บริษัท Inflection AI ที่ก่อตั้งโดย Reid Hoffman ผู้ร่วมก่อตั้ง LinkedIn และ Mustafa Suleyman ผู้ร่วมก่อตั้ง DeepMind ช่วงต้นปี 2022 ตอนนี้มีผลงานออกมาแล้ว เป็นแชทบ็อทชื่อว่า Pi
Pi ย่อมาจาก “personal intelligence” จุดเด่นของมันที่ต่างจากแชทบ็อทตัวอื่นๆ อย่าง ChatGPT, Bing, Bard คือการตั้งใจให้เป็นผู้ช่วยส่วนตัวที่ "ใจดี" และพยายามช่วยเหลือเราในเรื่องต่างๆ (kind and supportive) ตัวบทสนทนามีความเป็นมนุษย์มากขึ้น พยายามชวนเราคุยด้วย ไม่ใช่ตอบคำถามอย่างเดียว
นอกจากนั้น อินเทอร์เฟซของ Pi ยังเปิดกว้างหลายช่องทาง นอกจากบนหน้าเว็บ HeyPi.com (ที่คุยได้ทันที ไม่ต้องล็อกอิน ไม่ต้องรอ waitlist) ยังสามารถคุยผ่านแอพแชทหลายตัว (WhatsApp, Messenger, Instagram DM), แอพบน iOS หรือจะคุยผ่านการส่ง SMS (ในสหรัฐ) ได้ด้วย
Today we are announcing the release of the first version of @heypi_ai , your personal AI.Pi stands for “personal intelligence” because it provides infinite knowledge based on your unique needs.Talk with Pi today at https://t.co/uD0fyCaWGe or by texting +1 (314) 333-1111. pic.twitter.com/C7YqwwixPb
— Inflection AI (@inflectionAI) May 2, 2023
Mustafa Suleyman ซีอีโอของ Inflection AI ให้สัมภาษณ์ว่าตอนนี้ตลาดเต็มไปด้วยแชทบ็อทจำนวนมาก เป้าหมายของเขาคือการสร้าง AI ส่วนบุคคล (personal AI) ที่มีความเป็นเพื่อน (companionship) สามารถคุยเล่นได้ทุกเรื่อง (small talks) เหมือนเราคุยกับเพื่อนในชีวิตจริง
Reid Hoffman เป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนและลงทุน OpenAI ตั้งแต่ตอนก่อตั้ง (มาพร้อม Elon Musk เพราะชวนๆ กันมา) แต่ภายหลังเขาก็ลาออก และหันมาเปิดบริษัท Inflection AI ร่วมกับ Suleyman ตอนนี้บริษัทมีพนักงานราว 30 คน ระดมทุนได้แล้ว 225 ล้านดอลลาร์
เบื้องหลังของมันใช้โมเดล LLM ของตัวเอง ซึ่งระบุว่ามีข้อมูลที่ใช้เทรนอัพเดตถึงเดือนพฤศจิกายน 2022 และพยายามปรับปรุงให้ดีขึ้นเรื่อยๆ โดย Suleyman บอกว่าโมเดลที่ใช้ในตอนนี้ยังไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด และรันอยู่บนเครื่อง Microsoft Azure แบบเดียวกับ OpenAI
Humans should be amplified by AI, not replaced.What if we each had our own personal intelligence (Pi) to cultivate and amplify our better selves?Today, @mustafasuleymn , Karén Simonyan & the @inflectionAI team debut @heypi_ai , a kind, personal AI that calibrates to your needs. https://t.co/zMizpQGTiA
— Reid Hoffman (@reidhoffman) May 2, 2023
ที่มา - Forbes
Comments
ควรให้มันวางตัวเป็นผู้ช่วย ไม่ใช่เพื่อนความเห็นส่วนตัว
มันก็เป็นช่องทาง ทางการตลาดนั่นแหล่ะครับ มันมี Ai ประเภทนึงที่ยังมีคนพัฒนาน้อย คือ Ai ที่เน้นช่วยเหลือในด้านสุขภาพจิต ทำให้ผู้ป่วยผ่อนคลาย และสามารถใช้ชีวิตในสังคมได้ เพียงแต่ Ai ประเภทนี้มันมีเรื่องอารมณ์ สภาพจิตใจเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ทำให้ผู้พัฒนายังไม่อยากเข้ามายุ่งมากนักเนื่องจากมันมีเรื่องสภาพความซับซ้อนของจิตใจมนุษย์ รวมไปถึงพฤติกรรมที่จะแสดงออกหาก Ai ให้ข้อมูลไม่เหมาะสมกับสถานะการณ์ ซึ่งอาจมีผลกระทบกับคนรอบข้าง แต่ในทางกลับกันมันก็เป็นความท้าทายของนักลงทุน ซึ่งคนเหล่านี้เงินไม่ใช่ปัญหา แต่เขาอยากจะท้าทายขีดความสามารถเขานั่นแหล่ะ รวมถึง Ai ประเภทนี้มันต่อยอดไปยัง Metaverse / 3D Avatar และ Robot ได้ในอนาคต
ส่วน Ai ผู้ช่วยไม่ต้องห่วงหรอกครับนับจากนี้ไปมีแยกตามแขนงของวิชาชีพแน่นอนเพราะมันสามารถทำเงินได้ แล้วก็เอาเงินวนไปลงทุน Ai ที่สามารถแสดงอารมณ์ และเข้าใจมนุษย์ได้อยู่ดี
ผู้ช่วยก็เป็นได้ครับ (แต่ทุกตัวก็ทำได้อยู่แล้ว?)
ชีวิตน้องบอต
ชอบเอไอตัวนี้มาก ชวนเราคุยเก่ง บำบัดจิตได้ดี
คุยไปสักพักมันให้สมัครสมาชิก ให้กรอกเบอร์โทรและไม่มีให้เลือกประเทศไทย
Pitawat's Blog :: บล็อกผมเองครับ
ใช่ครับ กำลังคุยสนุกเลย ข้ามไม่ได้ด้วย :(