วันนี้บริษัทเซมิคอนดักเตอร์รายสำคัญอย่าง Texas Instrument (TI) และ SK Hynix แถลงผลประกอบการ โดยทั้งสองรายระบุเหมือนกันว่าตลาดเริ่มชะลอตัว อาจจะแสดงให้เห็นว่าเราออกจากยุคชิปขาดแคลนอย่างเต็มตัวแล้ว
ผลประกอบการของ TI ยังคงเติบโตแต่ช้าลงมาก โดยรายได้เติบโตเพียง 1% QoQ และ 13% YoY คิดเป็น 5,241 ล้านดอลลาร์ ขณะที่กำไรรวมยังคงเติบโตค่อนข้างดีที่ 18% YoY คิดเป็น 2,295 ล้านดอลลาร์
SK Hynix ที่มีสินค้าหลักคือ DRAM และหน่วยความจำแฟลชนั้นผลประกอบการลดลงทั้งรายได้และกำไร โดยรายได้อยู่ที่ 10.9 ล้านล้านวอน ลดลง 20% QoQ และ 7% YoY ขณะที่กำไรเหลือ 1.1 ล้านล้านวอน ลดลง 62% QoQ และ 67% YoY
ทาง SK Hynix ระบุว่าสภาพเศรษฐกิจโลกกระทบต่อความต้องการแรมและสตอเรจอย่างหนัก แม้ว่าสินค้าใหม่ๆ อย่าง NAND 176-layer จะเริ่มเดินสายการผลิตเต็มรูปแบบแล้วก็ตาม แต่ทั้งนี้บริษัทยังมองภาพระยะยาวเป็นบวก โดยคาดว่าตลาดองค์กรจะต้องการแรมและสตอเรจแบบใหม่ๆ อย่าง HBM3 และ DDR5 ตลอดจนชิป NAND แบบ 238-layer ก็จะทำให้บริษัทแข่งขันได้ในอนาคต
ที่มา - SK Hynix , Texas Instrument
ภาพโดย Republica
Comments
ชิปพื้นๆยังรอสต๊อกถึงปีหน้าแถมไม่ลดเลยครับ ยิ่งบริษัทชิปจีนเจ๊งนี่ราคาไม่ลดเลยแถมโดน re-labeling ย้อมแมวด้วย
wait time เริ่มหักหัวลงแล้วนะนครับ พวกชิปเฉพาะที่รอคิว FAB นี่น่าจะอีกระยะ แต่พอหลุดรอบนี้ได้ (คิวโรงงานตอนนี้ประมาณ 6 เดือนกำลังลดลง) ก็น่าจะหาซื้อกันได้ตามปกติล่ะ
lewcpe.com , @wasonliw
ราคาลงยาก คำนึงถึงเรื่องเงินเฟ้อ อัตราแลกเปลี่ยนด้วย
ตามแพลนวิกฤติน่าจะจบภายในปีหน้า...
... ถ้าไม่มีวิกฤติใหม่มาเพิ่มซะก่อน
ขอให้จบซะทีสำหรับต้นทุนจาก demand ที่เกินกำลังการผลิต แค่ต้นทุนที่แรับขึ้นจากเงินเฟ้อก็อ๊วกละตอนนี้
..: เรื่อยไป
ขิป -> ชิป
หัวข้อข่าว
บล็อกส่วนตัวที่อัพเดตตามอารมณ์และความขยัน :P
กำลังจะทัก
ขึ้นๆลงๆกันเป็นลูกโซ่ ซินะ
เศรษฐกิจชะลอตัว (คนรายได้ลดลง ซื้อของน้อยลง) การซื้อขาย และความต้องการ (ชิป) เลยลดลงตามไปด้วย
จริงๆแล้วก็เหมือนจะเป็นไปตามที่ FED กำลังทำอยู่เพื่อจะชะลอเศรษฐกิจล่ะนะ
หมดยุค WFH Demand อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ก็ลดลง
แล้ว PS5 ในไทยล่ะ