แอป KTC Mobile ของบริษัทบัตรกรุงไทยล่มยาวตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา โดยทางธนาคารระบุว่ากำลังแก้ไข และแนะนำให้เข้าใช้งานบริการ KTC Online แทน
KTC ไม่ได้เป็นธนาคารที่ต้องเปิดเผยข้อมูลล่มตามประกาศของธนาคารแห่งประเทศไทย
KTC ขอแจ้งให้ทราบว่า ขณะนี้แอป KTC Mobile ไม่สามารถใช้งานได้ ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับทราบปัญหาแล้ว และกำลังดำเนินการแก้ไขอย่างเร่งด่วน หากสมาชิกต้องการความช่วยเหลือหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อ KTC PHONE 02 123 5000 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ขออภัยในความไม่สะดวก pic.twitter.com/1E675nioAV
— KTC (@KtcPrivilege) September 10, 2020
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Comments
KTC เค้ามีปัญหาอะไรกับวันที่ 10 กันยายนหรือเปล่าเนี่ยปีที่แล้วก็ล่มวันนี้เหมือนกัน
อ่านใน twitter ที่ admin KTC tweet ก่อนหน้า เค้าแจ้งว่า
" KTC จะทำการปิดปรับปรุงระบบเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการในวันพฤหัสบดีที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2563 ซึ่งจะส่งผลให้ช่วงวันเวลาดังกล่าว ไม่สามารถใช้บริการดังนี้ได้
ร้านค้าสมาชิกของ KTC ไม่สามารถให้บริการชำระค่าสินค้าบริการในทุกช่องทางได้ระหว่างช่วงเวลา 04:00 - 05:00 น."
สงสัยจะเสร็จไม่ทัน หรือ มีปัญหา ก็เลยลากยาวทั้งวันเลย
ผมก็เคยทำงานประมาณนี้ที่สถาบันการเงินอยู่ต่างประเทศ ในเอเชียนี่แหละเป็นการ Deploy DB2 ด้วย Text Command ยาว ประมาณ 6MB +++
เย็นศุกร์ 4 ทุ่ม ... เริ่ม Run คำสั่งแรก ปั๊บ
link terminal ล่ม ต้องนั่งรถส่วนตัวของ IT ที่นั่นไปอีกจังหวัดนึงเฉยเลย
ไปจบตี 4 อีกวัน แบบบุญหัวมากที่จบ ปัญหาตลอดงานนั้น
แค่อ่านยังน้ำตาไหลเลย ไอ้เรื่องแก้นานนี้ไม่เท่าไรนะ แต่เรื่องแรงกดดันระหว่างแก้นี้แบบสุดๆ
+100000000
“KTC ไม่ได้เป็นธนาคารที่ต้องเปิดเผยข้อมูลล่มตามประกาศของธนาคารแห่งประเทศไทย“ผมนึกว่าต้องรายงานทุกธนาคารที่มีธุรกรรมในประเทศ
ไม่ต้องครับ อย่างออมสินก็ไม่ได้เปิดเผย เพราะเป็นสถาบันการเงินเฉพาะ (SFI)
lewcpe.com , @wasonliw
SFIs มี 8 แห่งครับ ตามนี้ Link
KTB จึงไม่ใช่ SFIs ดังนั้นน่าจะเป็นตามที่ข้างล่างว่ามามากกว่าครับ คือ KTC มันเป็น บริษัทบัตรเคริตที่เป็นบริษัทลูกอีกทีเลยไม่ได้อยู่ในขอบเขตการกำกับของ ธปท. จึงไม่ต้องรายงานเรื่องดังกล่าว ไม่ก็อาจเพราะ KTC Mobile มันไม่ใช่แอพทำธุรกรรมการเงินทั่วไปครับ หลักๆมันเป็นแอพไว้เช็คข้อมูลบัตรเครดิต ยอดชำระ และอื่นๆที่เกี่ยวกับบัตรไม่ใช่แอพใช้โอนเงินชำระเงินทำธุรกรรมต่างๆ แบบแอพธนาคารทั่วไป หรือ Krungthai NEXT
จริงๆทั้งข่าวก็เขียนถึง KTC เม้นต้นทางก็พูดถึง KTC ไม่มีอันไหนพูดถึง KTB เลยนะ หรือผมงงเองหว่า
คุณงงเองครับว่าผมกล่าวถึงว่าข่าวนี้คือข่าว KTB ผมแค่ตอบ comment คุณ lew เรื่องว่า เขาบอกว่ามันเป็น SFIs ครับ และในข่าวมีข้อความว่า "KTC ไม่ได้เป็นธนาคารที่ต้องเปิดเผยข้อมูลล่มตามประกาศของธนาคารแห่งประเทศไทย"ในวรรคแรกผมตอบว่าทั้ง KTB/KTC ไม่ใช่ SFIs เพราะไม่อยู่ใน 8 องค์กรที่ระบุว่าเป็น SFIs และ วรรคที่ 2 บอกว่า KTC ไม่ใช่ ธนาคาร ด้วย และอาจเป็นไปได้ว่าไม่เข้าข่ายการกำกับของ ธปท.เนื่องด้วยมันไม่ใช่แอพธุรกรรมการเงินแต่เป็นแอพบัตรเครดิต
ผมแก้ไขหัวข่าวนะครับ อันนี้ผิดพลาดเองที่ระบุว่าเป็นธนาคาร
แต่เรื่อง SFI นี่ผมหมายถึงมันมีองค์กรประเภทอื่นๆ อีกมากที่ธปท. ไม่ได้เปิดเผยข้อมูล แม้แต่ SFI (ที่คนทั่วไปอาจจะไม่รู้ตัวด้วยซ้ำมันว่ามันต่างจากธนาคารปกติ) ส่วนบริษัทออกบัตรเครดิตนี่อยู่ใต้กำกับแน่ๆ
lewcpe.com , @wasonliw
เรือง SFI นี่ผมเข้าใจว่า ธปท. กำหนดขอบเขตชัดเจนไว้แค่ 8 แห่งนะครับ ตามนี้ Link
ดังนั้นถ้าหมายถึงตามความหมายของ ธปท. มันก็ควรมีแค่ 8 แห่งนี้ แต่ถ้ามี SFI แบบอื่นนี่ผมก็ไม่ทราบละครับ เพราะเดิม ธปท.มีอำนาจแค่กำกับ สถาบันการเงินที่กำหนดเท่านั้นไม่รวมแบงค์รัฐ (กรุงไทยถูกนับเป็นธนาคารพาณิชย์ที่โดนกำกับแต่แรก) พอ ก.การคลังสั่ง พวกแบงค์รัฐเลยต้องเข้ากระบวนการกำกับด้วยเลยตั้งกลุ่มแบงค์รัฐพวกนี้ว่าเป็น SFI แต่ต้องตั้งเกณฑ์เฉพาะมาใช้งานอาจเพื่อไม่ให้เกณฑ์กำกับไปขัดกับนโยบายรัฐบางอย่าง แต่แน่นอนว่ามีองค์กรที่ทำงานคล้ายสถาบันการเงินอื่นที่ไม่ได้ถูกกำกับโดย ธปท. เช่น สหกรณ์ หรือ สถาบันการเงินชุมชน แต่ผมก็ไม่ทราบว่าพวกนี้เรียก SFI หรือไม่
ครับ SFI ก็มีแค่ 8 แห่งตามนั้น แต่ก็มีธุรกิจอื่นที่ธปท. กำกับด้วย
lewcpe.com , @wasonliw
งงตั้งแต่ "KTB จึงไม่ใช่ SFIs" นั่นแหละครับ
แต่ช่างมันเถอะ ไม่ต้องอธิบายผมก็ได้ครับ เสียดาย reply 5555
บริษัทนี้ไม่ใช่ธนาคารครับ การบริหารงานแยกจากตัวธนาคารกรุงไทย ถึงแม้ KTC จะเป็นบริษัทลูก แต่ก็ไม่ได้ดำเนินการให้บริการด้านการธนาคาร ก็เลยไม่ต้องเปิดเผยข้อมูลล่มครับ
ktc (กรุงไทยคาร์ด) ดูแลงานบัตรเครดิตอย่างเดียวครับ ในทางกฎหมายแยกกับ ktb (กรุงไทยแบงค์)
ขอบคุณทุกๆความเห็นครับ ?ปล.ถ้าทุกธนาคารเลี่ยงมาทำแบบนี้จะมีผลดี-เสียยังไงบ้างครับ
ทำไมได้ครับ ebanking มันเป็นบริการตรงของธนาคาร และ regulation มันเป็นของธนาคาร ไม่ได้ครอบคลุมสถาบันการเงินอื่นครับ
ตราบใดที่แอพนั้นๆ ยังเป็นแอพที่ให้บริการธนาคารบนมือถือหรือออนไลน์ มันก็จะยังผูกพันกับ regulation นี้ แม้จะตั้งบริษัทลูกมาดูแลแอพก็ตามครับ
เป็นยี่ห้อเดียวที่เอาไปผูกกับซัมซุงพาส แล้วมันเชื่อมกันไม่ได้ ต้องกด PIN เอง ประเด็นคือเป็นแบบนี้มาตลอดหลายปีดีดัก ก็ยังไม่เลิกสุดยอดจริง ๆ
Update แอปฯ ล่าสุด น่าจะเอาออกแล้วนะครับ- Cancellation of logging in app with Samsung Pass.
Just a nerd, who interested in technology :p
แถม pin เลขสุ่มอีกด้วย
เอาออกแล้วครับ Samsung Pass (ซักที) ใช้สแกนนิ้วของแอนดรอยได้เลยครับ
ไอ้เราก็นึกว่าพอออกอัพเดตใหม่จะเลิกบังคับใช้ mobile data เท่านั้นตอนจ่ายค่าบัตร ที่ไหนได้ยังห่วยเหมือนเดิม เพราะนี่ต้องปิด WiFi ถึงจะจ่ายได้ครับ