กูเกิลปรับนโยบายช่องทางการจ่ายเงินบน Google Play Store ให้ผ่อนคลายมากขึ้น จากเดิมที่บังคับต้องจ่ายผ่านระบบของกูเกิลเท่านั้น แต่เมื่อช่วงหลังได้รับแรงกดดันจากหน่วยงานภาครัฐในหลายประเทศ ( เช่น เกาหลีใต้ที่ถึงขั้นออกเป็นกฎหมาย ) ทำให้ กูเกิลต้องยอมปรับตัว
ล่าสุดกูเกิลประกาศว่าจะ 'ทดลอง' ให้นักพัฒนาในประเทศอื่นใช้ระบบจ่ายเงินของตัวเองด้วย โดยเริ่มจาก Spotify เป็นรายแรก ที่สามารถนำเสนอวิธีการจ่ายเงินของตัวเองคู่ไปกับ Google Play billing แล้วให้ผู้ใช้เป็นฝ่ายเลือกว่าจะจ่ายทางไหน
ในอดีตนั้น Google Play เก็บส่วนแบ่งรายได้ 30% แต่ปีที่แล้ว กูเกิลลดให้เหลือ 15% หากเป็นนักพัฒนารายเล็ก หรือเป็นแอพที่ขายเพลง อีบุ๊ก วิดีโอ ที่มีต้นทุนค่าคอนเทนต์แพง อย่างไรก็ตาม กูเกิลไม่ได้เปิดเผยว่ากรณีของ Spotify จะต้องเสียส่วนแบ่งรายได้เท่าไรให้กูเกิล (ซึ่งน่าจะน้อยกว่า 15%)
ตัวอย่างหน้าจอระบบจ่ายเงินทางเลือกของ Google Play ในเกาหลีใต้
ก่อนหน้านี้ แอปเปิลเคยยอมเปิดกว้างแบบเดียวกันในเกาหลีใต้ แต่ไม่ระบุอัตราส่วนแบ่งใหม่ ส่วน ในเนเธอร์แลนด์ แอปเปิลก็ยอมทำตามคำสั่งของหน่วยงานรัฐ แต่ ลดจากเดิม 30% เหลือ 27% ซึ่งเนเธอร์แลนด์ยังไม่พอใจ
Comments
ก็ดีนะ
Spotify ปกติก็จ่ายผ่านเว็บอยู่แล้ว ตัดบัตร หรือ หักกับค่ายมือถือ หรือต่างประเทศต้องจ่ายผ่าน Google Play
อันนี้หมายถึงกรณีถ้าจะกดจ่ายในแอปครับ เรื่องการจ่ายเงินด้วยช่องทางอื่นๆบน platform อื่นเดิมที Google ไม่ได้ห้ามอยู่แล้วครับ
ผมซื้อซิม ais แล้วลงทะเบียนกับ พาสปอต
ใช้ซื้อของในแอพ ไม่ได้ 2 ปีก่อนก็ไม่เห็นเป็นอะไรเศร้ามากก ถาม ais ก็บอกให้เปลียนเป็นรายเดือน
พอเปลี่ยนแล้วก็ยังไม่ได้เหมือนเดิม
จ่ายราคาไม่ถูกลงก็เท่านั้นไม่ได้ดีกับผู้บริโภคโดยตรงหรอก
ก็ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นครับ รอดูกันต่อไป ส่วนตัวผมก็คิดว่าแอปเจ้าใหญ่ๆเขาก็คงทำราคาให้เท่ากันทุกช่องทางนั่นแหละ เพียงแต่บริการจ่ายเงินแต่ละเจ้าอาจจะมีโปรพิเศษมากขึ้นอะไรแบบนี้แทนมากกว่า ทั้งโปรของแอปเอง และโปรของบริการจ่ายเงินเอง
ยังไงมันก็ไม่แย่ไปกว่าไม่เปิดให้แข่งกันหรอกครับ
ยากอะไร ก็ขึ้นราคาใน store เลยสิครับ
I need healing.
แล้วทีนี้จะให้อีปริกเอา Fortnite กลับมาลงได้ยัง...