สำนักข่าว AP รายงานว่าสนามบิน 6 แห่งในสหรัฐ ได้แก่ในบอสตัน, ชิคาโก, ฮิวสตัน, แอตแลนตา, นิวยอร์คและกรุงวอชิงตัน ดีซี เริ่มติดเครื่องสแกนใบหน้าฝั่งขาออก เพื่อเก็บข้อมูลผู้ที่เดินทางออกนอกสหรัฐ
แผนการนี้เป็นความพยายามของกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิสหรัฐ (Department of Homeland Security: DHS) ในการเก็บข้อมูลไบโอเมตริกชาวต่างชาติและชาวอเมริกันที่เดินทางออกนอกประเทศ ซึ่งเป็นการขยายขอบเขตของกฎหมายที่ออกในปี 2004 เพราะที่ผ่านมามีการเก็บเฉพาะลายนิ้วมือเท่านั้น โดยทาง DHS มีแผนจะติดตั้งในสนามบินที่มีผู้โดยสารหนาแน่นเพิ่มเติมในปีหน้า
เจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบแผนงานนี้ระบุว่า ทางการจะลบข้อมูลของผู้โดยสารหลังผ่านไป 14 วัน แต่ก็อาจเก็บไว้นานกว่านั้น หากผ่านกระบวนการรีวิวความเป็นส่วนตัวและได้รับการยินยอมแล้ว
ทั้งนี้กระทรวง DHS ระบุด้วยว่าหนทางเดียวที่จะไม่โดนเก็บข้อมูลไบโอเมตริกตอนเดินทางก็คือ ไม่ต้องเดินทาง
ที่มา - AP via ArsTechnica
Comments
เค้าจะเก็บข้อมูลของคนอเมริกันไม่ใช่หรอครับ?
เท่าที่สังเกตมาเรื่อยๆ .. เวลามีใครเม้นทักการสะกดหรือใจความ, คุณ nismod จะไม่ค่อยกลับมาแก้เนื้อหาเลย
Six major US airports now scan Americans’ faces when they leave country
ตามที่ผมเข้าใจ.. เดิมเค้าจะเก็บข้อมูลของคนต่างชาติอยู่แล้ว, แต่ตอนนี้จะขยายเก็บตอนขาออก ซึ่งจะเก็บข้อมูลของคนอเมริกาเองเพิ่มด้วย ทำให้เกิดประเด็นและกลายเป็นข่าวนี้ขึ้นมา (สำหรับข่าวต้นทาง)
อันนี้ไม่ทราบผมแปลผิดตรงไหนรึเปล่าครับ
ถ้าสังเกตจากเม้นข้างล่าง คือเนื้อหาที่แปลมาไม่ได้เอ่ยว่าคนอเมริกาเองก็โดนด้วย, แล้วพอมีส่วนที่แปลย้อนอ้างถึงระเบียบเดิมซึ่งใช้กับคนต่างชาติ เลยอาจทำให้เข้าใจไขว้เขวได้ง่ายว่าจะบังคับใช้กับคนต่างชาติเท่านั้น.. ทั้งๆ ที่ต้นทางเน้นประเด็นที่กำลังจะเพิ่มให้บังคับใช้กับคนอเมริกาเองด้วยมากกว่า
อ้อ ผมเพิ่งอ่านทวนของตัวเองอีกรอบว่าไม่ได้เขียนไปด้วยว่า คนอเมริกาโดนด้วย เลยงงๆ ที่คุณสื่อ
เอามามาจากทาง AP ที่เค้าบอก nonimmigrant foreigner นะครับ
ส่วนเรื่องแก้นี่พยายามจะกลับๆมาย้อนๆดูอยู่ครับ แต่ก็ยอมรับว่าตกหล่นอยุ่เนืองๆ
ประเทศเสรี ทำตัวยังกระลัทธิคอมมิวนิสต์
ต่างกันเล็กน้อยครับอันนี้ทำกับต่างประเทศ แต่คอมมิวนิสต์ทำกับคนในประเทศ ซึ่งประเด็นก็ปกตินะว่าประเทศไหนๆก็จะเอาคนในประเทศไว้ก่อน ไว้มีสหรัฐโลกอาจจะตั้งคำถามนี้ได้เข้มข้นขึ้น (อยากเห็นจะได้ช่วยกันท่องอวกาศสักที)
จากข่าวต้นทาง.. เค้าจะเก็บข้อมูลของคนอเมริกันที่เดินทางออกนอกประเทศไม่ใช่หรอครับ?
"แผนการนี้เป็นความพยายามของกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิสหรัฐ (Department of Homeland Security: DHS) ในการเก็บข้อมูลไบโอเมตริกชาวต่างชาติที่เดินทางออกนอกประเทศ ซึ่งเป็นการขยายขอบเขตของกฎหมายที่ออกในปี 2004 เพราะที่ผ่านมามีการเก็บเฉพาะลายนิ้วมือเท่านั้น โดยทาง DHS มีแผนจะติดตั้งในสนามบินที่มีผู้โดยสารหนาแน่นเพิ่มเติมในปีหน้า"ทำไมผมอ่านได้ว่าชาวต่างชาติที่เดินทางออกนอกประเทศครับ
ครับขอโทษด้วยครับ ไม่ได้อ่านบทความภาษาอังกฤษ อ่านแต่ที่แปลเป็นไทย
ได้อ่านข่าวต้นทางแล้ว สรุปว่ายัง "ต่างกันเล็กน้อย..." อยู่มั้ยครับ :)
อันนี้น่าจะต่างตรงที่สหรัฐทำทั้งคนในและนอกประเทศครับ XD
เอ้าาาา ไม่เห็นมีใครมาบอกเลยว่าเป็นกะลาแลน ไมม่ที่ไหนในโลกทำกันหรอก ลิดรอนสิทธิปชช 555+
ผมว่าเดินทางออกนอกเมกาอยู่พอสมควรนะครับ ผมสงสัยว่าเขาไปเก็บข้อมูลลายนิ้วมือตอนขาออกตอนไหน เพราะที่ผ่านมาคือ แค่ผ่าน TSA เข้ามาในสนามบินก็ไม่มีการตรวจอะไรต่อแล้ว ซึ่ง TSA ปกติเขาก็ตรวจแค่ ID/Passport กับ boarding pass ส่วนหน้า gate สายการบินก็ scan แค่ passport กะ boarding pass คู่กัน
ที่จะมีจริงๆ คือขาเข้าประเทศมากกว่าที่ต้องผ่านตม ที่ต้องเจอทั้งเครื่องและคน
แปลมาไม่ครบ, ข้อความต้นทางคือ..
but to date have only had their fingerprints and photos collected prior to entry