วิศวกร Google ได้เสนอการอัพเดตสเปค API ของ Chromium ในเอกสาร Manifest v3 โดยมีข้อเสนอที่หาก Google ยอมทำตาม จะเกิดปัญหากับส่วนเสริมบล็อกโฆษณาหลายๆ เจ้า
เอกสารเสนอว่าให้ webRequest API ในเบราเซอร์สามารถอ่าน request ที่ส่งผ่านเบราเซอร์ได้อย่างเดียว ไม่สามารถบล็อกหรือเปลี่ยนแปลง request ได้เหมือนเดิม ทำให้ส่วนเสริมบล็อคโฆษณาต้องไปพึ่ง declarativeNetRequest API แทนซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับ webRequest API แล้ว declarativeNetRequest API จะให้เบราว์เซอร์เป็นผู้แก้ไข request ด้วยตัวเองแทนที่จะปล่อยให้ตัวส่วนเสริมเป็นตัวแก้ไข ช่วยให้ดาวน์โหลดเว็บได้เร็วขึ้น และประสิทธิภาพดีขึ้น และตัวส่วนเสริมเองไม่จำเป็นต้องได้สิทธิ์ในการอ่านข้อมูลบนโดเมนที่กำลังบล็อคโฆษณาอยู่ โดยข้อจำกัดอย่างหนึ่งคือส่วนเสริมบล็อคโฆษณาจะใส่กฎในการบล็อคหน้าเว็บได้ไม่เกิน 30,000 ข้อเท่านั้น
หนึ่งในแอปบล็อคโฆษณาที่อาจใช้งานไม่ได้คือ uBlock Origin และ uMatrix ที่นักพัฒนา Raymond Hil เขียน ในหน้ารีพอร์ทบั๊ก ว่า declarativeNetRequest ทำให้แอปของเขาทำงานไม่ได้ และจะมีเพียง Adblock-Plus เท่านั้นที่ยังสามารถทำงานได้ตามปกติด้วย API ตัวนี้
ด้านวิศวกร Chromium ที่เสนอเอกสาร Manifest v3 ระบุในเอกสารว่า declarativeNetRequest ช่วยให้ผู้ใช้มีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น ในแง่ที่ว่าสามารถควบคุมได้ว่าจะให้ส่วนเสริมบล็อคโฆษณาเข้าถึงข้อมูลอะไรและมากน้อยแค่ไหน
ทั้งนี้การเปลี่ยนแปลงนี้เป็นแค่ข้อเสนอเท่านั้นและ Google ยังไม่ได้ตัดสินใจนำไปใช้จริง
ที่มา - The Register , Motherboard
Comments
Embrace, extend, and extinguish
ย้ายไปหมาไฟรอดไหม
มีผมคนเดียวหรือเปล่าที่ไม่เคยมีปัญหากับโฆษณาเลย เว็บส่วนใหญ่ที่ใช้ไม่ได้มีโฆษณาอะไรมากมายขนาดนั้น (ถ้าจะเจอบ่อยก็เว็บโหลดเถื่อน ดูหนังฟรีอะไรทำนองนั้น แอบเห็นคนแถวบ้านเข้าไปดูบ่อย) ยูทูปอาศัยกดแบบ mobile แล้วใช้ AdMute (โฆษณาเล่นตามปกติแต่ไม่มีเสียง) แทน ก็ท่องเว็บสะดวกสบายดี
ผมมีปัญหากับเว็บดูหนัง แต่ไม่ใช่ดูหนังเถื่อนน่ะครับ...
คนดีก็งี้แหละครับ
หนังบางประเภท ประเทศไทยไม่ยอมให้ถูกลิขสิทธิ์นี่ครับ
กำลังจะเข้สได้เข้าเข็มโฆษณาโผล่มาซะงั้น ไม่ก็กว่าจะดูได้
เปิดโฆษณาไปสิบกว่าตัว
//if u know what i mean
ณ เว็บแหล่งข่าวสาย Windows แห่งหนึ่ง ได้ขอร้องให้ผู้ใช้ปิด AdBlock เพื่อสนับสนุนเว็บ (show support) แต่สิ่งที่เว็บโยนใส่หน้าผู้ใช้ คือโฆษณา 5 ตัว ในหนึ่งเพจ, Sidebar 2 ข้าง ข้างละสองแบบสไลด์ตาม, แทรกในบทความอีก 1, ท้ายบทความอีกหนึ่ง
ซึ่งโฆษณาที่เจอ คือเว็บแห่งหนึ่งที่ผมเข้าไปส่องสินค้าประจำ โฆษณา 5 ตัวเป็นเว็บๆ เดียวแถมตามหลอกหลอนไปทุกบทความ/เพจ
และมีช่วงหนึ่งที่ไม่ได้ลงโฆษณาของ Google หรือ Microsoft แต่เป็นของเจ้าอื่น ประสบการณ์โดยรวมคือนรกมาก กระตุกสุดๆ
คนขี้ลืม | คนบ้าเกม | คนเหงาๆ
เก็บค่าบริการแบบเว็บโป๊ก็หมดเรื่อง
มันเป็นราคาที่เราต้องจ่ายเมื่อจะดูเว็บเขาน่ะครับ ถ้าเรารู้สึกว่ามันแพงเกินไปเราก็เลิกใช้บริการเขาไป
ความเห็นนี้ไม่ได้มา complain เพื่ออ้างเอาสิทธิ์ใดๆ หรือให้ตัวเองถูกต้องแต่อย่างใดเพราะทราบดีและยอมรับได้แล้ว เพียงแต่อยากตอบคำถามด้านบนว่า ทำไมผู้ใช้บางกลุ่ม/คนถึงได้ไม่ชอบโฆษณา
คนขี้ลืม | คนบ้าเกม | คนเหงาๆ
ผมใช้ Firefox ท่องเว็บครับ ฟีเจอร์ Do Not Track ทำงานได้ดีเลยทีเดียว
เวลาผมดู YouTube และเน็ตช้าก็เซ็งแล้ว เจอโฆษณาเข้าไปที่ปรับ Resolution ก็ไม่ได้ และมันต้องรอให้้มันโหลดไปเรื่อย ๆ เป็นอไรที่เซ็งยิ่งกว่าอะไรอีก
ดิฉันฟัง spotify โฆษณามาเฉลี่ย 2 ชม.ครั้งเอง แอพ version ด๋อย
Block Domain ใน Host file ไปเลย หมดปัญหากันไป
Opensource - Hackintosh - Graphic Design - Scriptkiddie - Xenlism Project
ข่าวต่อไป: Chrome บังคับใช้ Internal DNS cache ที่ดึงจาก Google DNS over HTTPS เป็นค่ามาตรฐาน
น่าจะทำไม่ได้ครับ เพราะระดับองค์กรอาจจะมี DNS Server ของตัวเองด้วยซ้ำ
Opensource - Hackintosh - Graphic Design - Scriptkiddie - Xenlism Project
แย่กว่าคนใช้ของเถื่อนเพราะไม่มีเงิน คือคนมีเงินแล้วยังอยากจะโกงเขา รอโมเดลธุระกิจแบบเก็บค่าสมาชิกรายเดือน
ส่วนตัวเลิกใช้ Adblock เพราะอยากสนับสนุนคนทำ content ช่วงแรก ๆ ก็หงุดหงิดนะ แต่หลัง ๆ ก็ชิน ส่วนเวบไหนโฆษณาเยอะแบบน่าเกลียดก็ไม่เข้าก็แค่นั้น