iPhone 15 และ iPhone 15 Pro มีฟีเจอร์หนึ่งเกี่ยวกับแบตเตอรี่ ที่แอปเปิลไม่ได้ประกาศเป็นทางการ แต่มีการค้นพบในโค้ดของ iOS 17 ก่อนหน้านี้ ซึ่งหลังจากแอปเปิลส่งเครื่องให้สื่อจำนวนหนึ่งรีวิว ก็ยืนยันถึงการตั้งค่านี้
โดยผู้ใช้งานสามารถเลือกตั้งค่าการชาร์จ iPhone เพิ่มเติม ใน Settings > Battery > Battery Health & Charging > Charging Optimization จากเดิมตัวเลือกมีเพียงปิดหรือเปิด Optimized Battery Charging (การชาร์จเพื่อถนอมแบตเตอรี่) ตอนนี้มีตัวเลือกสามแบบได้แก่
- Optimized Battery Charging
- 80% Limit
- None
การชาร์จแบบ Optimized นั้นทำงานเหมือนเดิม คือ iPhone จะเรียนรู้การพฤติกรรมใช้งานและการชาร์จ โดยจะหน่วงการชาร์จเมื่อแบตเตอรี่ถึงระดับ 80% ในบางกรณี ส่วนตัวเลือกการตั้งค่าใหม่ 80% Limit นั้น ไม่ว่าอย่างไรแบตเตอรี่ก็จะหยุดการชาร์จที่ 80% ไปเลย เพื่อยืดอายุแบตเตอรี่
ทั้งนี้สเป็กแบตเตอรี่ของ iPhone 15 ทุกรุ่น มีขนาดและระยะเวลาใช้งานเท่ากับ iPhone 14 ที่ก่อนหน้านี้มี รายงานข่าว เกี่ยวสุขภาพและความจุที่ลดลงมากแม้ใช้เพียง 1 ปี
ที่มา: MacRumors
Comments
น่ามีประโยชน์สำหรับเครื่องตั้งโชว์ที่เสียบชาร์จตลอดเวลาเลยครับ
อนาคตจะ update ให้ device อื่นรุ่นอื่นด้วยมั้ยนะ?
ใน samsung ใช้ตัวเลขที่ 85% ถือว่าเลขใกล้ๆ กันตัวเลขนี้มันช่วยยังไงเหรอครับ จำกัดการชาร์จไว้ที่ประมาณนี้
แบตเสื่อมที่เราพูดๆกันมันคือพันธะของอะตอมมันขาดครับ แล้วไปจับกับตัวที่ไม่มีประโยชน์แทน มันเลยเก็บอิเล็กตรอนไม่ได้ การที่มันจะขาดได้คือมันต้องมีอะไรมาดึง ซึ่งก็คืออิเล็กตรอนนี่แหละเบียดๆลงไป ถ้าเราชาร์จประมาณ 80% อิเล็กตรอนมันก็จะสุ่มๆลงช่องว่างในแบต ซึ่งมันยังพอมีช่องว่างให้อะตอมขยับได้ไม่ตึงมาก โอกาสที่พันธะขาดก็จะน้อยลงแต่ถ้าชาร์จเต็มร้อยเลย(ซึ่งมันก็ไม่ได้ร้อยจริงหรอก แค่เกือบๆ) ช่องว่างที่ให้มันขยับจะน้อย พันธะมันจะตึง และมีโอกาสที่พันธะจะขาดสูงขึ้นครับ
ซึ่งพันธะที่ว่านี่มันมีโอกาสขาดได้ทั้ง 2ฝั่ง คือใช้จนหมดเครื่องดับ ฝั่งนึงก็เสื่อม ชาร์จจนเต็มปรี่ อีกฝั่งนึงก็เสื่อม
เคยอ่านที่เขาวิจัย เขาว่าดีที่สุดคือชาร์จที่ประมาณ 6-70% แล้วใช้แค่ประมาณ40กว่าๆ ก็ชาร์จใหม่ แต่มันไม่ practical และการจำกัดแบตที่ 80-85 ก็สามารถยืดอายุแบตได้ราวๆเท่าตัวแล้วเมื่อเทียบกับชาร์จ100
ประมาณนี้ครับ เทสล่าเองก็ลิมิตแบบนี้นะ
ช่วยได้จริงๆนะ ปกติอยุ๋โหมดนี้ตลอดเพราะเสียบเครื่องทิ้งไว้ทั้งวัน เวลาที่ปลดโหมด 85% ออกนี้รู้สึกได้เลยว่า แบตที่ 100% มันยังสดเหมือนเครื่องใหม่ทั้งที่เครื่องก็ 2 ปีกว่า
ก่อนหน้านี้มีรายงานข่าวเกี่ยวสุขภาพและความจุที่ลดลงมากแม้ใช้เพียง 1 ปี
ใช้ 1 ปีนิดๆ สุขภาพแบตเหลือ 91% งงมากมาย เกมก็ไม่เล่น. ไม่ชาร์จไปใช้ไป ถนอมสุดๆ ยังหายไปเกือบ 10%
อุณหภูมิก็มีส่วนครับ ideal เลยคือ 0 C แต่มันทำไม่ได้ในเชิงปฏิบัติ
Galaxy S21 FE ผมชาร์จ 100% ตลอด ใช้ไปได้ 20 เดือนแบตบวม จัดไป 1764 บาท
I need healing.
ฝั่ง Android ผมก็อยากได้อะไรแบบนี้บ้าง มีแต่อัตโนมัติที่ล็อคเฉพาะตอนข้ามคืน 😩แถม Surface Duo นี่อัตโนมัติถึง 90% อีกต่างหากไม่ใช่แค่ 80%
เลขแบต เลขสุขภาพ ทำให้นอยเล่นๆเอาเข้าจริง ไอโฟนรุ่นใหม่ๆ ยากเลยที่จะใช้แบตให้หมดจนดับ
ของรุ่นอื่นก็ทำได้นะคะ แค่ใช้เครื่องให้มันร้อน เดี๋ยวมันก็หยุดที่ 80 เอง
//มุก
แอบสงสัยว่าโหมดยืดอายุแบตเตอรี่ในโน้ตบุ๊กถึงจำกัดที่ 60% แต่มือถือจำกัดที่ 80%
laptop รุ่นไหนเหรอครับ 60 ปกติที่เจอมาอย่าง Lenovo ก็ 80 นะครับ
VAIO ผมมีให้เลือก 50% ด้วยครับ
Asus มี 60 กับ 80 ให้เลือก
ความรู้ใหม่เลย ขอบคุณครับ
Lenovo Legion ผมหยุดที่ 55%
ตามงานวิจัย แบตเตอรรี่จะมีอายุใขนานที่สุดเมื่อมีชาร์จอยู่ประมาณครึ่งนึงครับ นั่นคือ 40-60%
ส่วน 80% นั่นคือ optimal ระหว่างอายุแบต กับเวลาใช้งานมีไม่น้อยไป
ที่เคยได้ยินมีแบบเก็บระยะยาว ใช้ชาร์ทนิดหน่อย แต่ตัวเลขที่ผมได้ยินมาคือ 40 % จะเก็บยาวๆ แบตไหลออกน้อยสุด
นวัตกรรม
เห็นโน็ตบูค บ้างรุ่น ก็จำกัด ให้ชาร์ต ได้แค่นี้ นะ
Apple Watch Ultra ด้วย จำกัดแค่ 80% แต่บางวันก็พุ่งให้ 100แบบงงๆ
iOS 17 อื่นไม่ได้หรอเนี่ย เผื่อไว้ใช้กับเวลาเสียบนำทางในรถ ><
ฟีเจอร์แค่นี้ก็ต้องล็อคไว้ให้แค่รุ่นล่าสุดหรอ เกินไป
ไอโฟนสุดยอดจริง สมกับเป็นสมาร์ตโฟนที่ดีที่สุดในโลก
ใช่ๆ เครื่องละแสนก็ถือว่าถูกสำหรับของดีๆแบบนี้
ถ้าการจำกัดให้ได้แค่ 80% มันดีต่อสุขภาพแบต ทำไมไม่ทำให้ความจุจริงมันมากกว่านั้น แล้วตอนมันชาร์จ 80% ก็บอกว่าเป็น 100%
ถ้าทำจริงคิดว่าคงโดนฟ้อง
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
เพราะมันจะหนาและหนักครับ
ดีต่อแบต แต่ไม่ดีต่อผู้ใช้งานครับ พอผู้ใช้งานรู้ว่าแบตตัวเองจุมากกว่านั้นจริงๆ เดี่ยวก็อยากใช้ให้สุด เสียช่าง มีประกัน หรือไม่สนใจจะใช้งานให้สุดๆๆ
ทำเป็น overcharge ก็ได้ แบบว่าชาร์จได้สูงถึง 125% (100% จริง ส่วน 100% ที่เห็นคือ 80% จริง) แต่บอกไว่ว่าจะทำให้อายุของแบตฯ สั้นลงครับ
เขาไม่ได้อยากให้แบตอยู่ได้5ปีปะครับ เขาอยากให้คนเปลี่ยนมือถือปีต่อปี
ผมว่าเรื่อง Marketing ด้วยครับเช่นแบตเครื่อง A มี 4500 mAh ส่วนแบตเครื่อง B มี 3600 mAh แต่จริงๆ แล้วเครื่อง B ก็มีแบต 4500 mAh เหมือนกัน แต่ใช้แค่ 80% ทำให้เหลือ 3600 mAh
แล้วก็ถ้าใส่ Option มาให้เปิดปิดมันทำให้โฆษณาได้ 2 เด้งคือ
1. แบตใหญ่ (4500 vs 3600 mAh)
2. มีระบบรักษาแบต (เห็น Option ใน Settings)