เพราะว่าในปัจจุบันมีความก้าวหน้าไปมากมายทำให้นาฬิกาที่ข้อมือของเรานั้นมีฟีเจอร์ต่าง ๆ มากมายที่จะทำให้การใช้ชีวิตของเราง่ายดายมากยิ่งขึ้นเรียกได้ว่าเป็นการยกระดับขึ้นมาให้กลายเป็นนาฬิกา smart watch ซึ่งการใช้งานนั้นก็ง่ายแสนง่ายเพียงแค่สัมผัสก็สามารถใช้งานได้แล้ว รวมไปถึงฟีเจอร์ทีเด็ดต่าง ๆ ทั้งการแจ้งเตือนอัจฉริยะที่จะคอยบอกถึงเวลามีข้อความบนโซเชียลนั้นเข้ามา หรือจะเป็นโหมดออกกำลังกายที่คอยเก็บสถิติการออกกำลังกายต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นกลางแจ้งหรือในร่ม รวมไปถึงฟีเจอร์ต่าง ๆ อีกมากที่จะตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ให้ได้ใช้งานกันอย่างเต็มที่ ใครที่อยากได้มาใช้สักเรือนแต่ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะซื้่อเรือนไหนดีมาดู นาฬิกา smart watch ยี่ห้อไหนดี 2024 ที่เรานั้นนำมาฝากทุกคนกัน จะมีรุ่นอะไรกันบ้างไปดูกันเลย
ตารางเปรียบเทียบ Smart Watch ยี่ห้อไหนดี 2024
ขนาดหน้าจอ | ความละเอียด | กันฝุ่นกันน้ำ | เวลาใช้งานสูงสุด | แอปที่รองรับ | |
---|---|---|---|---|---|
Apple Watch Series 9
|
41, 45 มม. | 352 x 430, 396 x 484 | 5ATM+IP6X | 36 ชั่วโมง | Apple Watch |
Galaxy Fit 3
|
1.6 นิ้ว | 256 x 402 | 5ATM+IP68 | 13 วัน | Samsung Health |
Garmin Forerunner 965
|
1.4 นิ้ว | 454 x 454 | 5ATM | 23 วัน | Garmin Connect |
SUUNTO VERTICAL
|
1.4 นิ้ว | 280 x 280 | 10ATM | 1 ปีในรุ่น Steel solar, Titanium solar | Suunto |
Amazfit Bip 5
|
1.91 นิ้ว | 320 x 380 | IP68 | 10 วัน | Zepp App |
HUAWEI WATCH GT 4
|
1.32, 1.43 นิ้ว | 466 × 466 | 5 ATM | 46 มม. 14 วัน, 41 มม. 7 วัน | Huawei Health |
Xiaomi Watch 2 Pro
|
1.43 นิ้ว | 466 x 466 | 5ATM | 65 ชม. | Mi Fitness |
TicWatch Pro 5
|
1.43 นิ้ว | 466 x 466 | 5ATM | 80 ชั่วโมง | Mobvoi Health |
Kieslect Calling Watch Ks Pro
|
2.01 นิ้ว | 410 x 502 | IP68 | 16 วัน | Kieslect |
OPPO Watch X
|
1.43 นิ้ว | 466 x 466 | IP68 | 100 ชั่วโมง | OHealth |
Apple Watch Series 9
ราคาเริ่มต้นที่ 15,900 บาท
ที่มา : apple.com
มาเริ่ม นาฬิกา Smart Watch ยี่ห้อไหนดี กันด้วย Smart Watch จากแบรนด์ Apple ที่เรียกได้ว่ายอดขายไม่เคยตก แถมยังออกรุ่นใหม่ ๆ มาให้ได้ใช้งานกันอย่างต่อเนื่อง ซึ่ง Smart Watch ของแบรนด์ที่น่าใช้งานนั้นก็ต้องเป็นเรือนใหม่ล่าสุดอย่าง Series 9 ที่พร้อมจะตอบสนองการใช้งานได้อย่างครอบคลุม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องไลฟ์สไตล์ทั่วไป รวมไปถึงสายสุขภาพที่อยากตรวจสอบสุขภาพและออกกำลังกายไปพร้อม ๆ กัน
สเปก
- ขนาดหน้าจอ 41, 45 มม.
- ความละเอียด 352 x 430, 396 x 484
- จอภาพ LTPO OLED Retina แบบติดตลอด
- ความสว่างสูงสุดเพิ่มได้สูงถึง 2,000 นิต
- ชิป S9
- ระบบปฏิบัติการ watchOS 10
- ควบคุมง่าย ๆ ด้วย Digital Crown
- ระบบสัมผัส
- แอปวัดออกซิเจนในเลือด
- วัดหัวใจแบบไฟฟ้าและแอป ECG
- เซนเซอร์วัดหัวใจแบบออปติคัล รุ่นที่ 3
- SOS ฉุกเฉิน
- มีลำโพงและไมโครโฟนติดตัว
- โหมดประหยัดพลังงานใช้งานสูงสุด 36 ชั่วโมง
- ความสามารถในการทนน้ำ 50 ม. (กันน้ำขณะว่ายน้ำ)
- ทนฝุ่นที่ระดับ IP6X
- GPS คลื่นความถี่ L1, GNSS, Galileo และ BeiDou
- รองรับ Bluetooth 5.3
ข้อดี
- Apple Watch ในแบบที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอนช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม
ข้อควรรู้
- การใช้งาน SOS ฉุกเฉิน ตัว Smart Watch จำเป็นต้องเชื่อมต่อ WiFi
Galaxy Fit 3
ราคาเริ่มต้นที่ 1,990 บาท
ที่มา : samsung.com
แน่นอนว่า Samsung เองก็เป็นอีกแบรนด์ที่ได้รับความนิยมในการใช้งาน ซึ่งตัว Smart Watch รุ่นล่าสุดอย่าง Galaxy Fit 3 ก็เรียกได้ว่ามีราคาที่น่ารักมาก ๆ สามารถจับมาใช้งานร่วมกับสมาร์ทโฟนของค่ายนี้ได้เป็นอย่างดี พร้อมจะเป็นคู่หูสำหรับการใช้งานไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกาย การวัดค่าสุขภาพทั้งตอนตื่นและตอนนอน ใส่สบายมองเห็นได้ง่ายเพราะหน้าจอขนาดใหญ่คมชัด
สเปก
- ขนาดหน้าจอ 1.6 นิ้ว
- ความละเอียด 256 x 402
- น้ำหนัก 36.8 กรัม
- จอแสดงผล AMOLED
- ใช้งานได้นาน 13 วัน
- โหมดออกกำลังกายมากกว่า 100 โหมด
- รองรับ Bluetooth 5.3
- ระบบปฏิบัติการ FreeRTOS
- ระดับกันฝุ่นกันน้ำ 5ATM+IP68
- ตกแต่งหน้าจอได้ถึง 100 แบบ
- ใช้งาน Camera Remote ได้
- รองรับ SOS
- ใช้งานร่วมกับแอป Samsung Health
- ติดตามการนอนหลับในเชิงลึก
- วัดอัตราการเต้นของหัวใจ
- ติดตามระดับความเครียด
ข้อดี
- แบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานเกือบ 2 อาทิตย์ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง
ข้อควรรู้
- ไม่เหมาะสมสำหรับการดำน้ำลึกนาน ๆ หรือกิจกรรมทางน้ำที่มีแรงดันสูง
Garmin Forerunner 965
ราคาเริ่มต้นที่ 21,390 บาท
ที่มา : garmin.com
Garmin อีกหนึ่งแบรนด์ชั้นนำของ Smart Watch สำหรับการสวมใส่เพื่อทำกิจกรรมได้อย่างสุดเหวี่ยง ไม่ว่าจะเป็นสำหรับการปีนเขาเดินป่ารวมไปถึงการวิ่งออกกำลังกายที่ครอบคลุมทั้งวิ่งชิว ๆ รอบเมืองหรือจะวิ่งไตรกีฬา ซึ่งใครที่เป็นสายสปอร์ตจะต้องลองรับรองว่าจะรักแน่นอน โดยรุ่น Forerunner 965 นี้ก็ให้สิ่งที่สายวิ่งนั้นต้องการอย่างครบครัน ทั้ง GPS ที่เที่ยงตรงและฟีเจอร์สำหรับการเก็บข้อมูลการวิ่งที่ครอบจักรวาล
สเปก
- ประเภทหน้าจอ AMOLED
- เลนส์ Corning® Gorilla® Glass 3 DX
- กรอบไทเทเนียม
- น้ำหนัก 53 กรัม
- ขนาดจอ 1.4 นิ้ว
- ความละเอียด 454 x 454
- ระดับการกันน้ำ 5 ATM
- ใช้งานในโหมดสมาร์ทวอทช์ได้นานสูงสุด 23 วัน
- รองรับการติดตามสุขภาพและสุขภาวะ
- แผนที่ในตัว SatIQ™ และ GPS แบบหลายย่านความถี่
- รองรับ Bluetooth
- รองรับ GARMIN PAY จ่ายเงินได้ทันที
- ฟังเพลงได้จากตัวนาฬิกา
- ใช้งานร่วมกับแอป Garmin Connect
ข้อดี
- คำแนะนำการออกกำลังกายรายวันเพื่อสุขภาพที่ดีมากขึ้น
ข้อควรรู้
- หากใช้งานในโหมด GPS และฟังเพลงจะใช้งานได้ที่ 8.5 ชั่วโมง
SUUNTO VERTICAL
ราคาเริ่มต้นที่ 29,900 บาท
ที่มา : suunto.com
Smart Watch จากแบรนด์ Suunto อย่าง VERTICAL เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่อยากแนะนำให้เหล่าสายผจญภัยได้ใช้งานกัน เพราะเป็นนาฬิกาที่มีฟีเจอร์สำหรับการผจญภัยไปทั่วทุกแห่งหน โดดเด่นในเรื่องของแบตเตอรี่ที่รองรับการชาร์จด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ในรุ่นของ Titanium Solar และ Steel solar ขยับการใช้งานให้ยาวนานยิ่งขึ้น อีกทั้งเทคโนโลยี GPS ที่ครบ วัดระยะทางได้แม่นยำ ไม่ต้องกลัวว่าจะหลงจากเส้นทางที่วางไว้อย่างแน่นอน
สเปก
- ขนาดหน้าจอ 1.4 นิ้ว
- ประเภทหน้าจอ matrix
- ความละเอียด 280 x 280
- น้ำหนัก 74 กรัม
- มีเข็มทิศ
- ดำน้ำได้ลึก 10 เมตร
- รองรับ GPS, GLONASS, GALILEO, QZSS, BEIDOU
- ทนทานต่อทุกสภาพอากาศที่ -20° C to +55° C
- ติดตามสุขภาพทั้งตอนตื่นและหลับ
- มีโหมดออกกำลังกาย 95 โหมด
- มีบอกอุณหภูมิ
- บารอมิเตอร์คอยวัดความดันของอากาศ
- ไฟ LED สีขาวสว่าง
- รองรับการชาร์จพลังงานแสงอาทิตย์ในรุ่น Steel solar, Titanium solar
ข้อดี
- แบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนานถึง 1 ปีในรุ่น Steel solar, Titanium solar
ข้อควรรู้
- รุ่น Titanium Solar จะมีราคาที่สูงกว่ารุ่นทั่วไป
Amazfit Bip 5
ราคาเริ่มต้นที่ 2,490 บาท
ที่มา : amazfit.com
Amazfit Bip 5 เรียกได้ว่าพร้อมตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเมืองได้อย่างยอดเยี่ยม ไม่ว่าจะขนาดหน้าจอที่ใหญ่มองดูได้ง่ายดาย รองรับการแจ้งเตือนอัจฉริยะรวมไปถึงการรับสายโทรเข้าได้ทันที สะดวกมากยิ่งขึ้น และยังมีโหมดออกกำลังกายให้ได้เลือกใช้งานถึง 120 โหมด จัดเต็มกันแบบจุใจเลยทีเดียว ใครที่กำลังมองหานาฬิกา smart watch ยี่ห้อไหนดี ที่ใส่ทั่วไปก็ได้ ใส่ออกกำลังกายก็ดี ที่มีราคาน่ารัก ตัวนี้คือคำตอบ
สเปก
- ขนาดหน้าจอ 1.91 นิ้ว
- ความละเอียด 320 x 380
- เปลี่ยนหน้าจอได้ 70+ แบบ
- แบตเตอรี่ใช้งานได้นาน 10 วัน
- เลือกใช้งานได้ 3 สี
- น้ำหนัก 26 กรัม
- โหมดออกกำลังกาย 120+ โหมด
- ระดับกันฝุ่นกันน้ำ IP68
- รองรับการรับสายโทรเข้าได้
- รองรับการวัดค่าออกซิเจนในเลือด
- รองรับ Bluetooth 5.2 BLE
- ใช้งานร่วมกับแอป Zepp App
ข้อดี
- สามารถโหลดแอปและเกมใส่ลงไปในตัวนาฬิกาได้
ข้อควรรู้
- ควบคุมการถ่ายภาพรองรับแค่ระบบ iOS เท่านั้น
HUAWEI WATCH GT 4
ราคาเริ่มต้นที่ 6,990 บาท
ที่มา : huawei.com
นี่คือความสวยงามจากรูปทรงเรขาคณิตที่ทางแบรนด์ HUAWEI นั้นภูมิใจนำเสนอกับ WATCH GT 4 มีขนาดมาให้เลือก 2 ขนาด พร้อมด้วยสายรัดที่เลือกได้อย่างเต็มที่เพื่อให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ได้อย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็นแนวแฟชั่นหรือสปอร์ตก็ใส่ได้อย่างดูดี สามารถนำไปใช้ออกกำลังกายได้อย่างเต็มที่จากโค้ชส่วนตัว พร้อมกับเซนเซอร์เรื่องสุขภาพที่ได้รับการพัฒนาเพื่อให้ออกกำลังกายได้เต็มประสิทธิภาพมากกว่าที่เคย
สเปก
- ขนาดหน้าจอ 1.32, 1.43 นิ้ว
- ความละเอียด 466 × 466
- น้ำหนัก 37, 48 กรัม
- ประเภทหน้าจอ AMOLED
- สายข้อมือเลือกได้หลายแบบ
- ระดับการกันน้ำมาตรฐาน 5 ATM
- โหมดออกกำลังกายจำนวน 100 โหมด
- ใช้งานแบตเตอรี่ 14 วันสำหรับรุ่น 46 มม.
- ใช้งานแบตเตอรี่ 7 วันสำหรับรุ่น 41 มม.
- มีลำโพงและไมโครโฟนในตัว
- เปลี่ยนหน้าปัดได้มากถึง 25,000 แบบ
- ระบบ HUAWEI TruSeen™ 5.5+ ติดตามสุขภาพได้ดี
- ระบบ HUAWEI TruSleep™ 3.0 คอยติดตามการนอน
- รองรับการเล่นเพลงอิสระ
- รับสายโทรเข้าได้ทันที
- ใช้งานร่วมกับแอป Huawei Health
ข้อดี
- รองรับการนำด้วยเสียง ซึ่งมีเสียงภาษา
ข้อควรรู้
- รองรับการใช้งานกับ Android 8.0, iOS 13.0 หรือใหม่กว่า
Xiaomi Watch 2 Pro
ราคาเริ่มต้นที่ 9,990 บาท
ที่มา : mi.com
Xiaomi อีกหนึ่งแบรนด์คุณภาพที่สามารถเลือกใช้งาน Smart Watch ได้อย่างหลากหลาย แต่หากอยากได้ตัวครบจบ ทำได้ทุกอย่างทั้งในเรื่องของการติดตามสุขภาพ การออกกำลังกาย และใช้ในชีวิตประจำวันก็ต้องยกให้กับ Xiaomi Watch 2 Pro ที่รองรับ Wear OS สำหรับการโหลดแอปของ Google มาใช้งานได้อย่างล้นหลาม เพื่อความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตที่เร่งรีบในแต่ละวันได้อย่างลงตัว
สเปก
- ขนาดหน้าจอ 1.43 นิ้ว
- ประเภทหน้าจอ AMOLED
- ความละเอียด 466 x 466
- น้ำหนัก 54.5 กรัม
- ใช้งานได้สูงสุด 65 ชม.
- ชิป Qualcomm Snapdragon® W5+ Gen 1 Platform
- พื้นที่ข้อมูล 2GB+32GB
- รองรับ Bluetooth 5.2
- กันน้ำระดับ 5ATM
- GNSS ย่านความถี่คู่ 5 ระบบ
- การติดตามสุขภาพอย่างแม่นยำ
- รองรับ Google Wear OS
- ใช้งานร่วมกับแอป Mi Fitness
- รับสายและตอบข้อความได้
- โหมดออกกำลังกาย 150 โหมด
ข้อดี
- สามารถโหลดแอปจาก Google มาใช้งานทำให้จะทำงานหรือใช้ชีวิตไม่มีสะดุด
ข้อควรรู้
- รองรับเฉพาะสมาร์ทโฟนระบบ Android 8.0 หรือใหม่กว่า
TicWatch Pro 5
ราคาเริ่มต้นที่ 13,499 บาท
ที่มา : mobvoi.com
TicWatch เป็น Smart Watch อีกเรือนที่เรียกได้ว่าประสิทธิภาพนั้นเทียบเท่ากับแบรนด์ชั้นนำต่าง ๆ ได้อย่างสบาย ยิ่งรุ่น Pro 5 นั้นก็ต้องขอบอกเลยว่ามีการขับเคลื่อนที่ทรงพลังด้วยตัวประมวลผลในนาฬิกาอย่าง Snapdragon® W5+ Gen 1 และยังทำงานได้ในทุกที่ด้วยระบบ Wear OS 3 ที่จะทำให้คุณสามารถโหลดแอปจาก Google มาอยู่ในเครื่อง พร้อมใช้งานได้ตลอดเวลา จึงไม่ต้องกังวลเลยว่าจะพลาดสิ่งที่ต้องทำในแต่ละวัน
สเปก
- หน้าจอขนาด 1.43 นิ้ว
- ความละเอียด 466 x 466
- จอประเภท AMOLED
- ความจำ RAM: 2GB / ROM: 32GB
- รองรับ Bluetooth 5.2
- GNSS ที่รองรับ GPS+Beidou+Glonass+Galileo+QZSS
- น้ำหนัก 44.3 กรัม
- เลือกได้ 2 สีคือ Obsidian กับ Sandstone
- รองรับระบบปฎิบัติการ Wear OS 3
- ชิป Snapdragon® W5+ Gen 1
- ใช้งานร่วมกับแอป Mobvoi Health
- ใช้งานได้นานถึง 80 ชั่วโมง
- โหมดออกกำลังกาย 100+ โหมด
- เข็มทิศที่มีความเที่ยงตรง
- ติดตามสุขภาพทั้งตอนตื่นและตอนหลับ
- โหลดแอปจาก Google เพิ่มเข้าไปในนาฬิกาได้
- เปลี่ยนรูปหน้าปัดได้มากถึง 1,000 แบบ
ข้อดี
- ผ่านมาตรฐาน US-MIL-STD 810H มั่นใจได้เลยว่าตัวเรือนนั้นแข็งแกร่งมาก ๆ
ข้อควรรู้
- รองรับเฉพาะสมาร์ทโฟนระบบ Android 8.0 หรือใหม่กว่า
Kieslect Calling Watch Ks Pro
ราคาเริ่มต้นที่ 3,338 บาท
ที่มา : kieslect.com
ใครกำลังตามหานาฬิกา Smart Watch ยี่ห้อไหนดี ที่จะมอบสีสันฉูดฉาด สวยงามและสดใสนั้น แบรนด์ Kieslect ก็พร้อมตอบสนองความต้องการเหล่านี้ ด้วย Kieslect Calling Watch Ks Pro ที่มาพร้อมกับความโดดเด่นอย่างการแบ่งหน้าจอออกเป็นสองจอ มองได้สองอย่างพร้อมกันในการใช้งาน และแน่นอนว่าฟังก์ชันของ Smart Watch ก็จัดมาให้แบบเต็ม ๆ ทั้งเรื่องสุขภาพ การออกกำลังกาย รวมไปถึงการแจ้งเตือนอัจฉริยะที่รับสายได้ทันทีอีกด้วย
สเปก
- หน้าจอขนาด 2.01 นิ้ว
- ความละเอียด 410 x 502
- จอประเภท AMOLED
- การแจ้งเตือนอัตราการเต้นของหัวใจผิดปกติ
- หมดกีฬา 100 โหมด
- ระดับกันน้ำที่ IP68
- ติดตามสุขภาพทั้งตอนตื่นและหลับ
- รองรับการฝึกลมหายใจทำสมาธิ
- รองรับ Bluetooth 5.2
- มีลำโพงและไมโครโฟน
- ระบบปฏิบัติการ KIE OS
- ใช้งานได้สูงสุด 16 วัน
- น้ำหนัก 35 กรัม
ข้อดี
- สามารถแบ่งหน้าจอให้ออกมาเป็นสองหน้าจอในการใช้งานได้
ข้อควรรู้
- รองรับการเล่นเกมผ่านนาฬิกาเพียงแค่ 2 เกมคือ Falling bird และ 2048
OPPO Watch X
ราคาเริ่มต้นที่ 13,500 บาท
ที่มา : oppo.com
และปิดท้ายกับ Smart Watch ยี่ห้อไหนดี ด้วย OPPO อีกหนึ่งแบรนด์ที่ขายดีในไทย ที่มาพร้อมกับ Smart Watch ที่มีชื่อว่า OPPO Watch X เป็นอีกหนึ่งนาฬิกาที่ทรงพลังด้วยการประมวลผลอันน่าทึ่งจากชิป Snapdragon® W5 Gen 1 และยังรองรับ Wear OS by Google ที่จะทำให้ชีวิตประจำวันนั้นสะดวกสบายมากยิ่งขึ่น ส่วนทางด้านฟีเจอร์ที่เกี่ยวกับสุขภาพไม่ว่าจะเป็นการติดตามการนอน การวัดชีพจร รวมไปถึงออกกำลังกายก็มีให้เลือกได้มากมายตามต้องการ เป็นอีกหนึ่งยี่ห้อที่ไม่ควรมองห้ามเลยแม้แต่น้อย
สเปก
- ขนาดหน้าจอ 1.43 นิ้ว
- หน้าจอประเภท AMOLED
- ความละเอียดหน้าจอ 466 x 466
- น้ำหนัก 49 กรัม
- แบตเตอรี่ใช้ได้สูงสุด 100 ชั่วโมง
- ชิป Snapdragon® W5 Gen 1
- พื้นที่จัดเก็บข้อมูล 2GB RAM + 32GB ROM
- การติดตามสุขภาพทั้งตอนตื่นและหลับ
- โหมดกีฬาจำนวน 100 โหมด
- ระดับกันน้ำ IP68
- รองรับ Bluetooth 5.0
- ระบบปฏิบัติการ Wear OS 4 + RTOS
- รับสายได้ทันที
- สามารถสรุปการออกกำลังกายด้วยภาพ
- จ่ายเงินผ่านนาฬิกาได้
- รองรับบริการ Google Health Connect
- ใช้งานร่วมกับแอป OHealth
ข้อดี
- รองรับการชาร์จไว โดยชาร์จเพียงแค่ 10 นาที สามารถใช้งานได้ถึง 24 ชั่วโมง
ข้อควรรู้
- รองรับเฉพาะสมาร์ทโฟนที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Android 8.0 ขึ้นไป
และนี่ก็คือ 10 Smart Watch ยี่ห้อไหนดี 2024 ที่คัดมาให้เป็นตัวเลือกสำหรับการตัดสินใจในการเลือกซื้อมาใช้งาน ซึ่งแต่ละเรือนนั้นก็พร้อมตอบสนองการใช้งานต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันได้เป็นอย่างดี เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ควรมีติดตัวไว้ในทุกวันนี้จริง ๆ ใครที่ยังไม่มีต้องหามาลองใช้งานกันแล้ว
Hiring! บริษัทที่น่าสนใจ