สำนักข่าว TechCrunch ได้รับการยืนยันจาก Disney ว่า หากบริการ Disney+ เปิดตัวแพ็คเกจราคาประหยัดที่มีโฆษณาระหว่างรับชม ตัวแพ็คเกจจะไม่มีการยิงโฆษณาในรายการที่มีเนื้อหาเหมาะกับ Preschooler หรือเด็กวัย 3-5 ปี และจะไม่มีการทำ Targeting หรือโฆษณาที่เหมาะสมกับเด็กแต่ละคนเด็ดขาด
นอกจากนี้ Disney ยังยืนยันว่า แพ็คเกจราคาประหยัดที่มีโฆษณาระหว่างรับชมจะจำกัดโฆษณาให้เฉลี่ยที่ 4 นาที/ชม. โดยแพ็คเกจดังกล่าวจะเริ่มให้บริการในสหรัฐอเมริกาภายในสิ้นปี 2022 ก่อนขยายไปในตลาดอื่น ๆ แต่ถึงตอนนี้ยังไม่มีความชัดเจนว่า แพ็คเกจนี้มีราคาเท่าไร
เว็บข่าวไอที The Information อ้างรายงานการสำรวจข้อมูลจากบริษัท Antenna ระบุว่าสมาชิก Netflix ยกเลิกบริการในอัตราที่เพิ่มขึ้นจากเดิม
สถิติของ Antenna ระบุว่าการยกเลิกสมาชิกในไตรมาส 1/2022 มีจำนวน 3.6 ล้านราย เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนๆ หน้าที่เฉลี่ยอยู่ราว 2.4-2.6 ล้านรายต่อไตรมาส
อีกประเด็นที่น่าสนใจคือ สัดส่วนของสมาชิกที่สมัครมานานๆ แล้วยกเลิก (สีเทาในชาร์ท) เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ด้วย โดยสัดส่วนสมาชิกที่อยู่มานานเกิน 3 ปีแล้วยกเลิก เพิ่มสูงจาก 5% ในไตรมาส 1/2020 มาเป็น 10% ในไตรมาส 1/2021 และเพิ่มเป็น 13% ในไตรมาส 1/2022 ซึ่งถือเป็นสัญญาณไม่ดีนักสำหรับบริษัท
Paramount กลุ่มบริษัทสื่อบันเทิงเจ้าของสตูดิโอภาพยนตร์ Paramount เปิดเผยตัวเลขผู้สมัครใช้งานสตรีมมิ่ง Paramount+ ในรายงานผลประกอบการไตรมาสล่าสุด มีจำนวนเพิ่มขึ้น 6.8 ล้านบัญชีในไตรมาสเดียว ทำให้จำนวนสมาชิกรวมอยู่ที่ 39.6 ล้านบัญชี
Paramount+ เป็นสตรีมมิ่งที่รวมคอนเทนต์ภาพยนตร์จาก Paramount ซีรี่ส์ออริจินัลเช่น Halo, Star Trek Prodigy และถ่ายทอดสดกีฬาในอเมริกา ปัจจุบันให้บริการในอเมริกา ละตินอเมริกา แคนาดา กลุ่มประเทศ Nordic และในตะวันออกกลาง มีแผนขยายมาอังกฤษ ไอร์แลนด์ และเกาหลีใต้ เร็ว ๆ นี้ แพ็คเกจมีสองรูปแบบคือราคาถูกแบบมีโฆษณา และจ่ายแพงขึ้นแบบไม่มีโฆษณา
อัพเดต CNN ยืนยันข่าวนี้อย่างเป็นทางการแล้ว
The New York Times อ้างแหล่งข่าวไม่เปิดเผยตัวว่าระุว่า WarnerMedia/Discovery เตรียมปิดบริการ CNN+ หลังจากเปิดบริการมาไม่ถึงเดือนเท่านั้น
บริการสตรีมมิ่งนั้นเป็นธุรกิจที่ต้องการเงินลงทุนสูงเพื่อซื้อคอนเทนต์มาให้บริการต่อเนื่อง ตัวบริการ CNN+ เองก็เคยประกาศแผนว่าจะลงทุนเพิ่มอีกถึงพันล้านดอลลาร์ในช่วงเวลาสี่ปีข้างหน้า แต่เมื่อ WarnerMedia ควบรวมกับ Discovery แล้วตอนนี้ก็มีแรงกดดันสูงให้ลดหนี้และรายจ่ายบริษัทลง นอกจากนี้ ยอดสมาชิกช่วงเปิดตัวยังมีเพียงไม่ถึงหมื่นราย
WarnerMedia บริษัทแม่ของ HBO ( ที่เพิ่งควบรวมกับ Discovery เป็น Warner Bros. Discovery เสร็จหมาดๆ ) รายงานผลประกอบการไตรมาส 1/2022 โดยฝั่ง HBO มีสมาชิก 76.8 ล้านคน เพิ่มขึ้น 3 ล้านคนในไตรมาสที่ผ่านมา สวนทางกับ Netflix ที่มีสมาชิกลดลง 2 แสนราย (เหตุผลหลักคือถอนตัวจากรัสเซีย) และเพิ่มขึ้น 12.8 ล้านรายจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน
วิธีการนับสมาชิกของ HBO นับรวมทั้งสมาชิกเคเบิลแบบดั้งเดิม และสมาชิกสตรีมมิ่ง HBO Max จึงอาจไม่สามารถเทียบกับบริการสตรีมมิ่งล้วนๆ อย่าง Netflix หรือ Disney+ ได้ตรงๆ
บริษัทวิจัยตลาด Kantar ประเมินว่ามีผู้ใช้งานในสหราชอาณาจักรประมาณ 1.5 ล้านราย หยุดเป็นสมาชิกบริการวิดีโอสตรีมมิ่ง (เช่น Netflix, Disney+, Apple TV+) ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2021 ด้วยเหตุผลเรื่องเงินเฟ้อ สินค้าแพง ค่าพลังงานแพง สภาพเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ จึงจำเป็นต้องปรับลดค่าใช้จ่ายลง
ข้อมูลจาก Kantar บอกว่า 58% ของครัวเรือนที่สำรวจยังสมัครบริการสตรีมมิ่งอย่างน้อย 1 ยี่ห้อ แต่ตัวเลขก็ลดลง 1.3% จากสิ้นปี 2021
การเลิกจ่ายค่าสมาชิกสตรีมมิ่งเป็นสัญญาณที่ไม่ดีนักสำหรับอุตสาหกรรมนี้ โดยเฉพาะในอังกฤษที่ต้องจ่ายค่าไลเซนส์การเป็นเจ้าของทีวี ในราคา 159 ปอนด์ต่อปีให้รัฐบาลอยู่แล้วด้วย ทำให้ผู้บริโภคไม่อยากจ่ายเพิ่มอีกมากนัก
Netflix ประกาศหยุดให้บริการสตรีมมิ่งทั้งหมดในรัสเซียแล้ว กระทบสมาชิกในรัสเซียประมาณ 1 ล้านคน
ธุรกิจของ Netflix ในรัสเซียเป็นการร่วมทุนกับ บริษัทสื่อทีวี Nation Media Group ของรัสเซีย โดยเริ่มให้บริการเมื่อปี 2016
ก่อนหน้านี้ Netflix ประกาศหยุดถ่ายทำภาพยนตร์-โปรเจคต์ใหม่ๆ ในรัสเซีย และยกระดับมาตรการขึ้นเป็นการหยุดให้บริการทั้งหมด ตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลว่าสมาชิกเหล่านี้จะได้รับเงินคืนหรือไม่
นอกจากนี้ Netflix ยังประกาศนำสารคดี Winter on Fire: Ukraine’s Fight for Freedom ในปี 2015 (เป็นเรื่องของเหตุการณ์ความขัดแย้งระหว่างยูเครน-รัสเซียช่วงปี 2014) มาเปิดให้ดูฟรีบน YouTube ด้วย
ดิสนีย์ประกาศว่าบริการสตรีมมิ่ง Disney+ จะเพิ่มทางเลือกการสมัครใช้งานแบบที่มีโฆษณาแทรก ส่วนแบบไม่มีโฆษณาเดิมก็ยังคงอยู่ โดยจะเริ่มต้นในอเมริกาก่อนเป็นแห่งแรก ช่วงปลายปีนี้ และจะขยายไปยังต่างประเทศในปี 2023
ทั้งนี้แพ็คเกจรับชมแบบมีโฆษณาจะไม่ฟรี แต่มีค่าบริการรายเดือนที่ถูกลง และดิสนีย์ก็อธิบายที่มาของแพ็คเกจแบบนี้ ว่าจะช่วยให้บริษัทไปถึงเป้าหมายที่ต้องการฐานผู้ชม Disney+ เป็น 230-260 ล้านคน ภายในปี 2024
แฟนๆ Marvel ที่ยังดูซีรีส์ Marvel บน Netflix ไม่ครบ อาจต้องเร่งมือหน่อย เพราะซีรีส์ที่ Marvel ทำร่วมกับ Netflix กำลังจะถูกถอดออกจาก Netflix หลังในวันที่ 1 มีนาคมนี้ แปลว่าวันสุดท้ายที่ดูได้ คือ 28 กุมภาพันธ์
สำหรับ Netflix ประเทศไทย เรื่องที่จะออกมีทั้ง Daredevil, The Punisher, Jessica Jones, Iron Fist, Luke Cage และ The Defenders ส่วนในสหรัฐฯ และสหราชอาณาจักร จะเพิ่มเรื่อง Agents of SHIELD ที่จะหลุดไปด้วย เรียกได้ว่าไปทั้งแผง (ของไทยหลุดไปนานแล้ว)
Disney+ ประกาศขยายพื้นที่ให้บริการอีกรวดเดียว 42 ประเทศ 11 ดินแดน (territory) ส่วนใหญ่อยู่ในแอฟริกา ตะวันออกกลาง ยุโรปตะวันออก และหมู่เกาะต่างๆ ในมหาสมุทรแอตแลนติก แต่ยังไม่ประกาศกำหนดเวลาที่ชัดเจนของแต่ละประเทศ
การขยายประเทศล็อตใหญ่ของ Disney+ น่าจะช่วยให้ตัวเลขสมาชิกเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ ข้อมูลล่าสุดที่ Disney เปิดเผยเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2021 มีสมาชิก 118.1 ล้านรายใน 60 ประเทศ แต่ไตรมาสล่าสุดเติบโตเพิ่มเพียง 2 ล้านรายเท่านั้น
กูเกิลประกาศปิดแผนก YouTube Originals ที่ทำคอนเทนต์เอ็กซ์คลูซีฟ ซีรีส์ สารคดี ภาพยนตร์ ที่มีเฉพาะบน YouTube
YouTube Originals เริ่มต้นในปี 2016 เพื่อเป็นจุดขายให้คนมาสมัครบริการพรีเมียม YouTube Red (ชื่อในตอนนั้นก่อนเปลี่ยนมาเป็น YouTube Premium) ตัวอย่างรายการในยุคแรกๆ ได้แก่ เรียลลิตี้โชว์ของ PewDiePie ไปเจอเหตุการณ์น่ากลัว, ซีรีส์ตลก Sing It!, ซีรีส์โรแมนติก Single by 30 เป็นต้น
รายการที่ดังที่สุดของ YouTube Originals น่าจะเป็นซีรีส์ Cobra Kai (ภายหลังย้ายไปอยู่ Netflix) นอกจากนี้ยังมีรายการพิเศษของ Barack Obama และวง BTS ด้วย
การแข่งขันของบริการวิดีโอสตรีมมิ่งในอินเดียยังคงรุนแรง ล่าสุด Netflix ประกาศลดราคาทุกแพ็กเกจลง โดยแพ็คเกจราคาต่ำสุด ความละเอียด SD ดูได้ 1 เครื่องเฉพาะมือถือ อยู่ที่ 149 Rs ต่อเดือน หรือประมาณ 65 บาท จาก ราคาเดิมที่เปิดตัวเมื่อปี 2019 ที่ 199 Rs
ส่วนแพ็คเกจราคาสูงสุดความละเอียด 4K ดูได้พร้อมกัน 4 เครื่อง อยู่ที่ 649 Rs หรือประมาณ 285 บาท
ไมโครซอฟท์มีโครงการทำซีรีส์ Halo แบบคนแสดง (live action) มาตั้งแต่ปี 2013 แต่ก็ล้มลุกคลุกคลานมาตลอด จนกระทั่งวันนี้ ความฝันของแฟนๆ ใกล้เป็นจริง เมื่อเทรลเลอร์ของ Halo the Series เปิดตัวเป็นครั้งแรก
เนื้อหาของ Halo ภาคซีรีส์เป็นเรื่องการสร้างทหารหน่วย Spartan ของ UNSC มีตัวเอกหลักคือ Master Chief เหมือนกับในเกม (รับบทโดย Pablo Schreiber จากเรื่อง American Gods) แต่ตอนนี้เราก็ยังไม่เห็นหน้าของ Master Chief ในเทรลเลอร์ และอาจไม่มีวันเห็นเลยก็เป็นไปได้สูง
ซีรีส์ Halo จะฉายผ่านสตรีมมิ่ง Paramount+ ในช่วงต้นปี 2022
เว็บไซต์ The Verge มีบทความเล่าถึงระบบ content distribution network (CDN) เบื้องหลังของ Netflix ที่ทำให้การดูวิดีโอสตรีมมิ่งของ Netflix ราบรื่น มีปัญหาน้อยมาก แทบไม่เคยล่มครั้งใหญ่ๆ เลย และสามารถรองรับโหลดหนักๆ อย่างการที่คนทั่วโลกแห่กันมาดู Squid Game พร้อมๆ กันได้สบาย (111 ล้านคนในสัปดาห์แรกๆ ที่เริ่มฉาย)
ระบบ CDN ของ Netflix ที่ชื่อ Open Connect ไม่ใช่ความลับอะไร เพราะทำมานาน 10 ปีแล้ว (เริ่มทำปี 2012) และ มีข้อมูลทางเทคนิคบนเว็บไซต์ Netflix เองค่อนข้างละเอียด
Associated Press โพสต์คลิปสัมภาษณ์ Hwang Dong-hyuk ผู้กำกับ Squid Game ซีรีส์เอาตัวรอดของเกาหลีที่โด่งดังมากเป็นประวัติการณ์บน Netflix โดยเขายืนยันว่า Squid Game มีซีซั่นสองอย่างแน่นอน และข้างตัวเขามี Lee Jung-jae นักแสดงนำยืนอยู่ด้วยกัน
- Read more about ผู้กำกับยืนยันเอง Squid Game ซีซัน 2 มาแน่
- 2 comments
- Log in or register to post comments
Squid Game ใน Netflix ดังมากจนสร้างปรากฏการณ์ใหม่ ล่าสุดมีรายงานจาก Bloomberg ไปเจาะงบลงทุนในซีรีส์เรื่องนี้ ได้รับรายงานมาว่า Netflix ลงทุน 21.4 ล้านเหรียญ ซึ่งถือว่ายังน้อยเมื่อเทียบกับซีรีส์เรื่องอื่นที่ประสบความสำเร็จเช่นกันบน Netflix อย่าง Stranger Things และ The Crown
ก่อนหน้านี้ซีอีโอร่วมของ Netflix บอกว่า ว่า Squid Game ซึ่งเป็นซีรีส์จากเกาหลีนั้น อาจเป็นซีรีส์ที่ได้รับความนิยมสูงสุด ล่าสุด Netflix เปิดเผยสถิติตัวเลขอย่างเป็นทางการแล้ว
โดยบัญชี Twitter ของ Netflix บอกว่าจำนวนผู้ชมซีรี่ส์แนวแข่งขันเอาชีวิตรอดนี้ มีจำนวนผู้ชม 111 ล้านคนแล้ว ซึ่งเป็นตัวเลขสูงที่สุดในช่วงซีรี่ส์เพิ่งเปิดตัวที่เคยมีมาของ Netflix ทั้งนี้ Netflix จะวัดตัวเลขดังกล่าว โดยดูจากจำนวนผู้ชมใน 28 วันแรก และรับชมอย่างน้อย 2 นาที
สถิติสูงสุดที่ Netflix เคยรายงานก่อนหน้านี้คือ Bridgerton ซีซั่น 1 จำนวนผู้ชม 82 ล้านคน
SK Broadband ผู้บริการอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ในเกาหลีใต้ ได้ฟ้องร้อง Netflix เพื่อให้บริษัทช่วยจ่ายเงินต้นทุนทราฟิกอินเทอร์เน็ต และต้นทุนการดูแลรักษาที่เพิ่มสูงขึ้นมาก เนื่องจากมีการใช้งานอินเทอร์เน็ตสำหรับดู Netflix มากขึ้น โดยศาลกรุงโซลให้ความเห็นที่รับการฟ้องร้องนี้ ว่ามีเหตุผลพอที่ Netflix ควรจ่ายเงินให้บริษัทบรอดแบนด์
บริการสตรีมมิ่ง Apple TV+ เปิดตัวตั้งแต่ปี 2019 อย่างไรก็ตามแอปเปิลไม่เคยพูดถึงจำนวนสมาชิกที่สมัครรับชมเลยว่ามีมากน้อยแค่ไหน ล่าสุดได้มีข้อมูลส่วนนี้ออกมา
โดย International Alliance of Theatrical Stage Employees (IATSE) ซึ่งเป็นสหภาพแรงงานฝ่ายงานผลิตด้านกล้องและฉาก ของรายการโทรทัศน์และภาพยนตร์ เปิดเผยข้อมูลหลังการเจรจาปรับค่าแรงที่มีขึ้นทุกปี ว่าแอปเปิลได้ระบุว่ามีสมาชิก Apple TV+ ในอเมริกาและแคนาดา น้อยกว่า 20 ล้านคน ทำให้สามารถเจรจาขอจ่ายค่าแรง ในอัตราที่ต่ำกว่าสตรีมมิ่งรายอื่นที่มีจำนวนสมาชิกมากกว่านั้น โดยข้อมูลนี้แจ้งในวันที่ 1 กรกฎาคม 2021
ดิสนีย์ประกาศแผนการฉายภาพยนตร์ตามกำหนดที่เหลือในปี 2021 ว่าภาพยนตร์ทุกเรื่องจะฉายในโรงภาพยนตร์ก่อน เพื่อให้ผู้ชมกลับเข้าสู่โรงหนัง จากนั้นภาพยนตร์จึงลงสตรีมมิ่ง Disney+ ในเวลาต่อมา
โดยอนิเมชัน Encanto จะฉายในโรงภาพยนตร์ก่อน 30 วัน จึงลงสตรีมมิ่ง ส่วน The Last Duel, Eternals และ West Side Story จะฉายในโรงภาพยนตร์อย่างน้อย 45 วัน
ก่อนหน้านี้ผลกระทบจากโควิด 19 ทำให้ดิสนีย์เลือกฉายภาพยนตร์แบบพร้อมกันทั้งในโรงหนังและสตรีมมิ่ง เช่น Jungle Cruise, Cruella และ Black Widow ซึ่งเรื่องหลังทำให้นักแสดงนำ Scarlett Johansson ฟ้องดิสนีย์ เนื่องจากทำให้ขาดรายได้
Sony Pictures Entertainment (SPE) ประกาศว่าการเข้าซื้อกิจการ Crunchyroll เว็บบริการสตรีมมิ่งอนิเมะ ได้เสร็จสิ้นขั้นตอนทั้งหมดแล้ว โดยจากนี้ Crunchyroll จะเป็นบริการในเครือของ Funimation บริษัทที่มี SPE และ Aniplex ที่เป็นส่วนธุรกิจของ Sony Music (Japan) ถือหุ้นอยู่
Crunchyroll เป็นบริการสตรีมมิ่งอนิเมะ มีผู้ลงทะเบียนใช้งานมากกว่า 120 ล้านคนในกว่า 200 ประเทศ บริการมีทั้งแบบรับชมโดยติดโฆษณา และแบบเสียเงินรายเดือน ซึ่งตอนนี้มีผู้ใช้งานแบบจ่ายเงินประมาณ 5 ล้านคน
ดีลนี้โซนี่ ประกาศ เมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว โดยเป็นการซื้อกิจการจาก WarnerMedia บริษัทในเครือของ AT&T มีมูลค่าดีล 1,175 ล้านดอลลาร์
เครือข่าย StarHub ของสิงคโปร์ ออกแคมเปญนำกล่องทีวีเถื่อน มาแลกเป็นกล่อง StarHub TV+ ของแท้ ใช้ฟรีนาน 2 ปี มูลค่า 120 ดอลลาร์สิงคโปร์ (ประมาณ 3 พันบาท)
ประเทศสิงคโปร์กำลังจะมีกฎหมายลิขสิทธิ์ฉบับใหม่ (Copyright Act) อยู่ในกระบวนการของสภา กฎหมายฉบับนี้ระบุว่าการขายกล่องเถื่อนมีความผิดอาญา มีทั้งโทษปรับและจำคุก ทำให้ StarHub ชิงจังหวะออกโปรโมชั่นให้นำกล่องเถื่อนละเมิดลิขสิทธิ์ มาแลกเป็นกล่อง TV+ แบบไม่ต้องเสียค่าเช่านาน 2 ปี ระหว่างที่กฎหมายยังไม่ผ่าน โปรโมชั่นนี้มีถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2021
StarHub ระบุว่าจะนำกล่องเถื่อนที่นำมาแลก ถือเป็นขยะอิเล็กทรอนิกส์ ที่เข้ากระบวนการรีไซเคิลอย่างเหมาะสม
The Wall Street Journal รายงานว่า Brian Roberts ผู้บริหาร Comcast ซึ่งเป็นเจ้าของ NBCUniversal ที่มีบริการวิดีโอสตรีมมิ่ง Peacock กำลังพิจารณาร่วมมือกับ ViacomCBS หรืออาจซื้อกิจการ Roku เพื่อเสริมบริการสตรีมมิ่งให้แข็งแกร่งมากขึ้น
บริการ สตรีมมิ่ง Peacock เริ่มให้บริการในอเมริกาตั้งแต่กลางปีที่แล้ว มีจำนวนผู้สมัครใช้งาน 42 ล้านคน แต่มีผู้ใช้งานที่เสียเงินน้อยกว่า 10 ล้านคน ซึ่งเป็นตัวเลขที่น้อยเมื่อเทียบกับคู่แข่งสตรีมมิ่งรายใหญ่ในตลาดอย่าง Netflix หรือ Disney+ ทั้งนี้ตัวแทนของ Comcast, ViacomCBS และ Roku ปฏิเสธที่จะให้ความเห็นต่อข่าวดังกล่าว
ในอเมริกาผู้ให้บริการสตรีมมิ่งหลายราย เริ่มเพิ่มตัวเลือกค่าสมาชิกรายเดือนที่ถูกลง แต่แลกกับการชมแบบมีโฆษณาคั่นอย่างเช่น HBO Max หรือ Hulu อย่างไรก็ตามคงไม่ใช่กับ Disney+ อย่างน้อยก็ตอนนี้
Bob Chapek ซีอีโอดิสนีย์ได้ไปร่วมงานสัมมนาของ Credit Suisse โดยเขาถูกถามว่า Disney+ มีแผนจะเพิ่มตัวเลือกค่าสมาชิกที่ถูกลงแต่มีโฆษณาหรือไม่ Bob บอกว่ายังไม่มีแผนดังกล่าวตอนนี้ ดิสนีย์ยังพอใจกับรูปแบบค่าสมาชิกที่ทำอยู่ในปัจจุบัน แต่ก็ไม่ปิดกั้นโอกาสในอนาคต
ที่ผ่านมาบริการวิดีโอสตรีมมิ่ง Apple TV+ ของแอปเปิล มีโปรโมชันสำหรับผู้ซื้อฮาร์ดแวร์ใหม่ของแอปเปิล ให้ใช้งานได้ฟรีเป็นเวลา 1 ปี (ปกติค่าบริการรายเดือน 99 บาท และสามารถซื้อรวม ใน Apple One ได้ ) อย่างไรก็ตามในเว็บไซต์แอปเปิลระบุว่าโปรโมชันดังกล่าวจะสิ้นสุดในวันที่ 30 มิถุนายนนี้
โปรโมชันใหม่จะเริ่มมีผลตั้งแต่ 1 กรกฎาคม เป็นต้นไป โดยผู้ซื้อฮาร์ดแวร์ใหม่ของแอปเปิล จะสามารถสมัครรับชม Apple TV+ ได้ฟรี เป็นเวลา 3 เดือน