Elmar Mock หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งแบรนด์นาฬิกา Swatch ที่ถือเป็นแบรนด์ช่วยชีวิตของวงการอุตสาหกรรมนาฬิกาสวิสในช่วงปี 1980 หลังจากหยุดชะงักเพราะนาฬิกากลไก quartz ราคาถูกจากญี่ปุ่นเข้าสู่ตลาดจำนวนมาก ออกมาให้สัมภาษณ์กับ Bloomberg ว่า การวางจำหน่าย Apple Watch นั้นจะทำให้อุตสาหกรรมนาฬิกาของสวิสเข้าสู่ "ยุคน้ำแข็ง" (ice age)
เขาระบุว่าช่วงเวลานี้มีความคล้ายคลึงกับช่วงที่อุตสาหกรรมนาฬิกาของสวิสตกอยู่ภายใต้วิกฤต เมื่อต้องเจอกับนาฬิกากลไก quartz ราคาถูกจำนวนมาก เข้ามาในตลาด โดยระบุเพิ่มเติมว่าผู้ผลิตนาฬิกาสวิสกำลังทำผิดพลาดซ้ำรอยอีกครั้ง โดยมองว่านาฬิกาอัจฉริยะเป็นเพียงแค่ของเล่น และไม่ได้พิจารณาอย่างจริงจัง ซึ่งเขาคาดว่าจะมีผลกับนาฬิกาในกลุ่มระดับล่างและกลาง ส่วนนาฬิการาคาแพงจะได้รับผลกระทบในรุ่นราคาถูกเท่านั้น
ทั้งนี้ Barclays บริษัทวิเคราะห์ทางการเงินของอังกฤษ ออกมาระบุว่า ในสถานการณ์ที่แย่ที่สุด Apple Watch จะทำให้ธุรกิจของกลุ่ม Swatch Group AG (มีทั้งแบรนด์อย่าง Swatch, Tissot, Breguet, Blancpain เป็นต้น) กำไรลดลง 6% ส่วนผู้ผลิตนาฬิกาของสวิสบางราย ก็เริ่มมีการปรับเปลี่ยนบ้างแล้ว เช่น Montblanc, TAG Heuer, Frederique Constant หรือแม้แต่ Swatch เองก็ตาม
ที่มา - Bloomberg
Comments
ถ้าเป็นงั้นจริงนี่ก็จะเป็นอีกผลิตภัณฑ์ที่พลิกโลกอย่างที่ iPod, iPhone, iPad เคยทำมาแล้วสินะ แต่จากใจคนไม่ใส่นาฬิกาผมยังคิดไม่ออกเลยว่า "จะอยู่โดยขาดมันไม่ได้" อย่างที่พี่ทิมบอกไว้ยังไง
ผลิตภัณฑ์ของ Apple เหรอครับ ที่พลิกโลกได้ อู้วววสุดยอด
เขาสุดยอดอยู่แล้วครับ เมื่อเทียบกับคุณ อิอิ
แหม Apple แฟนบอย มาเอง
ผมตัวคนเดียวก็ไม่สุดยอดถึงกับพลิกโลกหรอกครับ แต่ผมก็ช่วยพัฒนาระบบ Software ในหน่วยงานราชการให้ประเทศนี้อยู่บ้าง ไม่มากก็น้อยแหละครับ ไม่ได้เป็นคนไร้สาระไปซะทีเดียว ^^
สำหรับผม สิ่งที่พลิกโลกตอนนี้จริงๆคือ Social Network มากกว่าและอีกอย่างคือ Android ครับ เข้าถึงคนได้ทุกชนชั้น ^^
อันดับแรกผมต้องขอโทษด้วยที่ดูจะเหน็บกลับรุนแรงไป
ผมก็ใช้ทั้งสองอย่างแหละครับ ( จะว่าแฟนบอยมันก็ใช่แต่แค่ส่วนนึง )
และขาดทั้งสองอย่างไม่ได้ด้วย ซึ่งผมใช้ทำมาหากิน
แต่ผมไม่ชอบการเหน็บแนม นั่นไม่ใช่รสนิยมของ andriod fan ตัวจริง หรือแม้แต่ Noogler เขาทำกันหรอก ผมเคยเห็นการพูด ทัศนคติ ของคนที่ทำงานใน Google เขาดูจะแบบว่า Googleyness มากๆ แต่ล้วนเป็นทัศนคติที่ดีต่อทุกๆอย่าง ผมชอบมากๆ
ผมใช้ทั้งสองอย่างและให้เกียรติทั้งคู่ สองแบรนด์ก็ล้วนมีความสำคัญ มันเจ๋งกันคนละแบบ
เคยมีดรอยแฟนมาด่าผม ใช้ผลิตภัณฑ์ Apple ชอบ Apple แล้วทำไมมาใช้ gmail ของ google ( เอ้า มีคนคิดแบบนี้ด้วย !! ) คือถ้าชอบฝ่ายนึงแล้วต้องเกลียดอีกฝ่ายเลยใช่ไหมนี่
ยังมีดรอยแฟนอีกมากในบอร์ดนี้ที่สนุกกับการไล่เหน็บคนอื่นๆ แต่ไม่เคยรู้เลยว่าเนื้อแท้จริงของ Google นั้น ไม่ได้เป็นอย่างที่พวกเขาเป็นอยู่เลย
Google ตัวจริงน่ะ เป็นทัศนคติเพื่อโลก และเพื่อทุกคน ไม่มีฝ่ายตรงข้าม หรือสร้างข้างตัวเองหรอก หลายสิ่งที่พวกเขาสร้างมา ไม่ได้สร้างมาเพื่อแข่งกันตั้งแต่แรก แต่สร้างมาเพื่อเป็นอีกทางเลือก สำหรับคนที่ไม่มีโอกาสเข้าถึงต่างหาก
ส่วนที่แบ่งฝ่ายน่ะ สาวกมันไปแบ่งกันเองทั้งนั้น แล้วก็มาเหน็บกัน
TT
( ผมขอโทษและขอจับมือคืนดีนะ อิ อิ )
ยอมรับเถอะครับว่า สินค้าเขาพลิกโลกมาหลายตัวแล้ว
ผมว่ามันก็พลิกโลกมาหลายอย่างนะครับ อย่าง iPhone ที่ออกมาจนวงการมือถือสะเทือน iPod iTune ก็เปลี่ยนอุตสาหกรรมเพลงไปมาก iPad ก็เป็นตัวเริ่มต้นที่ทำให้พวก Tablet บูมขึ้นมา หรือ Macbook Air ก็เป็นจุดเริ่มของพวก Ultrabook ต่างๆ
เพียงแต่ทุกอย่างมันมาในสมัยของจ๊อบส์ พอหมดยุคของจ๊อบส์แล้ว ผมก็ยังไม่เห็นอะไรที่จะออกมาพลิกโลกอีกเลย
จาก สหาย ฟินแลนด์ ถึง สหายสวิท ..
อย่าลืมว่า Apple Watch ราคาแพงสุดไล่เพดานชนกับนาฬิกาสวิสราคาของแพงแล้วนะ. แต่เอ๊ะราคาหลักแสนอาจเป็นราคาระดับกลางของนาฬิกาสวิสก็ได้.
หลักแสนนี่ถือเป็นราคากลางๆ จริงๆ นะครับ ถ้าคนเล่นนาฬิกาจะรู้ว่าเรือนละล้านนี่ธรรมดามาก
ระดับกลางๆครับLongines รุ่นๆธรรมดาๆผมยังหกหมื่นเลย
คนเล่นนาฬิกานี่เรือนละแสนเป็นเรื่องปกติ
Brequet => Breguet
รอ Smart G-Shock rangeman
“ออกมาระบุกับการให้สัมภาษณ์กับ” -> “ออกมาให้สัมภาษณ์กับ” มั้ยครับ
suksit.com
อยากทราบว่านาฬิกาสวิสพ้นวิกฤตครั้งแรกได้อย่างไร พอมีใครบอกให้ได้มั้ยครับ
นาฬิกา สวิส พ้นวิกฤตครั้งแรก ขึ้นอยู่กับเราจะนับตรงไหน นับตรงที่โดน Swatch Group กวาดซื้อไปเสียเยอะ รวมถึงบริษัทที่ผลิตเครื่องทั้ง ETA ซึ่งซื้อ Valjoux เข้ามาด้วยไหม ?
คือข้อเสียของนาฬิกา กลไก มันแสดงผลลัพท์ไปแล้ว ผมว่ามันผ่านที่ระยะเวลา เท่านั้นอะครับ ช่วงการเกิดของ quartz มันเกิด เนี่ยมัน เป็น innovative สำหรับ นวัตกรรมการบอกเวลา ถ้าเอาแค่ function นาฬิกากลไก ไม่มีทางเทียบเลย ยังไม่พูดถึงราคาต้นทุน เอาแค่ค่าตรวจ cosc ของ omega constellation เรือนหนึ่ง ก็อาจจะสูงกว่า ต้นทุนการผลิตนาฬิกา quartz สัก 100 เรือนแล้วครับ
แต่เมื่อการตระหนักถึง ว่านาฬิกามันไม่ใช่แค่เครื่องบอกเวลา หลังๆ จะมีคำ mkt ออกมาว่า timepiece นะไม่ใช่ watch คนไทยแปลว่า "เรือนเวลา" ผมรู้สึกเลี่ยนๆ 555 มันก็สามารถที่จะสร้างมูลค่าใหม่ของมันออกมาได้ แต่ถามว่า กลับไปขายสู้สมัยก่อน quartz ได้ไหม มันไม่ได้หรอกครับ ยิ่งช่วง 10 กว่าปีที่ผ่านมา ตลาดของฟุ่มเฟือยแบบนี้มันโตมากทั้ง ตะวันออกกลาง และจีนรับต่อ นาฬิกา swiss ก็ขึ้นราคากันรายปีอย่างบ้าคลั่ง (ปีละ 20-30%) บางปีขึ้น 2 ครั้ง
แน่นอนตลาดพวกนี้มันมีอิ่มตัว และมันก็น่าจะใกล้อิ่มแล้ว ผมว่า over priced swiss watch มัน อิ่ม เพราะราคามันบ้าคลั่ง ไม่ใช่เพราะว่า smart watch หรอกครับ
ผมเชื่อว่า คนที่ใช้นาฬิกากลไก (อย่างผมคนนึง ไม่ใส่ smart watch) ที่เป็นแค่ time display (not even a watch) หรอกครับ
นาฬิกา swiss ปรับตัวได้ไหม ที่จะสร้างคนใส่นาฬิกาเพิ่มขึ้น ผมว่านี่คือประเด็น เพราะการไปทำ smart watch แข่งหนะมันไม่ใช่ สายธุรกิจเดียวกัน คือจะแยกสายทำก็ได้ น่าจะได้กำไรจากตลาดที่เพิ่ม แต่ทำยังไงให้ตลาดที่มีอยู่และ ค่า R&D ทั้งหมดที่เสียไปคืนมา
ยุค 70's-80's นี่ผมไม่ได้มองว่ามันเป็นยุคน้ำแข็งสำหรับนาฬิกากลไก นะ มันเป็นยุคอุกกาบาต ถล่มทีเดียว
อย่างนาฬิกา ไฟฟ้า รุ่น accutron ของ Bulova ที่ทำออกมานี่เจ๋งมากนะครับ ใช้ส้อมเสียงกำหนดความถี่ของการเดิน (คนไทยเรียกนาฬิกาไฟฟ้า) เดินตรงไม่แพ้ quartz หรอกครับ แต่ว่าทั้ง R&D และต้นทุนการผลิต นี่มันแพงกว่ามหาศาล นาฬิการุ่นดังกล่าวจึงมีอายุการผลิตแค 3 ปีเท่านั้นเอง
seiko มีเครื่อง springdrive ที่ทำ R&D ตั้งแต่ปี 70's จน มี prototype ตัวแรก ปลาย 90's ขายจริงปี 2000's เข้าไปละ และขายได้ ตอนนี้เป็นเครื่องนาฬิกากลไก ที่เดินตรงที่สุดในโลก seiko คิดยังไง ถึง ทำ R&D นานขนาดนั้น seiko ที่ขาย quatz จนรวยอื้อซ่า พัฒนา นาฬิกากลไกที่ใช้ระยะเวลาขนาดนั้นทำไม ? เพราะว่า seiko ไม่ได้คิดว่า นาฬิกากลไก ไม่มีอนาคต
สรุปความมาผมไม่เห็นด้วยกับ Elmar Mock และย้อนกลับไป Elmar Mock ก็ไม่เคยเป็นคนนาฬิกานะครับ เขาเป็น designer ที่เริ่มต้นการออกแบบให้กับ นาฬิกา quatz ของ swatch เท่านั้นเอง
+1 ผมว่าคนที่หลงใหลในนาฬิกากลไกไม่ได้ใช้เพราะมันฉลาดหรือทำอะไรได้หลายอย่าง แต่ใส่เพราะความคลาสสิกของมันมากกว่าครับ Apple watch ไม่น่าจะตีตลาดคนกลุ่มนี้ได้
ผมว่า Apple คงไม่เล็งกลุ่มนั้นหรอกครับ เบิกตลาดใหม่ดีกว่า ผมว่าลูกค้า Apple Watch คงไม่ใช่กลุ่มนั้น
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
ตามนี้ ผมว่าพวก Smart Watch ออกแนวคนชอบ Gadget ล้ำๆ มากกว่า
จะมีกลุ่มแบบผมหรือเปล่าหว่า กลุ่มที่กำลังเลือกอุปกรณ์สำหรับใส่เล่นกีฬาเป็นเครื่องแรก
ก่อนหน้านี้ก็มีเล็งไว้หลายตัวที่ออกแนวเฉพาะทางไปเลย แต่พักหลังๆ ก็มีสมาร์ทวอชที่มี HRM ออกมาน่าสนใจหลายตัวเลยชะลอการซื้อไว้ก่อน
+1 ครับ Smart watch นี่ผมเพื่อสุขภาพครับ
ขอบคุณคำตอบที่ให้ทั้งความรู้และความสะใจของคนนาฬิกาครับ
จากคนชอบฟังเสียงกลไกครับ
ปกติผมจะไม่อ่านคอมเม้นท์ยาวๆเป็นหน้าแบบนี้ แต่พอลองอ่านดูแล้วก็เข้าใจคนนาฬิกาเลยครับ :)
ผมชอบระบบ Spring drive ของ Grand Seiko มากเลยหล่ะครับ เข็มนี่เดินนิ่งเรียบสงบมากจริงๆ แค่เห็นเข็มมันเดิมก็อยากสอยมาใส่ซักเรือนเลยหล่ะครับ (แต่ไม่มีตังค์) 5555+
ผมชอบนาฬิกาที่ความคลาสสิคของมันมาก อย่าว่าแต่ Smart Watch เลยครับ แต่นาฬิกาดิจิตอลผมยังเฉยๆเลย เพราะชอบแบบเข็มมากกว่า และต้องเป็น Automatic ด้วยสิ ดังนั้น Smart Watch อาจจะเหมาะที่จะใช้กับบางกิจกรรม แต่ถ้าใส่ออกนอกบ้านผมก็ยังเลือกนาฬิกาเข็มอยู่ดี
ผมว่า คนละตลาดเลยครับ
นาฬิกา ควอตซ์ เค้าก็มีตลาดของเค้านาฬิกา Swatch ที่เน้นวัสดุกับเครื่องราคาถูก
นี่ก็มีตลาดของเค้า
ยิ่งกลไกราคาแพง นี่ผมว่าไม่น่าใช่
ถ้าจะโดนแย่ง
มีสองตลาดคือจีนกับมิดเดิลอีสที่คนซื้อไม่ค่อยสน ว่ามันเป็นนาฬิกา
เน้นใส่อวดว่ารวยนั่นแหละ อันนี้น่าจะโดนเต็มๆ
ส่วนตัวผมมองว่านาฬิกา Hi-End ยังไงก็ไม่เดือดร้อนและไม่กระทบนะครับ พวก Rolex, Panerai, Patek, IWC, etc. พวกนี้ยังไงก็ไม่เดือดร้อน
น่าคิดว่าถ้า Apple มอง Apple Watch ในฐานะนาฬิกาผมว่าน่ากลัวครับ แต่ถ้ามองในฐาน Smart Watch ผมว่าชิวๆ ไม่ได้เป็นคู่แข่งของนาฬิกาปกติเลย
อ่านหลายๆ ความเห็นแล้ว ผมยิ่งเชื่อว่า Apple จะกินเรียบตลาดนาฬิการะดับกลาง เหลือเอาไว้สองตลาด คือ หนึ่ง ตลาดราคาถูก สำหรับนาฬิกาธรรมดาและ smartwatch ที่ใช้โอเอสอื่น (android, tizen ฯลฯ) กับ สอง ตลาดนาฬิการาคาแพง ที่แพงบ้าเลือดถึงเรือนละล้าน ช่องว่างระหว่างสองกลุ่มนี้ มหาศาลทีเดียว
ps. ที่คิดว่า smart watch ที่ใช้โอเอสอื่นๆ (android, tizen ฯลฯ) จะกลายเป็นนาฬิการาคาถูก เพราะมันไม่ exclusive เหมือนของ Apple ใครๆ ก็ผลิตมาเลหลังได้ เหมือนอย่างที่ Mi กับแบรนด์จีนอื่นๆ กำลังทำลายตลาด android mobile phone นั่นแหละครับ
เข้าเค้า
ไม่หรอก ไม่ใช่ทุกคนที่อยากใช้นาฬิกาดิจิตอลที่ต้องชาร์ตแบตบ่อยๆ ยังอยากได้ TISSOT อยู่
อย่าประมาทไปนะครับiPhoneยังทำให้คนเปลี่ยนพฤติกรรมมาใช้โทรศัพท์ที่ต้องชาร์จทุกวัน มาแล้ว
แต่Apple Watchในโหมดบอกเวลาอย่างเดียวน่าจะใช้ได้สักเดือนน่ะผมว่า 3วันผมว่ามันน้อยไป
แต่สุดท้ายก็ต้องรอดูตอนวางขาย ว่าลูกค้าจะพอใจกับประสบการณ์การใช้งานApple Watch มอบให้มากแค่ไหน
ก็ไม่ใช่ทุกคนเช่นกันที่มีนาฬิกาแค่เรือนเดียวใช่ใหมครับ
ยิ่งพวกชอบนาฬิกาแพงๆ ยิ่งมีกำลังซื้อ ซื้อ apple watch sport ถูกๆ มาลองเล่นขำๆสักเรือนก็เป็นไปได้
และถ้าอีกสักปี สองปี มันพร้อมที่จะใช้ได้นานเป็นสัปดาห์ เป็นเดือน/ชาร์ทหนึ่งครั้ง วันนั้นอาจจะสายไปเหมือน Walkman. เหมือน Nokia ก็เป็นได้นะครับ
Walkman เห็นคำนี้น้ำตาร่วงเลย
ความน่ากลัวของนาฬิกา ที่ตายใน18ชั่วโมง ....
The Dream hacker..
และพร้อมจะล้าสมัยใน3ปี
แบตเสื่อมด้วย
ระเบิดขนาดเล็กบนข้อมือ
คนที่ซื้อของแอปเปิ้ลจะรู้กันดีครับ ว่ารุ่นแรกมีไว้ให้หน่วยกล้าตาย ไม่ก็กลายเป็นหนูลองยา เพราะจุดอ่อน จุดด้อยของสินค้าแอปเปิ้ลมีเยอะมากในรุ่นแรกครับ ใครใจเย็นกว่าจะได้ของดีกว่าและสมบูรณ์แบบกว่าในรุ่นหลังๆครับ
ปล.เหมือนกล้องของไอโฟน กว่าจะได้กล้องระดับกล้องคอมแพ็ค(กล้องดิจิตอลคุณภาพดีในระดับพื้นฐาน)ก็ปาเข้าไปรุ่น6แล้ว
วรรคแรกนี่ห็นด้วยครับ ของรุ่นแรกๆ ของแอปเปิลมักจะไม่ค่อนสมบูรณ์ แต่เรื่องกล้องเนี่ยผมว่ามันก็พัฒนาขึ้นมาเรื่อยๆ ตามเทคโนโลยีในแต่ละปีนะครับ
นาฬิกาสวิสขายความคลาสสิค แต่แอปเปิ้ลวอชขายความโมเดิร์น ไฮเทคกลุ่มผู้ซื้อกลุ่มไหนกว้างกว่ากันล่ะ
ผมคิดว่ากลุ่มชอบความไฮเทคกว้างกว่าแน่ๆครับ แต่จากประสบการณ์ตรง กลุ่มชอบความคลาสสิคกลับมีกำลังซื้อสูงมาก เคยเห็นคนๆเดียวมีนาฬิกาเรือนละล้านเกิน 10 เรือน และถ้าอยากเห็นคนกลุ่มนี้ว่ามีคนละกี่เรือน กำลังซื้อสูงขนาดไหน ลองเข้าเว็บสยามนาฬิกาดูครับ
+1 ครับ ในนั้นนี่คุยกันยังกับเป็นของถูกไปเลย
เป็นผมก็เลือกขายกลุ่มหลังครับ ถึงกำลังซื้อจะต่ำกว่า แต่ปริมาณมหาศาลกว่ากันมากครับ บางทีก็กินรวบไปถึงกลุ่มที่ไม่ค่อยมีอันจะกินด้วย ยังไงซะพี่ไทยก็คงจัด ผ่อน 0% สิบเดือนให้อีกตามเคยอยู่แล้ว
อ่านแล้วรู้สึกเหมือนเห็นกำลังจะเห็นประวัติศาสตร์ rerun ให้ดูอีกรอบเลยครับเวลามีเทคโนโลยีๆใหม่มา มักจะเจอแรงต้าน (และดูถูก) เสมอๆ ทั้งจากเจ้าตลาด และจากผู้บริโภคที่มั่นใจแบบหัวชนฝาว่ายังไงของใหม่ก็สู้ของเก่าไม่ได้
กล้องฟิล์ม > กล้องดิจิตอล
เทป > ซีดี
โซนี่ วอล์กแมน > ไอพอด
โนเกีย > ไอโฟน
และไอแพด
จากประสบการณ์อันน้อยนิดของผม เวลามีผลิตภัณฑ์ใหม่เกิดขึ้น ยิ่งเจ้าตลาดเดิมออกตัวแรงเท่าไร ยิ่งแสดงว่าผลิตภัณฑ์นั้นมีศักยภาพ (ที่จะต่อกรกับของเก่า) มากเท่านั้นเพราะถ้าไม่ใช่อย่างนั้น ก็ไม่เห็นจำเป็นต้องออกโรงหรืออยู่ไม่เป็นสุขเลย?
ส่วนในมุมของผู้บริโภค ส่วนใหญ่ที่ส่ายหัวกันในช่วงแรก ก็เพราะคิดว่าของเก่านั้นดีที่สุดแล้ว และยังไม่ได้ลองว่าของใหม่ทำอะไรได้บ้าง (หรือลองแล้วแต่แฮปปี้กับของเก่ามากกว่าก็ไม่ว่ากัน)แต่ถ้ามองย้อนกลับไปจะเห็นว่าเราผ่านมันมาหมดแล้วครับ
"ดิจิตอลจะมาสู้คุณภาพของฟิล์มได้ยังไง"
"เครื่องเล่นซีดีแพง ใครจะซื้อ"
"โทรศัพท์บ้าอะไรต้องชาร์จทุกวัน"
"ใครจะบ้าแบกกระดานชนวนออกจากบ้าน"
"ตลก"
"ไร้สาระ"
"ไม่เห็นมีคลาสเลย"
:))))
Apple Watch ไม่ใช่เทคโนโลยีใหม่นะครับ
โดยรวมที่เขียนอยากให้หมายถึงสมาร์ทวอทซ์ในภาพรวมนะครับ ถึงไม่ได้เอ่ยคำว่า Apple Watch เลย :)
(แต่จะพูดไปก็เพิ่งมี Apple Watch นี่แหละครับที่ทำให้นาฬิกาสวิส take action เพื่อรับมือกับสมาร์ทวอทซ์อย่างจริงๆจังๆ)
ตย. ด้านบนหลายๆอย่างผมก็ว่าไม่ใช่เรื่องใหม่นะ ก่อนไอพอดก็มีเครื่อง mp3 มากมาย ก่อนไอโฟนก็มีสมาร์ทโฟนเยอะแยะ
แต่เมื่อวันนึงที่มันพัฒนาถึงจุดของมัน ทั้งความสามารถ ความสวยงามก็อันตรายอยู่นะ
ก่อน iPod จะมาก็มีเครื่องเล่น MP3 แต่ไม่มียี่ห้อไหนที่ขายดีถล่มทลายเท่าก่อน iPhone จะมาโทรศัพท์ส่วนมากจอเล็กๆ ปุ่มเยอะๆ ทั้งนั้น มี PocketPC Phone ที่แตกต่างหน่อย แต่ก็กินตลาดแคบมาก
ผู้ผลิตไม่รู้ว่าลูกค้าอยากได้แบบไหน จนกระทั่ง Apple ทำให้ดู... นั่นแหละ
+10000000000000000000000000
ถ้านาฬิกาพวก smart watch เข้ามาตีตลาดได้ อาจจะยังมีกลุ่มคนเล็กๆ ที่ยังต้องการนาฬิกาที่เดินได้นานอยู่ เช่น ทหาร, นักวิจัยที่ต้องเข้าไปอยู่ในที่กันดาร เว้นแต่ smart watch สามารถทำแบตเตอรี่ที่ทำให้ใช้งานได้นานกว่านี้มากหรือไม่ก็มีระบบชาร์ทที่ชาร์ทไฟได้ทุกที่
ผมเชียร์ Apple Watch นะ อยากรู้เหมือนกันว่า Apple จะเปลี่ยนโลกนาฬิกาเหมือนที่ทำกับมือถือได้ภายใน 3 รุ่นหรือเปล่า ซึ่งรวมถึงพวกนาฬิกาหรูด้วย(แต่ยกเว้นนาฬิกาที่ใช้เทคโนโลยีเก่าเป็นจุดขาย) หึหึ #ทีมSmartWatch
Apple Watch ไม่ใช่เทคโนโลยีที่ใหม่ ไม่ได้สร้างความฮือฮาใดๆสำหรับผู้ใช้ทั่วไปอย่างผมแม้แต่นิดเดียว กลับมองแค่ว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบเพื่ออัดกับคู่แข่งการค้าเท่านั้น
ขนาดยังไม่มีตัวจริงออกมา นิตยสารหรือสื่อต่างๆกลับให้เป็น Smart watch แห่งปีกันเลยทีเดียว อันนี้ผมงงมากจริงๆ ทำไปได้ยังไง ดีไซน์ที่พบเจอได้ง่ายทั่วไป ไม่เรียบไม่หรู แถมตอนนี้ยังมีอีกหนึ่งประเด็นคือราคาที่ไม่เป็นมิตร
ผมคิดว่า สิ่งที่นักธุรกิจดังกล่าวหวาดหวั่นกัน ไม่ใช่เรื่องของความสวยงามหรือความหรูหราใดๆหรือเทคโนโลยีของ Apple Watch แต่เป็นเพราะว่าตลาดนาฬิกาของตนซึ่งเป็นผู้ใช้ที่มีฐานะเดียวกันกับการตลาดของ Apple กำลังโดนรุกคืบเข้ามา เพราะปฏิเสธตรงนี้ไม่ได้เลยว่าเมื่อ Apple ออกผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ออกมา ก็จะมีกลุ่มบุคคลที่จ้องจะงาบตั้งแต่วันแรกอยู่แล้ว (ลูกค้าแบบ peripheral route)
ผมไม่สนใจ Wearable device ในสิ่งที่ตอนนี้เป็นอยู่ ทุกยี่ห้อแทบไม่มีอะไรที่แตกต่าง ถ้าอนาคตมีอะไรเปลี่ยนแปลงก็คงอาจจะทำให้รู้สึกสนใจมากขึ้น แต่ผมคิดว่านาฬิกาจริงๆมันเป็น Timeless design โดยตัวมันเองอยู่แล้ว มันเป็นเรื่องที่แทนกันไม่ได้ในเรื่องของความนิยมชมชอบ ถึงแม้ว่าโลกจะเปลี่ยนไปก็ตาม
+1 ชอบประโยคสุดท้าย "มันเป็นเรื่องที่แทนที่กันไม่ได้ในเรื่องของความนิยมชมชอบ ถึงแม้ว่าโลกจะเปลี่ยนไปก็ตาม" ตรงนี้แหละครับ ที่จะเอาเรื่องกล้องฟีล์ม มือถือปุ่มกด เครื่องเล่นซีดี ฯลฯ ที่ถูก Apple device ตีตลาดกระจายมาเทียบกับตลาดนาฬิกาสวิสไม่ได้
Apple Watch ถูกวางตัวเป็นสินค้าแฟชั่นมากกว่า ที่จะเป็น Smart Watch
สังเกตได้จากการที่ลง ads ในหนังสือแฟชั่น ส่วนตัวรู้สึกว่า ฟีเจอร์มันก็คล้ายๆกันหมดเพียงแต่ Smart watch ตัวอื่นมันไม่ได้ถูกวางตัวในกลุ่มแฟชั่น เหมือน Apple Watch เท่านั้นเอง
เลยทำให้อาจจะสะเทือนกันบ้างเล็กน้อย จากกลุ่มเป้าหมายที่กว้างขึ้น
รอดูตัวเต็มออกมาก่อนจะดีกว่า บางทีApple watchอาจไม่สำเร็จอย่างที่คิดก็ได้
จนบัดนี้ผมก็ยังไม่เข้าใจตรรกะของการยัดappอย่างเมล์ เฟส หรือ อินสตราแกรมเข้ามา "หน้าจอมันเล็กเกินไป"คงขายดีในช่วงแรก แต่ระยะยาวคงไม่มีใครมานั่งเล่นนาฬิกากันสามสี่ชั่วโมงหรอก
ปล.อ่านTextยังเข้าใจ แต่ดูรูปหรือวิดีโอนี่ไม่เข้าใจจริงๆ
เห็นด้วยผมว่ามันน่าจะเป็นอุปกรณ์เสริมของ Smart Phone มากกว่า เล่นจริงจังมันยาก
และด้วยความที่มันควรจะเสริมเนี่ยแหละครับ ราคามันก็ควรจะถูกกว่านี้150เหรียญยังเข้าใจ แต่ราคาที่ออกมานี่... อื้มมม!!
คงต้องแล้วแต่ความต้องการใช้งานของแต่ละคนมั้งครับ ถ้ามีความต้องการเป็นอุปกรณ์เสริมราคาถูก Pebble ก็น่าจะตอบสนองตรงนี้ได้ แต่จากการเทียบฟังก์ชั่นการใช้งานแล้ว สำหรับผมตัวที่ใกล้เคียงสุดน่าจะเป็น Microsoft Ban หรือ Gear S ซึ่งเท่าที่หาๆ ใน Ebay ราคาก็อยู่ที่ 1x,xxx บาท
mail, Facebook, line อะไรพวกนี้ผมว่า idea มันดีมากนะ เวลามือถืออยู่ในกระเป๋าแล้วเราแค่อยากจะดูเร็วๆ ว่าใครส่งอะไรมา จะได้ประเมินก่อนว่าคุ้มค่าในการไปล้างมือ เช็ดมือ ก่อนจะควักโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดตอบไม๊ (ทำกับข้าวอยู่ 555)
ผมกลัว Apple มองว่สตลาดยาฬิกาคือสิ่งที่ต้องลุย ไม่ใช่ตลาดนาฬิกาอัจฉริยะ เพราพฉะนั้นจึงมีโอกาสออกนาฬิกาไขลานที่มีหน้าจอออกมาได้
คิดถึงสมัยกล้องฟิล์มกับกล้องดิจิตอล
ดูไปยาวๆก่อน
Apple Watch อยู๋ได้แค่ 18 ช.ม. ต่อวัน จากนั้นต้องถอดเพื่อชาร์จพลังงานแล้วพวกฟังก์ชั่น นับก้าว, นับชีพจร , วัดการนอน จะมีประโยชน์อะไร ถ้าต้องถอดอออกจากข้อมือเพื่อมาวัด
ผมยังคงเชื่อว่านาฬิกาสวิสหรูๆยังคงขายได้ต่อไปเรื่อยๆ เพราะเค้าจับตลาดบน ที่ยังคงใช้สินค้ากลุ่มนี้บ่งบอกฐานะเหมือน คนขับรถ Hi-technology แบบ Toyota Prius กับ คนที่ขับรถเทคโนโลยีธรรมดาเช่น Benz C Class ไปพารากอน คุณว่า รปภ. จะอยากหาที่จอดรถให้คนไหน
ผมชอบคอมมเม้นที่นิยาม apple watch ว่าเป็นเพียงแค่า time display ซึ่งมันแสดงให้เห็นว่า "เหมือนจะ" เป็นคนละตลาดกัน
แต่ด้วยความที่ ไอ้สิ่งของ ระหว่าง watch กับ time display มันมีข้อจำกัดอยู่ว่า ใส่ได้แค่เรือนเดียว(จะใส่สองก็ได้ถ้าไม่ดูแปลกๆไป ถ้าสามนี่ผมว่าเริ่มผิดปกติ)
มันทำให้ต้องมานั่งคิดว่า คนที่รวยระดับ ซื้อ watch เจ๋งๆ เนี่ยเค้าอยากใช้ อะไรกับ apple watch จนกระทั้งตัวเองยอมถอด นาฬิกา ของตัวเอง มาใส่ อุปกรณ์ hi-tech
ส่วนตัวแล้ว ขอเดาว่า ไม่กระทบหรอกครับ เพราะว่า คนจะหันซื้อรุ่น ถูกกว่า ไม่จำเป็นต้องเป็นทองหรอก ผมว่าส่วนคนรวยเค้า ผมก็คิดเอาเองว่า ยังไงเค้าก็ซื้อ watch รุ่นทีตัวที่ชอบมาเก็บไว้ แล้วซื้อ apple time display รุ่นกลางๆ มาใส่เล่นๆขำ ไม่แปลก
แต่พวก นาฬิกาปกติ ธรรมดา นี่ผมว่า มีเสียวนะ
/ปล. ชอบโฆษณา นาฬิกา แอนดรอย มากๆ ให้ให้คำโปรยว่า การที่จะเป็นหนึ่งเดียวกันเนี่ย ไม่ต้องเหมือนกันก็ได้ จริงๆ
ผมเห็นด้วยนะ
อาจไม่ใช่รุ่นนี้ที่กระทบ แต่ smart watch รุ่นหลังจากนี้ (2-3 ปี) กระทบแน่นอน
เทคโนโลยี ที่สูงขึ้นเรื่อยๆ จะทำให้คนหันมาใช้ smart watch อย่างจริงๆจังๆ เพราะมันทำได้หลากหลายกว่า บวกกับราคาที่ถูกลงจับต้องได้ง่าย ส่วนเรื่องความหรูหราและคุณค่าทางจิตใจ ถ้าสินค้ามันดี มันเจ๋ง เดี๋ยวคนก็เทิดทูนกันเองแหละ เหมือนไอโฟน
อย่าชะล่าใจเหมือนโนเกียสมัยก่อนละกัน