ประเด็น เรื่องการ์ดจอ GeForce RTX ซีรีส์ 40 ราคาแพงขึ้นจากเดิม ยังมีการถกเถียงกันอยู่เรื่อยๆ โดย Jensen Huang ซีอีโอของ NVIDIA ให้เหตุผลว่าต้นทุนของแผ่นเวเฟอร์นั้นแพงขึ้นกว่าเดิม
ช่องยูทูบสายฮาร์ดแวร์ Moore's Law is Dead ให้ข้อมูลที่ยังไม่ยืนยันว่า จีพียูคู่แข่ง AMD RDNA 3 ที่จะเปิดตัว 3 พฤศจิกายน จะได้เปรียบกว่าในเรื่องราคา เพราะต้นทุนค่าผลิตถูกกว่า
เหตุผลเป็นเพราะ NVIDIA ออกแบบจีพียูตระกูล Ada Lovelace มาตั้งแต่ยุคล็อคดาวน์และเหมืองยังไม่แตก ที่จีพียูมีซัพพลายน้อย ราคาแพงเท่าไรก็มีคนยอมซื้อ ทำให้ทีมออกแบบของ NVIDIA ไม่ได้สนใจเรื่องราคามากนัก และใส่ฟีเจอร์ใหม่ๆ อย่างระบบระบายความร้อนแบบใหม่เข้ามา
ฝั่ง AMD นั้นไม่ได้ทำอะไรพิเศษจากเดิม จีพียูรหัส Navi 31 (ซึ่งน่าจะเป็น Radeon RX 7900 XT) มีต้นทุนแพงขึ้นกว่า Navi 21 ในปัจจุบันจริง แต่ก็ไม่ได้เพิ่มขึ้นมากนักเมื่อเทียบกับฝั่ง NVIDIA
ด้วยเหตุผลนี้ทำให้เราจะได้เห็นผู้ผลิตการ์ดจอสามารถตั้งราคา Radeon ได้ถูกกว่า แถมทำกำไรได้ดีกว่าฝั่ง NVIDIA ที่รับมาแพงอยู่แล้ว ซึ่งจะทำให้ AMD ต่อกรในสงครามจีพียูเจนนี้ได้ดีขึ้นนั่นเอง
ที่มา - Notebookcheck
Comments
ถูกกว่าก็จริงแต่ DLSS 3.0 เขาไปไกลล้ำกว่ามากแล้ว
มันก็ยังมีหลายเกมส์ที่ไม่ได้ใช้นะครับ
Raw Performance ยังไงก็ยังใช้ได้อยู่ ยิ่งราคาถูกกว่าด้วยยิ่งดี
ก็สาเหตุนั้นแหละครับที่เค้าตั้งราคาแพงได้
ส่วนคนที่ไม่ได้ต้องการฟีเจอร์นั้น AMD ก็สร้างทางเลือกให้
ฟีเจอร์บางอย่างตอนนี้ยังมีดีแค่ใน spec sheet ครับ คือถ้าใช้ได้มันก็ดี แต่จะมีกี่เกมที่รองรับนั่นก็อีกเรื่อง และถ้าเทียบกับราคาที่ต้องจ่ายในตอนนี้มันคุ้มมั้ยก็แล้วแต่คนครับ
ในคลิปนั้น มีการบอกจากแหล่งข่าวภายในด้วยครับว่า DLSS 3.0 ในแง่เทคนิคสามารถใส่ใน RTX 30 Series ได้ครับ แต่ขึ้นอยู่กับทาง NVIDIA ว่าจะปลดล็อกให้รุ่นเก่า ๆ ให้ใช้งาน DLSS 3.0 ได้หรือไม่ แค่นั้นครับ
Coder | Designer | Thinker | Blogger
มันรองรับได้แค่บางตัวเองจากทั้งหมดเอง ที่เหลือติดที่เรื่อง HW หมดเลย
ที่บอกว่ารองรับบางส่วน มันก็คือ DLSS 2.0 นั่นแหละครับ เพราะฟีเจอร์ที่ต้องการใน DLSS 3.0 คือ DLSS Frame Accelerator ที่ใช้ Optical Flow Accelerator ใน RTX 40 Series แต่ทีนี้ ถ้าติด มันติดแค่ Optical Flow Accelerator ไม่ใช่หรือครับ?
เพราะเท่าที่อ่านมา มันมีแค่ส่วนนั้นส่วนเดียวที่ NVIDIA อ้างว่าต้องใช้ฮาร์ดแวร์พิเศษ (ในที่นี้คือ Optical Flow Accelerator) สำหรับ DLSS Frame Accelerator และที่สำคัญที่สุดคือ มันใช้ซอฟต์แวร์ในระดับไดรเวอร์ หรือ utilized บางส่วนของ CUDA Core, RT Core หรือ Tensor Core มาทำงานในส่วนนี้แทนตัว Optical Flow Accelerator ไม่ได้หรือไงครับ?
ตรงนี้ NVIDIA ยังไม่ได้อธิบายว่า ทั้งหมดนี้มันใช้ software-simulated ไม่ได้ และถ้าหาก issue นี้ solve ได้ด้วยซอฟต์แวร์ ผมว่ามันไม่ justified เท่าไรสำหรับการล็อกฟีเจอร์ DLSS 3.0 ไว้สำหรับ RTX 40 Series เท่านั้นนะครับ
Coder | Designer | Thinker | Blogger
NVOFA มีใน RTX 2000/3000 แล้วครับ แต่แต่ละยุคความสามารถก็จะไม่เท่ากัน ทั้ง จำนวน ฟีเจอร์ ความเร็ว ซึ่ง NVIDIA กล่าวในส่วนนี้ว่า NVOFA บนรุ่นเก่านั้นเร็วไม่เพียงพอ ซึ่งผมก็เห็นด้วยกับเหตุผลนี้นะ อย่าง OFA ใน 2000 series นี่ไม่ไหวจริงๆจากที่ทดสอบใน SVP
Hardware แต่ละตัวทำงานเฉพาะต่างกันครับ OFA คือ relative motion predictor/calculator(ใช้งานหลักๆคือการทำ interpolated frame คล้ายกับ Fluid Motion ที่คุณ aeksael เพิ่ง ถามหา ) และต่างจาก Tensor Cores และ RT Cores ที่เป็น fixed function ที่ทำหน้าที่ต่างกันครับ และอีกอย่างใน workflow ก่อนจามาถึงส่วนนี้ก็ต้องใช้ fixed function พวกนั้นก่อนแล้วด้วย
ถ้าเรามาดู workflow จะพบว่าใน DLSS 3.0 นั้นต่างจาก DLSS 2.0 ไม่มากครับ จริงๆคือยก DLSS 2.0 มาทั้งดุ้นเลยนั่นคือ RT ทำงานร่วมกับ CUDA ในการสร้าง frame -> Tensor upscale/reconstruct frame เพียงแต่ขึ้นตอนที่เพิ่มมา(ไม่นับเทคนิคเช่น guide motion จาก software หรือ ลด latency จาก Reflex) คือการ interpolate frame ที่ได้จาก DLSS 2.0 ด้วย NVOFA อีกทีครับ
ดังนั้นผมเข้าใจ(เอาเอง)ว่า DLSS 3.0 น่าจะ compatible กับ 2.0 ครับ คือ hardware รุ่นเก่าก็จะตัดการทำ interpolation ออกไปทั้งหมดแทน(แต่ส่วน Reflex น่าจะยังมีผลอยู่)
ทั้งนี้ทั้งนั้นว่ากันว่าส่วน interpolation นั้น เพิ่มความจำนวน frame จริงๆ แต่ไม่ได้เพิ่มความ smooth ในการรู้สึก เนื่องจาก latency ที่เพิ่มขึ้นมาบ้างแม้จะใช้ Reflex แล้วก็ตาม(เหมือนเปิด 2.5 buffering) ซึ่งในเรื่องนี้ผมก็เห็นด้วยนะ อย่างไรก็ตามคงต้องดูข้อมูลทางเทคนิคอีกทีครับว่ามันทำยังไง
edit : digital foundry ออก public review มาพอดีเลยครับ
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
เรื่อง utilized core บางตัว อันนี้เข้าใจจะสื่อครับ แต่ก็แอบคิดนิดนึงว่า ฟีเจอร์นี้น่าจะ backward compatibility กับฮาร์ดแวร์เดิมแบบตอน RTX Voice (ที่ตัว GTX ใช้งานได้ด้วย) แค่ประสิทธิภาพสู้ RTX 40 Series ไม่ได้
ส่วนเรื่อง Reflex เท่าที่จำได้คือ น่าจะมีมาสักพักใหญ่แล้วครับ แต่ DLSS 3.0 อาจจะมีผลในแง่ของฟีเจอร์ส่วนนี้เมื่อใช้ตัว OFA นะครับ
ส่วนตัวต้องรอดูรายละเอียดเต็ม ๆ อีกทีว่ามันเจอ roadblock อะไรบ้าง ถึง ship feature นี้ลง RTX 30 Series (หรือต่ำกว่านี้) ไม่ได้
ป.ล. อันนี้ บอกไว้ก่อนว่ายังไม่ได้ดูรายละเอียดของ Digital Foundry มานะครับ แต่ถ้าดูแล้วเดี๋ยวอัปเดตอีกรอบหนึ่งครับ
Coder | Designer | Thinker | Blogger
เข้ามาไทยก็เจอบวกราคาอีก แง
AMD ไม่มีคำว่าถูก สำหรับบ้านเรา 5555
5555
"Those who make peaceful revolution impossible will make violent revolution inevitable." JFK.
ดูรีวิวในยูทูบแล้วเช็คราคาเป็น USD เลยคิดจะย้าย
เปิดเว็บออนไลน์ของไทยเตรียมสั่งซื้อ เจอราคาแล้วถอยทุกทีเลยครับ
สรุปคือที่บ้านเรามันแพงเพราะค่าการตลาด+ภาษีใช่ไหมครับ
ลองอ่านข่าวนี้ของบล็อกนันครับ
หมายถึงว่า การ์ด Asus AMD แพงกว่า Asus Nvidia หรือเปล่าครับ?
สั่งผ่าน Ebay amazon ค่าส่งแพงไหมครับไม่เคยสั่งของนอกมาก่อน
เรื่องฟีเจอร์ต่างๆ เนี่ย Nvidia นำไปไกลจริงๆ
ทั้ง CUDA, Raytracing, DLSS, Reflex ต่างๆ
แต่ไม่ชอบที่เอาเฟรมเฟ้อๆ จาก DLSS มาเทียบว่าแรงกว่าเดิม 2-4 เท่า (ในขณะที่รุ่นเก่าไม่เปิดใช้งาน DLSS ด้วยนะ ถถถ) คือมีฟีเจอร์พวกนี้มันก็ดีแน่นอน ใครต้องการใช้ก็เปิดใช้งานได้ แต่ไม่ใช่เอามาเป็นจุดหลัก
ส่วน AMD จากที่ผ่านมาAMD ก็มีโอกาสตัดราคา Nvidia อยู่ตลอดแหละ แต่ส่วนมากจะแค่ขายถูกกว่านิดๆ แรงพอกัน ไม่มีฟีเจอร์ล้ำๆ และ Raytracing ไม่ได้ ให้ผู้ซื้อไปเลือกค่ายกันเอาเอง (ส่วนมาก Nvidia ก็ยังได้เปรียบอยู่ดี จากฟีเจอร์ ไดรเวอร์) รอดูรอบนี้ว่า AMD จะเปิดราคามายังไง
เวลา NVIDIA มีอะไรล้ำ ๆ คนก็จะมองว่า เขาไปไกลแล้ว AMD ไม่มีแบบเขา
แต่เวลา AMD มีอะไรล้ำ ๆ ติ่ง NVIDIA ก็จะบอกว่า ไม่เห็นจะจำเป็นเลย ระบบขี้โมี บลา ๆ
แล้วพอ NVIDIA ยัดระบบ ที่ AMD เคยมีบ้าง ติ่ง NVIDIA เงีบย อ้าว ไหนบอกว่า ระบบมันขี้โม๊ไง
บางทีเห็นความคิดเห็นพวกนี้แล้วก็อะนะ
เอ ผมว่า RX6400 ในเครื่องผมมันก็ HW Raytracing ได้นะ ถึงแม้ว่า RTX3070 จะทำได้ดีกว่ามากก็เถอะ
ส่วนตัวผมว่าพวกฟีเจอร์พื้นฐานมาก ๆ เช่นการรองรับพอร์ตแสดงผล AMD ยังทำได้ดีกว่าครับ
ปล.เครื่องผมมีทั้ง AMD และ Nvidia ครับ (Intel ก็มีนะ เป็นชิพการ์ดแลน) คือผมต่อ 5 จอ (3 monitor, 1 VR, 1 Wacom) แล้ว Nvidia มันไม่รองรับ ผมเลยต้องต่อการ์ดเพิ่มครับ (จริง ๆ ตอนแรกก็ใช้ GT730 แหละ แต่กลายเป็นอัพเกรดไดร์เวอร์ไม่ได้) พอพูดงี้ต้องมีคนมาค่อนขอดแน่ ๆ ว่าทำไมไม่ใช้ซีพียูอินเทล 555
เคยมีคนเทสการทดลองเอา Shaders มาแสดงผล ด้วยการเอา Nvidia VS AMD ผลปรากฏว่า AMD ทำภาพได้สวยกว่า เมือรัน Shaders ที่เหมือนกันแข่งกับ NV เท่านั้นแหละ ติ่ง NV บอก ภาพสวย??? ไม่เห็นจำเป็นเลย มีไปทำไม??? ภาพสวยไม่จำเป็น
แต่พอ DLSS VS FSR กลับมาบอกว่า DLSS ภาพสวย สววววววววดดดดดด ยอดดดดดด มงลง Nvidia ส่วน FSR ไม่สวย ระบบขี้โม๊
อะไรที่ NV แพ้ AMD คนจะบอกไม่เห็นจำเป็นต้องมีเลย แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว แต่อะไรที่ NV ชนะ AMD คนจะบอก AMD ไม่ล้ำ ทำไม่ได้ ล้าหลัง
มันทำได้ฮะ แต่พอเปิด Raytracing
แล้ว FPS ร่วงหนักมาก จนคนใช้ AMD ไม่เปิดกัน
จนรู้กันว่า ถ้าจะเล่น Raytracing ต้อง Nvidia
้ซ้ำครับ
รอดูครับ ไม่ได้อัพการ์ดจอมา 3ปีละส่วนตัวอยากสนับสนุน AMD นะ เข้าใจว่าเป็นรอง Nvidia แต่หลายๆฟีเจอร์ AMD พัฒนามาเป็นแบบเปิด ไม่ใช่เฉพาะยี่ห้อเฉพาะรุ่นถึงจะใช้ได้แบบ Nvidia
แต่ก็ต้องรอดู real world อีกทีว่ายอมรับได้มากแค่ไหน
PCIe 5.0 GPU แสดงว่าจะ 40xx หรือ 70xx เราก็หนีไม่พ้น Power Supply ATX 3.0 แล้วซินะครับ เสียดาย 850w ลูกเก่านะ ผมซื้อมาแพง ..ม๊ากกกกกกก
คงไม่พ้นจริงๆ แหละ เว้นแต่จะมีวิธีประมาณว่ามี dongle มารับไฟจากหัว 8 pin หลายๆ เส้นมารวมไว้ที่ตัวมัน แล้วตัวมันก็คุยกับ GPU ที่ใช้ ATX 3.0 แทน PSU แบบเก่าครับ
ถ้าทำเป็น dongle หลอก gpu ก็คงได้ครับ
ได้ไฟไหม้บ้านแทน
มีคนทดลองทำแล้ว ใช้ 3x8 pin to 12+4 pin จ่ายไฟที่ 600W ปรากฏว่าร้อนเพราะ สาย 8 pin จ่ายไฟโหลดเกินมาตรฐานเท่าตัว สรุปว่าไม่แนะนำให้ใช้ครับ
อันนั้นมันจ่ายไฟเกิน spec ครับ เพราะเดิมที 8 pin ออกแบบให้จ่ายไฟได้แค่ 150W ถ้าจะจ่าย 600W มันจะต้องใช้ 4 หัวขึ้นไปถึงจะถูกครับ ส่วนที่ผมบอก จริงๆ ผมต้องการจะบอกว่า อุปกรณ์ที่คล้ายๆ PSU ที่ทำหน้าที่รวมไฟ 8 pin หลายๆ เส้น จาก PSU แล้วแปลงเป็น 12+4 pin โดย GPU จะคุยกับอุปกรณ์ที่ว่าเสมือนคุยกับ ATX 3.0 PSU ก็ได้ หรือจะคุยกันโดยที่รู้ว่ามันเป็นแค่อุปกรณ์ที่จัดหาไฟแบบ 12VHPWR ให้เท่านั้นก็ดีครับ
/me ทีม Thermaltake GF1 850W (เพิ่งซื้อปีนี้ด้วย)
เอา ATX 2.0 มาพ่วง dongle ไม่ได้ฮะ มันมี bus 4 pin ออกจาก Power Supply มาคุยกับ ตัวการ์ดด้วยนะ เดี๋ยวออกมาก็เห็นเองแหละ ... เฮ้อ
CPU ใหม่
Socket .. ใหม่
Ram DDR5 .. ใหม่
VGA ... ใหม่
USB ... ใหม่
PCIe ... ก็ใหม่
Power Supply .. ก็ยังใหม่
เหลือ พัดลม กับ เคสคอม ... (ไม่ต้อง up แล้ว ทั้งเครื่องไปเล้ย)
เคสก็ต้องใหม่เพราะยัด การ์ดจอไม่เข้า 555
ATX 2.0 ก็ยังใช้ได้นะครับ เช่นการ์ด 3090Ti มีสาย 8pin X3 to 12 Pin ให้มาด้วย เพียงแต่มันน่าจะแค่จ่ายไฟให้ได้ตามปกติเพียงเท่านั้น แต่ Feature ใหม่ๆ ที่ต้องใช้ 4Pin คุยกับการ์ดคงไม่สามารถทำได้เพียงเท่านั้น
ผมน่าจะมีรุ่นล่าง ๆ กลาง ๆ ที่ใช้สายแบบเก่าหรือเปล่าครับ? ถ้าจะเปลี่ยนทั้งหมดแบบนี้ ผมว่า คนใช้แบบเรา ๆ นี่คงมีช็อคไปประมาณนึงเลยนะ
NVIDIA NVIDIA ใครไม่แพง แต่เราแพง NVIDIA NVIDIA ใครไม่แพง แต่เราแพง
NVIDIA NVIDIA พี่รับมาแพง พี่รับมาแพง โยว NVIDIA NVIDIA พี่รับมาแพง พี่รับมาแพง เร้ย
รุ่นใหม่ไม่มีmotion fluidแล้วหรอครับ
The Last Wizard Of Century.
เบิ้ล--
The Last Wizard Of Century.
ตัวใหม่บอกว่าจะถูกกว่าค่ายNvidia แต่กลัวบาทอ่อน ออกมาแล้วจะกลายเป็นแพงกว่าตัวเก่าของค่ายตัวเองเยอะเลยน่ะซี
มโนกลับด้าน
RTX3000 ราคาน่ารัก เพราะรู้ว่า RX6000 มันแรงรดคอหอย
พอ RTX4000 ราคาขี้เหร่ แปลว่า RX7000 จะไม่แรงเปล่า???
ขอให้ RX7000 แรงตบหน้า Nvidia อีกรอบเถอะ
ถ้าพูดแบบไม่โลกสวย AMD ยังมีจุดเสียเปรียบหลักอยู่ตรงฝั่ง Software
เหมือน Nvidia จะดันเรื่อง software feature หนักมาก (อยู่ใน Gamework) ส่วน AMD ยังต้องพึ่ง Open Source อยู่พอสมควร ส่วนหนึ่งคือลดกำแพงการเข้าถึง และอีกส่วนคือสามารถดึงคนที่สนใจภายนอกเข้ามาร่วมได้ด้วย
+1 ตัวการ์ดจอ AMD ไดร์เวอร์ยังถือว่า subpar เมื่อเทียบกับ NVIDIA มากครับ ตอนผมใช้ Ryzen APU (ที่ต้องพึ่งไดรเวอร์ Radeon) เรียกว่าเล่นเกมหนัก ๆ ไม่ได้เลย แครชกระจุย แถมบั๊กยังมีพอสมควร
ตอนนี้ได้ GTX 1660 Super (ที่ได้ต่อมาจากน้องผม) มาใช้แล้ว ชีวิตตอนนี้ดีขึ้นกว่าเดิมเยอะครับ
Coder | Designer | Thinker | Blogger
+1 ครับ เหมือน AMD ไม่เก่งมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้วนะครับ