล่าครับว่ารถไม่มีปัญหา แถมไอ้ที่ว่ายังใหม่เนี่ยดันมีปัญหาให้เห็นเยอะแยะไปหมดซะอีก ขับเองแล้วชอบก็แชร์ส่วนที่ตัวเองชอบไปอ่ะครับ
จากเจ้าของรถเกือบๆจะสองแสนเจ็ดหมื่นโล เช็คสภาพทีไรมีเรื่องซ่อมทุกที ดีที่ยังไม่เคยโดนยก
รถน่าใช้นะ แต่ติดที่คุณภาพชิ้นส่วน สมรรถนะ กับบริการหลังการขายเนี่ยแหละ
ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว
อยากจะรู้ตัว EV นี่ ถึกกว่าพวกตัวน้ำมันเปล่าเนี่ย
แอบสวย
รถสวย ออปชั่นดี ราคาคุ้ม แต่ผมไม่เลือก ขอบคุณครับ
LCA อ่ะ ถ้าไม่ติดตั้งมาจะลดราคาลงได้มั้ย
ฟังค์ชั่นนี้คนใชงานน้อย 555
อยากได้ถูกสวยเลือกของจีน อยากได้ทนเลือกญี่ปุ่น
้hs deflect น้อยลงละ ถ้าเทียบกับ zs
ยอดขายก็ดีมากเมื่อเทียบกับ segment มัน แต่ราคาก็ถูกกว่าสองแสน options เยอะ มันก็น่าใช้
แต่แอบงง สาวก MGrian ชอบโพสต์อวดรวยกัน
ปลายปีหน้าก็จะมี Great wall motor suv สายจีนเหมือนกันสงคราม MG กับ GWM ดุเดือดแน่นอน ค่ายญี่ปุ่นคงจะปล่อย options เยอะขึ้น เพราะราคาแพงกว่า
อย่างน้อย มันก็เป็นการกระตุ้นตลาด EV ตลาดรถอัตโนมัติ ล่ะนะรอดูฝั่งญี่ปุ่นบ้าง จะแก้เกมส์ยังไง
ไม่ EV หรอรุ่นนี้
ย้อนกลับมาดู คนด่าซะเยอะเลย
แต่ยังไงก็ขายได้อันดับ 2-3 ในไทยรอ MG HS EV วางขาย ยังไงก็ครองอันดับ 1 แน่นอน
เพราะรถญี่ปุ่นมัวแต่คิดเร็ว แต่ตัดสินใจช้า
น่าจะเป็นตัว HS PHEV ที่จะเปิดตัวเดือนนี้นะครับEV คงอีกพักใหญ่
ไม่ใช่อะไรนะ ระบบช่วยขับเคลื่อนอัตโนมัติระดับที่ 2 เนี่ยไว้ใจได้แค่ไหน เรื่องง่ายๆอย่างทัชสกรีนยังกดไม่ค่อยติดเลยอะ