Tero Virtala ซีอีโอของ Remedy Entertainment เผยข้อมูลผ่าน Business Review ประจำเดือนมกราคม-มีนาคม ว่าในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ Alan Wake 2 ทำยอดขายได้ 1.3 ล้านชุดแล้ว สามารถคืนทุนส่วนหนึ่งของค่าใช้จ่ายในการพัฒนาและการตลาดได้แล้ว และ Remedy จะขายเกมนี้ในราคาเฉลี่ยที่สูง (high average price) ต่อไป โดยเป้าหมายของทีมงานในไตรมาสแรกนี้คือการพัฒนาส่วนเสริม (DLC) ของเกม แต่ไม่ได้พูดถึงการนำเกมลง Steam หรือแพลตฟอร์มอื่นบน PC แต่อย่างใด
ด้านรายได้รวมบริษัทมีรายได้เพิ่มขึ้น 56.2% หรือประมาณ 10.8 ล้านยูโร ขาดทุนจากดำเนินกิจการอยู่ที่ -19.3% หรือประมาณ -2.1 ล้านยูโร ซึ่งการขาดทุนบางส่วนมาจากการที่ Remedy ซื้อสิทธิ์ทั้งหมดของเกมซีรี่ส์ Control จาก 505 Games ในราคาประมาณ 17 ล้านยูโร
Tero กล่าวว่าหลังจากนี้ Remedy จะสามารถตัดสินใจเกี่ยวกับอนาคตของแฟรนไชส์ Control และ Alan Wake ได้อย่างอิสระ โดยกำลังชั่งน้ำหนักว่าจะวางขายเกมด้วยตัวเองหรือจะร่วมจัดจำหน่ายกับคู้ค้าทางธุรกิจตามเดิม (ก่อนหน้านี้ Alan Wake 2 จัดจำหน่ายโดย Epic Games Publishing)
ด้านความคืบหน้าของการพัฒนาเกม Tero ให้รายละเอียดแต่ละเกมดังนี้
- Codename Condor: เข้าสู่ช่วงพัฒนาเกมอย่างเต็มรูปแบบใกล้พร้อมเปิดตัว คาดหวังว่าจะนำเสนอเอกลักษณ์ของ Remedy ในรูปแบบเกม Live Service แบบเล่นหลายคน
- Control 2: อยู่ในช่วงสุดท้ายของ proof-of-concept คาดว่าจะเข้าสู่ช่วงพัมนาเกมในไตรมาส 2 ของปี 2024
- Max Payne 1&2 Remake: ยังอยู่ในขั้นตอนความพร้อมในการพัฒนาเกม คาดว่าจะพัฒนาอย่างเต็มรูปแบบในไตรมาส 2 ของปี 2024
- Codename Kestrel: ทีมงานกำลังปรับปรุง Concept ของเกมให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น
ที่มา - Remedy
Comments
คู้ค้าทางธุรกิจ > คู่ค้าทางธุรกิจ
จะเข้าสู่ช่วงพัมนาเกม > จะเข้าสู่ช่วงพัฒนาเกม