มีอดีตทีมงานออกแบบ UI ของ Office for Windows Phone คนหนึ่งชื่อ jragon (ปัจจุบันลาออกจากไมโครซอฟท์แล้ว) ไปตั้งกระทู้ใน Reddit และแสดงความเห็นเกี่ยวกับแนวทางการออกแบบแอพ Metro ว่ามันไม่เวิร์คอย่างที่คิด จนไมโครซอฟท์ต้องปรับเปลี่ยนแนวทางการออกแบบแอพบน Windows 10 for mobile ให้คล้ายกับ Android/iOS มากขึ้น
ประเด็นที่น่าสนใจมีดังนี้ เริ่มจาก ปัญหาของ Metro
- แนวทางการออกแบบแอพ (ไม่ใช่ส่วนของระบบปฏิบัติการ) ของ Windows Phone เดิมคือ "panorama" หรือการแบ่งหลายหน้าจอแล้วเลื่อน (swipe) ไปมาในแนวนอน การออกแบบลักษณะนี้ดีในแง่การสำรวจว่าแอพมีอะไรบ้าง (exploration) แต่ไม่เหมาะสำหรับการแสดงข้อมูลจำนวนมากๆ ในหน้าจอเดียว (organizing information) เพราะการเลื่อนจอทำให้ข้อมูลถูกซ่อนไว้ไม่ให้เห็นได้ทันที
- แอพบนมือถือค่ายอื่นๆ ใช้แนวทางออกแบบที่ปัจจุบันกลายเป็นมาตรฐาน คือแถบนำทางอยู่ขอบจอด้านบน ปุ่มคำสั่งอยู่ขอบล่าง และซ่อนปุ่มที่นานๆ ใช้ทีในเมนูสามขีด (hamburger menu) เมื่อ Windows Phone ใช้แนวทางแบบนี้ ทำให้การพอร์ตแอพทำได้ยาก
- สถิติของไมโครซอฟท์เองในการทดสอบแอพแบบ Metro ก็ชี้ชัดว่าไม่เวิร์ค ผู้ใช้ทั่วไปที่มาลองใช้ Windows Phone สับสนกับการใช้งาน
- การออกแบบแอพที่ความสามารถซับซ้อนอย่าง Microsoft Office ด้วยแนวทาง Metro จึงทำได้ยาก เพราะไม่มี hamburger menu สำหรับซ่อนปุ่มต่างๆ
ภาพการออกแบบ hamburger menu ของไมโครซอฟท์ในปี 2013
วิดีโออธิบายปัญหาของ Metro เรื่อง UI
ภาพตัวอย่าง UI ของ Office ที่ไม่ใช้ hamburger menu จะเห็นว่าปุ่มกินเนื้อที่ไปครึ่งจอ
แนวทางแก้ไข
- ไมโครซอฟท์ต้องปรับตัวเองใน Windows 10 โดยลดจุดเด่นของตัวเองในแง่หน้าตา (losing differentiation) หันมาใช้ UI ที่คล้ายกับท้องตลาดมากขึ้น มันอาจทำให้ผู้ใช้ระดับสูงที่ชื่นชอบ Metro ไม่พอใจ แต่ช่วยดึงดูดผู้ใช้กลุ่มใหญ่กว่านั้นแทน
- jragon ยังวิจารณ์ดีไซน์ของ Windows 10 ในปัจจุบันว่ายังแย่มากในสายตาของเขา แต่ขอให้ผู้ใช้มั่นใจว่าอดีตเพื่อนร่วมงานของเขาที่ไมโครซอฟท์เป็นดีไซเนอร์ที่เก่งมาก ดังนั้น Windows 10 จะพัฒนาต่อได้อีกมากกว่าจะออกรุ่นจริง
อนาคตของไมโครซอฟท์
- แนวทาง Windows first แบบเดิมล้าสมัยแล้ว ไมโครซอฟท์แพ้สงครามสมาร์ทโฟนเรียบร้อยแล้ว (the battle has been lost)
- เขายอมรับว่า Windows Phone ไม่ประสบความสำเร็จ (they didn't win) แต่ถ้าเทียบกับแพลตฟอร์มอื่นๆ อย่าง Windows Mobile, BlackBerry, Palm ก็ถือว่าดีกว่ามาก
- ถึงแม้ Windows Phone มีส่วนแบ่งตลาดน้อยมาก (3% ของตลาดโลก) แต่ถ้าวัดเป็นจำนวนเครื่องแล้วยังถือว่าเยอะ นี่จึงเป็นเหตุผลที่ไมโครซอฟท์ต้องทำ Windows Phone ต่อไป เขาคาดว่าถ้า Windows Phone ยังยืนหยัดอยู่ต่อได้อีก 3-5 ปี สภาพตลาดน่าจะเปลี่ยนไปจากปัจจุบันมาก แอพบน Windows น่าจะมีเพิ่มขึ้นมาก
- เขามองว่าเด็กในอีก 10 ปีข้างหน้าคงเลิกใช้ Word หรือ PowerPoint แบบที่เราเห็นในปัจจุบัน ไมโครซอฟท์จึงต้องหาแนวทางใหม่ ตัวอย่างการทดลองของไมโครซอฟท์คือ Sway ซึ่งอนาคตของมันคงไม่ยิ่งใหญ่เหมือน Word ในอดีต แต่ถ้าสามารถสร้างแอพแนวใหม่ๆ แบบ Sway ได้สัก 100 ตัว ก็น่าจะเป็นอนาคตที่ดีของไมโครซอฟท์
ที่มา - Reddit , Paul Thurrot
Comments
ขอบคุณครับที่ปรับ รักเลย <3
โอ... เห็นด้วยทุกประการ
I'm ordinary man; who desires nothing more than just an ordinary chance to live exactly what he likes and do precisely what he wants.
อ่านแล้วทำไมน้ำตาผมไหลไม่รู้ตัว .... ยอมรับว่าแพ้แต่ก็ยังเชียร์อยู่
The Dream hacker..
ติเพื่อก่อ :3
ສະບາຍດີ :)
เห็นด้วยแทบทุกประการ แต่ผมกลับชอบ UI แบบนี้ของ WP นะ
+1 จะปรับยังไงก็ปรับเหอะ แต่ขออย่าทิ้งฟีเจอร์ swipe อันเอกลักษณ์เป็นพอ
Coder | Designer | Thinker | Blogger
เราเคยล้มเราก็จะเข้าใจความเจ็บ ถึงจะแพ้สงคราม แต่เราก็สามารถประกาศสงครามอีกรอบได้ เรื่อง UI และทุกเรื่องผมก็เห็นด้วย
อ่านแล้วเพิ่งรู้ว่า hamburger button เป็น contentious issue ขนาดนี้
"แอพบนมือถือค่ายอื่นๆ ใช้แนวทางออกแบบลักษณะเดียวกัน คือแถบนำทางอยู่ขอบจอด้านบน ปุ่มคำสั่งอยู่ขอบล่าง และซ่อนปุ่มที่นานๆ ใช้ทีในเมนูสามขีด..."
ย่อหน้านี้อ่านงง ๆ อะครับ คือค่ายอื่นใช้แบบนึง "แต่" windowsphone ใช้อีกแบบใช่หรือเปล่า?
Happiness only real when shared.
เข้าใจถูกแล้วครับ wp ทำไม่เหมือนชาวบ้าน
The Dream hacker..
แก้ละครับ คือผมใช้คำว่า "ลักษณะเดียวกัน" อาจทำให้เข้าใจผิดได้ ความหมายคือค่ายอื่นทำแบบเดียวกันหมด ยกเว้น WP ครับ เพียงแต่คำว่า "ลักษณะเดียวกัน" พอไปอยู่แบบนั้นมันเลยอาจตีความได้ว่า เหมือน WP
แต่ผมชอบ panorama นะ ผมว่ามันเป็นเอกลักษณ์ดี หาของง่ายดีด้วย ไม่ต้องจำว่าไอ้นั่นไอ้นี่ซ่อนอยู่ในเมนูไหนปุ่มไหน
คือในเชิงการออกแบบมันก็มีปัญหาของมันอยู่น่ะครับ เช่นว่า ถ้าแอพมี 5 หน้า แล้วหน้าที่เราต้องใช้มันอยู่หน้าที่ไกลสุดพอดี เราก็ต้องปัดจอ 4 ครั้งเสมอเวลาใช้งาน ในแง่การออกแบบมันก็ไม่ค่อยดีเท่าไรครับ (ในทางกลับกัน ถ้าใช้อินเทอร์เฟซเป็นแท็บ หรือเป็นเมนู ก็อาจแตะจอแค่ 1-2 ทีเท่านั้น)
นอกจากนั้นก็มีประเด็นเรื่อง information density ตามที่เขียนไปแล้วในบทความ จริงๆ ต้นฉบับละเอียดกว่านี้มาก ใครสนใจเรื่องการออกแบบ UI/UX สมควรอ่านมาก
panorama ก็แตะตรงแท็บได้ แต่ต้องลดขนาดแท็บจาก default ลงก่อน เพราะที่ template ให้มามันใหญ่ไป
ສະບາຍດີ :)
คนมันชินกันไปแล้วก็ต้องยอมปรับ
กว่าจะรู้ตัวก็นานมาก แพ้แบบชิลๆ สินะ
อีกอีก 10 ปี ?
แสดงว่ามันจะเปลี่ยนรูปแบบการใช้งานไปจนแทบไม่เหลือเค้าเดิมเลยสินะ
Navigation bar อยู่ข้างบนมันดียังไง??
สำหรับผม ผมมองว่าปัญหาไม่ได้อยู่ "แค่" ความคุ้นชินด้าน UI ที่ทำให้แอพน้อย แต่ประเด็นหลักคือ ความ flexible ของ UI ที่มัน fix มาเสียมากกว่า
ผมยกตัวอย่างง่าย ๆ เลยคือแอพ YouTube บน iOS และ Android ที่มีฟีเจอร์เมื่อเราปัดคลิปวิดีโอลงมาข้างล่างเพื่อย่อให้เล็กที่สุด และสามารถเลือกดูวิดีโออื่น ๆ ได้ระหว่างรอ รวมถึงสามารถปิดคลิปดังกล่าวได้ ซึ่งแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยใน Windows Phone อีกตัวอย่างเลยคือแอพ Facebook ที่มี Chat Head แน่นอนว่าเป็นไปไม่ได้เลยที่ Windows Phone ทำได้
สิ่งที่ไมโครซอฟท์ควรพิจารณาตัวเองได้แล้วคือ การเปิดกว้างด้านเฟรมเวิร์กที่ทำให้นักพัฒนาสามารถทำแอพที่มี UI ที่อิสระ และมี API ที่เปิดกว้างมากกว่านี้ด้วย การสร้าง user ใหม่เป็นเรื่องง่ายถ้าหากนักพัฒนาเต็มใจนำแอพลงแพลตฟอร์มนี้
Coder | Designer | Thinker | Blogger
หนทางรอดของ Microsoft ไม่ใช่สร้างระบบมือถือออกมาสู้ Apple หรือ Android แต่เป็นการผสานระบบมือถือให้เป็นหนึ่งเดียวกับระบบปฏิบัติการบนคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลหรือ PC มากกว่า......... มี 5 อย่างที่มือถือไม่มีทางสู้ PC ได้คือ การประมวลผล การสั่งงานส่วนกลาง ระบบพลังงาน และ ROM กับ RAM แต่มี 3 อย่างที่มือถือสามารถเหนือกว่า PC คือ ระบบกายภาพกับภาพเคลื่อนไหว เสียง และการสื่อสาร.......... ถ้า Microsoft จะก้าวนำคู่แข่ง 1 ก้าว สิ่งที่ต้องทำคือ การทำอย่างไรให้มือถือเป็นอุปกรณ์หลักในการใช้งานโลก VR ระบบกล้องที่ใช้จับการเคลื่อนไหวของมือ Microsoft ก็มีเป็นของตัวเองอยู่แล้วการจะจับมาใส่บนมือถือคงไมใช้เรื่องยาก ระบบ Cloud และ Remote ก็ไม่น้อยหน้าใคร ขาดเพียงแต่การ steam ให้ลื่นหัวแตกเท่านั้น เรื่องนี้ไปคุยกับ Nvidia ก็คงไม่มีปัญหา หากใครรู้จักกับเจ้าหน้าของ Microsoft ช่วยไปสกิดบอกหน่อยเถอะครับ
เขาคงจะบอกเป็นนัยว่าทำได้แต่ช้าไปแล้ว