= =" เวรกรำประเทศไทยจริง แล้วถ้ามีชาวต่างชาติละเมิดลิขสิทธิ์อื่นๆ ในไทยหล่ะ ทำอะไรไม่ได้...

มันจะเหมือนคำว่า iPad ที่มีคนจีนเป็นเจ้าของหรือเปล่า

จีนไปฟ้องนอกประเทศไม่ได้

แต่ถ้าจะเอา iPad มาขายในจีน Apple ต้องใช้เงิน 60 ล้าน US ในการใช้ชื่อ iPad ในจีน

คนที่ทำอย่าคิดว่าเขาไม่รู้กฎหมายนะครับโดยเฉพาะตาคนที่ทำ Sport Chanel เชี่ยวเลยล่ะ

ตอนนี้ App ตระกูล FC ของ Developer คนนี้ก็โดนถอดออกเกลี้ยงแล้ว (แต่ตระกูล Series8-9 ยังรอดอยู่)

มันฟ้องผิดที่รึเปล่า เรื่องนี้ต้องไปฟ้องพรีเมียร์ลีก ที่แอปเปิลละเมิดลิขสิทธิ์ในประเทศไทย จ่ายเงินซื้อมาแล้ว ให้พรีเมียร์ลีกฟ้องแอ๊ปเปิลอีกทีนึง ข้อหาละเมิดลิขสิทธิ์

CTH บอกไม่ได้ยื่นฟ้องผ่าน DSI สักหน่อย

ตามที่ @panraphee ทวิตว่าDSIชี้แจงไม่มีอำนาจสอบAppleฐานละเมิดลิขสิทธิ์CTHเพราะแอพสโตร์ไม่ได้จดทะเบียนในไทยนั้นฝ่าย กม.CTHบอกไม่เคยร้องDSIเลย

— Chavarong (@chavarong) September 13, 2013

คงไม่ได้ฟ้องเพื่อเอาผิด แต่คงจะฟ้องเพื่อให้เป็นข่าว

DVD CD software เถื่อนเกลื่อนพันทิพย์ DSI ตำรวจไทยยังจับไม่ได้เลย ;)

ถึงเอาผิดได้แต่ทางนู้นเค้ามีทนายระดับโลกนะครับ

อย่างน้อย account developer นี้ก็ถูกแบน(ล่ะมั้ง) = =)a

มาโปรโมทสินค้าไปในตัว แถมถ้าชนะคดีก็ยังได้เงินเป็นค่าขนมอีก แบบนี้มีแต่ได้กับได้นะ คิคิ(ยิ้มแบบตัวโกงเล็กน้อย)

ผมว่าถ้าทาง DSI ออถมาแถลงว่า "จะให้ความร่วมมือในติดต่อการฟ้องร้อง รวมทั้งการนำตัวผู้กระทำความผิดภายในประเทศมาดำเนินคดีอย่างเต็มที่"แทน จะดีกว่านี้มากนะครับ

ถ้ามีคนไปแจ้งความที่โรงพักว่าโดนรถหาย ระหว่างการได้รับคำตอบว่า "ป่านนี้รถไปอยู่พม่าแล้ว ไม่ต้องหวังได้คืนหรอก" กับ "เราจะแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันตรวจสอบและตามหาให้เร็วที่สุดครับ"คนเราจะคาดหวังคำตอบแบบไหนก็น่าจะรู้อยู่

ถ้ามูลค่าความเสียหายถึง 100 ล้านบาทจริงนี่ เดินทางไปสิงคโปร์เพื่อฟ้องก็คุ้มอยู่นะครับ

แต่ผมว่าเรื่องแบบนี้ ถ้าเอาไปฟ้องให้ Samsung, Nokia, Microsoft เอามาเป็นประเด็นจิกกัด Apple แทนอาจจะได้เห็น Apple ออกมาดำเนินการไวกว่าการไปฟ้องร้องทาง Apple โดยตรงอีกครับ ;)

ใจจริงผมอยากเห็น Apple โดนฟ้อง แล้ว Apple ก็ไปฟ้องคนทำ app ต่อครับ คงวุ่นวายดี

"ด้วยเหตุผลที่แอปเปิลเป็นบริษัทที่จดทะเบียนในต่างประเทศ" ถ้าคิดแบบนี้ก็ไม่ถูกนะ เพราะมันจะเป็นมาตรฐานในอนาคตว่าไปตั้งบริษัทนอกประเทศ แล้วก็มาละเมิดลิขสิทธิ์ต่อบริษัทหรือผู้ค้าขายที่ได้รับมอบหมายในประเทศเราได้แบบนี้ก็สบายซิครับ แล้วมันจะลามไปทุกเรื่องนะ (ทั้งการ์ตูน หนัง เพลง ฯลฯ) จริงๆ CTH ฟ้องในฐานความผิดร่วมกับผู้จัดทำแอพมากกว่า ซึ่งเป็นทั้งผู้เผยแพร่ และผู้ได้รับประโยชน์ (จากยอดดาวน์โหลด, ส่วนแบ่งรายได้ 30% และกลุ่มผู้ใช้) ซึ่ง Apple ควรรับผิดชอบในส่วนนี้ที่ทำให้เกิดความผิดดังกล่าวขึ้นมา

อย่าอะไรกับ DSI มากเลยครับ...

/ส่งราชบัณฑิตตีความ

ถ้า DSI บอกเองว่าเอาผิดไม่ได้ เดี๋ยวผมทำ app ส่งขึ้นบ้างนะ อิอิ ได้โอกาสจับเสือมือปล่าวแล้วเรา

^เอาผิด apple ไม่ได้แต่ dev โดนเต็มๆ ครับ（・ω・）/

ทำไมเหมือนมีแต่คนมาปกป้องแอปเปล หรือคิดไปเอง

งงแฮะ มันก็นำสัญญาณภาพไปเผยแพร่เพื่อการค้านี่นา โหลดฟรีรึไงแอพนั้น มันค้าขายชัดๆ

อยากให้ Apple โดนนะกรณีนี้

ใจจริง อยากให้ Apple โดนฟ้องนะ เพราะว่า เหมือนทาง CTH นั้นก็ออกมาบอกแล้วว่า ได้แจ้งไปแล้วแต่ทาง Apple เองไม่สนใจ

มันเหมือนกับปล่อยปะละเลยมากกว่า เพราะเข้าใจว่าการที่จะตรวจ App ว่าผิดกฏหมายหรือ ขัดลิขสิทธิใครมันอาจจะทำได้ยากหรือมาก

แต่เค้าอุตส่าห์แจ้งไปแล้วกลับไม่ยอมดำเนินการให้

/CTH จะไม่ทน

CTH Co-opกับนายทุนตปท.เงินทุนก็เยอะคงต้องทำเพื่อรักษาสิทธิ์ตัวเองเต็มที่เหมือนกันแหละครับ DSI ก็แส่ไปทุกเรื่องทำคดีได้แต่ในประเทศที่กระโหลกกะลา พอนักโทษหลายคนหนีออกตปท.ไม่เห็นตามเลย

ต้องขอออกตัวว่ามีความรู้ไม่มากนักขอเป็นแบ่งปัน และต้องขออภัยถ้ามีความเข้าใจผิด หรือผิดพลาดประการใด

ผมว่าเป็นเรื่องที่ซับซ้อน เพราะเกี่ยวกับการใช้อำนาจทางกฏหมาย, อธิปไตยขอประเทศนั้นๆ และบริษัทที่ประเทศไทยเป็นบริษัทลูกจริงๆของ Apple หรือแค่บริษัทที่ตั้งขึ้นมาเป็นตัวแทนจำหน่าย ถ้าจะนำเรื่องไปสหรัฐอเมริกาทางตำรวจไทยทำได้สูงสุดแค่ขอความร่วมมือ และอายัดรายได้จากช่องทางจากการทำผิดในประเทศไทย (รายได้ที่ Apple จ่ายให้นักพัฒนา)

ส่วนตัวคิดว่าถ้าจะนำเดินคดีกับ apple นั้นอาจจะต้องทำช่องทางอื่น (ต้องใช้กฏหมายสหรัฐอเมริกาฟ้อง)เช่น
1. จัดตั้งบริษัทลูก CTH ที่สหรัฐอเมริกา บริษัทลูกมีอำนาจเต็มเป็นตัวแทน CTH แล้วฟ้องต่อศาลสหรัฐอเมริกา แต่ต้องระวังนะครับเพราะถ้าละเมิดเขา เขาก็มีสิทธิฟ้องคุณเต็มๆเช่นเดียวกัน (แล้วรีบดูอายุเหตุที่สามารถแจ้งความได้ด้วย ต้องรีบทำ)
2. ปรึกษา และขอความร่วมมือกับบริษัทต้นสังกัด (พรีเมียร์ลีก) เพื่อดูว่ามีบริษัทลูก หรือบริษัทที่มีอำนาจเต็ม หรือบริษัทที่ได้ลิขสิทธิ์ ที่สามารถเป็นตัวแทน CTH ได้ เพื่อไปฟ้อง Apple ต่อไป

แต่การฟ้องในกฏหมายสหรัฐอเมริกานั้นอาจจะไม่ได้แจ้งข้อหาละเมิดลิขสิทธิ์โดยตรงเพราะค่อนข้างชัดเจนว่า Apple ไม่ได้ละเมิดตามกฏหมายเขา(นักพัฒนาละเมิด) แต่อาจจะประมาณว่าเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดและจงใจให้มีการละเมิดลิขสิทธิ์แทน เป็นต้น

CTH เขาฟ้องศาลแพ่ง กับศาลอาญา ไม่ใช่หรือครับDSI มาเกี่ยวอะไรด้วย

ถ้าจะฟ้องก็ต้องฟ้องที่ศาลประเทศนั้นๆสิครับ ฝ่ายกฎหมายก็น่าจะรู้ดี ขนาด apple ฟ้อง SS มันยังต้องฟ้องกันไปเป็นประเทศประเทศเลย

ผมไปอ่านต้นทางไม่เห็น DSI บอกว่าเอาผิด "ยาก" นะครับ

ในส่วนของดีเอสไอคงไม่สามารถเข้าไปดำเนินคดีอาญาได้ เว้นแต่จะมีการนำสัญญาณภาพจากแอปสโตร์ไปเผยแพร่ต่อสาธารณะเพื่อประโยชน์ทางการค้า เนื่องจากบริษัท แอปเปิล เป็นบริษัทจดทะเบียนในประเทศสหรัฐอเมริก

แต่หัวข่าวต้นทางก็บอกว่า ดีเอสไอมึน! เอาผิด “แอปเปิล” ละเมิดลิขสิทธิ์ CTH ยาก เหตุแอปสโตร์จดทะเบียนเมืองนอก

ผมยังไม่เห็นว่า DIS บอกว่าเอาผิด "ยาก" นะครับ แต่ DSI บอกเหมือนว่า "ไม่สามารถเข้าไปดำเนินคดีอาญาได้"--' หนักกว่าเก่าอีก

ผมว่ายากนะ App ไม่ใช่ตัวกระทำ และไม่มี content ใดๆในนั้น มันสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอด

ยกตัวอย่าง App ในตอนแรกสร้างมาโดยเชื่อมโยงไปยัง url tv.com ตัวลิงค์ไปเชื่อมโยงกับ content A ซึ่งไม่ผิดกฎหมายสร้างในระยะแรก ไม่มีส่วนใดผิดกฎหมาย

ผู้ผลิตทำการเปลี่ยนแปลง content A ---> C (ซึ่งผิดกฎหมาย) ในภายหลัง

รูปแบบนี้จะเห็นได้ว่า ตัว App ก็ไม่ต่างจาก Browser ธรรมดา การเชื่อมโยงไปยัง Content ไม่ได้เชื่อมโยงโดยตรง
แต่เชื่อมผ่าน url
url สามารถอัพโหลด content ที่ต่างกันได้ เปลี่ยนแปลงได้ โดยตัวผู้ผลิต และตัวเซิฟเวอร์ที่ผู้ผลิตเป็นเจ้าของ

ตัว App ไม่ได้มีสถานะเป็น Content ในตัวมันเองแต่อย่างใดการที่มีการดึงสัญญาณมาจากทีวี ก็หมายความว่ามันต้องมีต้นทางของการละเมิด ที่เจ้าของ app ครอบครอง

ผมคิดว่า CTH ฟ้องไม่ได้ นั้นเป็นโชคมหาศาล อาจเป็นความไม่รอบคอบ หรือเข้าใจข้อเท็จจริงทางเทคโนโลยีผิดไป
นักกฎหมายไทยโดยมากตีความตามตัวอักษรอย่างเดียว แต่ต่างประเทศเขาเน้นหลัก เหตุ ผล ประสงค์ของกฎหมายข้อนั้นๆ
เพราะเพียงแค่ Apple ฟ้องกลับเบาๆ ก็อาจถึงขั้นล้มละลายได้เลย ดวงดีมาก

ฟ้องดีแล้วครับ ควรรักษาสิทธิ์ แต่จะชนะหรือไม่อาจจะไม่ง่าย เท่าที่ดูคนทำแอพก็ไม่ใช่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย