สายออกกำลังกายที่ต้องขยับเขยื้อนร่างกายพร้อมกับเสียงจังหวะที่ออกมาจากหูฟัง ด้วยเพลงโปรดที่จะทำให้เรานั้นมีจังหวะในการออกร่างกายได้อย่างสนุกสนานมากยิ่งขึ้น ทำให้การออกกำลังกายนั้นเพลิดเพลินได้เป็นอย่างดี และตัวหูฟังออกกำลังกายนั้นก็เรียกได้ว่ามีมากมายให้เลือกมาใช้งานกันได้อย่างมากมาย ใครที่กำลังอยากได้มาใช้งานบ้างแต่ว่ายังไม่รู้จะเลือกหูฟังออกกำลังกายจากยี่ห้อไหนดี ก็ลองมาดู 10 หูฟังออกกำลังกาย ยี่ห้อไหนดี 2024 ที่จะเอามาแนะนำให้ได้เลือกกันมากถึง 10 ตัวด้วยกัน จะมีอะไรกันบ้างไปดูกันเลย
ตารางเปรียบเทียบ 10 หูฟังออกกำลังกาย ยี่ห้อไหนดี 2024
ขนาดไดรเวอร์ | การตอบสนองความถี่ | ระดับกันฝุ่นกันน้ำ | การเชื่อมต่อ | เวลาการใช้งาน | |
---|---|---|---|---|---|
Shokz OpenFit
|
18×11 มม. | 50 - 16000Hz | IP54 | Bluetooth 5.2 | 28 ชั่วโมง |
Shokz OpenRun Pro
|
Bone Conduction | 20 - 20,000Hz | IP55 | Bluetooth 5.1 | 10 ชั่วโมง |
Shokz OpenSwim
|
Bone Conduction | 20 - 20,000Hz | IP68 | เก็บเพลงไว้ในหูฟัง | 8 ชั่วโมง |
Suunto Wing
|
Bone Conduction | 20 - 20,000Hz | IP67 | Bluetooth | 20 ชั่วโมง |
SoundPEATS Life
|
12 มม. | 20 - 20,000Hz | IPX4 | Bluetooth 5.2 | 25 ชั่วโมง |
SoundPEATS GoFree2
|
16.2 มม. | 20 - 40000Hz | IPX5 | Bluetooth 5.3 | 35 ชั่วโมง |
Sony Float Run
|
16 มม. | IPX4 | Bluetooth 5.0 | 10 ชั่วโมง | |
Cleer ARC II Sport
|
16.2 มม. | 20 - 20,000Hz | IPX5 | Bluetooth 5.3 | 35 ชั่วโมง |
Philips Bone TAA7607
|
17 มม. | 130 - 16,000Hz | IP66 | Bluetooth 5.2 | 9 ชั่วโมง |
Creative Outlier Free Pro
|
Bone Conduction | 20 - 20,000Hz | IPX8 | Bluetooth 5.3 | 10 ชั่วโมง |
Shokz OpenFit
ราคาเริ่มต้น 6,690 บาท
ที่มา shokz.com
Shokz OpenFit คือหูฟังตัวแรกที่เรานำมาแนะนำให้กับเหล่านักออกกำลังกายทั้งหลาย ตัวหูฟังรูปทรงก้านแบบ Ergonomic Design สวมใส่สบายและมั่นคง ถูกเรียกว่า Dolphin ARC หรือทรงปลาโลมา โดยที่ตัวหูฟังนั้นไม่เข้าไปในหู แต่ใช้การยิงเสียงเข้าหูโดยตรงทันที มอบทั้งเสียงและไมโครโฟนที่คมชัด ไม่ว่าจะเคลื่อนไหวหนักขนาดไหนก็ไม่ต้องกลัวว่าหูฟังจะหล่นลงมา
สเปก
- ขนาดไดรเวอร์ 18 x 11 มม.
- การตอบสนองความถี่ 50 - 16000Hz
- ระดับกันฝุ่นกันน้ำ IP54
- การเชื่อมต่อ Bluetooth 5.2
- เวลาการใช้งาน 28 ชั่วโมง
- ดีไซน์โค้งทรงปลาโลมารับได้ทุกใบหู
- ไมโครโฟนตัดเสียงรบกวน
- ควบคุมง่ายด้วยระบบสัมผัส
- หูฟังประเภท Open-Ear
- เทคโนโลยี DirectPitch Directional Sound Field Technology
ข้อดี
- เทคโนโลยี DirectPitch Directional Sound Field ยิงเสียงตรงเข้าหูโดยตรง
ข้อควรรู้
- ตัวเคสไม่มีระบบการกันฝุ่นกันน้ำ
Shokz OpenRun Pro
ราคาเริ่มต้น 6,690 บาท
ที่มา shokz.com
สำหรับชาวนักวิ่งทั้งหลายที่ต้องการวิ่งได้อย่างอิสระเสรีอย่างปลอดภัย ต้องใช้งาน Shokz OpenRun Pro มาใช้งาน ด้วยตัวหูฟังที่มาพร้อมกับการขับเสียงผ่านระบบ Bone Conduction ที่ใช้การสั่นสะเทือนเข้าไปบริเวณกระดูกแก้ม เพื่อทำให้เกิดเสียงขึ้นมาในตอนที่ใช้งาน สามารถสร้างเสียงที่กระหึ่มสะใจด้วย TurboPitch™ และไมโครโฟนที่ตัดเสียงรบกวน ทำให้การสื่อสารทำได้อย่างชัดเจน
สเปก
- การตอบสนองความถี่ 20 - 20,000Hz
- ระดับกันฝุ่นกันน้ำ IP55
- การเชื่อมต่อ Bluetooth 5.1
- เวลาการใช้งาน 10 ชั่วโมง
- ขับเสียงผ่านระบบ Bone Conduction
- TurboPitch™ สร้างเสียงกระหึ่ม
- ไมโครโฟนคู่รับเสียงได้อย่างคมชัดทุกการติดต่อ
- ควบคุมด้วยปุ่มกดที่ตัวหูฟัง
- ใช้งานร่วมกับแอป Shokz
ข้อดี
- ขับเสียงผ่านระบบ Bone Conduction ที่ให้เสียงผ่านการสั่นสะเทือน
ข้อควรรู้
- เสียงอาจจะไม่ได้ดังมากเท่าหูฟังประเภทอื่น ๆ
Shokz OpenSwim
ราคาเริ่มต้น 5,490 บาท
ที่มา shokz.com
Shokz OpenSwim สำหรับชาวนักกีฬาว่ายน้ำที่สามารถตอบสนองความต้องการในการฟังเพลงได้แบบขั้นสูงสุด เพราะตัวสูงฟังสามารถเก็บเพลงไว้ในหูฟังไว้ในตัวด้วยความจำขนาด 4GB ฟังกันได้ยาว ๆ เพลิน ๆ ในขณะว่ายน้ำ สามารถรองรับไฟล์เพลงที่มีความละเอียดสูงได้ มาพร้อมกับการควบคุมที่ง่ายดายจากปุ่มกดที่ตัวหูฟัง ใครที่อยากฟังเพลงพร้อมฟังเพลงไปด้วยต้องไม่พลาดหูฟังตัวนี้
สเปก
- การตอบสนองความถี่ 20 - 20,000Hz
- ระดับกันฝุ่นกันน้ำ IP68
- เวลาการใช้งาน 8 ชั่วโมง
- ขับเสียงผ่านระบบ Bone Conduction
- ความจำขนาด 4GB
- เทคโนโลยี PremiumPitch™ 2.0+ เพื่อเสียงที่ทรงพลัง
- น้ำหนักเบาเพียงแค่ 30 กรัม
- ควบคุมแบบปุ่มกดที่ตัวหูฟัง
ข้อดี
- รองรับสกุลไฟล์คุณภาพสูง MP3, WMA, FLAC, WAV และ AAC
ข้อควรรู้
- หัวฟังตัวนี้ไม่มีไมโครโฟนภายในตัว
Suunto Wing
ราคาเริ่มต้น 6,490 บาท
ที่มา suunto.com
Suunto Wing คือหูฟังจากแบรนด์อุปกรณ์กีฬาที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก โดยตัวหูฟังนี้สามารถเลือกใช้งานได้ถึง 2 สีคือสีดำสุดเท่และสีแดงสุดสวยงาม พร้อมกับฟังก์ชันที่จะตอบสนองการออกกำลังกายได้อย่างครบครัน ไม่ว่าจะออกกำลังกายแบบทั่วไปหรือจะไปถึงขั้น Extreme ก็สามารถตอบสนองได้อย่างยอดเยี่ยม เพื่อให้เหล่านักออกกำลังกายได้มีหูฟังดี ๆ ใช้งานตลอดที่ไปออกกำลังกาย
สเปก
- การตอบสนองความถี่ 20 - 20,000Hz
- ระดับกันฝุ่นกันน้ำ IP67
- การเชื่อมต่อ Bluetooth
- เวลาการใช้งาน 20 ชั่วโมง
- ระบบควบคุมด้วยการหันหัว
- รองรับการเชื่อมต่อสองอุปกรณ์
- ไฟ LED สีแดงที่ด้านข้างหูฟังทั้ง 2 ข้าง
- ขจัดเสียงลมได้อย่างหมดจด
- รองรับแอป Suunto
ข้อดี
- การควบคุมด้วยศีรษะที่ง่ายดาย
ข้อควรรู้
- การใช้งานได้ 20 ชั่วโมง จะรวมการชาร์จเพิ่มจากเคส
SoundPEATS Life
ราคาเริ่มต้น 1,590 บาท
ที่มา soundpeats.com
SoundPEATS Life คืออีกหนึ่งหูฟังดี ๆ ที่สามารถใส่ออกกำลังกายได้สบาย ด้วยตัวหูฟังที่เป็นแบบ In - Ear ใส่สบาย ไม่ต้องกลัวว่าจะหลุดออกจากหูระหว่างการขยับร่างกาย มาพร้อมกับชิปที่สามารถเชื่อมต่อได้อย่างเสถียร และการตัดเสียงรบกวนที่ทำได้อย่างเงียบสงัด ไมโครโฟนคมชัด จะใช้งานภายในฟิตเนสหรือออกกำลังกายตามที่สาธารณะก็สื่อสารได้อย่างชัดเจน
สเปก
- ขนาดไดรเวอร์ 12 มม.
- การตอบสนองความถี่ 20 - 20,000Hz
- ระดับกันฝุ่นกันน้ำ IPX4
- การเชื่อมต่อ Bluetooth 5.2
- เวลาการใช้งาน 25 ชั่วโมง
- ไมโครโฟนตัดเสียงรบกวนได้มาก
- รองรับ Game Mode
- ตัดเสียงรบกวนได้ถึง 30dB
- ไมโครโฟนคู่ Dual-MIC AI-Enhanced ENC Tech
- ประมวลผลการเชื่อมต่อผ่าน Chipset TWS200
ข้อดี
- Game Mode ที่จะทำให้ดีเลย์ต่ำเล่นเกมได้สบาย
ข้อควรรู้
- ตัวหูฟังไม่มีมาตรฐานในการกันฝุ่น
SoundPEATS GoFree2
ราคาเริ่มต้น 3,414 บาท
ที่มา soundpeats.com
GoFree2 อีกหนึ่งหูฟังจากแบรนด์ SoundPEATS ที่สามารถรองรับการออกกำลังกายได้อย่างยอดเยี่ยม ใส่สบาย พร้อมกับฟังจังหวะได้อย่างเต็มที่ ออกกำลังกายได้อย่างเพลิดเพลิน ให้เสียงเบสที่หนักแน่นสะใจ และยังมาพร้อมกับความเสถียรที่จะทำให้ไม่สะดุด ไม่ว่าจะเอาไว้ใช้ฟังเพลง ดูหนังหรือเล่นเกมก็ตาม พร้อมกับแบตเตอรี่ที่สามารถใช้งานได้อย่างยาวนานครอบคลุมตลอดทั้งวัน
สเปก
- ขนาดไดรเวอร์ 16.2 มม.
- การตอบสนองความถี่ 20 - 40000Hz
- ระดับกันฝุ่นกันน้ำ IPX5
- การเชื่อมต่อ Bluetooth 5.3
- เวลาการใช้งาน 35 ชั่วโมง
- ชิปเซ็ต Bluetooth 7034MX
- ไมโครโฟนคู่ตัดเสียงรบกวน
- รองรับ Game Mode
- รองรับการเชื่อมต่อพร้อมกัน 2 อุปกรณ์
- ใช้งานร่วมกับแอป SOUNDPEATS
ข้อดี
- คุณภาพเสียงระดับ Hi-Res ปรับปรุงโดยการเข้ารหัส LDAC
ข้อควรรู้
- ตัวหูฟังไม่มีมาตรฐานในการกันฝุ่น
Sony Float Run
ราคาเริ่มต้น 4,990 บาท
ที่มา sony.co.th
ถ้าถามถึงหูฟังแล้วก็คงจะขาดหูฟังจาก Sony ไปไม่ได้กับ Float Run หูฟังออกกำลังกายที่ทาง Sony นั้นสร้างออกมาโดยคำนึงถึงความสบายในการสวมใส่เอาไว้มากที่สุด พร้อมกับให้เสียงได้อย่างยอดเยี่ยมตามแบบฉบับของแบรนด์ สามารถใช้งานได้ยาวนาน ไม่ต้องกลัวว่าเมื่อออกกำลังกายกลางแจ้งแล้วฝนตกตัวหูฟังจะพัง เพราะมีทั้งความทนทานและยังกันเหงื่อกันน้ำได้อีกด้วย
สเปก
- ขนาดไดรเวอร์ 16 มม.
- ระดับกันฝุ่นกันน้ำ IPX4
- การเชื่อมต่อ Bluetooth 5.0
- เวลาการใช้งาน 10 ชั่วโมง
- น้ำหนักเบาเพียง 33 กรัม
- ขจัดเสียงสะท้อนจากเสียงที่ร่างกายสร้างขึ้น
- มีส่วนประกอบเป็นพลาสติกน้อยกว่า 5 เปอร์เซ็นต์
- สายคล้องคอยืดยุ่นได้เป็นอย่างดี
ข้อดี
- ไม่มีอะไรกั้นหูทำให้รับเสียงรอบข้างได้เพื่อความปลอดภัย
ข้อควรรู้
- ตัวหูฟังไม่มีมาตรฐานในการกันฝุ่น
Cleer ARC II Sport
ราคาเริ่มต้น 7,490 บาท
ที่มา cleeraudio.com
Cleer ARC II Sport หูฟังที่สามารถใส่ออกกำลังกายได้อย่างสบาย ไม่ต้องกังวลว่าตัวหูฟังจะบีบใบหู มาพร้อมกับการควบคุมด้วยการหันศีรษะเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งานให้ยิ่งขึ้นไปอีก และพร้อมกับสีที่มีให้เลือกใช้งานได้ถึง 2 สีได้แก่ ดำทองและดำแดง ไม่เพียงแค่ออกกำลังกายเท่านั้นแต่ยังสามารถใช้ดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกมได้อย่างไม่ดีเลย์ผ่าน Codec AptX Adaptive และ AptX Lossless อีกด้วย
สเปก
- ขนาดไดรเวอร์ 16.2 มม.
- การตอบสนองความถี่ 20 - 20,000Hz
- ระดับกันฝุ่นกันน้ำ IPX5
- การเชื่อมต่อ Bluetooth 5.3
- เวลาการใช้งาน 35 ชั่วโมง
- น้ำหนักที่เบาเพียง 14 กรัมต่อข้าง
- ไมโครโฟน cVc แบบ Beamforming จำนวน 2 ตัว
- รองรับ Codec AptX Adaptive และ AptX Lossless
- รองรับการใช้งานระบบสัมผัส
- ใช้งานร่วมกับแอป Cleer+
ข้อดี
- Motion Sensor 6 แกนภายในตัวเพื่อควบคุมด้วยศีรษะ
ข้อควรรู้
- ตัวเคสมีขนาดที่ใหญ่เพื่อรองรับตัวหูฟัง
Philips Bone TAA7607
ราคาเริ่มต้น บาท
ที่มา philips.co.th
แน่นอนว่า Philips แบรนด์ไฟฟ้าอันเป็นที่ไว้วางใจของใครหลายคนก็มีหูฟังสำหรับออกกำลังกายเช่นเดียวกัน ได้แก่ Bone TAA7607 ที่มาพร้อมกับไฟ LED สีแดงเด่นชัดที่ด้านหลังของสายคล้อง เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการใช้งานให้เป็นเท่าตัวยามที่ออกกำลังกายข้างนอก สามารถกันน้ำกันฝุ่นได้อย่างเหนือชั้น เพื่อให้ใช้งานหูฟังตัวนี้ได้ยาวนาน ไม่ต้องกลัวว่าจะพังลงอย่างรวดเร็ว
สเปก
- ขนาดไดรเวอร์ 17 มม.
- การตอบสนองความถี่ 130 - 16,000Hz
- ระดับกันฝุ่นกันน้ำ IP66
- การเชื่อมต่อ Bluetooth 5.2
- เวลาการใช้งาน 9 ชั่วโมง
- เทคโนโลยีการนำเสียงผ่านกระดูก
- ไฟ LED สีแดงที่สายคล้อง
- การควบคุมแบบสัมผัส
- ไมโครโฟนสองตัวในหูฟัง
- ตัดเสียงลมได้สบาย
ข้อดี
- ที่ด้านหลังของสายคล้องคอมีไฟ LED สีแดงเห็นได้ชัด
ข้อควรรู้
- อยู่ในโหมดสแตนด์บายได้นานถึง 80 ชั่วโมง
Creative Outlier Free Pro
ราคาเริ่มต้น 4,990 บาท
ที่มา creative.com
Creative Outlier Free Pro เรียกได้ว่าเป็นตัวจบของสายออกกำลังกายที่มีราคาดีมาก ๆ เพราะว่าเจ้าหูฟังเครื่องนี้สามารถใช้งานได้ทั้งบนบกและในน้ำ ซึ่งตัวหูฟังก็มาพร้อมกับความจำภายในเครื่องขนาด 8GB ให้ลงเพลงเข้าหูฟังแล้วไปเปิดในน้ำกันได้เลย และยังรองรับการใช้งานร่วมกับหลายอุปกรณ์ในครั้งเดียว ทำให้นอกจากใช้ออกกำลังกายแล้ว ยังเหมาะสมสำหรับการใช้ในชีวิตประจำวันอีกด้วย
สเปก
- ขนาดไดรเวอร์ Bone Conduction
- การตอบสนองความถี่ 20 - 20,000Hz
- ระดับกันฝุ่นกันน้ำ IPX8
- การเชื่อมต่อ Bluetooth 5.3
- เวลาการใช้งาน 10 ชั่วโมง
- ไมโครโฟนตอบสนองความถี่ 100 - 10,000Hz
- หน่วยความจำภายใน 8GB
- รองรับการเชื่อมต่อหลายอุปกรณ์
- ไมโครโฟนรับเสียงคมชัดพร้อมจุกกันน้ำเข้า
- ปุ่มกดบนตัวที่ควบคุมได้ง่าย
ข้อดี
- สามารถใช้งานได้ทั้งออกกำลังบนบกและในน้ำ
ข้อควรรู้
- เมื่อใส่ลงน้ำจะไม่สามารถใช้ Bluetooth ได้
และนี่ก็คือ 10 หูฟังออกกำลังกาย ยี่ห้อไหนดี 2024 ที่เรียกได้ว่ามีให้เลือกกันอย่างมากมาย และแต่ละตัวก็ล้วนแต่มีฟีเจอร์เด็ด ๆ ที่จะทำให้การออกกำลังกายนั้นได้มีจังหวะของเพลงโปรดมาเพิ่มความสนุกให้ยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะออกวิ่งไปตามทาง หรือลงไปว่ายน้ำก็สามารถใช้งานได้อย่างเต็มที่ อีกทั้งยังสร้างความปลอดภัยเพราะเรายังได้ยินเสียงรอบข้าง ช่วยให้เราระมัดระวังตัวได้มากยิ่งขึ้น ใครที่อยากออกกำลังกายพร้อมด้วยเพลงโปรดแล้ว ก็ลองเลือกไปใช้งานกันเลย
Hiring! บริษัทที่น่าสนใจ