เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายนที่ผ่านมาเกิดเหตุรถชนกัน 8 คันซ้อนบนทางหลวง I-80 ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ผู้ขับ Tesla Model S ต้นเหตุระบุว่าเกิดจาก Full Self-Driving (FSD) ขัดข้อง
เหตุการณ์ครั้งนี้รถ Tesla Model S กำลังวิ่งด้วยความเร็วประมาณ 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จากนั้นเปลี่ยนเลนข้ามไปหลายเลน แล้วรถความเร็วลงเหลือ 32 กิโลเมตรต่อชั่วโมงอย่างรวดเร็วจนรถที่ตามมาลดความเร็วไม่ทันและชนกันเป็นลูกโซ่
ทางตำรวจแคลิฟอร์เนียระบุว่าไม่สามารถตรวจสอบได้ว่า FSD ทำงานอยู่ขณะเกิดเหตุจริงหรือไม่ แต่ก่อนหน้านี้ Tesla เคยต้องเรียกรถกลับไปแก้ไขซอฟต์แวร์หลังเบรกฉุกเฉินทำงานผิดพลาด และ FSD เองเพิ่งอัพเดตเป็น V11 ที่ใช้งานบทางหลวงได้ และโดยระดับความอัตโนมัติแล้ว FSD ยังเป็นเพียงระดับ 2 ที่ผู้ขับขี่ต้องรับผิดชอบควบคุมรถตลอดเวลา
สำหรับการขับขี่แบบอัตโนมัติที่ผู้ขับขี่ไม่ต้องสนใจควบคุมรถอีกแล้วจะต้องเป็นระบบอัตโนมัติระดับ 4 ขึ้นไป ที่ตอนนี้เริ่มมีรถบางยี่ห้อได้รับอนุญาตในพื้นที่จำกัด เช่น ทางหลวงบางสายในสหรัฐฯ
ที่มา - ArsTechnica
Comments
ระดับ 3 ความรับผิดชอบยังอยู่ที่ตัวคนขับนะครับ ต้องระดับ 4 ขึ้นไปเหมือน Waymo
แก้ไขตามนั้นครับ
lewcpe.com , @wasonliw
ต้องถอดพวงมาลัยสินะ
ไม่จับพวงลับ จนรถต้องลดความเร็วเข้าจอดรึป่าวนะ
พวงลับ เลยทีเดียว
เจอยี่ห้อนี้อย่าขับตามหลังเด็ดขาด ภัยบนท้องถนน
รัฐแคลิฟอร์เนียร์ > รัฐแคลิฟอร์เนีย
ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว
ถ้าระบบ auto drive ยังไม่มีการคุยกันเองระหว่างรถแต่ละคัน ก็ยังไม่กล้าใช้จริงๆ
บทชีวิตแม้มันจะหนักหนา ….
FSD ไม่ใช่ว่าเป็นไปไม่ได้นะ ถ้าไม่พยายามดันและพัฒนาเทคโนโลยีคงไม่เกิดง่าย ๆ
BMW i7 เห็น คุณอู๋ review เป็น level 3 ไม่ต้องจับพวงมาลัยแต่ต้องดูทางตลอดเวลาถ้าละสายตาระบบจะเตือนทันที