VMware ซึ่ง ปัจจุบันมี Broadcom เป็นเจ้าของ ประกาศเปลี่ยนรูปแบบการขายไลเซนส์มาเป็นแบบ Subscription ทั้งหมด โดยมีผลตั้งแต่ 11 ธันวาคมเป็นต้นไป จะไม่มีการขายไลเซนส์ของผลิตภัณฑ์ VMware แบบขายขาด (perpetual license) รวมทั้งไม่มีการขายแผนสนับสนุน (support and subscription - SnS) ให้ผลิตภัณฑ์ VMware แบบไลเซนส์ขายขาดอีกต่อไปเช่นกัน ทั้งหมดจะมีเฉพาะแบบ Subscription เท่านั้น
ส่วนไลเซนส์ขายขาดที่ลูกค้าซื้อไปแล้ว รวมทั้งสัญญา SnS ที่มีอยู่เดิม จะยังสามารถใช้ได้ต่อไปตามข้อตกลงในสัญญา แต่เมื่อระยะเวลาสัญญาหมดลง จะไม่ได้รับการซัพพอร์ตหรือต่ออายุได้อีก นอกจากนี้ VMware จะเริ่มติดต่อลูกค้าเพื่อเสนอทางเลือกเทรดอินไลเซนส์ขายขาดเดิมกับส่วนลดในการเปลี่ยนมาเป็น Subscription ด้วย
Broadcom อธิบายว่าแนวทางนี้เพื่อทำให้รายละเอียดผลิตภัณฑ์ของ VMware มีความซับซ้อนน้อยลง และเป็นการผลักดันให้ลูกค้ามาใช้ Subscription ทั้งหมด ซึ่งเป็นแนวทางที่ในอุตสาหกรรมนิยมใช้กันมากขึ้น
VMware ยังประกาศเปลี่ยนแปลงรายละเอียดของ VMware Cloud Foundation โดยโซลูชัน VMware Cloud Foundation ที่เป็นไฮบริดคลาวด์สำหรับลูกค้าองค์กรขนาดใหญ่ ปรับลดราคาลง เพิ่มรายละเอียดการสนับสนุนที่มากขึ้น และเพิ่มโซลูชันใหม่ VMware vSphere Foundation ซึ่งปรับลดรายละเอียดการใช้งานสำหรับองค์กรขนาดกลาง จนถึงลูกค้ารายย่อย
ที่มา: VMware
Comments
เจ้าของใหม่มายังไม่ทันไรก็เอาละหรอ
ดีต่อใจนักลงทุน...
ธุรกิจ เข้าใจได้
เอาเถอะ ก็คิดอยู่แหละว่ามันต้องเป็นเข้าซักวัน ถ้าคิดราคาแบบสมเหตุสมผลมันก็ไม่มีประเด็นอะไรเท่าไหร่
จะว่าดีก็ดี จะว่าไม่ดีก็ไม่ดี ลำบากตอนทำงบประมาน
ก็โยกจาก CAPEX ไป OPEX แทนครับ
องค์กรผมเท่าที่ได้มีโอกาสฟัง top management มาพูดล่าสุดคือใน 5 ปีข้างหน้าจะมีรายจ่ายในส่วนอื่นเพิ่มขึ้นแบบมหาศาล ดูแล้วมาเบียดเบียนงบส่วนอื่นแน่นอน ซึ่งไม่ว่าจะงบหมวดไหนจะโยกยังไงก็ลำบากครับ เลยอยากตัดปัญหาซื้อขาดไปเลยจบๆครับ ไม่ต้องมาวุ่นวายทีหลัง แต่ผมคิดว่าถึงเวลานั้นจริงๆแล้วผมอาจจะไม่อยู่แล้วก็ได้
คงอยู่ที่บริษัทแต่ละบริษัทว่าจะมอง EOS/EOL กับ software ที่เราใช้งานอย่างไรด้วยแหละ
เพราะอย่างของผม ต่อให้ซื้อ perpetual license แต่ยังไงเราก็ต้องซื้อ MA อยู่ดีน่ะครับ ฉะนั้นค่าใช้จ่ายจากที่เราต้องลง CAPEX+OPEX มันก็จะไปลงที่ OPEX อย่างเดียวไปเลย เพราะหากบริษัทที่มี audit ตรวจสอบตลอดเวลา การซื้อ license ต้องมองเรื่อง MA ด้วยว่ามีหรือไม่ เพราะหากไม่มี หรือหมด มันก็จะโดนใส่เป็น risk ไปอีก แล้วยังไม่รวมเรื่อง EOS/EOL อีกต่างหาก
แต่เห็นด้วยว่า subscription license ดีดไปดีดมา ก็จะเจอว่าแพงกว่าอยู่หน่อย แต่ถ้าต้องบริหาร EOS/EOL ด้วย ก็อาจจะพอถูไถไปด้วยกับเงินที่ต้องจ่ายแพงขึ้น
สุดท้ายแล้วโปรแกรมมันก็คือเครื่องมือทุ่นแรง ถ้าแรงถูกกว่าก็จ้างแรง ถ้าเครื่องมือถูกกว่าก็ซื้อเครื่องมือ คือเขาจะตัดไอทีออกไปทั้งหมดก็ได้ ถ้าบริษัทเขายังทำเงินได้ ก็อธิบายไปตามเนื้อผ้าและผลกระทบทางธุรกิจ
ใช้VirtualBoxแทน ส่วนwindowsใช้sandbox
ใช้ Proxmox แทนได้ไหมครับ (อย่าเพิ่งขำนะผมยังไม่ค่อยมีความรู้ด้านนี้)
ถ้าระดับ Workstation , Homelab ทั่วไปก็ได้นะครับ แต่ถ้าระดับ 300-400 vms ++ น่าจะต้องไป VMware , Hyper-V
ย่อหน้าที่ 4 บรรทัดที่ 3-4ปรับลงราคาลง > ปรับลดราคาลง
ต่อไปมือถือต้องสมัครรายเดือน 😂
หมด Subscription แล้ว VM ดับเลยเปล่าเนี่ย น่ากลัว ฮ่าๆ