Qualcomm เปิดตัวโคเด็คเสียง aptX Lossless ระบุว่าสามารถเล่นเสียงผ่าน Bluetooth ได้คุณภาพเท่าแผ่น CD เพลงแบบ Lossless โดย aptX Lossless จะเป็นส่วนหนึ่งของโคเด็คเสียง Qualcomm aptX Adaptive ที่ปรับเปลี่ยนบิตเรตได้ตามคุณภาพการเชื่อมต่อและประเภทไฟล์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของมาตรฐานระบบเสียง Snapdragon Sound
Qualcomm ระบุว่า aptX Lossless จะไม่ทำให้สัญญาณเสียคุณภาพใดๆ เมื่อเข้ารหัสและถอดรหัสด้วย aptX Lossless โคเด็คนี้จะถูกเปิดใช้งานอัตโนมัติ เมื่อ aptX Adaptive ตรวจพบว่าไฟล์ต้นทางเป็นไฟล์แบบ lossless และจะทำงานคู่กับ Qualcomm Bluetooth High Speed Link เพื่อเพิ่มบิตเรตสูงสุดได้ถึง 1Mb/s และสเกลได้ต่ำสุดถึง 140Kb/s เพื่อลดปัญหาเสียงขาดหาย กรณีที่สัญญาณ Bluetooth เบาบางหรือถูกรบกวน
aptX Losslessมีคุณสมบัติดังนี้
- รองรับสัญญาณเสียงสูงสุด 44.1kHz, 16-bit คุณภาพเท่า CD lossless
- ปรับสเกลเพิ่มลดบิตเรต โดยอิงจากคุณภาพการเชื่อมต่อ Bluetooth
- ผู้ใช้เลือกปรับเสียงได้ว่าจะฟังแบบ CD lossless 44.1kHz หรือ 24-bit 96kHz lossy
- สัญญาณไม่สูญเสียคุณภาพ มาแบบ bit-for-bit ทางคณิตศาสตร์
- บิตเรทสเกลได้ตั้งแต่ 140 kbit/s ถึง 1Mb/s
Qualcomm ระบุเตรียมปล่อย aptX ให้ผู้ผลิตใช้งานช่วงปลายปี 2021
ที่มา - Qualcomm
Comments
ระดับ Audiophile ไหม
ต้องรอให้ชาวหูทองคำได้ทดลองก่อนครับ ผมก็หูไม่น่าถึง 55
อ่านๆดูแล้วน่าจะไม่ได้หนีจาก LDAC มากนักครับ แต่ก็ต้องรอดูว่ามันวิ่งด้วยบิทเรทเต็มได้เสถียรแค่ไหน
แต่ถ้าถามว่าระดับ Audiophile ไหม? ผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่า Audiophile นี่ระดับไหนนะ แต่มันยังไม่ถึงขั้นระดับ Hires Lossless ครับ (หรือก็คือระดับ 24bit 48kHz ขึ้นไป ซึ่งปกติไฟล์พวกนี้จะมีบิทเรทอย่างน้อยๆ 1500 kbps ครับ)
LDAC = lossy (ไม่ว่าจะ sample rate เท่าไหร่ bit depth เท่าไหร่ สัญญาณดีแค่ไหน)
aptX Lossless = lossless (ในระดับไม่เกิน 44.1 Khz 16 bit)แต่เข้าใจว่าถ้าสัญญาณไม่ดี aptX จะเปลี่ยนเป็น lossy อัตโนมัติ ต้องดูว่าจะมีโหมด "ยอมหักไม่ยอมงอ" ให้เลือกไหม คือให้สัญญาณขาดไปเลยดีกว่าฟังคุณภาพแบบ lossy
ส่วนเรื่อง hi-res เนื่องจากผมทำการทดสอบหูที่โรงพยาบาลแล้วฟังได้ไม่เกิน 20Khz (40k sample rate) เลยไม่ได้สนใจครับ แต่เหมือนว่าหูผมจะ sensitive ต่อเสียงต่ำได้ดีกว่าค่าเฉลี่ย
ขอบคุณสำหรับคำอธิบายเรื่อง LDAC ครับ
เรื่องการตอบสนองเสียงอันนี้ผมเคยได้ยินเขาเล่ามานะครับ
เขาบอกว่าหูคนเรามันได้ยินไม่ถึงก็จริง แต่ร่างกายเรามันยังตอบสนองกับคลื่นความถี่ต่างๆได้อยู่ (ประมาณว่าถึงไม่ได้ยินอวัยวะต่างๆมันก็ยังสั่นตามคลื่นอยู่) เพราะงั้นถึงแม้ไม่ได้ยินแต่เราก็จะรู้สึก "บรรยากาศ" ใกล้เคียงกับของจริงมากกว่าครับ
แต่เรื่องนี้จริงเท็จอย่างไรผมก็ไม่ทราบเหมือนกันนะครับ อยากรู้เหมือนกันว่าในทางวิทยาศาสตร์มันเป็นอย่างที่ว่าไหม
ีรับรู้ได้ในส่วนของความถี่ต่ำครับ โดยเฉพาะจาก sub wooferความถี่สูงๆนี่ "หู" อย่างเดียวเลยครับ
ถ้าเคยลองฟังพวกหูฟังที่ไม่ได้ขายเลขสเปคจะรู้ครับว่าเลขเฮิร์ตเยอะๆนะมันแค่การตลาดครับ
พวกหูฟังที่เป็นดาวค้างฟ้าหลายๆรุ่น มันก็20-20kHz กันทั้งนั้นครับ
ลองหาฟังที่ร้านมั่นคงได้ครับ ว่า Grado SR225e (20-22kHz) กับ Sony MDR-1A (3-100kHz) อันไหนรายละเอียดเสียงดี บรรยากาศสมจริง กว่ากัน
ผมแค่ฟังเขามาแล้วสงสัยเฉยๆครับ 55+
ส่วนตัวซื้อหูฟังนี่ผมไม่ได้สนใจเสปคในกระดาษเลย เพราะผมมองว่าสุดท้ายที่สำคัญที่สุดมันก็คือหูฟังตัวนั่นเสียงถูกใจเราไหมแค่นั้นแหละ
Grado SR225e นี่เสปคในกระดาษอาจจะสู้ตัวอื่นไม่ได้ แต่ผมชอบเสียงมากเลย โดยเฉพาะเสียงกีตาร์หรือเสียงเครื่องสายนี่เป็นเอกลักษณ์มาก เสียอย่างเดียวที่มันใส่ไม่ค่อยสบาย 55+
ตอนฟองน้ำSR225eผมพัง ผมสั่งของเทียบในลาซาด้ามา ราคาถูกกว่าของแท้หาร10 แต่ความใส่สบาย ดีกว่าของแท้มาก เพราะมันไม่มีการเคลือบที่เป็นแผ่นๆเหมือนของแท้ ส่วนเสียงผมว่าต่างจากเดิมประมาณ10% ซึ่งผมรับได้ เพราะราคามันถูกมากและใส่สบายขึ้นมากครับ เป็นตัวจบของผมมา5ปีแล้วครับ ผมลองฟังรุ่นสูงกว่านี้ก็ไม่ถูกโฉลกเท่าตัวนี้เลย
มีอีกตัวที่ผมว่าคุ้มกว่าตัวนี้ก็Koss KSC35 เพราะคุณภาพเสียงพอกันเลย แต่ราคามันถูกกว่าสามเท่า เอาไว้เป็นตัวพกพาได้ดีเลย
ใครชอบGrado นี่น่าจะเป็นผู้สูงวัยนะครับ ขอแซว เพราะมันบูสแหลมสุดๆนี่แหละ
อยู่ที่ชาว audiophile เขาจะยอมรับหรือเปล่าน่ะครับ
เดี๋ยวนี้ถึงขั้นมี สาย lan เกรด audiophile ผมก็ไม่รู้จะว่ายังไงเหมือนกัน
ต้องมี Network Switch ระดับ Audio Phile ด้วยสิครับ..
ไอ้สาย LAN นี่เคยเห็นนะ (ใส้ในจริงๆ ก็สาย LAN คุณภาพดีเฉยๆ แต่เอามาหลอกกัน) แต่ network switch นี่เพิ่งเคยได้ยินว่ามีด้วยครับ
แผ่นรองเครื่องเล่น/คอม ระดับAudiophile ยังมีเลยครับ
แสดงว่ายังไม่เคยเห็น Fiber หุ้มทองกันสัญญาณ loss ฮ่าๆๆๆ
ลองค้นหาแบรนด์ชื่อว่า SOtM audio ดูครับ
ขอถอดสมองชมสินค้าก่อน :)
สาย LAN บางเส้นมีลูกศรบอกว่าหัวด้านนี้ต้องต่อต้นทาง/ปลายทางเท่านั้นด้วยนะครับ
Audiophile ? ตอนนี้เพลงชาติออดิโอ้ฟาย เค้าเปลี่ยนเป็น เพลงจีนครับ มียุคนึงฟัง โฮเต็ลแคลิฟอเนีย ของวงอีเกิ้ง อะไรซักอย่าง ฮายยเว๊ กรุ้งกิ๊งๆๆ วันใหนไปลอง B&W ที่ ปิยะนัส (ชาตินี้ต้องซื้อมาเล่นซักคู่ก่อนตาย) ผมอาจจะแอบเปิด วันสำคัญทางศาสนาของวง ไปส่งกู บขส.ดู๊ ลูบคมร้านซักรอบ ไม่รู้ร้านเค้าเปิดหรือยัง ?
แต่เออ ต่างประเทศ UK/US เค้าเริ่ม Kick off กันแล้วนะครับว่า Site ขายเพลง Hi-Res อาจจะไม่รอด เพราะเอาจริงๆ อัด Bitrate เยอะๆ ผ่าน Bluetooth สัญญาณมันขาดๆ หายๆง่ายนะครับ แล้วก็สมัยก่อน Dolby AC-3 ส่ง Data Channel ละ 96KBit ไม่ถึง 128KBit ด้วยซ้ำ ไม่มีใครบ่น แถมชมกันทุกคน เค้าเลยจะฟันธงว่า เพราะสมัยนี้เอา Computer อัดเพลงด้วยระบบบันทึกแบบห่วยๆ มาขาย Bitrate เยอะขนาดใหนเพลงมันก็จะไม่ชัดหรือเปล่า ? แทนนะครับส่วนตัวกำลังหาเรื่อง เปลี่ยน System อยู่จะ Int Amp หรือ ลำโพง หรือ จะเล่นกรองไฟก่อนดี ?
ฝากเปิด พนักงานสวนสัตว์ สักรอบครับ 55
เอ้อ ผมก็สงสัยนะว่ากลุ่มนี้เค้าฟังเพลงอะไรกัน เห็นเวลาไปลองตามร้านเครื่องเสียงก็เปิดกันอยู่ไม่กี่เพลง คอนเสิร์ตไม่กี่งาน ไม่ก็เพลงจีน
ยังไงฝาก He Men Crown ไปอีกเพลงนะครับ 555555
แน่ใจนะครับว่ามีชื่อเพลงนี้จริงๆ เปิดทดสอบเครื่องเสียงเนี่ย
ส่วนตัวผมว่า Audiophile มันไปแข่งความละเอียดกับดังของเสียงซะมากกว่า
ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว
เอ่อ ไม่ใช่แค่ชื่อเพลง แต่ชื่อวงเลยนะครับ
เวลาผมไปลอง ผมเปิดฟังเพลงไทย/สากลในกระแสหลัก ?
เอาจริง ๆ นะครับ อย่าว่าแต่ไปลองตามร้านเครื่องเสียง เปิดให้คนอื่นฟัง ยังยากเลยครับ
วันสำคัญทางศาสนาhttps://www.youtube.com/watch?v=V2MBzLH69Jo
ฉันเป็นสโมกเกอร์นิhttps://www.youtube.com/watch?v=F4T-In5tjUc
เชื่อฉัน - พี่แช่ร์ ดนุพล นักร้องอมฮอลในตำนานhttps://www.youtube.com/watch?v=_th4S7NaSUQ
POP/STARS version เอา KDA ของ LoL มา Mix รวมกับ เพลงไอ้โหลก UNDERTAIL (ฟังแล้ว กลับไปฟัง KDA ปรกติแล้วจะแปลกๆ เหมือนอะไรมันหายไป)https://www.youtube.com/watch?v=Wan2REH1x9g
Sailormoon R Otome no Policy จริงๆ ถ้าพูดเรื่องดนตรีล้วนๆ เพลงนี้ มียันห้องเพลง สัมผัสนอกในจะเป็นกลอน 8 อยู่รอมร่อ มีความเป็นดนตรีสูงมากกกก จนน่ากลัว ข้อเสียมีนิดเดียวคือดันเป็นเพลง Sailormoon ครับhttps://www.youtube.com/watch?v=7habakK5OYY
ใจเกเร : Nice 2 Meet U ... ฟังก่อน พี่หลามดังนะเออ RS เราก็ฟังhttps://www.youtube.com/watch?v=zDQeip3CPzI
Meiko Nakahara - Dance in the memories .. เพลง orangeroad บางเพลงเอา ของนักร้องมา วนใช้ซ้ำแต่ ดนตรีเปิดเพลง ของเพลงนี้จริงๆ ต้องฟัง mix นี้นะครับhttps://www.youtube.com/watch?v=p3FsbF_Aito
the Indigo (fair melodies 2) - Jump (Van Halen) วงนี้ชอบมาก นักร้องเสียงดีเหลือเชื่อ แต่นอกญี่ปุ่นดับสนิท จริงๆ ถ้าย้อนเวลาไปหาแผ่น CD วงนี้ได้จาก ร้าน CDJapan เอามาเปิดในร้านเครื่องเสียงน่าจะมีตะลึงhttps://www.youtube.com/watch?v=ILduujvYoNE
เอาไปลองนี่ อื้อฮืออ แต่ละเพลง จะเปิดได้ยังไง ?แบบว่าชอบฟังเพลงแบบนี้ ไม่ชอบฟังแผ่นทดสอบเครื่องนะครับพ้ม
ผมชอบ พนง.สวนสัตว์ ครับ
ถ้าเปิดเพลง "เธอทิ้ง" กลางร้านก็เกรงใจ กลัวจะมี รปภ.เดินมาหาครับ
ต้องมี server audio phile ด้วยนะ
ระดับ Audiophile คงเหมือนกันการทานอาหารคลีนมั๊งครับ ที่อะไรอะไรก็ดีไปหมด แต่แพงเวอร์
ถ้าไม่จริงจัง(หรือบ้า)จนเกินไปมันก็ไม่แพงอย่างที่คิด อีกอย่างเรื่องนี้มันเป็นความชอบส่วนบุคคลด้วย อย่างผมชอบเสียง flat แต่ถ้ามีเบสนิดหน่อยก็ดี ส่วนเพื่อนผมเค้าชอบแบบเสียงกลาง-สูงชัดๆ เบสพอมีบ้าง ซึ่งผมกับเพื่อนก็มักจะแลกหูฟังกัน เพราะดันมีเพลงที่ฟังสนุกถ้าใช้หูฟังของอีกคนครับ
ผมว่าเรื่องรสนิยม คำว่าแพงของแต่ละคนคงไม่เท่ากันแน่ๆ เหมือนหลายๆวงการ ?
ต้องมีเครื่องกรองอากาศทำให้ตัวกลางส่งสัญญาณ Bluetooth ได้เสถียรขึ้นด้วยครับ :P
@ Virusfowl
I'm not a dev. not yet a user.
รอดูว่าจะหาอุปกรณ์รองรับได้ง่ายไหม ใช้มือถือส่งได้ไหม หรือต้องมือถือที่มีchipโดยเฉพาะ อีกอย่างก็ตัวหูฟังด้วย
เพราะที่เคยเทสมาLDAC ถึงจะlossyแต่ก็ดีที่สุดในตลาดปัจจุบัน แต่ก็ต้องใช้กับเครื่องรับหรือส่งที่มีเสา (เช่นพวกexternal dacแบบมีเสา) ถ้าต่อตรงแบบหูฟังต่อมือถือนี่แป๊บๆสัญญาณdrop ลงบิทเรทต่ำ โดยเฉพาะถ้าอยู่ในเมืองที่คลื่น 2.4GHzตีกันแทบตายอยู่แล้ว
ไม่ต้องหูทองหรอก ใครทดลองนั่งrip file จากแผ่นCDแล้วนั่งแปลงเป็น mp3 320kbps ฟังเทียบกันมันก็พอได้ยิน อย่าลืมว่าข้อมูลบางส่วนมันโดนตัดออกไปเลยนะ
lossless เรื่องนึง hires อีกเรื่องนึง ต้องแยกกันนะ
ที่ไม่ค่อยได้ยินคือความถี่สูง แต่เพลงปกติมันก็ไม่ได้ขึ้นสูงเกิน 12kHz สักเท่าไร(ซึ่งเป็นช่วงที่คนอายุ 30-40ยังพอได้ยินอยู่)แต่ที่ยากๆคือความถี่ต่ำ ที่reproduce ยากและdistortionสูงมากกว่า
อยากซื้ออุปกรณ์ดีๆ ต้องหาดูรีวิวแบบaudio scienceครับ(แนะนำเวบ audiosciencereview) เดี๋ยวนี้เขามีเครื่องAudio Analyzerวัดเสียงแล้ว เช่นส่งเสียง 1kHz ไปแล้ววัดกลับได้เท่าเดิมไหมกันเห็นๆ หรือวัดfrequency responseได้เลย ไม่ต่างจากการใช้oscilloscopeวัดในทางไฟฟ้านั่นแหละ หูฟังดีๆ dac ดีๆ ความเพี้ยนต่ำ ราคาไม่ได้แพงมากหรอก ยิ่งพวกstudio grade ใช้ในห้องอัดเสียงถูกกว่าเกรด audiophile เยอะ เรื่องแปลกคือพวกแพงๆบางตัวนี่distorion สูงมากคือเสียงเพี้ยนแต่ได้รับความนิยมสูง รีวิวดีเยี่ยม พอเทสออกมาผลแย่ก็มักจะอ้างว่าเป็น house's sound (จงใจให้เพี้ยนแบบมีรสนิยม?) เคยลองบางตัวมันก็มีจุดเด่นจริงๆ เช่นเสียงร้องเหมือนกระซิบข้างหู แต่เสียงดนตรีเพี้ยนหมด(รวมถึงเสียงร้องก็เพี้ยนนิดๆด้วยเทียบกับที่เคยได้ยินจากตัวจริง) หรือบางค่ายนี่จงใจจูนมาให้ฟังเพลง j-pop สนุกๆ แต่ฟังแป๊บเดียวหูล้า(เพราะเสียงแหลมบาดหู)
ผมเองก็ไม่เคยเชื่อนะ จนมาลองเองว่าหูฟังstudio grade ที่ไว้ทำเพลงตัวที่ผลเทสออกมาดีๆ(ราคาเริ่มต้นไม่กี่พันนี่แหละ) มันทำให้เราได้ยินเสียงที่ปกติไม่ได้ยิน จากหูฟังหรือลำโพงทั่วๆไป เพราะปกติหูฟังตลาดๆมันบูสเบสจนกลบย่านอื่นหมด(บางเจ้าก็บูสจนเพี้ยนอีกตะหาก) ทำให้เราไม่ได้ยินเสียงที่มันมีอยู่แล้วอีกเพียบ โดยเฉพาะพวกแผ่นบันทึกคอนเสิร์ตนี่มีเสียงอะไรซ่อนอยู่เยอะ แต่ข้อเสียของหูฟังพวกนี้บางคนก็ว่าฟังเพลงไม่สนุก เพราะมันสมจริงเกินไป(?)
ตามนั้นแหละครับ หูฟังสำหรับห้องอัด มันเสียงตรงตามต้นฉบับเป็นธรรมดา (ภาษาคนเล่นเครื่องเสียงจะบอกเสียงจืด) แต่ความนิยมคนส่วนมากที่เล่นเครื่องเสียง/หูฟัง คงใช้เพื่อฟังสนุก ผ่อนคลายอยู่แล้ว ผู้ผลิตก็เลยจงใจออกแบบให้กราฟเสียงมันเพี้ยน แต่ถูกจริตกลุ่มลูกค้าตัวเอง (ซึ่งก็คงมีมากกว่ากลุ่มห้องอัดแน่ๆ)
+1 ผมก็มีหู Monitor นะ รายละเอียดเสียงครบจริง แต่บางเพลงก็ฟังไม่สนุกแอะ เลยต้องหยิบหูฟังที่มันปรุงมาแล้วใช้แทน
เหมือนร้านอาหารเสริฟอาหารที่รสชาติครบ เปรี้ยวหวานเค็มเผ็ด แต่อย่างละนิด บางทีก็อยากกินอาหารที่มันรสจัดไปทางใดทางนึงบ้าง
ที่คนเล่นเครื่องเสียงบอกเสียงจืดนี่ใช่เลยแหะ
เห็นด้วยครับ เราฟังเพลงเพื่อความสนุก
เพียงแต่ถ้าเคยไปฟังการเล่นสด หรือเข้าไปดูคอนฯจริงๆ แล้วกลับมาบ้านมาฟังผ่านลำโพงหรือหูฟังที่จูน color มา มันจำได้ว่ามันต่างจากที่เคยฟัง โดยเฉพาะเสียงร้อง ไปฟังหูฟังตัวราคาไม่ถูกมา คือมันเพี้ยนจริงๆ เหมือนคนละคนร้องเลย แต่ถ้าฟังเพลงที่ไม่เคยได้ยินสด อันนี้เพราะจริงๆ เสียงร้องหวานจับใจ
ในขณะที่หูฟังstudio ฟังแล้วใกล้เคียงกับที่เคยได้ยิน รวมไปถึงเสียงประกอบอื่นๆเช่น เสียงโห่ร้อง เสียงตบมือ พวกนี้มาด้วยชัดเจน(สำหรับคอนฯที่บันทึกเสียงผู้ชมมามิกซ์ด้วยดีๆ)
แต่ก็นั่นแหละ ถ้าเอาไปฟังเพลงทั่วไปมันจืดจริงๆ กลายเป็นว่าต้องมีหลายๆแบบไว้ฟังคนละอย่างกัน -_-"
แต่พอฟังแบบmonitorบ่อยๆมันก็ติดเสียงแบบนี้จนชินนะ ทุกวันนี้พยายามฟังแบบmonitor หมด เปลี่ยนทั้งหูฟังและลำโพง เพราะตอนหลังฟังคอนฯเป็นหลักด้วย(ชดเชยที่ไปดูคอนฯจริงไม่ได้มาปีกว่าแล้ว มีแต่ออนไลน์ที่มันคนละฟีลลิ่ง)
คนเล่นเครื่องเสียงที่ไม่รู้เรื่อง electronic จะโดนบริษัทเครื่องเสียงหลอกให้เสียเงินแพงง่ายครับ แค่บอกว่าอันนี้สำหรับ audiophile นะ นานมาแล้วผมเคยลอง clone audio CD ลงแผ่นที่บอกว่าสำหรับ audiophile ราคา 2-3 ร้อยบาท กับแผ่น princo ราคา 10 บาท แล้วให้ blind test ฟังดู พวกหูทองแยกไม่ออกซักคนว่าอันแผ่น audiophile หรือ princo เพราะมันเป็น digital 0 กับ 1 พอก๊อบออกมามันก็เหมือนกัน เสียงมันจะไปต่างกันได้ยังไง เปิดโลกพวกนี้ไปเลยครับ
เอาจริงๆวงการ Audiophile นี่มัน toxic พอสมควรด้วยแหละครับ คือมีข่มกันตลอดว่าแยกไม่ออก = หูไม่ถึง
เพราะงั้นเวลาออกสินค้าสำหรับ Audiophile อะไรมา ไม่ว่าเสียงจะต่างหรือไม่ต่าง ก็จะมีคนออกมาบอกว่าเสียงต่าง แยกออกเสมอ บางคนแยกไม่ออกแต่กลัวเสียหน้าบอกไปว่าต่างก็มี หรือบางคนอยากให้มันต่างจนจิตปรุงแต่งจนรู้สึกต่างก็มี มันก็เลยมีคนมากมายออกมาบอกตามๆกันว่าฟังออก (แต่บางอย่างพอ blind test แล้วตายเรียบก็มี) ใครออกมาบอกว่าไม่ต่างก็โดนถล่มว่าหูไม่ถึงไปโดยปริยาย
ดังนั้นสินค้าสำหรับ Audiophile ที่มีประโยชน์ไม่ต่างจากเครื่องรางที่ทำให้เสียงดีมันถึงออกมาได้เรื่อยๆนั่นแหละครับ เพราะมันยังมีคนเฮโลออกมาบอกว่าเสียงต่างอยู่เรื่อยๆ
จริง คือมัน subjective มากครับ ก่อนหน้านี้เห็นเถียงกันเรื่องสายแลน ฝั่งคนที่มีความรู้เรื่องสัญญาณก็บอกว่า สายมันส่งเป็นดิจิทัล ส่งไปครบก็จบแล้ว คุณภาพสัญญาณไม่เกี่ยว ส่วนอีกฝั่ง (ที่มาโป๊ะแตกตอนหลังว่าเป็นคนขายสายแลน) บอกว่า ผมฟังแล้วต่าง ใครฟังแล้วไม่รู้ ก็เรื่องของคุณ อะไรแบบนี้ 5555
ผมว่าอยู่ที่ Protocol ด้วยนะ ถ้า TCP สายเส้นละ 10 บาทก็ไม่ต่างแต่ถ้า UDP คุณภาพสายมีผลกับ Bits แน่นอน แต่จะฟังออกไหม อันนั้นอีกเรื่อง
กรณีนั้นถ้าสายห่วยมันก็มีผลแหละครับ
แต่มีผลที่ว่ามันคือเสียงกระตุกเสียงขาดหายแบบเดียวกับพวกใช้หูฟังบลูทูธแล้วโดนสัญญาณรบกวนนั่นแหละครับ ไม่ใช่คาแรคเตอร์เสียงอื่นๆเปลี่ยนอย่างเสียงหนาขึ้นหรือเบสแน่นขึ้นอย่างที่เขาอ้างกัน
เดี๋ยวนะครับ ถ้าสายห่วยขนาดนั้น คือสายเสียแล้ว สายแถมrouter ยังให้ cat5e วิ่ง 1Gbpsสบายๆไม่มีloss เลย ยกเว้นไปขุดสายเก่าๆ 20ปีที่แล้วมา ค่อยวิ่งได้ไม่เกิน 100Mbps
อีกอย่างprotocol ที่ใช้ทั่วๆไปมันไม่มีทำให้เสียงเปลี่ยนแปบ พวก USB ที่เกิด ground loop noise ได้นะครับ ถ้าส่งข้อมูลไม่ทัน เสียงก็หายหรือค้างไปเลยมากกว่า ยกเว้นพูดถึงพวกแอพstreaming ที่ถ้าความเร็วเชื่อมต่อลดลงแล้วจะลดบิทเรท ก็คนละเรื่องกัน