กูเกิลจัดงานเปิดตัวสมาร์ทโฟน Nexus รุ่นใหม่เมื่อปลายเดือนกันยายนปีที่แล้ว ในงานได้ออกผลิตภัณฑ์ใหม่พร้อมกันถึงสองตัวคือ Nexus 5X และ 6P โดยกูเกิลให้เหตุผลที่ทำแบบนี้เพราะผู้ใช้มีความต้องการที่แตกต่างกัน

หลังจากนั้นในช่วงเทศกาล Black Friday วันที่ 30 พฤศจิกายนที่ผ่านมาได้จัดโปรโมชันลดราคา Nexus 5X ลงถึง 80 ดอลลาร์สหรัฐ เหลือเพียง 349 ดอลลาร์สหรัฐสำหรับรุ่น 32GB เมื่อรวมภาษีของรัฐแคลิฟอร์เนีย 9% ได้เป็น 380 ดอลลาร์สหรัฐ ผมเลยให้เพื่อนที่อาศัยอยู่ในสหรัฐอเมริกาสั่งให้แล้วใช้บริการส่งของมาประเทศไทยอีกต่อหนึ่ง รวมค่าใช้จ่ายทุกอย่างอยู่ที่ราว 14,000 บาทนิดๆ ขณะนี้ใช้เครื่องมาเดือนกว่าแล้ว จึงมาเขียนรีวิวให้อ่านกันครับ

ฮาร์ดแวร์

Nexus 5X มาในกล่องสีขาว คาดด้วยปลอกกระดาษมีโลโก้ตัว X คล้ายโลโก้ Dota 2 ส่วนด้านหลังมีรูปตัวเครื่อง

ภายในกล่องมีตัวเครื่อง, อะแดปเตอร์, สาย USB-C, เข็มจิ้มถาดซิม และเอกสารนิดหน่อย

ด้านซ้ายมีถาดซิมอย่างเดียว

ด้านขวามีปุ่มพาวเวอร์และปุ่มปรับเสียง

ด้านบนมีไมโครโฟนตัวที่สอง

ด้านล่างมีพอร์ต USB-C, ไมโครโฟน และแจ็คหูฟัง 3.5 มม.

ด้านหลัง

กล้อง, แฟลชคู่, ที่ยิงแสงช่วยโฟกัส และเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ (Nexus Imprint)

บาง 7.9 มม.

ตะแกรงลำโพงสนทนาและกล้องหน้า

ตะแกรงลำโพงหลัก ข้างใต้มีไฟ LED สำหรับการแจ้งเตือนซ่อนอยู่ด้วย

ซอฟต์แวร์

ตอนเปิดเครื่องครั้งแรกเครื่องถามว่าจะย้ายข้อมูลจากมือถือเครื่องเก่าหรือไม่ ผมเลือกข้อนี้ก็ทำตามภาพเลยครับ

เครื่องเก่าของผมคือ HTC One M7

หลังย้ายข้อมูลเสร็จก็มาถึงขั้นตอนการตั้งรหัสผ่านและเก็บลายนิ้วมือ แตะเซ็นเซอร์ด้านหลัง 3-4 ครั้งก็เสร็จ

หากอยากเพิ่มนิ้วอื่นก็กดเพิ่มตรงนี้ได้เลย

เมื่อได้ชื่อว่า Nexus ย่อมหนีไม่พ้นที่จะมาพร้อมกับแอนดรอยด์แบบไม่ปรับแต่งใดๆ โดยตอนแกะกล่องยังเป็น 6.0 อยู่ หลังจากนั้นก็ได้รับแจ้งเตือนให้อัพเดตเป็น 6.0.1 ทันที หากสังเกตพื้นหลังจะเห็นว่ามีไอคอนแอพที่เป็นสีเทา แปลว่าแอพกำลังรอคิวติดตั้งอยู่ โดยไอคอนจะเรียงตามมือถือเครื่องเก่าของเราเป๊ะๆ

เครื่องผมความจุ 32GB เหลือพื้นที่ใช้จริง 24.89GB

ผมใช้แอนดรอยด์มาค่อนข้างนาน ทำให้ชินกับวิธีการใช้งานแบบเดิมๆ พอไปลองมือถือแอนดรอยด์บางรุ่นที่ใส่ฟีเจอร์มาเยอะๆ ก็จะไม่ค่อยชินและไม่เคยใช้สิ่งที่มันให้มาสักเท่าไร

ผมจึงเลือกติดตั้ง Google Now Launcher แทนของเดิมที่มากับเครื่อง (ขนาด Nexus ยังไม่ใช้ Google Now Launcher เป็นหลักเลย) ซึ่งส่วนตัวผมชอบมาก มีฟีเจอร์เยอะกว่าเดิมๆ อีกนิด แต่ยังไม่รกเหมือนรอมจากผู้ผลิตอื่นที่พยายามใส่ฟีเจอร์เข้ามามากๆ อย่างไรก็ตาม ผมคุยกับคนใกล้ตัวก็มีคนที่ไม่ชอบอะไรพื้นๆ แบบ Nexus เหมือนกัน

หนึ่งในฟีเจอร์ใหม่ของ Marshmallow คือความสามารถในการจัดการสิทธิ์ของแต่ละแอพได้อิสระ ซึ่งมีประโยชน์มาก เช่นแอพฟังเพลง Joox อัพเดตล่าสุดมีการขอสิทธิ์เพิ่ม คือขอดูปฏิทิน, ขอดูตำแหน่ง GPS และขอใช้ไมโครโฟน ซึ่งผมก็ไม่ทราบว่าแอพฟังเพลงจะขอสิทธิ์พวกนี้ไปทำไม เราก็เลือกปิดได้ทันที

อีกหนึ่งฟีเจอร์ที่เจ๋งมากๆ คือ Dozeหลักการคือเมื่อมือถือไม่ถูกใช้งานเป็นเวลานาน, วางอยู่นิ่งๆ ไม่ขยับ และไม่เสียบสายชาร์จ มันจะเข้าสู่สภาวะ “หลับลึก” โดย Wi-Fi จะถูกปิดและการแจ้งเตือนจะไม่เข้ามา ซึ่งเครื่องจะ “ตื่น” ขึ้นมาเช็คการแจ้งเตือนเป็นระยะ แล้วกลับเข้าสู่ Doze อีกครั้ง (ช่วงที่ตื่นเรียกว่า maintenance window)

แผนภาพแสดงการทำงานของ Doze || รูปจาก Android Developers

ระหว่าง Doze จะอนุญาตให้การแจ้งเตือนที่ถูกตั้งให้มีความสำคัญสูง (high-priority) เท่านั้นที่จะ “ปลุก” เครื่องให้หลุดจาก Doze ได้ (มีเสียงแจ้งเตือน, เครื่องสั่น, จอติด) นอกนั้นเงียบหมดจนกว่าผู้ใช้จะกดปุ่มหรือขยับเครื่อง

ผลคือแม้วางไว้บนโต๊ะทั้งคืน แบตเตอรี่ลดไปเพียง 1-2% เท่านั้น! กราฟแทบจะเรียบเป็นเส้นตรง ช่วยได้มากเวลาลืมชาร์จมือถือก่อนนอน

กล้อง

กล้องของ Nexus 5X จัดว่าดีมากตามคำร่ำลือ ถ่ายได้ดีทั้งในสภาพแสงมากและแสงน้อย แอพกล้อง Google Camera ไม่มีโหมด Beauty อะไรให้รกรุงรัง (อยากได้ก็หาแอพเพิ่มเอง) เลือกถ่ายได้ 5 โหมด ดังนี้

• ภาพนิ่งกล้องหลังความละเอียด 12.2 ล้านพิกเซล f/2.0 ส่วนกล้องหน้าสูงสุด 5 ล้านพิกเซล f/2.0 เช่นกัน
• วิดีโอ กล้องหลังความละเอียด UHD 4K / 1080p และ 720p รองรับการถ่าย slow-mo ที่ 120 เฟรมต่อวินาที ส่วนกล้องหน้าสูงสุด 1080p
• Photo Sphere ถ่ายรูปหลายๆ รูปต่อกันเป็นทรงกลม (เหมือน Google Street View)
• Panorama
• Lens Blur ถ่ายแล้วมาเลือกจุดชัดทีหลัง ส่วนเบลอก็เลือกเบลอมาก-น้อยได้

คุณภาพเป็นอย่างไร ดูตามนี้เลย ย่ออย่างเดียวไม่ได้ปรับอะไรอีก

โบเก้ก็มีกับเค้าเหมือนกัน

ผมยังได้ทดสอบกล้องเทียบกับ Samsung Galaxy S6 Edge ของเพื่อน โดยถ่ายจากจุดเดียวกัน ตั้งออโต้ทุกอย่าง แต่ด้วยเหตุผลความเป็นส่วนตัวจึงไม่สามารถลงรูปเต็มได้ เลยครอปแบบ 100% มาแทนนะครับ รูปที่ถ่ายเป็นการทานอาหารกลางแจ้งในเวลาดึก แหล่งกำเนิดแสงมีเพียงไฟสปอตไลท์ดวงเดียว และหลอดฟลูออเรสเซนต์สองสามหลอด ส่วนที่ครอปมาคือพื้นไม้เฌอร่าครับ โปรดสังเกตรายละเอียด

รูปจาก Samsung Galaxy S6 Edge

รูปจาก LG Nexus 5X

การรองรับ 4G ในไทย

เนื่องจากเครื่องผมสั่งมาจากสหรัฐอเมริกา เป็นโมเดล H790 ซึ่งโมเดลนี้ไม่รองรับการทำ Carrier Aggregation ระหว่างคลื่น 1800 + 2100 MHz นะครับ ใครจะสั่งมาก็ทราบตรงนี้ไว้ด้วย (ผมเพิ่งทราบหลังสั่งมาแล้ว) โดยโมเดลที่ทำได้คือ H791 และ H798 ครับ

ทดสอบ AIS 4G พื้นที่จังหวัดนนทบุรีได้ประมาณนี้

ประสิทธิภาพและการใช้งานทั่วไป

Nexus 5X ใช้ซีพียู Snapdragon 808 ตัวเดียวกับ LG G4 การใช้งานโดยรวมลื่นไหลดีมาก แต่ปัญหาที่พบบ่อยคืออาการแลค โดยเป็นปัญหาที่เว็บไซต์ต่างประเทศก็พบกันหมด (ลองค้นว่า Nexus 5X performance issue) ผมเองทราบเรื่องนี้แล้วแต่อยากได้ก็เลยคิดว่าไม่เป็นไร แต่เอาเข้าจริงก็สร้างความรำคาญไม่น้อย

อาการแลคที่ว่าคือเครื่องจะหน่วงๆ แตะอะไรแล้วไม่ตอบสนองทันที เคลียร์แอพที่เปิดอยู่แล้วยังช่วยไม่ได้มากนัก วิธีแก้ที่ดีที่สุดคือรีบูตเครื่อง ผมสังเกตดูพบว่าเครื่องเริ่มแลคตอนใช้งานแอพที่ลอยทับแอพอื่น เช่น Facebook Messenger, เบราว์เซอร์แบบลอย Link Bubble และ Flynx แต่ยังไม่ได้ลองลบแอพดังกล่าวทิ้งว่าช่วยแก้ปัญหาหรือไม่

ปัญหานี้ยังลามไปถึงกล้องด้วย เวลาเปิดกล้องจะช้ามาก บางทีกล้องเปิดแล้วแต่ปุ่มชัตเตอร์ยังเป็นสีเทากดไม่ได้ก็มี หรือกดถ่ายแต่ไม่ถ่ายก็เจอเหมือนกัน เรียกได้ว่าสร้างความรำคาญได้พอสมควรเลยทีเดียว หวังว่ากูเกิลจะออกอัพเดตมาแก้ปัญหานี้ในอนาคตอันใกล้ ดูคลิปของต่างประเทศด้านล่าง อาการเดียวกันเลย

ส่วนประสิทธิภาพหากวัดด้วย AnTuTu เวอร์ชัน 6.0.1 ได้ประมาณนี้ ซึ่งถือว่าต่ำกว่าที่ผมเจอคนอื่นเขาทดสอบกัน เดาว่าการทดสอบแบบเครื่องเปล่าๆ ไม่ได้ติดตั้งแอพหรือรันแอพอะไรมากมายทำให้ได้คะแนนมากกว่า แต่เครื่องผมใช้งานเอง มีแอพติดตั้งไว้เยอะ เลยทำให้ได้คะแนนเท่านี้ครับ (ฉะนั้นอย่าสนใจตัวเลขให้มากนัก)

แบตเตอรี่

สำหรับการใช้งานทั่วไปของผม เปิด 3G / LTE / Wi-Fi ทั้งวัน ไม่เล่นเกม ใช้งานโซเชียลเน็ตเวิร์คทั่วไป ดู YouTube บ้างประปราย แบตเตอรี่อยู่ได้เกือบทั้งวัน ต้องชาร์จเพิ่มช่วงบ่ายแก่ๆ หรือเย็นๆ แต่ถ้าใช้งานน้อยก็อยู่ถึงค่ำหรือดึกๆ ได้เลย

แบตเตอรี่ขนาด 2700mAh อาจดูน้อยไปหน่อยสำหรับมือถือสมัยนี้ แต่กูเกิลได้พัฒนาระบบชาร์จเร็วขึ้นมาเอง ไม่ใช้เทคโนโลยี QuickCharge ของ Qualcomm ทำให้ชาร์จเร็วมาก จากแบตเตอรี่เหลือต่ำกว่า 10% ใช้เวลาชาร์จเพียง 1.30 ชั่วโมงก็เต็ม 100% แล้ว โดยระหว่างชาร์จต้องไม่เล่นไปด้วยนะครับ ถ้าเล่นไปด้วยมันแทบจะไม่ชาร์จเลย ผมคิดว่าตรงนี้ตั้งใจให้เป็นอย่างนี้ เพราะป้องกันไม่ให้เครื่องร้อนนั่นเอง

ตอนชาร์จกราฟแบตเตอรี่ขึ้นเร็วมาก

คำถามที่หลายคนรวมถึงตัวผมเองสงสัย ว่าถ้าไม่ใช้อะแดปเตอร์ที่มากับเครื่อง จะใช้ยี่ห้ออื่นได้ไหม ผมมีอะแดปเตอร์ของ Tronsmart อยู่ซึ่งโฆษณาไว้ว่ามีฟีเจอร์ VoltIQ สามารถปรับโวลต์และแอมป์ได้ตามอุปกรณ์ที่นำมาชาร์จ ผลคือชาร์จเร็วเหมือนกัน แต่ยังไม่เร็วเท่าอะแดปเตอร์เดิมครับ บนหน้าจอขึ้นว่า Charging Rapidly ชัดเจน

สรุป

Nexus 5X ทำออกมาได้ดี ฮาร์ดแวร์แม้จะเป็นพลาสติกแต่ไม่รู้สึกว่ากรอบแกรบเลยแม้แต่นิดเดียว กล้องดีมาก ถ่ายได้ดีในทุกสถานการณ์ เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ หรือ Nexus Imprint ทำงานเร็วมาก จังหวะที่หยิบมือถือออกมาจากกระเป๋ากางเกง พลิกมาก็ปลดล็อคเรียบร้อยพร้อมใช้งาน

ปัญหาเดียวที่ค่อนข้างซีเรียสคือความแลคในบางครั้ง ซึ่งเป็นเรื่องผิดคาดพอสมควรเพราะรอมก็เป็นแอนดรอยด์โล้นๆ กูเกิลกำกับการพัฒนาอย่างใกล้ชิด ซีพียูก็ไม่ได้ขี้เหร่ แต่ทำไมถึงมีปัญหาเรื่องประสิทธิภาพได้ก็ไม่มีใครทราบ หวังว่ากูเกิลจะออกอัพเดตมาแก้ไขเรื่องนี้ในเร็ววัน

นอกจากนี้ช่วงหลังๆ มีการปรับราคาลงด้วย ถือว่า Nexus 5X ก็เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจครับ

ข้อดี

• กล้องดีมาก
• ระบบ Doze ใช้งานได้จริง ประหยัดแบตได้จริง
• การประกอบทำได้ดี ไม่กรอบแกรบ
• Nexus Imprint ทำงานเร็วมาก
• ได้รับอัพเดตก่อนใคร มีแพตช์ความปลอดภัยมาทุกเดือน

ข้อเสีย

• ปัญหาเกี่ยวกับประสิทธิภาพ
• มีตะแกรงลำโพงทั้งบนและล่าง แต่ลำโพงกลับเป็นโมโน และคุณภาพเสียงไม่ดีนัก
• ผมไม่ใส่เคส ใช้มาประมาณหนึ่งเดือนพบว่าบอดี้ด้านหลังเกิดการ "เบิร์น" คือเป็นรอยปื้นๆ จากการสัมผัส เช็ดไม่ออก