แอปเปิลแบนบัญชีแอปของบริษัท iFixit หลังจากที่บริษัทแกะ Apple TV และ Siri Remote ลงเว็บไซต์บริษัท
ทาง iFixit ยอมรับว่าเครื่องสำหรับนักพัฒนาไม่อนุญาตให้แกะอยู่แล้วแต่ทาง iFixit ชั่งความเสี่ยงแล้วและตัดสินใจแกะเครื่องลงเว็บในที่สุด
แอป iFixit ที่ถูกแบนไปไม่ได้อัพเดตมาระยะหนึ่งแล้ว และทาง iFixit ตัดสินใจไปลงทุนกับเว็บแทน
ที่มา - iFixit
ผู้พัฒนาแอพด้านการเล่นวิดีโอชื่อดัง 2 ราย ประกาศทำแอพลง Apple TV รุ่นใหม่ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ tvOS แล้ว
รายแรกคือ VLC ออกมาประกาศว่าเริ่มพอร์ตโค้ดของ VLC for iOS ให้ทำงานกับ tvOS แล้ว ตอนนี้งานยังเพิ่งเริ่มต้นแต่แอพเวอร์ชันแรกสามารถเล่นวิดีโอบน tvOS ได้แล้ว
รายที่สอง Plex ก็ออกมาให้สัมภาษณ์ว่าเราจะได้เห็น Plex บน tvOS อย่างแน่นอน โดยก่อนหน้านี้ Plex เคยใช้งานได้กับ Apple TV รุ่นก่อนๆ แต่ต้อง jailbreak เครื่องก่อนเท่านั้น
แอปเปิลเตรียมแจก Apple TV รุ่นใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวไปไม่นานและมีกำหนดวางจำหน่ายในปลายเดือนตุลาคมนี้ให้กับกลุ่มนักพัฒนาที่ลงทะเบียนไว้ โดยจะเป็นการสุ่มจับฉลากเนื่องจากจำนวนที่มีอยู่จำกัด ทั้งนี้ที่เหมือนว่าฟรี แต่จริงๆ แล้วนักพัฒนาจะต้องจ่ายเงิน 1 เหรียญสหรัฐฯ โดยแอปเปิลระบุว่าเพื่อเป็นการยืนยันที่อยู่ในการจัดส่ง
ครั้งนี้อาจนับได้ว่าเป็นครั้งแรกที่แอปเปิลมีการแจกอุปกรณ์ที่ยังไม่วางจำหน่ายให้กับนักพัฒนาล่วงหน้า ในชุดสำหรับนักพัฒนาจะประกอบด้วย Apple TV, รีโมต, สายไฟ, สาย Lightning/USB, สาย USB-A/USB-C และเอกสารประกอบต่างๆ
ที่มา - Cult of Mac
- Read more about แอปเปิลเตรียมแจก Apple TV ให้กับผู้พัฒนาบางส่วน
- 4 comments
- Log in or register to post comments
NVIDIA ออกมารับน้อง Apple TV 2015 ด้วย infographic เปรียบเทียบฟีเจอร์กับ NVIDIA Shield และกล่องเซ็ตท็อปอื่นๆ
NVIDIA ยกให้ Apple TV มีฟีเจอร์เหนือกว่ากล่องสตรีมมิ่งทั่วไปในท้องตลาด แต่ฟีเจอร์เกือบทุกอย่างของ Apple TV นั้น SHIELD มีตั้งนานแล้ว เช่น ระบบค้นหาด้วยเสียงพูด
ในประเด็นเรื่องการเล่นเกม NVIDIA บอกว่าดีใจที่เห็นแอปเปิลพยายามผลักดันการเล่นเกมบนทีวี ซึ่งถ้าคุณพอใจกับการเล่น Crossy Road บนทีวี การซื้อ Apple TV ก็เหมาะกับคุณ แต่ถ้าอยากเล่นเกมดังๆ จำนวนมาก รวมถึงการสตรีมเกมจากพีซี (เช่น GTA V) มาเล่นบนจอทีวี และการสตรีมวิดีโอแบบ 4K ทางเลือกเดียวของคุณคือ SHIELD
- Read more about NVIDIA โฆษณา SHIELD เหนือกว่า Apple TV เยอะ
- 31 comments
- Log in or register to post comments
หลังการเปิดตัวของ Apple TV ใหม่ ล่าสุดมีข้อมูลออกมาเพิ่มเติมแล้วว่าฟังก์ชันใหญ่ของ tvOS อย่าง Siri จะเปิดให้ใช้งานเพียงแค่ 8 ประเทศ จาก 80 ประเทศที่มี Siri ตามภาษาท้องถิ่นให้ใช้งานเท่านั้น
โดย 8 ประเทศที่แอปเปิลเปิดให้ใช้งาน Siri จะประกอบไปด้วย ออสเตรเลีย แคนาดา ฝรั่งเศส เยอรมนี ญี่ปุ่น สเปน สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกาเท่านั้น ซึ่ง 8 ประเทศนี้จะได้รับ Siri Remote ที่มีไมโครโฟนติดมากับชุด Apple TV ด้วย ส่วนประเทศนอกเหนือจากนี้จะได้รับรีโมท Apple TV Remote แบบธรรมดาที่มีลักษณะเหมือน Siri Remote ทุกอย่าง เพียงแต่ตัดไมโครโฟนออก และเปลี่ยนคำสั่งของปุ่ม Siri เป็นการค้นหาธรรมดาที่ต้องกรอกเป็นตัวอักษรไป
แอปเปิลเปิดตัว Apple TV รุ่นยกเครื่องใหม่ครั้งใหญ่ เปลี่ยนระบบปฏิบัติการเป็น tvOS (พัฒนาต่อจาก iOS ลักษณะเดียวกับ watchOS ของ Apple Watch) เปลี่ยน UI ใหม่หมด และมาพร้อมกับรีโมทแบบใหม่ที่มีพื้นที่ทัชแพดสำหรับนิ้วสัมผัสในตัว และไมโครโฟนสำหรับสั่งงานด้วยเสียง
รูปแบบการสั่งงาน Apple TV โฉมใหม่ใช้งานได้ทั้งรีโมท และสั่งงานด้วยเสียงผ่าน Siri
ใกล้ถึงวันเปิดตัวของทั้ง iPhone และ Apple TV ในวันพรุ่งนี้ (9 กันยายน) ไปทุกขณะ ก็เริ่มมีข่าวลือโค้งสุดท้ายออกมาจากบรรดาสำนักข่าวใหญ่ ล่าสุดเป็น The New York Times ที่เพิ่งออกมารายงานว่า Apple TV โฉมใหม่จะเพิ่มฟีเจอร์เพื่อความบันเทิงมากขึ้น ด้วยการรองรับเกมอย่างเต็มรูปแบบ
ฟีเจอร์เกมบน Apple TV ตั้งใจจะจับกลุ่มผู้ใช้คล้ายๆ กับ iPhone คือไม่ได้เข้าไปชนตรงๆ แต่จะออกแบบมาสำหรับผู้ใช้ที่สามารถเล่นเกมระดับไม่ยากมาก (ที่เราคุ้นกันในชื่อแคชชวล) กราฟิกพอไปวัดไปวา และสามารถใช้งานฟีเจอร์เพื่อความบันเทิงอื่นๆ อย่างการดูหนัง ฟังเพลงได้อย่างสะดวก รวมถึงการเพิ่มฟีเจอร์เพื่อสร้างความบันเทิงเวลาเล่นกับหมู่คณะเข้ามา ตามเป้าหมายของ Apple TV ที่วางแผนบุกห้องนั่งเล่นเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
ข่าวนี้เป็นข่าวลือ 2 ข่าวรวมกัน คือ Apple TV รุ่นใหม่จะยังไม่รองรับการแสดงผลวิดีโอ 4K และ รีโมตคอนโทรลจะมีรูปแบบคล้ายกับ Wii-Mote ของ Nintendo Wii
Apple TV เป็นอุปกรณ์ที่มีการคาดการณ์กันจากหลายสำนักว่าเปิดตัวรุ่นใหม่ในงานวันที่ 9 กันยายนนี้ โดยจะอัปเกรดชิปประมวลผลจากชิป A5 มาใช้ชิป A8 (ที่ใช้ใน iPhone 6) ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงขึ้นอย่างมากแต่ก็ยังไม่สามารถรองรับการแสดงผลวิดีโอ 4K ได้
ทางด้านรีโมตคอนโทรลจะมีตัวตรวจจับการเคลื่อนไหวแบบหลายทิศทาง ปุ่มกด และทัชแพดรวมอยู่ด้วย คล้ายกับ Wii-Mote ของเครื่อง Nintendo Wii รวมไปถึงอาจรองรับการใช้งาน Siri ตามที่ได้ใบ้ไว้ในคำเชิญร่วมงาน "Hey Siri, give us a hint." นั่นเอง
จากรายงานการเข้าพบกลุ่มผู้บริหารของ Hollywood รวมถึงข่าวลือจากภายในระบุว่า แอปเปิลต้องการจะผลิตรายการทีวีรวมถึงภาพยนตร์ของตัวเอง ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ที่ว่าแอปเปิลจะเปิดตัวอุปกรณ์ต่อพ่วงทีวี (set-top) รุ่นใหม่ในงานแถลงข่าวประจำท้ายปีของแอปเปิลที่จะจัดขึ้นในสัปดาห์หน้านี้ (คืนวันที่ 9 กันยายนนี้ รอชมได้ประมาณ 23.55 น. ตามเวลาบ้านเรา)
การเดินหมากตานี้ของแอปเปิลเท่ากับเป็นการประกาศเข้าร่วมสงครามวิดีโอสตรีมมิ่งที่ Netflix, Hulu และ Amazon กำลังห้ำหั่นกันอยู่ เหตุผลเพราะแอปเปิลต้องการสร้างความแตกต่างให้กับผลิตภัณฑ์ Apple TV ของตน และแอปเปิลได้ทำการติดต่อผู้ผลิตสื่อหลายสำนักเพื่อนำเนื้อหามาเพิ่มให้กับอุปกรณ์ต่อพ่วงของตนไว้ระยะหนึ่งแล้ว
Park Associates บริษัทวิจัยการตลาดเผยส่วนแบ่งอุปกรณ์สตรีมมิ่งปี 2014 ในอเมริกา พบว่า Roku เป็นเจ้าตลาดครองอันดับ 1 ด้วยยอดขาย 34% ตามมาด้วย Google ที่ 23% และ Amazon ขึ้นมาอันดับที่ 3 ได้แล้ว ทำให้เบียด Apple ตกเป็นอันดับที่ 4 โดยทั้ง 4 แบรนด์ข้างต้นมียอดขายรวมในตลาดอเมริกาอยู่ที่ 86% ของบ้านที่ต่อบรอดแบรนด์ในอเมริกา
นอกจากนี้ ยังมีข้อมูลที่น่าสนใจว่า 20% ของบ้านที่ต่อบรอดแบรนด์ในอเมริกาที่จะต้องมีอุปกรณ์สตรีมมิ่ง หากนับเป็นอุปกรณ์แบบ stick อย่าง Chromecast, Fire TV Stick นั้นมีถึง 8% ที่มีอุปกรณ์เหล่านี้อย่างน้อย 1 ชิ้น
หากนับเป็นการใช้งานนั้น พบว่าอุปกรณ์ที่ถูกใช้งานมากที่สุดจะเป็น Roku 37%, Google 19%, Apple 17% และตามด้วย Amazon 14%
เงียบหายไปนาน วันนี้ก็มีข้อมูลของ Apple TV รุ่นใหม่ที่คาดว่าจะเปิดตัวภายในเร็ววันนี้ (อาจพร้อม iPhone รุ่นใหม่) จากทางเว็บไซต์ 9to5Mac ซึ่งระบุว่าจะเป็นครั้งแรกที่ Apple TV จะใช้ระบบปฏิบัติการ iOS แบบเต็มตัวเสียที
จากแหล่งข่าวระบุว่า Apple TV รุ่นใหม่จะยังคงการออกแบบไว้ใกล้เคียงของเดิม แต่จะทำตัวเครื่องให้บางลง แต่กว้างขึ้นเล็กน้อย มาพร้อมกับรีโมตควบคุมตัวใหม่ที่นอกจากจะมีปุ่มสั่งงานแล้ว ยังรองรับการสัมผัส และการสั่งงานผ่าน gesture มาด้วย สามารถใช้งานร่วมกับ Apple TV ได้ผ่านบลูทูธ, อินฟราเรด และคาดว่าจะรองรับการใช้งานผ่าน Siri ได้อีกด้วย
มีรายงานข่าวจากทาง MacRumors เว็บไซต์รายงานข่าว Apple ว่า ลูกค้าบางรายที่ซื้อ Apple TV ไปได้รับการติดต่อจากทาง Apple โดยขอให้ส่งคืนสินค้าตัวเก่า โดยทาง Apple จะทำการส่ง Apple TV ตัวใหม่กลับคืนให้ลูกค้าแทน
การเรียกคืนผลิตภัณฑ์ในครั้งนี้ Apple ไม่ได้ทำการโพสต์หน้าเนื้อหาหรือข้อมูลเอาไว้บนเว็บไซต์ของตนเอง แต่ใช้วิธีการติดต่อลูกค้าโดยตรง และไม่เปิดเผยว่ามีลูกค้ากี่รายที่ได้รับผลกระทบในครั้งนี้ หรือว่าชิ้นส่วนใดที่มีปัญหา แต่ทาง MacRumors ระบุว่าปัญหานี้อาจจะมีลูกค้าที่ได้รับผลกระทบน้อยมาก จนทำให้ไม่ต้องเปิดหน้าเว็บเพื่อเรียกคืนสินค้าแต่ประการใด
ที่มา - MacRumors
ในงานแถลงข่าวของแอปเปิลวันนี้ แอปเปิลประกาศข่าวที่สำคัญของ Apple TV สองอย่าง
- บริการดูหนัง-ซีรีส์ออนไลน์ HBO NOW เปิดให้บริการแบบ exclusive ในสหรัฐอเมริกาบน Apple TV เป็นเวลา 3 เดือน ( Re/code ) โดยคิดค่าบริการ 14.99 ดอลลาร์ต่อเดือน
- Apple TV ลดราคาจาก 99 ดอลลาร์เหลือ 69 ดอลลาร์ (ประมาณ 2,300 บาท)
หลังจาก เปิดตัวเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ตอนนี้ไมโครซอฟท์ก็ได้ออกอัพเดตรุ่น 1.3 ให้แอพแชร์ภาพที่เลื่อนภาพพร้อมกันทุกเครื่องอย่าง Xim แล้ว โดยในอัพเดตนี้จะรองรับการส่งภาพไปแสดงผลบนหน้าจอใหญ่ผ่านทาง Xbox One, Chromecast, Amazon Fire TV และ Apple TV ด้วย
บริษัทวิจัยตลาด Parks Associates สำรวจส่วนแบ่งตลาดกล่องสตรีมมิ่ง (streaming media device) ยอดนิยมในกลุ่มผู้ใช้บรอดแบนด์ของสหรัฐอเมริกา ผลปรากฎว่า Chromecast ของกูเกิลสามารถแซงหน้า Apple TV ขึ้นมาเป็นอันดับสองได้แล้ว
อุปกรณ์ยอดฮิตอันดับหนึ่งยังเป็นกล่อง Roku ที่ครองแชมป์มายาวนาน แต่ด้วยส่วนแบ่งที่ลดลงจากเดิมมาก นอกจากนี้อุปกรณ์หน้าใหม่ๆ อย่าง Amazon Fire TV ก็เบียดเข้ามาเป็นอันดับสี่เช่นกัน ทำให้ผู้เล่นหน้าเดิมๆ อย่าง Sony, Netgear, D-Link อันดับตกลงกันถ้วนหน้า
Parks Associates ยังให้ข้อมูลว่าเกือบ 50% ของผู้ชมโทรทัศน์ในสหรัฐหันมาดูรายการแบบ on-demand ผ่านอินเทอร์เน็ตกันแล้ว ขยับสูงขึ้นจากสัดส่วน 38% ในปี 2010
Tim Cook ไปออกรายการทีวี Charlie Rose และให้ข้อมูลที่น่าสนใจหลายอย่าง ( ข่าวเก่า ) ประเด็นอื่นๆ ที่ Cook พูดถึงในรายการมีดังนี้
Popcorn Time โปรแกรมดูหนังออนไลน์แบบเดียวกับ Netflix แต่เบื้องหลังของมันคือการโหลดไฟล์หนัง (เถื่อน) จาก BitTorrent ( ข่าวเก่า ) โครงการนี้ เคยปิดตัวไปแล้วครั้งหนึ่ง แต่เนื่องจากมันเปิดเผยซอร์สโค้ด ทำให้มีนักพัฒนาหลายกลุ่มชุบชีวิตมันขึ้นมาใหม่และพัฒนาเพิ่มฟีเจอร์อย่างต่อเนื่อง
โครงการ fork ที่ดังที่สุดคือ Time 4 Popcorn ตั้งเป้าว่าจะเข้าถึงผู้ใช้ "ทุกแพลตฟอร์ม" ปัจจุบันออกแอพบน 4 แพลตฟอร์มคือวินโดวส์ แมค ลินุกซ์ แอนดรอยด์ และเตรียมออกแอพเวอร์ชัน iOS ภายในเดือนสิงหาคมนี้ (ถึงแม้มีโอกาสลง App Store ยาก แต่สำหรับผู้ใช้ที่ jailbreak คงไม่มีปัญหา)
บริษัทวิจัย Park Associates เผยส่วนแบ่งฮาร์ดแวร์กล่องสตรีมมิ่ง (streaming media player) ในปี 2014 พบว่า Roku เป็นเจ้าตลาดโดยมีส่วนแบ่งสูงถึง 46% ของบ้านที่ต่อเน็ตบรอดแบนด์ในสหรัฐ (U.S. broadband households)
อันดับสองเป็นของ Apple TV ที่มีส่วนแบ่ง 26% และที่เหลือคืออุปกรณ์ค่ายอื่นๆ อย่าง Sony, NETGEAR, TiVo มีส่วนแบ่งรวมกัน 28%
จุดที่น่าสนใจทั้ง Roku และ Apple TV มีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นจากปี 2013 (37% และ 24% ตามลำดับ) ในขณะที่ผู้ผลิตอุปกรณ์ค่ายอื่นมีส่วนแบ่งตลาดลดลง ปีที่แล้ว Roku ขายกล่องได้ 3.8 ล้านกล่อง ส่วน Apple TV ขายได้ 2 ล้านกล่อง แต่ในตลาดโลก Apple TV กลับขายดีกว่าเพราะ Roku มีบริการจำกัดเพียง 4 ประเทศเท่านั้น
หลังจากที่เปิตดัว HomeKit แพลตฟอร์มสำหรับควบคุมอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าทั้งหลายในบ้านไป ล่าสุดมีข่าวลือว่าทางแอปเปิลกำลังพัฒนาฮาร์ดแวร์สำหรับใช้ในบ้านออกมาด้วย โดยคาดว่าแอปเปิลจะผลิตอุปกรณ์ที่สามารถใช้งานได้อย่างแพร่หลายอีกด้วย
ของเด็ดที่แอปเปิลประกาศในงาน WWDC 2014 ที่ผ่านมาคือ Continuity ฟีเจอร์ที่ช่วยเชื่อมการทำงานบนอุปกรณ์ของแอปเปิล 3 ชิ้นหลักคือ Mac, iPhone, iPad ให้ต่อเนื่องกัน (เช่น Handoff ซึ่งเป็นฟีเจอร์หนึ่งในชุด)
แต่โลกเรายังมีอุปกรณ์ iOS ที่ถูกลืมอีกหนึ่งตัวคือ Apple TV และล่าสุดมีข่าวออกมาว่ามันจะได้ฟีเจอร์ Continuity กับเขาบ้างเหมือนกัน
ข้อมูลนี้มาจาก iOS และ OS X รุ่นเบต้าล่าสุด ที่แสดงภาพ notification ว่าอุปกรณ์ Apple TV ในเครือข่ายนั้นสามารถใช้ฟีเจอร์ Continuity ได้ (แต่ยังใช้งานจริงไม่ได้ เลยยังไม่ทราบว่ามีแอพตัวใดรองรับบ้าง)
Eddy Cue รองประธานของแอปเปิลฝ่ายบริการออนไลน์ได้พูดที่งาน Code Conference ว่าประสบการณ์การรับชมทีวีในปัจจุบันนั้นอยู่ในระดับที่ “ห่วยแตก” มาก ในขณะที่เขาบอกว่า Apple TV มียอดขายที่ดีขึ้นเรื่อย ๆ และทำรายได้ได้แล้วในหลักพันล้านดอลลาร์
Cue เชื่อว่า Apple TV จะสามารถทำยอดขายได้ดีขึ้นเรื่อย ๆ ต่อไป แต่มันก็ยังไม่ใช่คำตอบของปัญหาการใช้งานทีวี โดยเขาบอกว่าทุกวันนี้ประสบการณ์การใช้ทีวีแทบไม่ต่างกับสมัยยุคที่เราใช้เครื่องเล่นเทป VCR เพราะทุกบ้านยังคงต้องมีทีวี ที่ต้องเชื่อมกับกล่อง Set top box และอุปกรณ์ DVR ต่าง ๆ มากมายเช่นเดิม
ในหนังสือชีวประวัติของสตีฟ จ็อบส์ เขาเคยพูดกับผู้เขียน Walter Isaacson ถึงแผนการที่เกี่ยวข้องกับ "ทีวี" (แต่ไม่บอกรายละเอียด) ทำให้แอปเปิลยุคหลังถูกคาดหมายว่าจะต้องบุกเข้ามายังตลาดทีวีเสมอมา
แต่ข้อมูลจากหนังสือ Haunted Empire: Apple After Steve Jobs ของ Yukari Iwatani Kane (วางจำหน่าย 18 มีนาคมนี้) อ้างแหล่งข่าวภายในบริษัทว่าสตีฟ จ็อบส์ กลับพูดอีกอย่างว่าไม่ให้แอปเปิลเข้าไปในธุรกิจเครื่องรับทีวี
สตีฟ จ็อบส์ เคยพูดเอาไว้ว่าแอปเปิลยังมอง Apple TV เป็นแค่ "ของเล่น/งานอดิเรก" (hobby) แต่สภาพการณ์ล่าสุดดูเหมือนว่ามันจะกลายเป็นของเล่นที่คู่แข่งยังต้องอิจฉา
ข้อมูลล่าสุดในการประชุมผู้ถือหุ้นประจำปี ทิม คุก ระบุว่าแอปเปิลมีรายได้จาก Apple TV ในปีงบประมาณล่าสุด (2013) มากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์แล้ว อย่างไรก็ตาม รายได้นี้ไม่ได้มาจากฮาร์ดแวร์เพียงอย่างเดียว แต่นับรวมยอดขายของเนื้อหาดิจิทัลผ่าน Apple TV ด้วย
รอบนี้ ทิม คุก ไม่ได้บอกยอดขาย Apple TV เป็นจำนวนเครื่อง แต่ข้อมูลที่เขาเคยพูดไว้ในเมื่อกลางปี 2013 คือยอดขายสะสมทั้งหมด 13 ล้านเครื่อง (คู่แข่งอย่าง Roku มียอดขายสะสมที่ 8 ล้านเครื่อง)
ก่อนหน้านี้เพิ่งมีข่าวว่าแอปเปิลจะ เพิ่มฟีเจอร์เกม เข้าไปใน Apple TV และยกระดับสินค้ากลุ่มนี้ให้กลายเป็น ตัวหลัก และตอนนี้ก็มีข้อมูลเพิ่มเติมของ Apple TV รุ่นใหม่มาอีกชุดแล้ว
โดยมีคนไปพบรายละเอียดของ Apple TV ชุดใหม่ใน iOS 7 ซึ่งระบุถึงอุปกรณ์รหัส AppleTV4,1 ซึ่งใหม่กว่ารุ่นปัจจุบันที่ใช้รหัส AppleTV3,2 ที่เปิดตัวมาเมื่อต้นปี 2013
ตลอดเวลาที่ผ่านมา Apple TV ดูเหมือนเป็นสินค้าที่แอปเปิลไม่ค่อยใส่ใจกับการทำการตลาดมากนัก ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลก เมื่อตัวสตีฟ จ็อบส์เองก็เคยออกมาบอกว่า แอปเปิลทำ Apple TV ออกมาในลักษณะ “งานอดิเรก” มากกว่า แต่วันนี้ 9to5Mac ออกมาบอกว่าแอปเปิลเตรียมยกระดับ Apple TV เป็นหนึ่งในสินค้า “ตระกูลใหญ่” แล้ว โดยการเพิ่มหน้าสินค้าบนเว็บให้มีระดับเทียบเท่า Mac, iPad, iPod และ iPhone