หลังจาก Dell ประกาศ รีแบรนด์วิธีตั้งชื่อรุ่นสินค้า กลุ่มพีซีใหม่เป็น Dell, Dell Pro และ Dell Pro Max เชื่อว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในหัวหลายคนก็คือ นี่เป็นวิธีการตั้งชื่อรุ่นของ iPhone ในปัจจุบัน

ประเด็นนี้ผู้บริหาร Dell ก็ถูกนักข่าวถามว่าเป็นการตั้งชื่อรุ่นตามแบบแอปเปิลหรือไม่ ในช่วงการให้รายละเอียดกับสื่อมวลชนในงาน CES 2025 ซึ่งคำตอบที่ได้ก็คือ แอปเปิลไม่ได้เป็นเจ้าของคำว่า Pro และ Max

Jeff Clarke ซีโอโอ Dell บอกที่มาการตัดสินใจเปลี่ยนชื่อรุ่นพีซี ว่ามาจากการสำรวจความเห็นลูกค้าหลายหมื่นคน ขณะที่ Michael Dell ซีอีโอและผู้ก่อตั้ง Dell บอกว่าการตั้งชื่อแบบนี้ทำให้ง่ายสำหรับลูกค้ามากขึ้น

Dell เปิดตัวจอมอนิเตอร์รุ่นใหม่ในงาน CES 2025 ซึ่งมาพร้อมเทคโนโลยี IPS Black, QD-OLED, โหมดถนอมสายตา และระบบเสียง 3D Spatial ที่ทำงานด้วย AI

จอตระกูล Dell Plus ที่ออกมาใหม่คือ Dell 32 Plus 4K QD-OLEDมาพร้อมระบบเสียง 3D แบบติดตามตำแหน่ง Spatial ที่ทำงานด้วย AI ผ่านลำโพง 5 ตัวของจอ

อัตรารีเฟรช 120Hz ความละเอียด 4K รองรับเทคโนโลยี Dolby Vision, HDR TB400 และ AMD FreeSync Premium

Dell เปิดตัวพีซีโน้ตบุ๊กและเดสก์ท็อปของปี 2025 ตาม แนวทางการตั้งชื่อรุ่นแบบใหม่ ที่แบ่งเป็น Dell, Dell Pro และ Dell Pro Max ตามประเภทการใช้งาน

เริ่มที่ Dell Proสำหรับการใช้งานทางธุรกิจและมืออาชีพ มีตัวเลือกทั้งซีพียู Intel Core Ultra Series 2 และ AMD Ryzen รองรับการประมวลผล AI ที่ระดับอุปกรณ์ และเป็น Copilot+ PC

Dell ประกาศในงาน CES 2025 ทำการรีแบรนด์ชื่อรุ่นของสินค้าในตระกูลพีซีใหม่ทั้งหมด โดยบอกว่าผลการสำรวจลูกค้า 74% มีความสับสนและยุ่งยากในการเลือกซื้อพีซีรุ่นที่ต้องการ ส่งผลให้หลายคนเลือกไม่ซื้อไปเลย แนวทางการตั้งชื่อรุ่นใหม่จึงโฟกัสที่คำว่า Dell และตามด้วยชื่อประเภทให้เห็นรูปแบบการใช้งานชัดเจนขึ้น

• Dellสำหรับงานทั่วไป การเรียน ทำงาน
• Dell Proสำหรับการทำงานที่ต้องการ Productivity แบบมืออาชีพ
• Dell Pro Maxเน้นประสิทธิภาพการประมวลผลขั้นสูงสุด

Dell Technologies รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 3 ของปีการเงิน 2025 สิ้นสุดวันที่ 1 พฤศจิกายน รายได้รวม 24,366 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 10% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน มีกำไรสุทธิตามบัญชี GAAP 1,127 ล้านดอลลาร์

Yvonne McGill ซีเอฟโอ Dell Technologies กล่าวว่าบริษัทยังคงสร้างความเป็นผู้นำด้าน AI ทำให้รายได้รวมส่วน Infrastructure และ Client รวมกันที่ 2.35 หมื่นล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 13% จากปีก่อน

รายได้เฉพาะส่วนเซิร์ฟเวอร์และเนตเวิร์กในไตรมาสเพิ่มขึ้นถึง 58% เป็น 7,364 ล้านดอลลาร์ ส่วน Client กลุ่มลูกค้าองค์กรเพิ่มขึ้น 3% เป็น 10,138 ล้านดอลลาร์

บริษัทด้านความปลอดภัยไซเบอร์ Sophos ประกาศบรรลุข้อตกลงเพื่อซื้อกิจการ Secureworks บริษัทด้านความปลอดภัยไซเบอร์อีกแห่ง ด้วยมูลค่า 859 ล้านดอลลาร์ โดยดีลนี้จ่ายเป็นเงินสดทั้งหมด

ปัจจุบัน Sophos มีบริษัทการลงทุนเทคโนโลยี Thoma Bravo เป็นเจ้าของ ส่วน Secureworks เป็นบริษัทใน ตลาดหุ้นซึ่งมี Dell Technologies เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่

ทั้ง Sophos และ Secureworks มีผลิตภัณฑ์เด่นด้านการตรวจจับภัยคุกคามที่เกิดขึ้นทางไซเบอร์ (Managed Detection and Response - MDR และ Extended Detection and Response - XDR) ทำให้การรวมกิจการของสองบริษัท เป็นการเพิ่มความสามารถจุดเด่นของผลิตภัณฑ์มากขึ้น

Dell Technologies ขยายโซลูชัน Dell AI Factory โดยเพิ่มตัวเลือกชุดประมวลผลงานด้านปัญญาประดิษฐ์ของ AMD สำหรับลูกค้าองค์กร และเป็นตัวเลือกที่มีต้นทุนคุ้มค่ากับประสิทธิภาพ มีรายละเอียดดังนี้

• Dell PowerEdge XE7745สำหรับงานเวิร์กโหลด AI ในองค์กร ขนาด 4U ซีพียู AMD EPYC Gen 5 เพิ่มจีพียูได้ 8 ตัวคู่กับสลอต PCIe Gen 5.0 สินค้าเริ่มส่งมอบมกราคม 2025

S&P Global ประกาศเพิ่มหุ้นบริษัทเทคโนโลยี 2 แห่ง ในดัชนี S&P 500 ของตลาดหุ้นสหรัฐ ได้แก่ Palantir Technologies บริษัทซอฟต์แวร์วิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ และ Dell Technologies โดยมีหุ้นบริษัทเทคโนโลยีที่ถูกปรับออกด้วยจากการเปลี่ยนแปลงนี้คือ Etsy โดยไปอยู่ดัชนี S&P SmallCap 600 แทน ทั้งหมดมีผลตั้งแต่ 23 กันยายน เป็นต้นไป

Dell Technologies เคยอยู่ในดัชนี S&P 500 แต่ถูกถอดออกในปี 2013 หลังจากบริษัท ซื้อหุ้นคืนทั้งหมดและออกจากตลาดหุ้น แล้วกลับมาอีกครั้งใน ปี 2018 ส่วน Palantir เข้าตลาดหุ้นในปี 2020

Dell Technologies รายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 2 ตามปีการเงินบริษัท 2025 สิ้นสุดวันที่ 2 สิงหาคม รายได้รวม 25,026 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 9% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิตามบัญชี GAAP 841 ล้านดอลลาร์

ไฮไลท์ของผลประกอบการไตรมาสนี้คือกลุ่มธุรกิจ Infrastructure Solutions (ISG) โดยมีรายได้เพิ่มขึ้น 38% เป็น 11,646 ล้านดอลลาร์ เป็นสถิติสูงสุดของบริษัท เฉพาะเซิร์ฟเวอร์และเนตเวิร์กรายได้เพิ่มขึ้น 80% เป็นสถิติสูงสุดเช่นกันที่ 7,672 ล้านดอลลาร์ ส่วนสตอเรจอยู่ที่ 3,974 ล้านดอลลาร์

Dell เป็นบริษัทเทคโนโลยีรายล่าสุดที่ประกาศปลดพนักงานจำนวนมาก (มีรายงานอย่างไม่เป็นทางการว่ามากถึง 12,500 คน หรือประมาณ 10% ของพนักงานทั้งหมด) โดยให้เหตุผลว่าต้องการเป็นบริษัทที่คล่องตัวกว่าเดิม (we are becoming a leaner company)

ในเอกสารภายในของ Dell ที่หลุดออกมา ให้เหตุผลว่าต้องการปรับโครงสร้างบริษัท จัดลำดับความสำคัญใหม่ ลดระดับชั้นของสายบังคับบัญชาลง

การปลดพนักงานครั้งใหญ่รอบนี้ไม่ใช่ครั้งแรกของ Dell เพราะเพิ่งปลดไปรอบหนึ่ง 13,000 คนในช่วงต้นปี 2023

Dell Technologies รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 1 ตามปีการเงินบริษัท 2025 สิ้นสุดวันที่ 3 พฤษภาคม มีรายได้รวม 22,244 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 6% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิตามบัญชี GAAP 955 ล้านดอลลาร์

Jeff Clarke ซีโอโอของ Dell Technologies กล่าวว่าไม่มีบริษัทไหนที่อยู่ในตำแหน่งดีกว่า Dell เพื่อนำ AI ให้กับลูกค้าองค์กรแล้ว เห็นได้จากรายได้ของเซิร์ฟเวอร์และอุปกรณ์เครือข่ายที่ทำสถิติสูงสุดในไตรมาส คำสั่งซื้อเซิร์ฟเวอร์ที่ปรับแต่งสำหรับงาน AI ก็เพิ่มเป็น 2.6 พันล้านดอลลาร์ จำนวนส่งมอบเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวเป็น 1.7 พันล้านดอลลาร์ และแบ็คล็อกก็เพิ่มกว่า 30%

ตัวเลขแยกตามกลุ่มธุรกิจเป็นดังนี้

Dell ประกาศขยาย Dell AI Factory ที่ให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงชุดพอร์ตโฟลิโอสำหรับงาน AI ตั้งแต่ระดับอุปกรณ์-ศูนย์ข้อมูลออนพรีมิส-คลาวด์ ผ่านพาร์ตเนอร์ต่าง ๆ โดยร่วมมือกับ NVIDIA เพื่อเพิ่มโซลูชันต่าง ๆ รองรับความต้องการที่เพิ่มมากขึ้น

Michael Dell ซีอีโอ Dell Technologies และ Jensen Huang ซีอีโอ NVIDIA ได้ขึ้นเวทีร่วมกันในงาน Dell Technologies World ปีนี้ที่ลาสเวกัส เพื่อประกาศความร่วมมือ ซึ่ง Dell จะมาช่วยเสริมส่วนโครงสร้างพื้นฐานที่ลูกค้าทั้งหน่วยงานรัฐบาลและภาคธุรกิจติดตั้งไว้ และ NVIDIA ไม่ได้เข้าถึงลูกค้ากลุ่มนี้โดยตรง

Business Insider อ้างเอกสารภายในของ Dell แจ้งพนักงานในสหรัฐอเมริกาที่ระบุการทำงานเป็นแบบไฮบริด ว่าบริษัทจะเริ่มตรวจสอบการเข้ามาทำงานในสำนักงาน โดยดูจากข้อมูลบัตรพนักงานเข้าออกพื้นที่สำนักงาน และพนักงานสามารถเข้าไปดูข้อมูลของตนได้ในระบบฝ่ายบุคคล

ในหน้าแสดงข้อมูลการเข้าสำนักงานนั้น จะมีสัญลักษณ์ประกอบเป็นสีทั้งน้ำเงิน เขียว เหลือง และแดง เพื่อบอกสถานะจำนวนการเข้ามาทำงานในสำนักงาน โดยสีเหลืองบ่งบอกว่าเข้ามาทำงานในสำนักงานอยู่บ้าง และสีแดงบอกว่าเข้ามาทำงานในสำนักงานน้อยมาก เป็นต้น ซึ่งข้อมูลนี้ระบุว่าจะนำมาใช้ประกอบการประเมินผลงานและผลตอบแทนด้วย

Dell Technologies รายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 4 ตามปีการเงินบริษัท 2024 สิ้นสุดวันที่ 2 กุมภาพันธ์ รายได้รวม 22,318 ล้านดอลลาร์ ลดลง 11% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 1,158 ล้านดอลลาร์

รายได้จากกลุ่ม Infrastructure ลดลง 6% จากปีก่อน แต่เพิ่มขึ้น 10% ถ้าเทียบกับไตรมาสก่อนหน้านี้เป็น 9,332 ล้านดอลลาร์ โดย 4,857 ล้านดอลลาร์ มาจากเซิร์ฟเวอร์และอุปกรณ์เครือข่าย ที่ส่วนใหญ่มาจากความต้องการสินค้าสำหรับงาน AI ส่วนรายได้ของกลุ่ม Consumer ลดลง 12% จากปีก่อน เป็น 11,715 ล้านดอลลาร์

Dell Technologies ประกาศยกเลิกสัญญาเชิงพาณิชย์กับ VMware อดีตบริษัทลูกที่เพิ่งขายให้ Broadcom โดยสัญญาฉบับนี้ครอบคลุมกิจกรรมเชิงพาณิชย์หลายอย่าง และรวมถึงการที่ Dell ทำตัวเป็นผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์และบริการของ VMware ด้วย

Dell Technologies ไม่ได้ระบุเหตุผลว่าทำไมถึงบอกเลิกสัญญากับ VMware แต่คาดว่าน่าจะเป็นเพราะ ทิศทางใหม่ของ VMware ภายใต้ Broadcom ที่ทำให้พาร์ทเนอร์หลายราย ( เช่น Veeam ) ต้องเริ่มมองหาทางเลือกอื่นๆ ในตลาดซอฟต์แวร์ virtualization

Dell Technologies รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 3 ของปีการเงินบริษัท 2024 สิ้นสุดวันที่ 3 พฤศจิกายน 2023 รายได้รวม 22,251 ล้านดอลลาร์ ลดลง 10% เทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน โดยมีกำไรสุทธิ 1,004 ล้านดอลลาร์

Jeff Clarke ซีโอโอ Dell Technologies กล่าวว่าเทคโนโลยีนั้นมีอยู่ทุกที่ และเรายังคงโฟกัสขยายความเป็นผู้นำในทุกตำแหน่ง มองหาโอกาสใหม่เพื่อเพิ่มการเติบโตมากขึ้น ธุรกิจเซิร์ฟเวอร์และเนตเวิร์กต่างเติบโตตามความต้องการ Generative AI ของลูกค้า

กลุ่มธุรกิจ Infrastructure Solutions มีรายได้ 8,499 ล้านดอลลาร์ ลดลง 12% ถ้าเทียบกับปีก่อน และลดลงเล็กน้อยเทียบกับไตรมาสก่อนหน้านี้ โดยเซิร์ฟเวอร์และเนตเวิร์กเพิ่มขึ้น 9% จากไตรมาสก่อนหน้า ส่วนสตอเรจลดลง 8%

Dell Technologies รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 2 ของปีการเงินบริษัท 2024 สิ้นสุดวันที่ 4 สิงหาคม 2023 รายได้รวมลดลง 13% จากช่วงเดียวกันในปีก่อนเป็น 22,934 ล้านดอลลาร์ แต่เพิ่มขึ้น 10% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้านี้ และมีกำไรสุทธิ 455 ล้านดอลลาร์

กลุ่มธุรกิจ Infrastructure Solutions รายได้ลดลง 11% เป็น 8,461 ล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ตามโซลูชัน PowerStore และ PowerFlex ยังคงเติบโตสูงต่อเนื่องอีกไตรมาส ส่วนกลุ่มธุรกิจ Client Solutions รายได้ลดลง 16% เป็น 12,942 ล้านดอลลาร์ ในกลุ่มลูกค้าองค์กรเห็นการเติบโตของสินค้าเวิร์กสเตชัน เนื่องจากความต้องการมาช่วยรันเวิร์กโหลด AI

เมื่อวานนี้ ศาลชั้นต้นของออสเตรเลียสั่งปรับ Dell Australia จำนวน 10 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือ ประมาณ 230 ล้านบาท ฐานเสนอส่วนลดที่หลอกลวงลูกค้าบนเว็บไซต์ของบริษัท ทำให้ลูกค้าเข้าใจผิดเกี่ยวกับส่วนลดราคาของจอมอนิเตอร์ จากการฟ้องร้องของคณะกรรมการด้านการแข่งขันและคุ้มครองผู้บริโภคออสเตรเลีย (ACCC)

Dell Technologies รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 1 ตามปีการเงินบริษัท 2024 สิ้นสุดวันที่ 5 พฤษภาคม มีรายได้รวม 20,922 ลดลง 20% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อน กำไรจากการดำเนินงาน 1,069 ล้านดอลลาร์ และมีกำไรสุทธิตามบัญชี GAAP 578 ล้านดอลลาร์

Chuck Whitten ซีโอโอร่วม Dell Technologies กล่าวว่าบริษัทดำเนินงานออกมาได้ดีท่ามกลางปัญหาเศรษฐกิจโลกที่ท้าทาย พยายามพยุงราคาสินค้า ลดต้นทุนการดำเนินงาน การจัดการซัพพลายเชนกลับมาเป็นปกติได้ดีเร็วกว่าคู่แข่ง

Dell Technologies และ NVIDIA ประกาศความร่วมมือในโครงการชื่อว่า Project Helix เพื่อให้องค์กรสามารถรันซอฟต์แวร์ AI สร้างเนื้อหาหรือ Generative AI ใช้งานเองได้ภายในองค์กรแบบออนพรีมิส ซึ่งช่วยปกป้องข้อมูลขององค์กร ที่เป็นข้อกังวลสำคัญของการนำ AI มาใช้งาน

ชุดเครื่องมือของ Project Helix ประกอบด้วยเซิร์ฟเวอร์ของ Dell พร้อมซอฟต์แวร์บริหารจัดการ เช่นตระกูล PowerEdge XE9680 หรือ PowerEdge R760xa ติดตั้งชิป NVIDIA H100 Tensor Core GPUและซอฟต์แวร์ของ NVIDIA มาพร้อมรองรับการเทรน AI และสร้างยูสเคส

Dell Technologies ประกาศเพิ่มการรองรับของแพลตฟอร์มมัลติคลาวด์ Dell APEX ทำให้สามารถทำงานร่วมกับแพลตฟอร์ม as-a-Service และเครื่องมือต่าง ๆ ได้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น โดยสามารถจัดการและบริหารต้นทุนได้จบในแพลตฟอร์มเดียว ทั้งในระดับพีซี ออนพรีมิส ไปจนถึงพับลิกคลาวด์

โดย Dell APEX Cloud Platforms รองรับการจัดการทั้งข้อมูลและแอพพลิเคชัน ทำงานร่วมกับบริการคลาวด์ทั้ง Microsoft Azure, Red Hat OpenShift และ VMware ส่วนเครื่องมือจัดการสตอเรจมีทั้ง Dell APEX Block Storage for AWS, Dell APEX Block Storage for Microsoft Azure และ Dell APEX File Storage for AWS ที่ทำงานร่วมกับสตอเรจของ Dell จากออนพรีมิสไปยังพับลิกคลาวด์

Dell Technologies รายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 4 ตามปีการเงินบริษัท 2023 สิ้นสุดวันที่ 3 กุมภาพันธ์ รายได้รวม 25,039 ลดลง 11% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อน มีกำไรจากการดำเนินงาน 1,189 ล้านดอลลาร์ และมีกำไรสุทธิตามบัญชี GAAP 606 ล้านดอลลาร์

Chuck Whitten ซีโอโอร่วมของ Dell Technologies กล่าวว่าแนวโน้มในระยะยาวยังส่งผลดีต่อบริษัท โดยเฉพาะปริมาณข้อมูลที่เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด เราจึงมีบทบาทช่วยลูกค้าจัดการความซับซ้อนนี้ทั้งระดับไฮบริดคลาวด์ มัลติคลาวด์ และ Edge ส่วน Jeff Clarke ซีโอโอร่วม พูดถึงธุรกิจ Infrastructure ว่าเติบโตต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่แปด มีกำไรทำสถิติใหม่ เช่นเดียวกับธุรกิจสตอเรจที่เติบโตในระดับ 5 พันล้านดอลลาร์ ส่วนธุรกิจพีซีมีตัวเลขที่ดีกว่าภาพรวมตลาด

มีรายงานว่า Dell Technologies ได้แจ้งกับพนักงานว่าบริษัทเตรียมปลดพนักงานจำนวน 6,650 คน คิดเป็นประมาณ 5% ของจำนวนพนักงานทั่วโลก

Bloomberg อ้างถึงอีเมลที่ Jeff Clarke ซีโอโอของ Dell Technologies ส่งหาพนักงาน ระบุว่าบริษัทได้รับผลกระทบจากความต้องการพีซีที่ลดลง และด้วยสถานการณ์ตอนนี้กระทบจนทำให้อนาคตข้างหน้าไม่ชัดเจนนัก ขณะที่ตัวแทนของ Dell บอกว่าการปรับโครงสร้างองค์กรนี้ ทำเพื่อให้บริษัทมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ที่มา: Reuters และ Dell Technologies