กสทช. ยกการกำกับดูแลทีวี/หนังออนไลน์จากต่างประเทศ, ไทยยังไม่ได้ข้อสรุป จะมีความชัดเจนภายใน 4-5 เดือน
หลังจากช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมามีประเด็นว่า กสทช.กำลังผลักดันหามาตรการกำกับดูแลกิจการ OTT (Over-The-Top) พร้อมตั้งอนุกรรมการขึ้นมาดูแล วันนี้ทางกสทช. ได้จัดการบรรยายในประเด็นเรื่องการกำกับดูแล OTT นี้โดย พ.อ. ดร. นที ศุกลรัตน์ ประธานกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.)
ประธาน กสท. ย้ำว่าการบรรยายนี้ เป็นเพียงการนำเอา " งานวิจัยหรือผลการศึกษาของทีมที่ปรึกษา" มานำเสนอเท่านั้น ซึ่งรายละเอียดนั้นเกี่ยวกับรูปของสื่อ รูปแบบการนำเสนอเนื้อหาและโมเดลการหารายได้ที่เปลี่ยนแปลงไปทั่วโลก จากการแพร่หลายของอินเทอร์เน็ต รวมถึงพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปดูวิดีโอออนดีมานด์รูปแบบต่างๆ บนอินเทอร์เน็ตกันมากขึ้น
*พันเอก ดร. นที ศุกลรัตน์ ประธานกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.)
ประเด็นที่น่าสนใจคือ พ.อ. ดร. นที ได้ยกตัวอย่าง 3 ประเทศที่มีการกำกับดูแลกิจการ OTT ได้แก่สหราชอาณาจักร, เกาหลีใต้และสิงคโปร์ โดยที่ไม่พูดถึงสหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นตลาด OTT ที่ค่อนข้างใหญ่ เพราะกฎหมายด้านนี้ของสหรัฐไม่ได้มีโมเดลเดียว แต่แตกต่างกันไปตามแต่ละมลรัฐ
สหราชอาณาจักร
- มีหน่วยงานกำกับดูแลชื่อ Ofcom (Office of Communication) ลักษณะเดียวกับ กสทช. เป็นผู้ดูแลเรื่องการอนุญาตเนื้อหาและคุ้มครองผู้บริโภค ร่วมกับ Advertising Standard Authority ดูแลเรื่องโฆษณา
- Ofcom กำหนดให้ผู้ให้บริการท้องถิ่นจะต้องแจ้งข้อมูลกับ Ofcom ก่อนเริ่มให้บริการในสหราชอาณาจักร
- ผู้ให้บริการจะต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบด้านเนื้อหา อย่างการคุ้มครองเด็กและเยาวชน, Hate Speech, การเข้าถึงของผู้พิการ, สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลของผู้ใช้ และการส่งเสริมเนื้อหาที่ผลิตในยุโรป
เกาหลีใต้
- Korea Communication Commission (KCC) ร่วมกับกระทรวงวิทยาศาสตร์, ไอซีทีและการวางแผนอนาคต (MSIP) เป็นผู้กำกับดูแล OTT โดยมีกฎหมายหลักคือ Internet Multimedia Broadcasting Business Act (2013)
- ผู้ให้บริการการแพร่ภาพและเสียงผ่านอินเทอร์เน็ต จะต้องขอใบอนุญาตประกอบธุรกิจจาก MSIP และต้องรายงานและลงทะเบียนเนื้อหาด้วย
- คอนเทนท์บน OTT ถูกกำกับดูแลเช่นเดียวกับสื่อประเภทอื่น อาทิ ความรุนแรงและสิ่งเสพติด
สิงคโปร์
- ผู้กำกับดูแลคือ Infocomm Media Development Authority
- ผู้ให้บริการ OTT ทั่วไปถือว่าเข้าข่าย Internet Content Provider จะได้รับใบอนุญาตอัตโนมัติและต้องปฏิบัติตาม Internet Code of Practice
- OTT แบบจ่ายเงินดูรายเดือน (SVoD) นับเป็น Pay TV ต้องได้รับใบอนุญาต Subscription Television Service License
- กฎเกณฑ์บังคับใช้เหมือนกันหมดทั้งผู้ให้บริการท้องถิ่นและต่างประเทศ
ส่วนกฎเกณฑ์ในการกำกับดูแลของไทยนั้น ประธาน กสท. ระบุว่าคงจะแตกต่างจากของประเทศอื่นๆ เนื่องจากประเทศเราก็มีบริบทและสภาพแวดล้อมเฉพาะตัว ขณะที่รายละเอียดยังไม่สามารถบอกอะไรได้ เพราะตอนนี้เป็นเพียง Day 1 เท่านั้น ยังไม่มีข้อสรุป รูปแบบหรือความชัดเจนใดๆ ทั้งสิ้น และคาดว่าภายในระยะเวลาราว 4-5 เดือนเป็นอย่างเร็ว น่าจะพอมีได้รายละเอียดออกมาชัดเจนมากยิ่งขึ้น
Comments
4-5เดือน !!!ทำไมรู้สึกว่าตัวเลขมันคุ้นๆน่ะ
เอา Chrome cast เข้า กสทช. เพราะดูรายการทีวีได้ งั้นเอา Tablet ด้วยไหมฮะ เพราะมันก็ดูทีวีได้เหมือนกัน :D จะได้คุมมันให้หมด
ทุกวันนี้ก็ต้องผ่านอยู่แล้วครับ
ถ้าไม่ได้อคติจนเกินไป ทั้งสองอย่างมีการใช้งานคลื่นความถี่ ซึ่งต้องผ่าน กสทช อยู่แล้วนี่ครับ ยิ่ง Tablet แบบใส่ซิมได้ อันนี้ยังไงก็หนีไม่พ้น
ดูมันยากวุ่นวายจังเลย