หนึ่งในปัญหาใหญ่ของรถยนต์ไฟฟ้าคือระยะเวลาที่ใช้ชาร์จแบตเตอรี่ ซึ่งใช้เวลานานกว่าการเติมน้ำมันอย่างเห็นได้ชัด ผู้ผลิตทุกเจ้าจึงต้องหาทางลดระยะเวลาตรงนี้ลงให้ได้
ล่าสุดมีโปรเจ็คใหม่นำโดย BMW ร่วมมือกับ Porsche เพื่อพัฒนาสถานีชาร์จด่วน กำลังไฟสูงถึง 450 kW โดยระบุว่าเป็นกำลังไฟที่เหมาะสมในการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่ออกแบบมาวิ่งทางไกลได้ใน 15 นาที โดยใช้ไฟ 900 โวลต์ 500 แอมป์ ทำให้ได้กำลังไฟ 450 kW
เป็นที่น่าสนใจว่าผู้ให้งบประมาณสนับสนุนโปรเจ็คนี้มากถึง 7.8 ล้านยูโร (ราว 300 ล้านบาท) คือกรมการขนส่งและสาธารณูปโภคดิจิทัลของเยอรมนี ที่ถูกดูแลโดยองค์กรเทคโนโลยีไฮโดรเจนและเซลล์เชื้อเพลิงแห่งชาติอีกที
นอกจากนี้ BMW และ Porsche ยังระบุอีกว่าพวกเขากำลังหาวิธีลดความร้อนระหว่างการชาร์จที่เกิดขึ้นบริเวณสายชาร์จ, ตัวปลั๊ก และพอร์ตชาร์จไฟของรถด้วย
หากจะเทียบให้เห็นภาพ สถานี Supercharger ของ Tesla มีกำลังไฟสูงสุดที่ 145 kW เท่านั้น
ที่มา - Electrek
ภาพจาก Pexels
Comments
ขณะที่ Toyota บอกว่ารถไฟฟ้ามาถึงเร็วไป ค่ายรถฝั่งยุโรป อเมริกา EU ก็เชียร์รถไฟฟ้ากันสุดใจ
เรียกว่าโตโยต้าพยายามเลี่ยงปัญหาชาร์จช้า ขณะที่ทางยุโรปและเมกาพยายามแก้แล้วเข้าลุยละกันครับ
มองว่าโตโยต้า ทำวิจัยเรื่อง Hybrid เยอะมากหลายพันล้าน $ แต่อยู่ดีๆไอร่อนแมนก็โผล่มาแล้วก็จุดกระแสรถไฟฟ้า พวกค่ายยุโรปยังไม่ได้ทุ่มเรื่อง Hybrid ก็เลยเฮโลมา EV งานงอกโตโยต้าทันที Sup เก่าเยอะแยะมากมายจะเคลียร์ยังไง แถมงานวิจัยจนเริ่มเอามาขายก็สู้รถไฟฟ้าก็ไม่ได้ แถมก็ไม่ได้ที่กว่าเครื่องยนต์สันดาปปกติเท่ไหร่นัก แถมค่าบำรุงรักษาเอาไฟฟ้ากับสันดาปมารวมกันแทบอ้วก พังครับพี่น้อง
ประเด็นที่เลือกไฮบริดแต่แรกไงครับ
Hybrid คือปัจจุบันครับ ซึ่งมันไม่ work
ที่ Work ตอนนี้คือ เอาไปทำรถ sport แบบ P1, Porsche 918 Spyder
ส่วนตัว Toyota เองก็มีปัญหากับ Sub รายใหญ่อย่าง Sanyo/Panasonic
เอาแค่ราคา Battery ที่หักหลังกัน จากที่สัญญาว่า 10 ปีข้างหน้าจากวันที่ซื้อ
(หรือก็คือเมื่อ หลายปีก่อน) ราคาจะอยู่ที่ 70,000 เป็น 2 แสนกว่าบาท
แถมซ้ำด้วย ปั๊มน้ำหล่อเย็น ตัวละ 20,000 ที่พังเฉลี่ยทุก 3 ปี
พอพังแล้วลากชิ้นส่วนอื่นในระบบ Hybrid พังตามไปด้วย
หรือ เรื่องเล่าสยองขวัญประจำ Pantip เรื่อง Battery Benz E-Klass
ราคา 793,500 บาท เท่านี้ก็ฮาแล้ว
แต่จะหนีไป Tesla ก็ใช่ว่าจะรอดนะครับ เจอรีวิวต่างประเทศบ่อยๆ ว่าภายในไม่สมราคา
ถ้ามีปัญหาเรื่องงานประกอบหรือปัญหาเรื่องตัวถัง ถึงกับซ่อมไม่หายเลยเยอะพอตัวเพราะไม่มี 0 ซ่อม เรื่องเครมรถมีปัญหา ยังห่างชั้น บ. รถยนต์แบบ Benz, BMW, Audi,
หรือ แม้กระทั่ง Toyota, Honda, Nissan, Fiat อีกหลายปีแสง
น่าห่วงการดูแลสายชาร์จเหมือนกันนะ ขยับตลอดจะขาดในง่ายมั้ยถ้าคนใช้งานมือหนักๆ แล้ว amp สูงขนาดนี้
ไม่ใช่สายชาร์จไอโฟนนะ อันนั้นง่อยจริง
สายชาร์จไอโฟนผมยังใช้ของ iPad4 ได้อยู่เลยครับ ที่ห้องนี่มีสายอยู่ครึ่งโหลเพราะของเก่ามันไม่ขาด พกไปพกมาถ้าระวังมันก็ไม่ขาดง่ายขนาดนั้นนะ(แต่เหลืองทำไงก็ไม่รอด) คือมันมีไม่กี่ยี่ห้ออะครับที่ชาร์จแล้ว amp ได้เต็มเส้นไม่หนาเตอะ เคยซื้อหลายยี่ห้อชาร์จ ipad เปิดแผนที่ในรถไม่ทันก็ไม่ไหว
เห็นคนใช้กันสายก็ขาดกันได้ทุกยี่ห้ออะครับจะยากจะง่ายก็ยังไม่เห็นมียี่ห้อไหนรอด ส่วนมากจะเห็นขาดในแล้วมักจะไม่สังเกตด้วยถ้ามันไม่ฟ้องอะไร สายเส้นหนาๆก็น่าจะแพงเอาเรื่อง กับยางที่ใช้กับน้ำมันเดาว่าค่าเปลี่ยนมันน่าจะถูกกว่าพอสมควรและถ้ามันรั่วคงไม่มีใครไม่เปลี่ยนมั้ง ผมไม่ได้จบวัสดุเคยเรียนแค่ตัวเดียวก็ไม่รู้ว่าโลหะอะไรมันยืดหยุ่นบ่อยๆได้อิสระขนาดนั้นเพราะสายชาร์จไฟมันน่าจะต้องลากไปมาแล้วอันนี้คนใช้ไม่น่าจะเบามือเหมือนโทรศัพท์ เห็นพวกสาย RJ45 ก็ขาดบ่อยๆเลยกลัวไว้ก่อน
ผมไม่เคยทำสายชาร์จขาดสักเส้นเลย ของไอโฟน ไอแพด แมค ซัมซุง ไอโมบายล์ เอชทีซี ทุกเส้นถ้าไม่เก็บใส่กล่องส่งต่อให้คนอื่น ก็ยังสภาพปกติครับ มีแค่เหลืองสำหรับสายสีขาว
ส่วนใหญ่ที่เห็นใช้แล้วขาดจะเป็นสาวๆที่มักโยนทุกอย่างลงกระเป๋าถือ พอหยิบก็ดึงๆออกมาไม่ระวัง
ซื้อมาปั๊บสิ่งที่ทำอย่างแรกก็คือเอาท่อหดมาล็อกตรงข้อต่อระหว่างหัวกับสายทั้งสองข้างไว้ เท่านี้ก็ใช้ได้กันยาวๆ
แต่หลังๆมาใช้สองเส้นครับ สายของ Apple ผมจะใช้ที่บ้านเท่านั้น
ส่วนที่ติดกระเป๋าไปไหนต่อไหนซื้อสายถักของ Verbatim (ซึ่งโคตะระทนมากๆ)มาใช้
น่าสงสัยว่าแบตเตอรี่จะรับไหวมั้ยมากกว่า เดิมที่ชาร์จได้แค่นั้นน่าจะเป็นข้อจำกัดที่แบต ไม่ใช่สถานีนะ
ผมเข้าใจถูกมั๊ยเนี่ย
ถ้าเอามาเสียบที่บ้าน
ไฟตามบ้านเราสูงสุดอยู่ที่ 220v x 15A = 3300W เองรถอัด 450K / 15นาที = 112.5K
ถ้าไม่เปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นเลย ยังตก 112.5K / 3.3K = 34 ชม.กว่า?
ปลั๊กกชาร์จไฟรถยนต์ตามบ้านก็ 40A นะครับ
ต้องใช้ไฟสามเฟสครับ เห็นเจ้าของ Tesla ในไทยออกมาบอกเลยว่าใช้ไฟสามเฟสชาร์จเร็วกว่า
กลายเป็น ต้องเป็นเจ้าของกิจการ โรงงาน ที่มีไฟสามเฟส ถึงจะชาร์ตรถไฟฟ้าได้ดีพอ จริงๆด้วยสินะ
แบต BMW ของพี่แกเล่นม้วนแบนๆยัดลงในเคสอลูมิเนียมเชื่อมปิดด้วยเลเซอร์ แล้วมันจะระบายความร้อนยังไงล่ะครับ?
ของอย่างงี้ต้องลองผิดลองถูกก่อนแหละครับ ดีไม่ดี ร้อนไม่ร้อน ก็ค่อยมาหาทางแก้กัน
อีกอย่างเทคโนโลยีแบตผมว่าก็กำลังเร่งพัฒนากันอยู่ เพราะรถไฟฟ้ามาแน่ ดูจากเทสล่าเป็นตัวอย่าง
ใครเปิดก่อนได้เปรียบ ค่ายรถยุโรปไม่ยอมแน่ ยิ่งตอนนี้ส่งทีมแข่ง formula e กันแทบทุกค่ายแล้ว
ได้ข้อมูลเพื่อนำมาปรับปรุงสำหรับใส่รถบ้านกันอีกเพียบ
จริงๆ โมเดลการชาร์ตไฟนานน่าจะเหมาะกับบ้านเรานะครับ Build-in ติดบนถนนไปเลย เช่นห้าแยกลาดพร้าว พอผ่านปุ๊ปชาร์ต ไม่ต้องแวะปั๊ม เงินก็เรียกเก็บผ่านบัตรเครดิตเอา ชาร์ตสักครึ่งชั่วโมง หนึ่งชั่วโมงก็ยังได้
ในวันนึงถ้าทำได้ ก็เป็นระบบชาร์ตไร้สายติดใต้พื้นถนนกันไปเลย ส่วนเส้นทางเดินไกลๆ ก็ใช้เป็น Powerbank ลากจากจุดเริ่มต้นไปจุดสิ้นสุด ของ Motorway แล้วก็ release ออก วิ่งไปด้วยชาร์ตไปด้วย
Warun.in.th
ทำถนนเป็นอุโมงค์ สาย neutron อยู่กับพื้น สายไฟอยู่เพดาน แล้วโยงเสาแบบรถบั๊มพ์
ความคิดดีครับ
ได้ฟีลแบบ Steampunk มาก