ทุกวันนี้บัตรประจำตัวพนักงาน (หรือบัตรอื่นสารพัดสารพันทั้งหลาย) มักจะมีชิป RFID อยู่ภายใน ซึ่งช่วยเพิ่มความสะดวกในการยืนยันสิทธิ์หรือยืนยันตัวตนด้วยการใช้บัตรดังกล่าวกับเครื่องตรวจจับเพื่อผ่านเข้าออกสถานที่บางแห่ง หรือปลดล็อคอุปกรณ์บางอย่าง มันทำให้ชีวิตประจำวันของเราสะดวกมากขึ้น แต่ถ้าหากลืมบัตรล่ะ?
ปัญหานี้จะไม่เกิดขึ้นกับพนักงานของ Epicenter บริษัทแห่งหนึ่งในประเทศสวีเดน ที่ซึ่งพวกเขาให้พนักงานฝังชิป RFID ไว้ใต้ผิวหนังเพื่อใช้สแกนสำหรับการผ่านเข้าออกประตู และปลดล็อคเครื่องถ่ายเอกสารเมื่อต้องการจะใช้งาน โดยในอนาคตจะมีการเพิ่มบริการให้ใช้งานชิปดังกล่าวเพื่อจ่ายเงินซื้ออาหารในร้านค้าภายในเขตของบริษัทได้ด้วย
ชิป RFID นี้มีขนาดใหญ่กว่าเมล็ดข้าวเล็กน้อย มันจะถูกฝังเอาไว้ใต้ผิวหนังตรงบริเวณง่ามนิ้วระหว่างหัวแม่มือและนิ้วชี้ของพนักงาน เมื่อต้องการผ่านเข้าออกพื้นที่ซึ่งมีการตรวจชิป หรือจะใช้เครื่องถ่ายเอกสาร พวกเขาก็เพียงแต่เอามือแตะบริเวณเซ็นเซอร์ตรวจชิปก็เป็นอันเรียบร้อย (แต่บางทีก็อาจต้องบิดมือท่าทางแปลกๆ กว่าชิปจะทำงาน)
นอกเหนือจากใช้เพื่อยืนยันตัวตนแล้ว พนักงานอาจเลือกใส่ข้อมูลเพิ่มเติมลงในชิปได้ บางรายอาจใส่ข้อมูลนามบัตรของตนเองไว้ในชิปตัวเดียวกันด้วย
โครงการฝังชิปของ Epicenter นี้เป็นโครงการตามความสมัครใจ พนักงานบางส่วนก็ไม่อยากจะให้มีอะไรแปลกปลอมอยู่ในร่างกาย ในขณะที่อีกส่วนกลับกระตือรือร้นและเฝ้ารอคอยโอกาสที่จะได้ฝังชิปอย่างใจจดใจจ่อ
ที่มา - BBC
Comments
อ่านย่อหน้าสุดท้ายแล้วโล่งอก นึกว่าจะบังคับกันเสียแล้ว
ผมคนนึงหละ ที่จะไม่ฝังเม็ดนี้ลงไปในร่างกาย
ถ้าลาออกนี่ต้องดึงออก แล้วไปบริษัทใหม่ ก็ฝังอันใหม่ลงไปรึเปล่า คิดแล้วสยอง T_T
คิดว่าไม่จำเป็นต้องเอาออก ถึงแม้จะลาออกครับ เพราะถ้าต้องเอาออก แปลว่าทางบริษัทต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายตรงนี้ด้วยครับ และปกติ RFID ไม่ได้เก็บข้อมูลอะไรเลยนอกจาก ID ของมันครับ
ผมเคยเจอ RFID ของเมืองนอก ติดอยู่ที่กระเป๋าผมแบรนด์นึง เวลาถือกระเป๋าเข้าร้านอื่น ประตูจะร้องเตือนทุกครั้ง ผมว่ามันคงไม่แค่ปล่อยทิ้งไว้หรอกคับ มันก็ต้องเอาออกด้วย -*-
กรณีแบบนี้คือตั้งระบบห่วยครับ เพราะระบบมันควรจะร้องถ้ารู้จัก RFID อันนั้นครับปล. เพื่อนผมก็เคยเจอครับ ส่วนวิธีแก้(เผ็ด)คือเดินผ่านบ่อยๆ (แล้วดันต้องเดินผ่านทุกวันด้วย) ให้มันร้องจนกว่าจะแก้ระบบครับ
ผมว่าคงไม่อยากมีเม็ดอะไรติดที่ง่ามนิ้วไปตลอดชีวิต
นึกถึงตอนโดนโจรขโมยของดีกว่าครับ
ตอนนี้แค่แอบหยิบบัตรไป .. อีกหน่อยต้องเอามีดคว้านมือ... 555
iPAtS
ขอใช้มือถือสแกนฝาหลังก็พอ ไม่ก็สแกนลายนิ้วมือไป ไม่รีบขนาดที่ต้องใช้ชิบฝังที่ตัว -.-
โครงการถัดไปต่อจาก พรบ ไซเบอร์
ต้องให้ท่านไปดูงานก่อนครับ อย่าเพิ่งฟันธง
ดูที่ไหนครับ สวีเดน หรือ จีน?
เจ๋งจัง !
ถ้าเอามาใช้กับไทยคงไม่ใช่เพราะเหตุผล "ลืมบัตรพนักงาน" นะผมว่า...
เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!
ผมว่าบริษัทในไทยคงใช้ชิป GPS แทนมากกว่า
อ่ะนะ ... รุสึกเหมือนจะข้ามเส้นความเปนส่วนตัวแฮะ
แต่ยังดีที่เปนภาคสมัครใจ
Destination host unreachable!!!
เดี๋ยว iPhone 7 เอาไปทำเรื่อง Payment 5555
อู้ไม่ได้เลย ถ้าพักกลางวันแล้วหายไป 2 ชม.เจ้านายก็รู้หมดสิ
มันก็แค่เหมือนตอกบัตรไม่ใช่หรอครับ แต่ว่าบัตรเสมือนติดตัวตลอด ไม่ต้องกลัวลืมและไม่เกะกะ
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
ปกติเราตอกบัตรกันเฉพาะตอนเข้างาน-เลิกงานนิครับตอนกลางวันเราจะอู้ไปข้างนอกกี่ชั่วโมงก็ไม่มีบันทึกในระบบ
ส่วนเจ้าตัวนี้มันบันทึกอัตโนมัติทุกครั้งที่เดินผ่านประตูได้ ก็เท่ากับว่าบันทึกเวลาช่วงพักกลางวันเราได้ด้วย
แต่ก็ขึ้นกับเจ้าของระบบว่าจะให้มันบันทึกตอนกลางวันด้วยรึเปล่า ถ้าไม่ก็ไม่ต่างกับการตอกบัตรธรรมดาๆ
RFID มีหลายแบบครับ แบบที่เห็นเป็นแบบไม่มีไฟในตัวต้องได้แหล่งพลังงานภายนอก เพื่อให้มันส่งสัญญาณรายงานตัวออกมาได้ แถมกำลังสัญญาณที่ออกมาก็น้อยมาก เรียกว่าระยะทำการสั้นมากครับ สองสามเซนติเมตร พอๆ กับชิปที่ฝังในสัตว์นั่นแหล่ะ
อ่อ... อย่างนี้นี่เอง ขอบคุณครับ
คือถ้าจะบันทึกกลางวันด้วย จะแบบฝัง หรือเป็นบัตรก็มีค่าเท่ากันแหละครับ มันไม่ต่างกันในเรื่องความละเอียดในการติดตาม อันนั้นขึ้นกับนโยบาย
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
ขอเป็น wrist band ไม่ได้เหรอครับ
อันนี้ผมว่ารู้สึกดีกว่าต้องฝังมือเยอะเลยครับ
Dream high, work hard.
+1
มีตัวอย่างการใช้งานจริงคือ MagicBand เลยครับ
เอาไว้ปลด lock มือถือ / start รถ / เปิดประตูบ้านด้วย สะดวกดี
ไม่ใช่ล่ะ -_-
ถ้าของเมืองไทย ปลุกเสกข์โดยอาจารย์ดังๆ คงมีคนฝังแทนตะกุดเยอะเลย
นึกถึงที่ติดตามหลังหูสัตว์..
May the Force Close be with you. || @nuttyi
ถ้า Chip ไม่อยู่นี่
Chip หายเลยนะนั่น...
น่าจะทำเป็นกำไลข้อมือ แต่ก็ต้องมีระบบป้องกันคนอื่นเอากำไลไปใส่ เช่น เมื่อใส่แล้วจะไม่ทำงาน ต้องสแกนอะไรสักอย่างที่ร่างกายก่อนทุกครั้งเพื่อที่จะได้ล็อคข้อมือ และเปิดใช้งานได้ ถ้าเกิดว่าถอดออก ก็ต้อง Identity ก่อนทุกครั้งไป
ดีครับ เหมือน chip ฝังสุนัขเลย
กำลังจะ post เลย
Opensource - Hackintosh - Graphic Design - Scriptkiddie - Xenlism Project
แรกๆคนอาจจะต่อต้านเยอะในอนาคตสัก 20-30 ปี สิ่งนี้มันจะกลายเป็นสิ่งธรรมดา เหมือนศัลยกรรม
เห็นด้วย
เวอร์ไป
ฝังมุก
จะได้รู้ว่าสามีแอบไปมีกิ๊กหรือไม่ #ผิด
เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!
เชื่อมแอพทำ Stat เพื่อสุขภาพ และการเจริญพันธุ์ ส่งข้อมูลอัตโนมัติขึ้น Social Network สรุปความถี่ และความทน...แข่งกัน
มีระบบ Leader Board และ Achievement เพื่อทำเก็บเลเวลด้วย #เดี๋ยวนะชักจะไปกันใหญ่ละ
เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!
คิดอีกทีเอาฝังไว้แถวๆรอยทำฝีที่หัวไหล่ก็ได้นะ
คนรุ่นอายุ 30 ลงมาไม่น่าจะปลูกฝีหัวไหล่กันแล้วครับ เพราะถูกประกาศเป็นโรคที่สาบสูญไปแล้ว ใครมีนี่แสดงว่าวัยกลางคนขึ้นไป อิอิ
ผมยี่สิบปลายๆ ก็ไม่มีแล้วเหมือนกัน
ท่าตอนแตะกับเครื่องตรวจคงดูโก้ไม่ใช่น้อยเลยครับ
แค่ถือบัตรน่าจะไม่ลำบากนะ
That is the way things are.
ถ้าเป็นโครงการในไทยนี้ถูกโวยแน่ ๆ เลยครับ ยังไงก็ไม่เห็นด้วยครับ
ถ้าจะเปรียบเทียบกับทางการแพทย์ที่มีการฝังก็คือ ...
การฝังยาคุมกำเนิดครับ
ลักษณะเป็นแท่งๆคล้ายกันเลย ฝังใต้ผิวหนังตื้นๆเหมือนกัน
แต่นั่นฝังที่ใต้ท้องแขน แต่อันนี้ง่ามนิ้วโป้ง
ไม่สมกับเป็นประเทศเสรีประชาธิปไตยเลยครับ เพราะถ้าเป็นแถวนี้ไม่มีใครสมัครใจฝังแน่นอนดูจากหัวข้อดักข้อมูลนี่รู้เลย
อนาคตมีสิทธิ์รู้ถึงพฤติกรรมของพนักงานที่ฝังชิปทุกอย่าง ความเป็นส่วนตัวหายไปหมด
รับทำเว็บไซต์ ออกแบบเว็บไซต์
ไม่ชอบ