iPhone 13 และ 13 mini มาพร้อมชิป A15 Bionic หน้าจอ Super Retina XDR ขนาดเท่าเดิม ขอบบางลง กล้องหน้าและเซ็นเซอร์ Face ID กินพื้นที่หน้าจอน้อยลง วางเลย์เอ้าท์กล้องหลังแบบใหม่ แนวเฉียง กล้องหลัก 12 MP กล้องอัลตร้าไวด์ 12MP เช่นกัน มีกันสั่นแบบ sensor-shift แล้ว
ชูจุดเด่นสำคัญคือการถ่ายภาพวิดีโอเหมือนภาพยนตร์ Cinematic Mode สามารถดึงโฟกัสได้เหมือนกล้องถ่ายหนัง อาศัยปัญญาประดิษฐ์ช่วยเลือกจุดโฟกัสภาพ
หน่วยความจำภายในเริ่มต้นเพิ่มเป็น 128GB (เดิม 64GB) iPhone 13 ราคาเริ่มต้น 799 ดอลลาร์ iPhone 13 mini ราคาเริ่มต้น 699 ดอลลาร์
สำหรับประเทศไทยสั่งซื้อล่วงหน้าวันที่ 1 ตุลาคม เริ่มวางจำหน่าย 8 ตุลาคมนี้ iPhone 13 เริ่ม 29,900 บาท iPhone 13 mini เริ่ม 25,900 บาท
ที่มา - Apple Event
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Comments
เอ๊ะ ตกลงระบบกันสั่น ois หรือ sensor shift ครับ
WE ARE THE 99%
sensor shift ครับ เพิ่มเรียบร้อย มือรีบไปนิด 55
sensor shift นี่ไม่จัดเป็น OIS เหรอครับ ? ผมว่ามันก็ optical อยู่นะ
ว่าแต่ใช้ sensor shift อย่างเดียวเลยหรือใช้ lens กันสั่นด้วยครับนี่
ถ้าอิงตามกล้องนี้ OIS ใช้กับเลนส์อย่างเดียว ส่วนเซนเซอร์ใช้ IBIS (in-body image stabilization) ครับ
ถ้าแปลตามความหมายมันก็น่าจะใช้ Optical ได้แหละมั้งครับ แต่คิดว่าเขาน่าจะแยกกันเพื่อการตลาดนั่นแหละ
ปล. ส่วนคำว่า Sensor Shift นี่ ถ้าในกล้องจะเข้าใจกันว่าเป็นฟีเจอร์แกว่งเซนเซอร์เพื่อเพิ่มคุณภาพมากกว่า ตอนแรกก็ตกใจไม่นึกว่า Apple จะทำมาด้วย แต่เหมือนว่าจะเป็นแค่กันสั่นเฉยๆ
ขอบคุณครับ ?
ส่วน sensor shift แบบกล้องนั่นคือที่ขยับเพื่อทำคล้ายๆ super resolution สินะครับ แต่ผมเข้าใจว่าตอนนี้ iPhone เองก็ถ่ายหลาย shot มารวมกันแบบ Google Pixel แล้ว อาจจะใช้ด้วยก็ได้?
ถ้ามองง่ายๆว่ามันคือการถ่ายหลายรูปเพื่อเพิ่มคุณภาพเหมือนกันก็ใช่ครับ
แต่รายละเอียดมันต่างกันนิดหน่อย เพราะกล้องเนี่ยมันประมวลผลด้วยภาพดิบจากเซนเซอร์เลย (ดิบกว่า raw อีก ก็คือ 1 พิกเซลจะมีแค่สีเดียวคือ R หรือ G หรือ B เท่านั้น) ต่างจากพวกเทคนิครวมภาพอย่างพวก HDR ที่เอาภาพสำเร็จแล้วมาประมวลผลอีกที ส่วนมือถือปัจจุบันผมไม่แน่ใจเท่าไหร่ว่าประมวลผลด้วยภาพไหน แต่คิดว่าก็น่าจะเป็นภาพสำเร็จแล้วเหมือนกันครับ
ถ้าจะให้เปรียบเทียบกับมือถือจริงๆ... มองว่าเป็นการย้อนกลับของหลักการ Pixel Binding ก็ได้ครับ คือกล้องที่มันแกว่งเซนเซอร์เนี่ย มันแกว่งเพื่อที่จะให้ได้เก็บพิกเซลให้มากขึ้น จากนั้นก็เอาพิกเซลที่ว่าไปประมวลผลอีกที จะเอาไปเรียงตรงๆเป็นรูป hi-res (อย่าง olympus) หรือรวมพิกเซลเพื่อเพิ่มคุณภาพ (อย่าง pentax) ก็ว่ากันไป ในขณะที่เซนเซอร์มือถือฝั่ง Android ในปัจจุบันนั้นทำออกมาให้ละเอียดสุดๆไปเลยตั้งแต่แรกอยู่แล้วเลยไม่จำเป็นต้องแกว่งครับ
ขอบคุณครับ
Google Pixel แกว่งนะครับ กูเกิลอธิบายเทคนิค Super Res Zoom, ใช้ภาพสั่นให้เป็นประโยชน์ อัลกอริทึมรวมภาพจนได้ภาพความละเอียดสูง
หลุดเป๊ะ สาย vlog น่าจะชอบที่บอกทำขอบได้บางลงนี่ เพราะลดปริมาณวัสดุลงรึเปล่า
ไม่แน่ใจว่า ตอน iPhone 12 เปิดตัว
ถ้าตัว 128 GB, ราคาจะอยู่ที่ $749 ใช่มั้ย?
ถ้าใช่ แปลว่า ตอนนี้ขายแพงขื้นไปอีก ฮ่ะๆๆ
iPhone 12 ตอนเปิดตัว $799 นะครับ แถมยังได้แค่ 64GB ด้วย ผมว่ามันถูกลง (มั๊ง) นะครับ
ในโฆษณายังเอาไอโฟนหนีบไว้กับมอไซอยู่เลย กล้องจะพังไหม
เห็นเขาบอกห้ามวางใกล้เครื่องยนต์พวกบิ๊กไบค์ครับ เช่นช่องใส่ของใต้เบาะ
พอเปิด vdo presentation มาถึงกับหลุดขำเลย
เพราะจำลองสถานการณ์การใช้งานของ rider ขี่มอไซด์ส่งของ โดยเพิ่งจะมีข่าวแนะนำว่าไม่ควรใช้แบบนี้ โดยจะทำให้กล้องพังง่ายขึ้น เนื่องจากระบบกันสั่น ois นี้เอง
ต้องเปลี่ยนไป iPhone 13 ไงครับ
ชูชุดเด่น >> ชูจุดเด่น
จอเป็น OLED ไหมคับสรุป
จอเป็น Oled ตั้งแต่ iPhone 12 แล้วครับ
สแกนลายนิ้วมือใต้จอน่าจะมาสักทีนะฮะ สแกนหน้าลำบากเหลือเกินชั่วโมงนี้
ถ้าใส่ Apple Watch ด้วยก็จะ scan ได้ครับ (จริงๆมันคือการ scan ตา แล้วไปปลดด้วย Apple Watch)
โอเคแหละ
โอเคนะครับ 13 เริ่มต้น 128gb ไม่เกิน 30k ราคาถือว่าพอรับได้อยู่ พวกตัว PRO นี่ไม่ไหว ราคาแรงแล้วก็ฟีเจอร์กล้องนี่ไม่ค่อยสนใจอยู่แล้วด้วย
ขอบบางลงไม่บาดมือแล้วใช่มั้ย?
Ooh
บาดมือ?? ตลก 555555
ไม่ตลก เพราะมันบาดจริง ? ดีไซน์บาดตา ขอบบาดมือ มีรายงานผู้ใช้ iPhone 12 ในจีน ถูกขอบเครื่องบาดมือหลายราย
ข่าวนี้เป็นข่าวดักควายครับ ถูกเฉลยไปแล้วว่าตั้งใจแต่งเรื่องปล. ผ่านมา 1 ปี แล้ว ยังมีคนเชื่ออยู่อีกหรือเนี่ย?
ดีที่ไม่กี่เดือนก่อนไม่ได้ซื้อ 12 มินิ (ซื้อ SE แทน) 13 มินิราคาเริ่มต้นได้ความจุมากกว่าเดิมตั้งเท่าตัว แบตก็นานกว่า