เก็บตกประเด็นที่น่าสนใจจาก งานเปิดตัว Galaxy S20 FE เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยซัมซุงระบุว่าจะออก "เรือธง FE" ต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี ทำให้เราพอสรุปได้ว่าเราจะได้เห็น Galaxy S FE เปิดตัวช่วงกลางปี ส่วนจะมี Galaxy Note รุ่น FE หรือไม่นั้นเป็นสิ่งที่ต้องติดตามกันต่อไป
หากมองในแง่สายผลิตภัณฑ์ของซัมซุงเอง การออกเรือธงรุ่นราคาถูก ที่ซัมซุงใช้ชื่อว่า FE (Fan Edition) เป็นจุดเปลี่ยนที่น่าสนใจ ซัมซุงพูดอย่างชัดเจนในงานเปิดตัว Galaxy S20 FE ว่าจุดขายหลักคือ "Fan Favorite Features at an Accessible Price Point" หรือคัดฟีเจอร์บางส่วนที่สำคัญๆ เช่น สเปกซีพียูตัวท็อปหรือจอ 120Hz มาขายในราคาจับต้องได้ (699 ดอลลาร์ เทียบกับ S20 ที่เริ่มต้นราคา 999 ดอลลาร์)
จุดเริ่มต้นของยุทธศาสตร์ FE ในปีนี้ เริ่มมาจาก การเปิดตัว S10 Lite และ Note 10 Lite ทันทีหลังปีใหม่ 2020 ซึ่งมองได้ว่าเป็นการทิ้งช่วงหลัง S10 รุ่นปกติประมาณเกือบหนึ่งปี และ Note 10 ประมาณเกือบครึ่งปี
แต่เมื่อซัมซุงเข็น S20 FE (ที่เทียบได้กับ S20 Lite) ออกมาเร็วขึ้นคือประมาณครึ่งปีหลัง S20 และสัญญาว่าจะออกรุ่น FE ใหม่ทุกปี จึงเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่ายอดขายมือถือระดับเรือธง (ที่ราคาเพิ่มสูงขึ้นเยอะในช่วงหลัง) เริ่มลดลง บวกกับสถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่ทำให้คนใช้จ่ายน้อยลง รวมๆ กันแล้วบีบให้ซัมซุงต้องปรับยุทธศาสตร์เรือธงของตัวเองเช่นกัน
ที่มา - SamMobile
Comments
ก็คือเอาของกำลังจะตกรุ่นมาอัพขายใหม่
The Dream hacker..
มือถือเรือธง Samsung เป็นอะไรที่ราคาตกไวมาก คิดว่าการออกรุ่น spec ที่ใช้ CPU ล่าสุดอย่าง SE เอ้ย รุ่น FE มาเพื่อยันราคาไว้ ช่วยให้รุ่นเรือธงราคาไม่ลงเร็วเกินไปด้วยครับ
อันนี้ผมก็คิด เพราะ Samsung ไม่ค่อยอยากเล่นกลยุทธสงครามราคา
ตามจริงนะ Samsung ไม่ต้องทำอะไรให้ยุ่งยากเลย
แค่ยกเลิก Exynos ไปใช้ Snapdragon อย่างเดียว
ก็ดึงลูกค้าจากเรือธงค่ายอื่นมาได้เยอะมากแล้ว
ถามเพื่อน เพื่อนแต่ละคนก็บอก ถ้า Samsung ใช้ snap
ก็ไม่ต้องคิดเลยว่าจะซื้อมือถือ Android ยี่ห้ออะไร
ชอบทำอะไรให้มันยากจริง ๆ
เห็นด้วยครับ
หรือไม่ก็ขาย Exynos ให้เจ้าอื่นไปทำต่อก็ได้อยู่ เพราะผมว่ามาคนรอเอาไปต่อยอดอยู่ แต่ไม่น่าจะขายจีนได้ เพราะยังมีสิทธิบัตร, พิมพ์เขียว และลิขสิทธิ์จาก ARM อยู่
ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว
ผมว่าจากกรณีที่ Huawei โดนอเมริกาแบน การทำแบบซัมซุงก็พอเข้าใจได้ว่าเพราะอะไร
ที่ควรทำคือให้ทางเลือกผู้บริโภคในการเลือกเอง ไม่ใช่การบังคับด้วยทวีปที่เค้าอยู่
ตอนเปิดตัว จะโฆษณาจะโชว์ความเร็วอะไรต่างๆก็ใช้ของ snapdragon โชว์ แต่พอขายจริงดันยัดไส้ exynos ย้อมแมวสุดๆเลยครับ ขี้โกงได้โล่ห์จริงๆ
เอาจริงๆ ผมอยากให้ Exynos เป็น Samsung Galaxy LTS นะครับ
เพราะHardwareเป็นของตัวเอง ทำให้ทำการ Support ได้ยาวนานกว่า CPU ของเจ้าอื่น เอามาเป็นอีกจุดขาย ขายคู่กันกับ Snap ไปเลย
ความแรงน้อยกว่านิดหน่อย แต่การันตี Support ความปลอดภัย 5 ปี อะไรประมาณนี้อะครับ
ถ้าแบบนั้นก็ดีนะครับ
แบบ เอามาขายแล้วให้ลูกค้าเลือกว่าจะเอาsnap ที่การันตี update 3 ปี
กับ exynos ที่ update 5 ปี
แต่กลัวแต่ว่า exynos ไปไปไม่ถึง 5 ปีนี่สิ ห้ะๆๆ
ขนาด s10+ มาปีกว่า ๆ เอง ยังกระตุกแล้ว
ไม่สิ กระตุกตั้งแต่ซื้อมาเลย เล่น rov ไม่ได้
ไม่รู้กลยุทธไหนจะดีกว่า ระหว่างออกรุ่นใหม่น้อยๆ และเอารุ่นเก่ามาลดราคา แต่ให้ update ได้ในระยะยาว ดังเช่น iphone รุ่นก่อนๆ
กับที่ samsung ทำอยู่ ตัวอย่าง S10 มี 4 รุ่น คือ S10 S10+ S10e S10liteS20 มี 4 รุ่น S20 S20+ S20ultra S20FE สรุปๆปีนึง Samsung ออกเรือธงกันปีละ 10 รุ่น ถ้ารวมรุ่น M , A , X , Fold อีก น่าจะมี 20 รุ่น
แต่เท่าที่ดูๆ iphone ก็เริ่มซอยรุ่นย่อยๆตั้งแต่สมัย XS XS plus XR SE แล้วนี่นา
แสดงว่าน่าจะเป็นทางที่ถูก
ตัวนี้แตกต่างจากพวก Lite (Note 10 Lite, S10 Lite)เพราะรุ่นเหล่านั้นตัด ชาร์ทไร้สายออก (และไม่แน่ใจว่าตัดอะไรออกไปบ้าง)
ตัวนี้น่าจะเทียบกับ Galaxy S10e ได้
เสียหลายอย่าง- S20FE ฝาหลังเป็นพลาสติก (S10e ไม่ใช่พลาสติก)
- S20FE Gorilla Glass 3 (S10e Gorilla Glass 5)
นอกนั้นข้อดีก็เรื่องจอ และกล้องที่ได้จากผลพลอยได้จากรุ่นพี่ (S20)ส่วนที่ชอบคือ S20FE ให้แบตมา 4500 mAh ถือว่าเยอะกว่า S20 (4000 mAh) ด้วยซ้ำ
S20 fe รุ่น 5G ได้ snap 865 อันนี้ผมว่าข้อดีที่สำคัญของรุ่นนี้เลยครับ