Phil Schiller หัวหน้าฝ่ายการตลาดของแอปเปิล ให้สัมภาษณ์พิเศษกับ Engadget โดยพูดถึง iPhone XR ที่เพิ่งเปิดจองเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (และ ไทยก็เป็น Tier-1 ด้วย) มีประเด็นน่าสนใจหลายอย่าง
เรื่องแรก Schiller อธิบายที่มาว่าทำไมต้องตัวอักษร R ว่า ที่ผ่านมาแอปเปิลไม่ได้กำหนดว่าอักษรที่นำมาใส่ชื่อรุ่น จะต้องย่อมาจากอะไรโดยเฉพาะ ก็กรณีของ iPhone XR และ XS นั้น เขาบอกว่าเหมือนการใส่ R และ S ในชื่อรุ่นรถสปอร์ต ซึ่งสะท้อนความเร็ว เท่านั้นเอง
ประเด็นต่อมาคือความละเอียดหน้าจอของ iPhone XR ซึ่งอยู่ที่ 1792×828 พิกเซล รองรับการแสดงผลสูงสุด 720p และเป็นจอ LCD หลายคนมองว่าเป็นการตัดสเป็ก แต่ Schiller บอกว่า การตัดสินใจคุณภาพหน้าจอนั้นต้องใช้สายตาเราตัดสิน เพราะสายตาคนเราไม่ได้ละเอียดระดับเห็นทุกพิกเซล ฉะนั้นพอถึงจุดหนึ่งตัวเลขก็ไม่ได้มีความหมาย
สุดท้ายเขาพูดถึงกลุ่มเป้าหมายของ iPhone XR ว่าไม่ได้เจาะจงไปที่ภูมิภาคใดเป็นพิเศษ แต่เป็นเรื่องของการนำประสบการณ์ iPhone X ไปสู่ลูกค้ากลุ่มที่ใหญ่มากขึ้นเท่าที่จะทำได้
ที่มา: Engadget
Comments
ถ้างั้นรุ่น S ก็...
slow?
นั้นล่ะสิ ... -*-
เค้าตอบเหมือนมีรุ่นเดียว
same
Shxt
ไม่เข้าใจประโยคนี้ครับ
"ความละเอียดหน้าจอของ iPhone XR ซึ่งอยู่ที่ 1792×828 พิกเซล รองรับการแสดงผลสูงสุด 720p"
และในข่าวต้นทางก็ไม่ได้มีคำว่า 720p (หรือพูดถึงจำนวนพิกเซลอะไรเลย)
ต้นทางรวบไว้ด้วย It's the depressing iPhone ครับ ตรงคำว่า the depressing iPhone จะเป็นลิงค์ไปวิดีโอที่ขยายความไว้อยู่ ซึ่งก็ตรงกับที่ผู้แปลเขียนไว้นี่แหละครับ
ผมหมายถึงกรณีนี้ครับ https://www.reddit.com/r/apple/comments/9hcz3n/no_the_iphone_xr_is_not_limited_to_720p_source/
ย้อนแย้ง ยุ่งเหยิง ในตัวมันเอง
เหมือนลิงติดแห
แค่คำว่าลดเสป็กมันพูดยากเย็นอะไรเช่นนั้น
+100000000000
สำหรับสินค้าของ Apple คำว่าลดสเป็คมันไม่ควรมีอยู่ในสารบบอยู่แล้วครับ หรือแม้แต่ยี่ห้ออื่นๆ เขาก็พยายามเลี่ยงคำที่ทำให้รู้สึก negative เหมือนกันเป็นปกติอยู่แล้ว
ถ้าพูดตรงๆแล้วขายดีขึ้น ผมว่าเค้าก็พูดไปนานแล้วล่ะครับ โลกของธุรกิจก็อย่างนี้ดูอย่าง huawei เป็นต้น
แล้ว xs max อัดมาทำไมตั้ง 400 กว่า dpi ไหนสตีฟจ็อบบอกแค่ 300 ก็พอไงใช้ 1080p ไปสิ 5555
หนูจ๊ะ หนูรู้จัก Pentile ไหมจ๊ะ ถ้าหนูรู้ หนูจะไม่พิมพ์อะไรปล่อยไก่แบบนี้ออกมานะจ๊ะ
แทนที่จะข่มเขา คุณก็อธิบายมาสิ
ความเห็นขยะ
อัครสาวกมาข่มแล้วล่ะ รออะไร ขายไต(2ข้าง)สิครับ
คหสต. คนนี้พูดนำเสนอไม่ดีอ่ะเร็วไปไหน ไม่ดึงอารมเลย
Xs max อัดมาทำไมว้า 400 กว่า dpiตาคนไม่ละเอียดอะ
ลูกค้ากลุ่มใหญ่ขึ้น ขายเครื่องละ 3 หมื่นเลยนะครับ
เป็นหลักการตั้งชื่อที่ไร้สาระและสื่อความหมายไม่ชัดเจน แถมต้องไปตีความเอาเองว่ามันคืออะไร
+1แค่ชื่อยังไม่คิด...ถึงจะเล็กน้อยแต่มันก็ควรมีความหมาย
R มาจาก 3rd World ส่วน S มาจาก 1st World เปล่าครับ
The Dream hacker..
R ยังไม่รู้แปลว่าอะไร
แต่ S ย่อมาจาก sell ที่แปลว่าขาย
ที่ทำมาขายให้คนที่มีตังค์ซื้อหรือป่าว 555555
..
Phil Schiller อธิบาย..... พักหลังมีแต่คำนี้ 5555+
Xs ก็คือรุ่น ถัดจาก X ธรรมดาแต่ r จาก reduce นั่นเอง
เอาตรงๆคือตอบได้ตลกมากครับ
จ้าา (สระอาเยอะมาก)
ดราม่าจางลง ก็ซื้อเหมือนเดิม
สรุปตั้งไปงั้นๆ เหมือนรถ รุ่น G , S , V หรือ มันอ่านแล้วคล่องลื่นหูเลยตั้งไว้ ฮ่าๆ
ส่วนจอก็ ก็ลดต้นทุนจริงๆ แต่คงบอกตรงๆ ไม่ได้ เลยอ้างเรื่องอื่นแทนเบี่ยงประเด็น ว่าจนมันดี เพียงพอ ฮ่าๆ แต่ รุ่นใหญ่จัดเต็มงี้ มันก็แปลกๆ นะ
ช่างเถอะ ยังไงเราก็ซื้ออยู่ดี 555
กำเงินแน่นมาก
จะชื่ออะไรก็ได้ จอละเอียดน้อยกว่าก็ได้ผมเลือกซื้อ iphone xr เพราะถูกกว่า ถ้ามีเงินมากพอ คงเลือก iphone xs max ไปแล้ว
รู้สึกอ่านข่าวนี้จบแล้ว ไม่ได้ความรู้อะไรเพิ่มเติมเลย...
วิแคะแบบมโนล้วนๆ
ผมว่า มันเป็นแค่การใช้ตัวอักษรในการไล่รุ่นปกติX กับ S ถูกวางไว้เป็นตัวท๊อปอยู่แล้ว เพราะตัวอักษรมันสื่อได้ถึง eXclusive, eXtreme, Super เป็นทุกวงการ แม้แต่รถยนต์
แต่ตัวรองมันจะแล้วแต่เลย ซึ่ง A หรือ J จะไปทับกับ Samsung
เผลอๆ แค่หยิบ R มาเพียงเพราะว่าใกล้ๆ กับ S และไม่มีคนใช้
iPhone XR ถอดเสียงออกมาคงเป็น iPhone สิบ อ่าาาาาา
I'm ordinary man; who desires nothing more than just an ordinary chance to live exactly what he likes and do precisely what he wants.
เอ่อ มันไม่มีความหมายขนาดนั้นเลยเหรอครับ ตัวอักษรนี่ ผิดหวังจัง นึกว่าจะคิดมาแล้วอย่างดีปล. แต่จอ OLED มันดีจริง ๆ นะ ถ้าไหวเพิ่มเงินมาซื้อ Xs เถอะ / จะ XR หรือ Xs แล้วพวกนายจะหลงรัก Face ID ?
.
พุดเหมือน จะดุดี นะ
R ก็ย่อมาจาก Rubbish ไง
มีผลนะรูปเดียวกันเปิดใน iPhone 8 กับ iPhone 8 plus ความเนียนต่างกันอยู่นะ สบายตากว่าด้วย ต้องมองไกลๆ ถึงมองไม่ออก
ผมชักเริ่มไม่แน่ใจว่าจุดหนึ่งที่ว่านี่หมายถึงความหนาแน่น, ระยะห่าง หรือหมายถึงอายุของคนดูครับ ?
จุดตัวเลขของ Apple นี่ไม่ทราบครับ สำหรับผมคงระยะห่างครับ ผมสายตาสั้นนิดหน่อยไม่ใส่แว่น
- มองในระดับที่ตามองเห็นชัด iPhone 8 นี่ภาพไม่สมจริง ไม่คมชัด อ่ะครับ แต่ 8 Plus เนียนกริบ- มองในระดับที่ห่างเพื่อไม่ให็เห็นความหยาบหาย แต่จะไม่เห็นองค์ประกอบภาพชัดเจน
- อายุ อันนี้หยาบคายยยยยย 555+
จ่ายเงินไป 30,000 เพื่อจอ 720p อืมมมมมมม เอาไงดี...
ซื้อสิจ๊ะ รออะไร 555
ตอบไม่สมกับเป็นหัวหน้าฝ่ายการตลาดของบริษัทที่มูลค่าสูงที่สุดเลย
ลองหาคำตอบแบบที่คุณคิดว่าเข้าท่ามาให้ฟังหน่อยสิครับ อยากรู้ว่าจะตอบว่ายังไง
ผมเห็นด้วยกับเขานะ แต่ถ้าโดนถามกลับแบบนี้ผมก็ต้องตอบว่าไม่รู้ เพราะไม่ได้มีความรู้ขนาดนั้น ที่มีแน่ๆคือความคาดหวังว่าจะได้คำตอบที่ดีจากคนที่น่าจะมีความสามารถสูงมากถึงไปอยู่ตรงจุดนั้นได้
ผมอ่านแล้วรู้สึกเหมือนเวลาผมไปวิจารณ์อะไรสักอย่าง สมมติว่าเป็นเพลงใหม่ของวงดนตรีดังวงนึง ซึ่งผมไม่ชอบ แล้วก็มีคนตอบว่า "ไหนทำเพลงแบบที่ชอบมาให้ฟังหน่อย" คือคนเราไม่ได้จะต้องเก่งถึงจะวิจารณ์คนอื่นได้ไงครับ ไม่งั้นก็ไม่ต้องมีการพัฒนาอะไรกันแล้ว
ป.ล. ผมพิมพ์แบบระวังตัวมาก อ่านแล้วอ่านอีก เพราะเถียงสู้คนใน blognone ไม่ไหวจริงๆ ตรรกะแน่นมาก T T
อาจจะต้องตอบว่า "ถ้าตอบได้ ก็คงไม่มานั่งโค้ดดิ้งงกๆอยู่แบบทุกวันนี้หรอก!?" 555
ก็ไม่ได้คาดหวังว่ามันจะเป็นคำตอบที่เพอร์เฟคต์อะไรนะครับ แค่อยากจะรู้มุมมองจากคนที่อยู่ในแวดวงอื่นบ้าง เช่นคนใน blognone ที่ส่วนใหญ่เป็น geek ว่าคาดหวังจะได้คำตอบแบบไหน ซึ่งเรื่องการตลาดก็ต้องยอมรับว่าผมเองก็ยังไม่เคยเข้าใจมันเลย บางอย่างที่ดูขัดหูขัดตาแต่สุดท้ายมันก็ยังไปได้เรื่อยๆ ขัดกับสามัญสำนึกของเรามากๆ
งั้นผมขออนุญาตครับ ตามความเห็นของคุณ YF-01 ด้านล่างก็น่าจะชัดแล้ว
จริงๆเรื่องการตลาดเนี่ย ไม่มีอะไรมาก แต่ทำยาก หลักมันคือทำยังไงก็ได้ให้ของขายได้ เริ่มจากจะขายใคร เค้าต้องการอะไร หรืออยากให้เค้าต้องการอะไร พูดจนทำให้เค้าอยากได้
หรือในกรณีนี้ก็คือการตอบคำถามสองข้อ ซึ่งจะตอบยังไงให้คนฟังรู้สึกดีกับสินค้า ไม่ว่าเหตุผลมันจะเป็นแง่ลบยังไงต้องหามุมที่เป็นบวกให้ได้ เช่นมือถือจอเล็กเราก็พูดเรื่องพกพาง่าย หรือถ้าจอใหญ่มากเราก็พูดเรื่องพื้นที่ใช้งานมากขึ้น แต่แกดันตอบเรื่องชื่อว่ามันไม่ได้มีความหมายอะไร ตอบเรื่องหน้าจอว่ามันอยู่ในระดับที่สายตาคนเรามองไม่ออก ซึ่งมันขัดกับสินค้าตัวเองในรุ่นสูง รวมถึงมันยังเชยมากตั้งแต่สมัยโปรโมต retina display แรกๆแล้วสุดท้ายสินค้าตัวเองก็เพิ่มความละเอียดมาเฉยเลย ขัดในขัด จริงๆจะยอมรับตรงๆก็ได้ว่าเจาะกลุ่มลูกค้าระดับใช้งานทั่วไป ซึ่งหน้าจอเท่านี้ยังมีคุณภาพสูงมาก จะท้าให้มาดูด้วยตาตัวเองหรือจะยก fact อะไรมาพูดมันก็ดูไม่น่าเกลียดเท่าไหร่
ซึ่งผมเห็นด้วยนะถ้าฝั่ง geek จะไม่ค่อยเข้าใจการตลาด เพราะการตลาดสินค้าพวกนี้มันมักจะโฟกัสคนส่วนมาก ซึ่งคนส่วนมากไม่ได้โฟกัสเรื่องเดียวกับ geek แน่ๆ เอาแค่เรื่องทั่วๆไปถ้ามาคุยกันในนี้มักจะเลยเถิดไปไหนต่อไหน ไม่เหมือนเว็บอื่นที่แค่เติมท้ายว่า "555" หรือ "อิอิ" เรื่องก็จบได้
ไม่รู้จะ reply ตรงไหนขอตอบตรงนี้แล้วกันครับครับ ชอบในคำตอบของทั้งคุณ impascetic และคุณ YF-01 ฟังแล้วมันรู้สึกบวกมากกว่าในข่าว
ข้อแรกต้องตอบได้ว่า R กับ S คืออะไรครับ ต่อให้เดิมไม่ได้คิดก็ต้องคิดมาให้ดูดีให้ได้การตอบแบบนี้ทำให้ผู้รับสารรู้สึกว่าไม่"ใส่ใจ" ซึ่งมันส่งผลให้รู้สึกแบบนั้นกับตัวผลิตภัณฑ์ได้ด้วย
ข้อสอง การตอบเรื่องความละเอียดจอต้องชูข้อดีของการที่มันน้อยครับ ไม่ใช่บอกว่ามันไม่มีความหมาย เพราะไลน์ผลิตภัณฑ์มีตัวที่ความละเอียดสูงกว่าอยู่ถ้าบอกข้อดีไม่ได้ เงียบไปเลยยังจะดีกว่าครับ
ผมก็เห็นด้วยกับคุณ spidyleo นะครับ Phil แกตอบได้ไม่สมกับตำแหน่งเลยเหมือนทำการบ้านมาไม่พอ ถ้าเป็นผมจะยกความเร็วซีพียูเป็นหลักแล้วค่อยโยงไปว่าการที่จะสร้างตัวเลือกในตลาดให้ผู้คนส่วนใหญ่สามารถเข้าถึงประสิทธิภาพของซีพียูตัวนี้จำเป็นต้องลดบางอย่างลง (ซึ่งเป็นวิธียอมรับความจริงไม่ใช่สิ่งที่ Apple เลือกใช้เท่าไหร่) แล้วโยงเรื่องชิ้นส่วนที่แพงที่สุดในสมาร์ทโฟนก็คือหน้าจอ ลดแค่หน้าจอสามารถลดราคาลงได้เยอะมาก เพื่อรักษาประสพการณ์การใช้งานให้เท่าเที่ยมกันจึงเลือกที่จะใช้จอ 720p นี้ ซึ่งผมก็ไม่ได้เป็นหัวหน้าฝ่ายการตลาด คำตอบเลยไม่ได้ดีในระดับหัวหน้าฝ่ายการตลาดตอบ แต่ยังไงผมว่าของผมดีกา่า Phil ครับ
ผมว่า brand iphone นี่มันอยู่ในระดับสูงสุด จนกลายเป็นเครื่องประดับไปแล้ว สามารถตั้งราคา new high ได้แบบไม่ต้องกลัวคนไม่ซื้อ และก็จะมีกลุ่มคนที่ไม่สนความคุ้มค่าแต่สนใจ หน้าตา(ทางสังคม),รสนิยมเป็นหลัก ซึ่งหาจาก brand อื่นไม่ได้ phil มันคงคิดในใจ ppl who buy not ask,ppl who don't keep asking.แอบคิดเล่นๆว่าอีกร้อยปีจะมีบริษัทไหนมาโค่นได้เพราะพี่ท่านเล่นกวาด startup ไม่ให้ผุดไม่ได้เกิดมาแข่งได้เลย
เอาจริงๆ ถ้าพูดถึงเรื่องความละเอียดของหน้าจอเป็นความคุ้มค่า ผมยังไม่ค่อยเห็นความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญเลยระหว่างหน้าจอมือถือของ xiaomi redmi note 5 กับ iphone x (จากการใช้งานส่วนตัว)
nokia ยังไม่ถึง 50 ปีเลยครับ
Vertu? Porsche Design?
I'm ordinary man; who desires nothing more than just an ordinary chance to live exactly what he likes and do precisely what he wants.