หลังจากเมื่อวานนี้ทวิตเตอร์ได้ รายงานถึงบัญชีไอโอของกองทัพบกไทยจำนวน 926 บัญชี ล่าสุดพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีกระทรวงดิจิทัลก็ออกมาแสดงความรู้สึกแปลกที่ออกมาเปิดเผยข้อมูลเรื่องนี้ "และโดยเฉพาะในช่วงเวลานี้" แทนที่จะดำเนินการปิดกั้นหา หรือลบบัญชีของผู้ที่โพสต์ข้อความหมิ่นสถาบันหลักของไทย
พุทธิพงษ์เรียกร้องให้ทวิตเตอร์ปิดกั้นเนื้อหาตามคำสั่งศาลไทย "เพื่อแสดงความจริงใจในการทำงานที่โปร่งใสของทวิตเตอร์เอง"
ก่อนหน้านี้พุทธิพงษ์ เคยแสดง ความสงสัยต่อเฟซบุ๊ก ว่าทำไมระบบแปลข้อความอัตโนมัติถึงแปลผิด
ที่มา - Facebook: พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์
Comments
อยู่เฉยๆ แผลก็เหวอะแล้ว ยังมีคว้านแผลให้ชาวบ้านดูอีก
ที่ถามนี่คือ ไม่รู้คำตอบจริงๆใช่ไหม หรือจะแค่ตัดพ้อ.... ?
เข้าใจว่าทวิตเตอร์ (Microsoft) มี ai ตามหาไอโออัตโนมัติ
รัฐมนตรีกระทรวงดิจิทัล ก็ไม่กล้าขอหลักฐาน (ผมเดาว่าน่าจะเป็น ip ของแต่ละทวีต ... ซึ่งน่าจะชัดเจนถ้ามาจากการไช้เน็ตร่วมกัน)
samsung ใหญ่แค่ใหน ?https://youtu.be/6Afpey7Eldo
เคยรู้จักคำว่า “แพ้แล้วพาล” ไหมครับ
ก่อนที่จะทำอะไร ควรดูตัวเองก่อนว่าที่คุณทำมา มาตรฐานเดียวกันกับคนอื่นไหม หรือว่าหน้าที่ของคุณคือการไปไล่ปิดกั้นคนเห็นต่างอย่างเดียว นี่หรือรัฐมนตรีของประชาชน
Coder | Designer | Thinker | Blogger
กบตัวหนึ่งแปลกใจทำไมมนุษย์ถึงไม่ยำเกรงต่อกะลาของเราหนอ
♥♥☺
ห้ามใช้ทวิตเตอร์ เฟซบุค ยูทูป แบะสื่อโซเชียลมิเดียทุกชนิดเลย
ไม่เห็นจะแปลกใจตรงใหน เขาจะทำอะไร ทำไมต้องตามใจคุณด้วยหล่ะคร้าบบบ ฮา
ทวิตเตอร์ เขามีนโยบายเรื่องการโฆษณาทางการเมืองไม่ใช่หรอ พวกไอโอนี่เข้าข่ายชัดๆ โฆษณาการเมือง อวยตัวเอง
แล้วคำสั่งศาลไทยมีอำนาจไปทั่วโลกหรอ ? ก็ไม่ไง เขาเลยไม่ปิด เหอๆ
คำถามคือมีหลักฐาณอะไรมาบอกว่าเป็น IO ?หรือแค่แบนกลุ่มความคิดเห็น ที่ไม่เอื้อประโยชน์กับสหรัฐ ในช่วงวิกฤติของโลกตะวันตก
ทีมชานมนี่สร้างเครือข่ายข้ามชาติกันเลย ทั้งไต้หวันฮ่องกงแจมมั่วไปหมดแถมยังเชิญหัวหน้าพรรคฝ่ายค้าน (ปลอม) ไปเซมิน่า . ปลอมซ้อนปลอมทบกันไปเรื่อย.
ผมสนับสนุนให้แบนทวิตเตอร์ เพราะมันเป็นแพลตฟอร์มที่มีแต่ความเท็จ ความเกลียดชัง ความคิดชั่วแล่น มากกว่าสติ
มีทั้งการทวีตส่งความเกลียดชังในหมู่กลุ่ม K-pop มาเนิ่นนาน มีแต่ทวีตข่มขู่ทำร้าย เกลื่อนกลาดมายาวนานภาษีผ้าอนามัยออกมาก็รีทวิตกับไป 5แสนตั้งแต่เช้า จนตอนเย็นรู้กันว่าเป็นข่าวปลอม ไฟก็ยังไม่มอด
เป็นแบบนี้เรื่อยมา ข่าวปลอมออก รีทวีต วนลูปไปเรื่อยๆ
มันเป็นแพลตฟอร์มเชิงละโมบ คนปล่อยความเท็จพันคนหากไม่มีคนเล่นแพลตฟอร์มนี้ที่คิดเห็นเป็นอย่างอื่น ความจริงก็กลายเป็นสิ่งที่คนพันคนอุปโลกศ์ขึ้นมา
เท่ากับหากต้องการทำให้เกิดสภาพข้อเท็จจริง มนุษย์ทุกคนต้องเข้ามาใช้แพลตฟอร์มนี้.
ในขณะที่ตอนกาลิเลโอค้นพบว่า. โลกหมุนรอบดวงอาทิตย์ก็เป็นแค่คนเดียวที่ทราบข้อเท็จจริงเราจะไม่เห็นทวีตของกาลิเลโอแม้แต่น้อย เพราะคนทั้งเมืองจะรีทีวิตสิ่งที่ [สอดคล้องกับความเชื่อ] ของตนเท่านั้น
แพลตฟอร์มที่ไม่สนับสนุนการข้อเท็จจริง แต่อาศัยระบบสังคมนิยมผมไม่คิดว่ามันนำไปสู่ความอยู่รอดของกลุ่มชาติพันธ์
เราอาจจะไม่รู้ตัวกัน ว่า ingress / pokemon go ก็ถูกสร้างมาเพื่อ "ฝึกสุนัข"ให้เคยชินกับการทำตาม "คำสั่ง" ผ่านระบบตอบสนองต่อรางวัล
ถ้าเป็นยี่สิบปีที่แล้วคงไม่มีใครเอาข้อมูลส่วนตัวความชอบ รสนิยม มาประกาศให้คนอื่นรู้ และคงมองเป็นการละเมิดแต่ Facebook ก็หลอกล่อให้คนเปิดเผยสิ่งเหล่านี้ออกมาผ่าน "เพื่อนอิเลกทรอนิกซ์"
โลกวิปริตขึ้นเรื่อยๆ เพราะโลกจำลองที่เรียกว่าอินเตอร์เนต
เข้าใจหรือเปล่าครับว่า IO แปลว่าอะไร
อาจจะแปลว่า วีลัค ก็ได้ครับ
555 ขำสกิลการตอบโต้ เหมือนเด็กล้อชื่อพ่อแม่
input/output55555 55
IOอห.(โอ้โห)
"Those who make peaceful revolution impossible will make violent revolution inevitable." JFK.
ทำหน้าคนเล่น Twitter ทุกวัน แล้วไม่เคยเจออะไรอย่างที่ความคิดเห็นนี้ว่ามาเลยแต่อย่างเดียว
นี่ถ้าเขาลองไปเล่น ZeroNet นี่จะไม่อกแตกตายเลยเหรอ สำลักความดีจัด 55555
Ok boomer
ลั่นเลยครับ ผมเคยโพสไปนานมากแล้วว่า ทำตำแหน่ง รมต. IT ควรเขียน HTML ด้วย notepads ได้ก่อน (เพราะมันแสดงว่าคุณเข้าใจพื้นฐานระบบ internet จริง) ที่จับได้แบบนี้ คนรุ่นclassic 80s สวัสดีวันเสาร์ จะไม่เข้าใจว่า รู้ได้ไง ? อธิบายแบบ classic ก๊อบข้อความใน notepads โพสต์ซ้ำไป ให้กระทู้มันขึ้นหัวบอร์ดตลอด up address มาจาก tot ที่คนปกติเค้าไม่ใช้กัน โพสเวลาทำงาน 8 โมงถึง บ่ายสามครึ่ง พักกินข้าว ชั่วโมงนึง เลิกงานเวลาราชการ คงไม่ใช่ ทหารมั๊ง
ใน vim เลยไหมครับ
สำหรับผมแล้ว "น้อยไป" ครับ
ตำแหน่งนี้ควรต้อง ftp sftp ssh telnet บน command line ได้ครับ
จึงจะแปลว่าเข้าใจเครือข่าย TCP/IP แน่ๆ
ผมว่าควรจะเอา App + Infra Architecture ให้อ่านแล้วชี้แจงได้ครับ เพราะมันพวกบริหารไม่ต้องมานั่งเขียนโค้ดก็ได้แต่เข้าใจความสัมพันธ์ของระบบต่าง ๆ และเข้าใจว่าระบบมัน Integrate กันอย่างไรก็เหมาะกับตำแหน่งเขาแล้ว แต่ถ้าเขียนโค้ดได้ก็เป็นคะแนนเสริม แต่ในแง่การเมืองการจะเข้ามาเป็นรมต.แล้วต้องล็อคคุณสมบัติอาจจะเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสมเหมือนล็อคเสปคไป แต่ทีมของเขา เช่น รมช. หรือที่ปรึกษาอย่างน้อยต้องมีโปรไฟล์มากพอจะเป็นที่ปรึกษาได้ก็อาจจะสมเหตุสมผลกว่า
หนักอยู่นะอยากรู้เลยแพลตฟอร์มไหนสนับสนุน "ข้อเท็จจริง" แบบที่คุณพูดมา
physical world คือแพลตฟอร์มเดียว ที่ไม่ใช่สัญญาณ 0 1 จำลองที่สามารถ instantiate ซ้ำได้เรื่อยๆ.
มนุษย์เวลาอ่านหนังสือ พวกเขา instantiate สิ่งต่างๆในหนังสือจากทรัพยากรในจิตใจของตัวเอง
ผมทื่คุณทำกำลังสื่อสารอยู่ตอนนี้ก็ เป็นแค่ทรัพยากรในตัวคุณที่ก่อรูปตาม language logic circuit ที่คุณแปลงขึ้นเอง
นี่เป็นเหตุผลของความวิปริตเมื่อมนุษย์สื่อสารผ่าน "กระจกที่สะท้อนแต่เงาของตัวเอง"
ราวกับว่าเรื่องเลวร้ายบนโลกนี้เพิ่งเกิดขึ้นหลังจากมนุษย์รู้จักคอมพิวเตอร์
ครับ
สมัยก่อนหนังสือพิมพ์นี่ไม่มีข่าวปลอมเลยเหรอครับ ?
ได้อ่านประวัติศาสตร์ 14 ตุลาคม 6 ตุลาคม บ้างไหมครับ ? สมัยนั้นวิทยุและหนังสือพิมพ์ที่อยู่ในโลกจริงได้เผยแพร่ข้อมูลที่เป็นความจริงมากน้อยแค่ไหนครับ ??
That is the way things are.
โลกที่ไม่มีสื่อ และมีสื่อน้อยที่สุด คือโลกที่อยู่ใกล้ความจริงที่สุดครับ
ในความเป็นจริงคนในยุคนั้น "อ่านหนังสือไม่ออก" กันค่อนประเทศ
เพราะชีวิตประจำวันยึดโยงกับธรรมชาติและการเกษตร
และนั่นก็เป็นเหตุผลหลักที่ทำให้ 14 ตุลา การออกมาไล่ถนอม
เกิดขึ้นจากการสื่อสารที่มีระยะการคิด การ validate ความจริงแท้ มี interval ตามธรรมชาติ และเป็นการกระทำที่ทำให้ผู้คนเชื่อว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้อง
การที่ "แทบไม่มีสื่อเลย" และผู้คนต่างก็มาจากต่างที่ทั้งที่ไม่มีมือถือ ไม่มีอะไรทั้งนั้น
ส่วน 6 ตุลา แม้แต่ลาสบอส ยังออกมายอมรับเองกับปากเลยนะครับ ว่า นศ ยุคนั้นมีการศึกษาวิชาคอมมิวนิสต์กันจริงๆเรื่องของเรื่องคือ ในยุคสมัยนั้น คำว่าคอมมิวนิสต์ ก็มีคุณค่าพอๆกับคำว่า ประชาธิปไตย สิทธิมนุษยชน ในปัจจุบันนี่แหละครับ
2519 คือปีที่เกิดเหตุการณ์ 6 ตุลาในประเทศไทย
ซึ่งเป็น "ปีที่สอง" ที่ [ เขมรแดง ] ปกครองกัมพูชา (2518 - 2522) และยังไม่มีใครรู้ผลลัพท์ของโลกที่แสนวิจิตรของ [คอมมิวนิสต์]
กว่าจะรู้ว่าคนหายตายนับล้านก็เอาตอนสิ้นสุดในอีกสามปีให้หลัง
ถ้าหากกลุ่มนักศึกษาจากฝรั่งเศสกลุ่มหนึ่ง ถูกฆ่าตายในกัมพูชา แน่นอน
ปัจจุบันอาจจะมีคนนำมาสร้างวาทนาฎกรรมเช่นเดียวกับ "6 ตุลา" ของประเทศไทยก็ได้ครับ
เราจะได้เห็นวีรชนสลักไว้ตามก้อนศิลา และมีการรำลึกทุกๆปี
แต่ความเป็นจริงกลับไม่ได้เป็นเช่นนั้น นักศึกษาจากฝรั่งเศสกลุ่มนั้นได้ก่อตั้งเขมรแดง และมีคนตายไป 3 ล้านคน
เรามองสิ่งที่เกิดในช่วงเวลานั้นจากมุมมของคนในยุคที่แสนสะดวกสบาย
วิพากษ์ราวกับตนเองเป็นผู้วิเศษจากอนาคต เรารู้ว่าเรื่องจบยังไง
แต่คนในยุคนั้นได้แต่ "เลือก" เส้นทางที่ไม่สามารถทราบจุดหมายเท่านั้น
สิ่งที่คุณควรทำ คือหยุดใช้อินเตอร์เน็ตครับ
ถ้าอินเตอร์เน็ตไม่ดี เราก็ไม่ใช้
แต่ถ้าเราใช้ เพื่อบอกให้คนอื่นเลิกใช้เพราะมันไม่ดี
แสดงว่าอินเตอร์เน็ตมันดีครับ ที่จะประกาศความจริงออกไป
เว้นเสียแต่ว่าข้อความของคุณเอง ก็คือข้อความเท็จ???
ใช่ครับ เพราะโลกคอมพิวเตอร์และอินเตอร์เน็ตตั้งอยู่ในมิติลี้ลับที่พ่อมดหมอผีสร้างขึ้นมาไม่มีอยู่จริงและไม่มีใครรู้ว่าพวกเขาสร้างขึ้นมาได้ยังไง
สมัยก่อนไม่มี Internet คนไทยต้องรับแต่สื่อที่ถูกรัฐควบคุมยิ่งทีวี-วิทยุนี่ มีแต่โฆษณาชวนเชื่อของรัฐ
ref: https://www.blognone.com/node/118622#cid-1177597
.
.
Ok, boomer
ผมเคยเป็นเหยื่อของระบบ "ความเท็จ" เหล่านี้โดยตรง
จากมุมมองของผมนั้น ผู้ที่ถือครอง admistration power ตามระบบอินเตอร์เนตคือ [เผด็จการที่แท้จริง] ครับ
แต่เผด็จการเหล่านั้นกลับมีแนวโน้มจะ [หลงลืม] ความเผด็จการของตัวเอง ด้วยการเล่นละคร [ต่อต้าน] อะไรบางอย่าง ลิ้มรสอำนาจเล็กๆจากชัยชนะที่ไม่เคยมีอยู่
แต่ประเด็นคือ อินเทอร์เน็ต คุณไม่จำเป็นต้องใช้งานในเว็บไซต์เว็บเดียวก็ได้นิครับ กฎของแต่ละที่ไม่เหมือนกัน และถ้าหากคุณไม่ถูกใจที่จะเข้าไปที่เว็บนี้ คุณก็ยังมีตัวเลือกให้เข้าเว็บอื่นอยู่ เขาไม่ได้บังคับคุณนิครับว่าคุณต้องอยู่ในที่ที่เดียว
ผมไม่รู้ว่าคุณคิดยังไงนะครับ แต่คุณควรหัดมองโลกให้กว้างกว่านี้จะดีกว่านะครับ
Coder | Designer | Thinker | Blogger
Internet ให้อิสระคุณในการใช้งานเหมือนคุณใช้เงินครับ
แต่ในสังคม คุณก็คงเคยเห็นคนที่ชีวิตล้มเหลวเพราะเงินนี่ล่ะ
มองเผินๆ อิสระควรทำให้คนเลือกแต่สิ่งที่ดีที่สุดให้ตัวเอง
แต่ทำไมกันล่ะ อิสระถึงทำให้ชีวิตคนล้มเหลวได้
ถ้าคุณมองแค่อิสระในการใช้งาน ทั้งที่มันมีปัจจัยอย่างอื่นที่เป็นกับดักซ่อนอยู่ ผมว่าเหตุผลคุณยังไม่หนักแน่นพอที่จะพูดให้ใครมามองโลกให้กว้างนะครับ
กับดักการใช้งานมันมี แต่สิ่งหลายคนไม่มีคือ “สติ” ครับ
ถ้าคุณมองว่าอินเทอร์เน็ตมีพิษมีภัย แล้วคุณจะใช้อินเทอร์เน็ตทำไมล่ะครับ? ผมถามแค่นี้แหละ
Coder | Designer | Thinker | Blogger
"สติ"มันไม่ได้มีทุกคน
ิอินเตอร์เน็ตมันมีข้อดีและข้อเสีย
เราใช้ข้อดีของมันและรับมือกับข้อเสียให้ดี
ผมเติบโตมาในยุกต์ที่อินเตอร์เน็ตคือที่หลอกลวง
เชื่อถือไม่ได้ ทุกคนสามารถเขียนหรือแสดงความคิดเห็น
อะไรก็ได้โดยไม่ต้องมีความรับผิดชอบอะไรเลย ต่างกับสื่อ
สิ่งพิมพ์ที่หาผู้รับผิดชอบได้ แต่สื่ออินเตอร์เน็ตในปัจจุบัน
พยายามสร้างภาพให้ตัวเองเป็นสื่อที่น่าเชื่อถือและจะเข้ามาแทoที่
สื่อสิ่งพิมพ์แบบเดิมแต่ปฎิเสธความรับผิดชอบในข่าวสารที่อยู่ในระบบของตัวเอง
มันก็เป็นการยากที่จะให้คนส่วนใหญ่มี"สติ"และ
เข้าใจว่าโซเชียลเนตเวอร์กกับเวบที่เป็นทางการมันต่างกัน
ทุกวันนี่้หลายคนก็อ่านข่าวแต่จากโซเชียลเนตเวอร์กกันเป็นส่วนใหญ่
IO ที่หนักสุดก็คือ IO ของเจ้าของระบบเอง
ที่ไม่สามารถมีใครเข้าไปตรวจสอบได้เลยเอาง่าย ๆ
ถ้าติดตามข่าวกับคนทำวีดีโอก็โอดครวญเรื่องโดน
shadow ban กันหลายคน ผมก็เคยลองพิสูจน์โดยใส่ชื่อ
เจ้าของกับชื่อวีดีโอไปตรง ๆยังไม่โชวเลย โดนจับได้ก็แค่บอกว่า
ระบบทำงานผิดพลาด อันนี้ผมว่าน่ากลัวกว่า ยิ่งตอนนี้เป็นตลาด
ผูกขาดไปแล้ว จะชี้นำสังคมไปทางไหนก็ได้
อย่างข่าวนี้อาจคิดว่าผมเข้าข้ารัฐ
แต่อย่าลืมว่าถ้ารัฐไปตกลงกับเจ้าของ
แพลตฟอร์มได้เมือใหร่จะโดน IO ที่น่ากลัวที่สุด
พูดมาซะยาวแต่ผมเองก็ไม่รู้ว่า
จะทำอย่างไรให้คนส่วนใหญ่กลับมามองอินเตอร์เน็ตว่าเป็นสื่อที่หลากหลายแต่ขาดความน่าเชื่อถือ
และต้องใช้ "สติ" เป็นอย่างมากในการเสพย์
ใครคุมตัวเองไม่ได้ก็ต้องจัดการคนคนนั้นครับ
โจรปล้นธนาคารเอาเงิน ไม่ต้องยกเลิกการใช้เงินไปเลยเหรอ
ยุคไหนๆ เงินหรือสื่อก็มีอำนาจทั้งด้านดีด้านเลว การที่จะบอกว่ามันดีสุดๆ โดยมองแค่ด้านดี หรือจะบอกว่ามันมีแต่ข่าวไม่น่าเชื่อถือเพราะแหล่งข่าวมาจากหลากหลายที่ผมว่ามันดูไร้ความรับผิดชอบต่อสังคมมากๆ ครับ
อินเตอร์เน็ตเป็นเครื่องมือ ใครจะเอาไปทำอะไรก็ได้ คุณต้องสอนตัวเองและคนรอบข้างให้รู้เท่าทันมัน
ถ้ากลัวลูกจะจมน้ำ คุณต้องสอนลูกว่ายน้ำครับ
ผมว่าคุณตีความหมายของผมผิดไป
ผมไม่ได้บอกว่าให้แบนอินเตอร์เนตรวมทั้ง
โซเชียลเน็ตเวอร์กต่าง ๆด้วย
แต่อยากให้สังคมตระหนักว่าอินเตอร์เน็ต
พวกโซเชียลเน็ตเวอร์กเป็นแหล่งข้อมูลที่ไม่มีความน่าเชื่อถือ
คือรู้ถึงข้อดีและข้อเสียของมันก่อนที่จะเชื่ออะไร
ส่วนเรื่องผมสื่อที่ผมเปรียบเทียบให้ดูให้เห็นว่า
สื่อสิ่งพิมพ์สมัยก่อนเราสามารถเอาผิดกับสำนักพิมพ์
หรือบรรณาธิการได้ และคนที่สามารถทำสื่อสิ่งพิมพ์ได้
ก็ต้องมีความรู้ระดับหนึ่งซึ่งมันก็สามารถกรองข้อมูลได้บางส่วน
แต่ข้อเสียก็คือช้าและข้อมูลมาจากคนกลุ่มเดียวเท่านั้น
ส่วนข้อมูลในโซเชียลเน็ตเวิร์กใครก็สามารถทำได้
ทำให้ข้อมูลมีความรวดเร็วหลากหลายกว่าแต่ก็มีข้อเสียคือขาดการตรวจสอบ
ข้อมูลบางอย่างที่พิสูจน์แล้วว่าผิดแต่คนที่เพิ่งผ่านมาเจอก็ยังเอามาแชร์ต่อ
ผมเห็นด้วยว่าสอนคนให้เข้าใจเป็นสิ่งที่ดีที่สุด
แต่ทุกวันนี้รณรงค์กันยังไมแต่ก็เห็นแชร์ข้อมูลผิด ๆ
กันอยู่ผมขอถามก็แล้วกันว่าในความคิดของคุณ
ควรจะแบนข้อมูลที่ผิดเหล่านั้นหรือย้ำสอนคนว่าให้ตรวจสอบข้อมูล
ที่ได้มาก่อนที่จะเชื่อหรือเอาไปใช้งานจริง?
ตรรกะคุณประหลาดมาก แต่ผมไม่แปลกใจครับเพราะ เห็นคอมเมนต์ยุคหลัง blognone
ปฎิรูปไปสู่เอกชน ซึ่งผมมักจะไม่ได้ให้คุณค่ากับคอมเมนต์ยุคหลังๆสักเท่าใหร่อยู่แล้ว
โดยมากคนยุคหลังเข้ามาระบายความเครียดจากการทำงานหรือชีวิตมากกว่าจะสร้างสรรค์ภูมิปัญญาแบบบอร์ดยุคแรกๆ
ตรรกะโจรปล้นธนาคารแล้วยกเลิกการใช้เงิน -> เงินเป็นสินทรัพย์และเป็น < สิ่งที่ถูกกระทำ > **ไม่ใช่*** อุปกรณ์ในการก่อเหตุโจรใช้ < อุปกรณ์และกระบวนการ> ใดในการก่อเหตุ นั่นคือสิ่งที่ต้องถูกระงับยับยั้งครับ -> ซึ่งได้แก่ ปืน การใส่หมวก การอำพรางตัวตน
ซึ่งในปัจจุบันในประเทศไทยมีกฎหมายควบคุมอาวุธปืน การควบคุมยุทธภัณฑ์ มีการติดตั้งระบบ cctv เพื่อช่วยยืนยันตัวตนแต่เรายังไม่ได้มีกฎหมาย "ยิงคนใส่หมวกกันน๊อกได้ทันที" แบบประเทศผู้เจริญอย่างอเมริกา เท่านั้นเอง
ทวิตเตอร์กระทำให้เกิดความเสียหาย ด้วยการยินยอมให้ข่าวปลอมแพร่สะพัดได้ โดยไม่มีการควบคุมคุณภาพ ซึ่งเป็นผลมาจากระบบ quick tweet ระบบการตอบสนองต่อรางวัลจากการ retweet / share ที่ทำให้ผู้คนเสพติด "ตัวเลข" และ "คุณค่าต่อสังคม" จากตัวเลขต่างๆ (ยิ่งแชร์ ตัวเลขยิ่งมาก ยิ่งรู้สึกเหงาน้อยลง มีคุณค่าต่อสังคมมาก เสพติด และแสวงหามากยิ่งขึ้น )กลุ่มคนที่เสพติดการรีทวีต มักจะมีปมในโลกจริงในด้านสังคม เมื่อมีเกมที่สามารถ "บำบัด" ปมตรงนี้ได้ คนกลุ่มนี้จะเสพติดอย่างถอนตัวไม่ขึ้น
วิธีแก้พื้นฐาณคือ remove การแสดงตัวเลข Retweet / Shareทั้งหมด , จำกัดจำนวนการ Retweet ต่อวัน ( สมัยก่อน Blognone ก็ไม่มีระบบนี้ พอมีแล้วดราม่าลดลงไปเยอะ )
ถ้าหาก Twitter ไม่สามารถแก้ไขรูปแบบดังกล่าวได้ เพราะระบบดังกล่าวเอื้อต่อผลประโยชน์ของทวิตเตอร์เอง การ Ban ทวิตเตอร์ก็เป็นทางออกหนึ่งในการควบคุม "อุปกรณ์ในการก่อเหตุ" ครับ เพราะระบบดังกล่าวถูกออกแบบมาเพื่อให้ผู้คน [ เผยแพร่ข่าวลือหรือกระแส ในวงกว้าง อย่างเร็วที่สุด ] เพื่อ [ ผลประโยชน์ของแพลตฟอร์มที่ได้จากค่าโฆษณา ] [ ตามจำนวนผู้คนที่เข้าใช้ต่อวัน ] .
เท่ากับแพลตฟอร์มนี้ไม่ได้สนับสนุนข้อเท็จจริงที่เป็นประโยชน์กับการดำรงชีวิตของผู้คนอย่างแท้จริง ซึ่งผิดจากจุดประสงค์และเป้าหมายของสิ่งมีชีวิตที่ต้องตอบสนองกับข้อเท็จจริงทางฟิสิกซ์ เพื่อการดำรงรอดของเผ่าพันธ์มิใช่เพื่อตอบสนองกับข้อเท็จจริงเชิงนิยาย (ความเท็จ)ที่สะท้อนไปมาผ่าน capacitor ที่บรรจุความเท็จได้ ที่เรียกว่ามนุษย์
(ถึงตอนนี้เวลาผ่านมาค่อนปี ยังมีคนเล่นวาทกรรม "เงินกู้" ในกระทู้ล่างๆเลยครับ)
สรุปคือตรรกะ "โจรปล้นธนาคาร ยกเลิกการใช้เงิน" ไม่มีความสัมพันธ์ใดๆกับโครงสร้าง
ผู้ก่อเหตุ -> ก่อเหตุ -> ด้วยกระบวนการ -> นำไปสู่ผล -> ต่อสิ่งที่ถูกกระทำ
แต่เป็นการสลับลำดับตรรกศาสตร์อย่างฟั่นเฟือนเท่านั้น
ได้ข่าวว่า ทวิตเตอร์เป็นคนถอดฟีเจอร์นี้เองนะครับ
อีกอย่างคือ ผมว่าคนที่ควรปรับแนวคิดคือคุณมากกว่าไม่ใช่หรอครับ? ก่อนที่จะมาเขียนโบ้ยคนอื่น ดูตัวเองก่อนจะดีกว่าไหมครับ? คุณสร้างบัญชีของคุณขึ้นมาเพื่อมาทะเลาะกับในนี้ หรือว่าคุณคือท่านรัฐมนตรีที่คนในกระทรวงด้วยกันยังมาบ่นว่าไม่ทำอะไร เสนออะไรก็ลมผ่านหู
Coder | Designer | Thinker | Blogger
ถ้าเราแบนได้ทุกอย่างที่ไม่ดี วันนี้ เหล้า เบียร์ บุหรี่ โล้นห่มเหลือง
คงไม่มีอยู่ในสังคม
การแบนมันปลายเหตุ และเมื่อปิดไปมันก็จะมีใหม่มาแทน
เราจึงต้องเน้นสร้างภูมิคุ้มกันให้คนในสังคม
ตรวจสอบได้ ทักท้วงได้ พูดคุย แลกเปลี่ยน สงสัยได้
ดีกว่าปิดปากทุกคน
ส่วนที่ว่าสื่ออินเตอร์เน็ตทุกวันนี้หาตัวคนรับผิดชอบไม่ได้
อันนี้ต้องเข้าใจว่าถ้าเปิดตัวก็จะโดนกลั่นแกล้งด้วย พรบ คอมฯ
ตัวอย่างควีนโพธิ์ดำ ที่นำเสนอเรื่องกักตุนหน้ากาก
แต่โดยนักการเมืองท้าให้เปิดหน้า และตามราวีเอาเรื่อง
สื่อทางการหลายเจ้าไม่กล้าขยับตัว ก็เพราะกลัวภัยจะถึงตัว
ผมว่าทักษะการเขียนผมน่าจะเลวร้ายมาก
ถึงขนาดสองคนเข้าใจว่าผมสนับสนุนให้แบนความคิดเห็น
ยังไงไปอ่านที่ผมตอบข้างบนที่ผมตอบไว้ข้างบนนะครับ
ไม่ได้เลวร้ายหรอกครับ ผมเข้าใจที่คุณสื่อ แต่ผมเลือกที่จะตอบเพื่อเน้นย้ำในสิ่งที่คุณไม่ได้พิมพ์ลงไปตรงๆ ครับ
เหมือนคุณบอกว่าผมไม่ได้สื่อแบบนั้น แต่คุณก็ไม่ได้สื่อในทางตรงกันข้าม มันเลยเหมือนจุดเกียร์ว่างที่กั๊กไว้เพื่อให้มีทางออกได้สองทาง ซึ่งผมเข้าใจว่าคุณไม่ได้มีวัตถุประสงค์แบบนั้น
ผมเลยเลือกพิมพ์ในส่วนที่ขาดหายไปที่เป็นเกียร์ว่างนั่นแหละครับ
ผมสรุปต่อท้ายว่าผมก็ยังไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร
ส่วนตัวผมแล้วคิดว่าถ้ายังหาข้อสรุปที่ดีไม่ได้
แทนที่จะ"ทำอะไรสักอย่าง" ก็หยุดดูความเห็นคนอื่นก่อน
ผมแสดงความคิดเห็นในทางต่อต้าน
การแบนความคิดเห็นมาตลอดก็เลย
แปลกใจที่คุณคิดว่าผมคิดจะแบนอินเตอร์เนต
ผมไม่เคยติดตามอ่านความเห็นของคุณครับ
ตอบคุณ whitebigbird"ผมไม่เคยติดตามอ่านความเห็นของคุณครับ"
เห็นมาตอบต่อท้ายผมผมเคยบอกเหรอว่าคุณตามอ่านความเห็นผม?
ถ้าคุณคิดว่าคุณแสดงความเห็นต่อต้านการแบนฯ มาตลอด แล้วคนอื่นๆ จะต้องเห็นว่าคุณทำแบบนั้นมาตลอด แสดงว่าคนนั้นต้องติดตามความเห็นของคุณ จำได้ว่าเป็นคุณ ถูกมั้ยล่ะครับ
ผมไม่ได้ติดตามความเห็นคุณครับ ผมเลยไม่รู้ว่าคุณต่อต้านการแบนความเห็นบนอินเตอร์เน็ตมาตลอด
ถึงผมรู้ ผมก็ตอบแบบเดิมครับ เพราะผมไม่ได้ต่อต้านคุณ ผมแค่เติมส่วนที่คุณไม่ได้พิมพ์ลงไป เพราะคุณคิดเอาเองว่าคุณแสดงนัยยะชัดเจนแล้ว แค่นั้นแหละครับ
เม้นแรก ๆผมบอกว่าเราควรเข้าใจว่าอินเตอร์เน็ตมันมีการหลอกลวงและเราควรตระหนักถึงข้อเสียด้วย
คุณมาเม้นตอบว่า
ผมอยากให้แบนอินเตอร์เน็ต?
ยกตัวอย่างเรื่องแบนการใช้เงิน?
เมื่อคุณอ่านที่ผมเขียนไม่รู้เรื่อง ผมก็เลยบอกไปตรง ๆ
เลยว่าผมต่อต้านการแบน และมันก็ไม่เคยมีคนเข้าใจว่า
ผมสนับสนุนการแบนมาก่อน
คุณกลับมาเม้นต่อว่าไม่ได้ตามอ่านเม้นผม?
ผมคงมีปัญหาในการสื่อสารกับคุณจริง ๆตอนนี้หลุดประเด็นข่าวมาแล้วคงหยุดเม้นแค่นี้แหละ
ครับ
ในโทรทัศน์ หรือ สื่ออื่นๆ ที่เป็น physical media มันก็มีคนที่มี administration power เหมือนกันนี่้ครับ แล้วมันต่างอะไรกับ internet ล่ะ
สวัสดีครับ วันนี้วันเสาร์
สิ่งที่น่ากลัวไม่ใช่คนโง่ แต่เป็นคนโง่ที่มีความมั่นใจ(มากๆ)
“Stupid is as stupid does.” – Forrest Gump.
?
หลักฐานมันไม่ได้จำเป็นที่จะต้องหา เพราะจริงๆ มันก็คือการจับ pattern ของพฤติกรรมบางอย่างของแต่ละ account อย่าง อัตโนมัติ
เช่น เทรน machine learning ให้ดึง account ที่มีการทวิตแค่ครั้งละวัน มีการ login logout ของ IP Address เดียวกันไปใช้ account อื่นบ่อยๆ หรือแม้แต่การใช้ WiFi ของที่เดียว จากตำแหน่งค่ายทหารกระจุกตัวๆ แล้วก็ทำการทวิตถล่มฝ่ายตรงข้ามหรือง่ายๆ แค่ดูจากช่องทางที่จะเป็นเป้าโจมตีก็ได้ แล้วค่อยสืบเอาว่า account ไหนปลอมบ้าง เยอะแยะ
ทำไมคิดแค่นี้ไม่ออก บาง hashtag มันก็ได้รับความนิยมเพราะคนเข้าอิน ไม่เข้าใจหรือไง boomer
แก่ตายดีๆ ไม่ชอบเหรอครับ
ใจร่มๆ ครับ
คนขี้ลืม | คนบ้าเกม | คนเหงาๆ
ผมเด็กกว่าหลายคนในกระทู้นี้เยอะนะครับ แค่มีประสพการณ์ทางกฎหมายตั้งแต่เรียนจบใหม่ๆก็เลยสำนวนเขียนอาจจะลำบากสำหรับคนไม่ชอบ อ่านหนังสือหลายบรรทัดสักหน่อย
ผมบอกไปแล้วในคอมเมนต์อื่น คุณแค่นำทรัพยากรในตัวคุณ initialized เป็นสิ่งอื่น ผลที่ได้คือตัวคุณที่แปรรูปเป็นสิ่งอื่นนั้นเองผมแค่ได้เห็นการสารภาพตัวตนของคุณออกมา ไม่มีอะไรมากไปกว่านี้
คุณอาจจะกำลังเกลียดชังตัวคุณเอง หรืออาจอยากตายเสียเองก็เป็นได้จึงพยายาม relocate ไปยังคนอื่น เพื่อยับยั้งการกระทำที่จิตใจแห่งตนปรารถนาที่สุด
ณ ความเป็นจริง คนที่นั่งอยู่ข้างหน้าคุณมีเพียงตัวคุณคนเดียวเท่านั้นครับ
ขำคำว่าฝึกสุนัข
ไม่เคยเห็น สุนัข ที่โดนฝึกกล้าเอาคำนี้มาใช้ว่าคนอื่น
อ่านปุ๊บรู้เลยว่าเกิดเจนไหนเอกลักษณ์อย่างหนึ่งที่ boomer มีคือ รับกับความหลากหลายไม่ได้ เลยพยายามใช้ order เข้ามาจัดการ และนั่นคือสิ่งที่เค้าไม่ได้เกิดและเติบโตมาพร้อมๆกับมัน ช่างน่าเศร้า
งานวิจัยพบคนสูงวัยแชร์ข่าวปลอมสูงกว่าวัยรุ่น 7 เท่า - สสส
ใจเย็นๆครับ ทวิตเตอร์นี่นะ ระบบสังคมนิยม
จบแล้วครับ ถ้าคุณอาไม่เชื่อโลกจำลองที่เรียกว่าอินเตอร์เนตที่ยังพอจะให้โอกาสคนได้ยืนเท่าๆกัน พวกผมก็ไม่เชื่อโลกมโนฯที่เรียกว่าระบบวรรณะที่เหยียบคนต่ำกว่าเป็นบันได
เชิญคุณอาตื่นนอนมาพร้อมความกลัวคนรอบๆข้างไปเถิดครับ
ว่าท่าน รมต หนักแล้วนะ เจอคอมเมนท์นี้ หงายท้องไปเลย
ชีวิตคุณ คุณเลือกได้ว่าจะรับ content อะไร ต่อให้เป็น platform ไหน ย้อนกลับไปพวกจับกลุ่มนินทา หนังสือพิมพ์ คุณก็จะเจออะไรพวกนี้วันยันค่ำเพราะมันเป็นนิสัยมนุษย์
เทคโนโลยีทุกอย่าง จะดีหรือไม่ดีมันอยู่ที่คนเอาไปใช้
ถ้าไม่ชอบ internet แนะนำให้ไม่ใช้มัน จบ
..: เรื่อยไป
มันมี Dump File ไปอ่านดูก่อน อย่าพึ่งถามหาหลักฐานที่วางตรงหน้า
แล้ว "การที่ Twitter แบน IO มันเป็นคุณเป็นโทษกับพวกเราคนไทยผู้เสียภาษีอย่างไร"อันนี้เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์พวกเรา จะลองพูดถึงก็ได้
การห้ามคนอื่นที่ทำในสิ่งที่คุณหาผลประโยชน์ไม่ได้ ทั้งที่คนเหล่านั้นไม่ได้ล่วงเกินอะไรคุณเลย ไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้องถ้าจะเป็นศัตรูกับเวลาที่ไม่มีใครหยุดมันได้ อันนี้ก็ไม่มีใครช่วยได้นะ
ไม่นึกว่าที่นี่จะเจอ Pattern เอาความจริงมานิด แล้วเชื่อมโยงกับเนื้อหาที่ไม่เกี่ยวข้องกันเลย ถูกผิดก็ยังค้างสายตากับการย้าย Scope เบี่ยงเบนความสนใจด้วย
เห็นด้วยครับ แทนที่จะด่ารัฐบาลเราต้องเริ่มที่ตัวเองก่อนเลยครับ ตัด Internet ตัวเองทั้งหมดเลยครับเพราะ Internet เป็นสิ่งชั่วร้าย
เห็นด้วยคุณ Nabbu เกือบ 90% เลยมันเป็นแบบนั้นจริงๆ ขึ้นอยู่กับว่าใจจะยอมรับความจริงได้ขนาดไหน
ลองไปดูข้อมูลที่ทางทวิตเตอร์ปล่อยมาดูครับ
มันก็ไม่ได้มีแต่ฝั่ง รบ. มีฝั่งฝ่ายค้านด้วยแต่น้อยกว่าเยอะ
(อิงจากกราฟฟิคที่ มีคนเผยแพร่นะครับ)
จากที่ไปอ่านมาเค้าสังเคราะห์ข้อมูลจาก
ช่วงเวลาทำการ
ไอพี
ตำแหน่งที่ตั้ง
แนวประโยคที่เหมือนก็อปวาง (วัดความถี่จากรูปแบบประโยค)
วัดความถี่แฮชแท็ก
อายุแอคเคอ้าท์
จะ follow เป็น floc
บางทีไม่ใส่รูป ไม่ใส่คำ
เผลอๆถ้าทวิตเตอร์กล้าปล่อย รหัส mac add หรือpassword คงเหมือนกัน แนวๆ top ten easy password แน่ๆ
Q.E.D
??อ่านในรายงานภาษาอังกฤษ ไม่เห็นมีนะครับโดยเฉพาะพวก IP หรือ ประเด็นก๊อปวาง นี่ไม่มีเลย
ผมเคยเห็นแว้บๆไม่แน่ใจเห็นจากไหนครับแต่มีคนแกะไฟล์แล้วดู
ข้อความ กับ แฮชแท็ก ความถี่ เวลาโพส นี่แน่ๆ แล้วพอมาไล่ๆดู .txt
ที่แคปมานี่แบบว่า ......พูดไม่ออกเหมือนเราอยู่ไทยในโลกคู่ขนาน
หลักฐาณอิเลกทรอนิกซ์ไม่สามารถเชื่อถือ ได้ในระดับที่เกี่ยวโยงกับผลประโยชน์ของรัฐบาลสหรัฐเลยครับ
ในระดับ administrative power ลงมาโดยตรงหลักฐาณปลอมแค่ text csv หรือ inject ไปตรงๆง่ายยังกับปอกกล้วยโดยเฉพาะในกรณีที่มีการยุ่งเหยิงกับฝ่ายหนึ่งโดยตรง
(งานประชุมหลอกลวงชาวบ้านว่าเป็นพรรคฝ่ายค้าน - ทั้งที่โดนยุบไปแล้วเพราะโง่กฎหมายเด็กๆ)
ตอนนี้ไทยกำลังถูกแซงชั่นให้เลือกข้างเพื่อล้อมจีน เป็นประเทศเดียวในอาเซียนที่ความสัมพันธ์กับจีนดีที่สุด
โลกกำลังจะหมุนกลับข้าง เพราะโลกตะวันตกเติบโตมาได้จากการสูบทรัพยากรจากโลกตะวันออก
แต่พอจีนเป็นรัฐที่ปลดแอกจากอังกฤษ - สหรัฐ ได้แล้วก็เป็นแบบที่เห็น ผลกระทบคือจักรวรรดิเสียผลประโยชน์ไปมหาศาล
ตอนนี้อังกฤษจะกลับมาดำเนินการนโยบายล่าอาณานิคมใหม่
ก็เลยต้องออกจาก EU จะได้พ้นจากการตรวจสอบ / กฎต่างๆของสหภาพ
จีนมีทรัพยากรขนาดมโหฬารที่เป็นที่ต้องการของโลกตะวันตก และใช้ในการสร้างเทคโนโลยีมาตลอด
มีทรัพยากรคนมหาศาลอย่างเทียบกันไม่ติด. แค่ไม่กี่ปีก็จะเกิดการย้อนกลับ. จากการที่คนจูงวัวได้
เมื่อวัวมีปัญญาสุดท้ายคนจะเป็นฝ่ายถูกจูงกลับ ที่คือพลวัตรที่เกิดขึ้นมาตลอด 150 กว่าปี และมันจะไม่มีทางหยุดได้เลย
การดิ้นรนเพื่อผลประโยชน์ของชาติ มีบัญญัติไว้ในนโยบายทางการทหารของสหรัฐ
การพยายามหมุนเข็มนาฬิกาย้อนกลับไปยังยุคที่การล่าอาณานิคมรุ่งเรือง
และคนตะวันตกอยู่บนยอดปีรามิดทุนนิยม ก็เป็นเพียงการดิ้นรนที่ไร้ประโยชน์
เหตุการณ์ที่เราได้เห็น เป็นเพียงก้อนกรวดเล็กๆ ที่ถูกก่อขึ้นเพื่อสร้างถนนสายหนึ่ง แต่จะถมมหาสมุทรคงยากจะเกิดผล
อันนี้คิดว่าคุณNabbuถูก ยกเว้นข้อแรกมัน inject ง่ายจริง แต่ context มันมีความสำคัญอยู่ รายงานฉบับเดียวมันก็แค่ก้อนกรวดอย่างที่คุณว่าแหละ ถ้ารัฐบาลที่มีความน่าเชื่อถือมีข่าวแบบนี้หลุดมา คงแทบไม่มีใครออกมาลุกต่อต้านรัฐแค่กับ Twitter ออกมาบอกว่ามี IO อย่างเดียวหรอก
ผมว่ามันจะนอกประเด็นไปหน่อยผมว่าเรากำลังพูดถึงเนื้อหาของข้อมูล
กับผลที่ข้อมูลออกมา ให้เห็นการที่จะเชื่อไม่เชื่อมันก็อยู่ที่เครดิต
ผมต้องถามว่า รบ.นี้มีแครดิตมากกว่าทวิตเตอร์หรือไม่ ผมตอบเลยไม่
ผมขอยกตัวอย่างเหตุการณ์ตามคำพูดของท่านตามที่ผมเข้าใจนะ
ถ้างั้นเราก็ไม่ควรเชื่อถือกฎหมายสิครับเพราะโดนร่างโดยผู้มีอำนาจรัฐ......ผมรู้สึกประมาณนี้นะ
ในกระบวนการสอบสวนนั้นจะมีศัพท์พื้นๆ basic อยู่คำหนึ่ง เรียกว่า "ยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาณ"เช่นมีการติดต่อระหว่างผู้มีผลประโยชน์ร่วมกลุ่มหนึ่ง กับบุคคลในคดีความ
ผมคิดว่าเราพิจารณาจากข้อความนี้โดยทวิตเตอร์ของ OSLOFF( ซึ่งในงานประชุมนี้มี CEO ทวิตเตอร์ร่วมด้วย )
osloffVerified
Thanathorn Juangroongruangkit (@Thanathorn_FWP) is a Thai pro-democracy activist and leader of the opposition Future Forward Party who was stripped of his parliament seat by the ruling military junta. His commitment to change in Thailand earned him a spot on Time Magazine’s Time 100 Next list.⠀
ข้อเท็จจริง คือพรรคถูกยุบเพราะก่อตั้งพรรคผิดกฎหมายพรรคการเมือง
/ พรรคไม่ได้เป็นพรรคฝ่ายค้าน / ขาดคุณสมบัติเพราะถือหุ้นสื่อ
ทั้งหมดเป็นกฎหมายที่มีมานานแล้วทั้งนั้น
และพรรคที่ถูกเรียกว่า Junta มาจากการเลือกตั้ง และ
ทุกวันนี้ลงเลือกตั้งก็ชนะทุกสนาม
จะเห็นได้ว่าแค่คำโปรยใน Twitter ทางการของ Osloff (ซึ่ง Ceo Twitter ก็ไปนั่งร่วมด้วย)ประกาศความเท็จมาแม้จะเป็น Official Twitter
ทวิตเตอร์เป็นเพียงแพลตฟอร์มหนึ่ง ที่หาผลประโยชน์จากการรวมผู้คนสร้างมูลค่าราคาค่าลงโฆษณา ตามจำนวนคนในแพลตฟอร์ม
ดังนั้นสิ่งที่เราเห็นจึงเป็น [ผลประโยชน์ร่วม] สรรหา influencer ที่ดึงดูดให้ผู้คนใช้ผลิตภัณฑ์เช่นเดียวกับการที่ Instagram มีการร่วมกับดารา นักร้องในการเชิญขึ้นเวทีต่างๆ
ผมขอให้กลับไปอ่านหลักพื้นฐาณอีกครั้ง "การยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาณ" คืออะไร ?
เนื้อหาในย่อหน้าข้อเท็จจริงไม่ตรงกับข่าวครับ มันเป็นเรื่องเงินกู้ที่ทุกพรรคก็ทำกัน
https://www.bbc.com/thai/thailand-51582581
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2563/E/107/T_0060.PDF
ที่ผ่านมาผมได้อธิบายเรื่องนี้เวลาเห็นวาทกรรม "เงินกู้" มาก็หลายรอบ น่าจะเกิน 20 ครั้งแล้ว ตั้งแต่มีคำพิพากษาออกมา
แต่นี่เป็นครั้งแรกเลยนะครับ ที่ผมเห็นคนนำคำพิพากษามาโพสทั้งฉบับแปะคู่กับข่าวบิดโลก และยังคงพูดคำว่า "เงินกู้" ออกมาได้
ซึ่งไม่มีอะไรมากไปกว่าการสำแดงว่า [ คุณไม่ได้อ่านสิ่งที่คุณโพสมาแม้แต่บรรทัดเดียว ] ครับ
ปรกติเวลาอธิบายเรื่องนี้ผมมักจะเป็นฝ่ายไปลาก [คำตอบ] หรือคำพิพากษามาให้อ่าน แต่นี่ขนาดคุณมีคำตอบในมือแล้ว
เอาเป็นว่าอ่าน [คำพิพากษา] แล้วไม่เข้าใจตรงใหนโพสถามเป็นข้อ เป็นบรรทัด แล้วผมจะตอบให้นะครับ
เพราะผมรู้แล้วว่าคุณไม่ได้อ่านคำพิพากษา แม้แต่บรรทัดเดียวครับแต่ไปอ่าน "นิยายบิดโลก" ที่อ่านง่ายสบายสมอง และพูดคนละเรื่องกับคำพิพากษาที่คุณแปะมาพร้อม อย่างสิ้นเชิง
ปัญญาไม่สามารถก่อเกิดได้ถ้าอ่านหนังสือแค่สามบรรทัดครับ กรุณาอ่านสิ่งที่คุณแปะมาให้เรียบร้อยครับ
คุณรู้จักตุลาการภิวัฒน์ไหมครับ? การตัดสินที่เปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ความยุติธรรมที่ทำมาเพื่อปกป้องพวกตนเอง แล้วลงโทษพวกตรงข้ามเพื่อไม่ให้เด่นกว่าตน ไม่ได้เอาผลประโยชน์ไปมากกว่าตน นี่หรือที่เรียกว่ากระบวนการยุติธรรมที่สุจริต?
แล้วคุณคิดว่าศาลในปัจจุบันนี้น่าเชื่อถือมากน้อยเพียงใด กฎหมายในประเทศเป็นกลางมากน้อยเพียงใด ได้รับการยอมรับจากสากลมากน้อยแค่ไหน? (เน้นด้วยนะครับว่า ความน่าเชื่อถือ ระดับสากลไม่ใช่ระดับในประเทศ)
ถ้าคุณยังคิดว่ามันน่าเชื่อถือ เป็นมาตรฐานสากล ก็ขอให้คุณเชื่อต่อไป เพราะมันไม่ใช่ว่าคนจะคิดตามคุณในทุกกรณีนะครับ
Coder | Designer | Thinker | Blogger
แนะนำให้ "กล้าอ่านคำพิพากษาให้จบครบทุกหน้า".
ก่อนอ่านนิยายประโลมโลกสำหรับคนเกียจคร้านครับ
ทุกอย่าง [ เรียบง่ายและไม่มีอะไรพิเศษเลยสักนิด] จำนวนบรรทัดน้อยกว่าโค้ดที่โปรแกรมเมอร์อ่านในแต่ละวันเสียอีก
ถ้าไม่คิดจะอ่านก็อยู่กับโลกกระจกต่อไปได้ตามอัธยาศัยครับ
ตุลาการพิวัฒ์ที่แท้จริงอาจจะเป็นตัวคุณเองที่ "หลับตา" ตัดสินโดยไม่อ่านเนื้อหารายละเอียดใดๆเลยก็เป็นได้ใช่หรือไม่ ?
คุณกำลัง relocate "ศาล" เป็นตัวคุณเอง (ที่ไม่ได้อ่านอะไรเลย ไม่ทราบรายละเอียดเลย) ใช่หรือไม่คุณกำลัง relocate "สากล" = สิ่งที่เหนือตัวคุณ (ที่ขณะนี้จำลองเป็นศาล) ใช่หรือไม่
คุณกำลังกลัวสิ่งที่เกินจากสติปัญญาของคุณจะเข้าใจและหลงผิด ใช่ หรือไม่
บอกมาสิครับ ว่าคำพิพากษามีส่วนใดผิด ? มีจุดใหนที่จะโต้แย้ง
ถ้าคุณอ่านจริง คุณต้องบอกมาเป็นบรรทัด เป็นประเด็นได้ ว่าบรรทัดใหน ข้อใหน เรื่องใหน
ไม่เช่นนั้นก็เป็นแค่การเฉไฉของคนไม่ได้อ่านเท่านั้น
คดีนี้ เรียบง่ายพอๆกับการพิพากษาว่าพระอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันออกชาวบ้านตาสีตาสาก็เข้าใจได้ ไม่ได้ซับซ้อนอะไรเลยสักนิดเดียว
คุณคิดว่าผมไม่อ่านหรือไม่ฟังคำตัดสินหรอครับ ผมนั่งฟังทุกประโยคตั้งแต่ต้นจนจบ แล้วคุณคิดว่าไงครับ? เป้าหมายของพวกเขาชัดเจนอยู่แล้วครับว่า จะทำยังไงก็ได้ที่จะหาข้ออ้างที่เอาไว้สั่งยุบพรรค ไม่ว่าด้วยเหตุผลอย่างไรก็ตาม เพราะพวกนี้เขามีธงอยู่แล้ว ทุกคนก็รู้อยู่แล้วว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่สิ่งที่ไม่รู้เพียงอย่างเดียวคือ "เวลา"
และประเด็นต่อมาคือ ถ้าหากเขาสั่งยุบเพราะ "กู้เงิน" ทำไมพรรคที่เหลือไม่ถูกยุบล่ะครับ คำตอบสั้น ๆ คือ กฎหมายเขียนไว้หละหลวม พลิกไปพลิกมาได้ การที่พลิกไปพลิกมาได้ ศาลเลยเลือกพลิกที่จะให้ยุบเพียงเพราะว่าความหละหลวมของกฎหมาย ไม่มีรายละเอียดที่ชัดเจน
นี่ยังไม่นับเรื่องการยื่นเรื่องที่ส่งเรื่องแบบทันทีทันได้ของ กกต. (เมื่อคนขี้ฟ้องส่งเรื่องไปให้ กกต. พิจารณา) เมื่อเทียบกับอีกพรรคที่มีกรณีของการขายโต๊ะจีนระดมเงินทุนจากนายทุนต่าง ๆ
มันเคลียร์ครับว่า กฎหมายที่หละหลวมมันออกแบบมาเพื่อจัดการกับฝั่งตรงข้าม ไม่ใช่พวกตนเอง
Coder | Designer | Thinker | Blogger
[ เ ฮ้ อ ... ][ รู้ดี ] ไปหมด ยกเว้นรู้ว่า [ PDF ฉบับหนึ่ง เขียนอะไรไว้ ]
เมื่อพรรคอนาคตใหม่ไม่ชำระดอกเบี้ยรายเดือนตามสัญญา ก็ไม่ปรากฏว่านายธนาธร กระทำการใดที่แสดงว่าจะบังคับชำระหนี้คืน แต่กลับทำสัญญาแก้ไขขยายเวลาชำระดอกเบี้ยให้พรรคอนาคตใหม่ กรณีจึงเป็นการทำนิติกรรมอำพราง นิติกรรมให้หรือบริจาคเงินแก่พรรคอนาคตใหม่ซึ่งมีมูลค่าเกินกว่า 10 ล้านบาท เมื่อนายธนาธร ได้บริจาคเงินให้แก่พรรคอนาคตใหม่แล้ว 8.5 ล้านบาท (ปี 2562) จึงไม่สามารถบริจาคเงินหรือประโยชน์อื่นใดแก่พรรคอนาคตใหม่เกินกว่า 1.5 ล้านบาทได้อีก ดังนั้นการที่นายธนาธรให้หรือบริจาคเงินแก่พรรคอนาคตใหม่โดยการทำสัญญากู้ยืม 2 ฉบับ 191.2 ล้านบาท จึงขัดต่อ พ.ร.บ.พรรคการเมืองฯ มาตรา 66 วรรคหนึ่ง และมีโทษตามมาตรา 124 เงินดังกล่าวมิชอบด้วยกฎหมาย จึงขัดต่อมาตรา 66 วรรคสอง และมีโทษตามมาตรา 125 อีกทั้งการที่พรรคอนาคตใหม่รับเงินกู้ยืมดังกล่าว จึงเป็นการรับบริจาคเงินหรือประโยชน์อื่นใดโดยรู้หรือควรจะรู้ว่าได้มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือมีเหตุอันควรสงสัยว่ามีแหล่งที่มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย จึงฝ่าฝืนมาตรา 72 เป็นเหตุให้ยุบพรรค ตามมาตรา 92 วรรคหนึ่ง (3) ประกอบมาตรา 93
ขอดูว่าจะ เฉไฉ ด้วยวิธีการอะไรต่อนะครับ Google ไวๆนะครับ รออยู่
ผมรอตอบด้วยคำตอบเดิมๆที่ผมตอบมาเกิน 20 รอบ เพราะพวกนี้สุดท้ายก็ลอกการบ้านคนอื่นมาเป็นชุดแบบเดิมๆ
พูดจาออกจากพิมพ์เดียวกันเหมือนตุ๊กตาที่ไม่มีสติปัญญา
ไม่ใช่ว่าผมไม่รู้ตรงนี้นะคุณ ผมฟังทุกประโยค รู้ทุกประโยค เข้าใจทุกประโยค
แต่ประเด็นที่ผมพิมพ์นั้น มีเจตนาเพื่อ เน้นย้ำว่า ทุกคน รู้อยู่แล้วว่าจะเกิดอะไรขึ้นไม่ใช่ทำเฉไฉ ที่คุณพิมพ์มาเนี่ย ไม่ใช่ว่าคนอื่นไม่รู้ ไม่เข้าใจ ทุกคนที่ติดตามข่าวนี้รู้อยู่กับใจอยู่แล้วว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น และทุกคนที่ติดตามข่าวนี้ รู้ด้วยซ้ำว่าเขาจะตัดสินยังไง มีเพียง 2 สิ่งเท่านั้นที่ไม่มีใครทราบคือ ตัดสินด้วยข้อหาอะไร แล้วบทลงโทษคืออะไร
ผมย้ำอีกรอบนะครับว่า
ในข้อสุดท้ายนี้ ผมจะย้อนกลับไปที่เนื้อหาของข่าวนี้นะครับ จากที่ผมได้พูดคุยกับคนที่ทำงานในกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมในหน่วยงานหนึ่ง (ขอสงวนนามของผู้ที่พูดถึง) และเขาก็เล่าให้ผมฟังว่า รัฐมนตรีคนนี้ไม่ค่อยได้สนใจอะไรเท่าไรเลย เสนออะไรไปก็เหมือนลมผ่านหู หน้าที่ของศูนย์ข่าวปลอมทุกวันนี้มีเพียงแค่ รับเรื่อง แล้วส่งไปให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และทุกวันนี้ รัฐมนตรีก็ไม่ได้ทำงานอย่างอื่นนอกจากจะไปจี้เรื่องข่าวปลอม ทั้งที่ความเป็นจริง กระทรวงนี้มันควรเป็นกระทรวงที่ผลักดันการใช้งานดิจิทัลในระดับประเทศ และผู้บริหารต้องมีวิสัยทัศน์ในการบริหารระบบดิจิทัลและการวางนโยบายที่ตอบสนองเรื่องนี้มากกว่าที่จะเอาเวลาไปตามจับข่าวปลอมที่โจมตีพวกเดียวกัน
และก่อนที่จะถาม ผมพูดกันตามตรงนะครับว่า ศูนย์ข่าวปลอมที่ออกมานี้ ทำมาไม่มีมาตรฐาน เพราะถ้าอิงจากหลักการของ International Fact-Checking Network (IFCN) ที่มีการจัดตั้งโดยสถาบัน Poynter และได้รับการยอมรับในระดับสากล ได้มีการระบุว่า หน่วยงานการตรวจสอบข่าวปลอม ต้องไม่ได้มาจากรัฐบาล มีการเปิดเผยเรื่องเงินทุนการจัดตั้ง (จริง ๆ มีรายละเอียดที่มากกว่านี้มาก แต่ขอทิ้งไว้แค่นี้ เพราะคุณน่าจะอ่านเองได้)
อันที่จริง กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เคยมีแผนที่จะจัดตั้ง Thailand Fact-Checking Network (TFCN) ด้วยซ้ำ แต่ภายหลังจากรัฐมนตรีคนนี้เข้ามา โครงการดังกล่าวก็ถูกล้มเลิกไปโดยปริยาย
ผมคิดว่า แนวทางที่ดีที่สุดสำหรับผมคือปล่อยให้คุณพิมพ์ต่อไปคนเดียวจะดีกว่า เพราะดูจากอาการแล้ว น่าจะกู้ไม่กลับแล้วล่ะครับ
Coder | Designer | Thinker | Blogger
นับถือในความพยายามอธิบายของคุณนะ ส่วนผมนี่ปล่อยผ่านไปนานแล้ว ฮ่า
That is the way things are.
เอาจริง ๆ ผมเคยเสียเวลาถกดราม่าบางอย่างกับท่านด้วยนะ (น่าจะนานแล้ว คงลืมไปแล้ว)
Coder | Designer | Thinker | Blogger
การถกเถียงกันเป็นเรื่องปกติสำหรับผมนะ แต่ก็ต้องว่าไปตามเหตุผล ถ้าอะไรที่มันหลุดเหตุผล หลักการ หลักฐานไปมาก ๆ ผมก็ปล่อยวาง
That is the way things are.
โอเคครับ ผมก็คิดว่าเป็นเรื่องปกตินะครับ อีกอย่างคือแต่ก่อนกับตอนนี้มันต่างกัน context คนละเรื่องกัน
ยังไงก็ยินดีที่ได้พูดคุยกับท่านครับ
Coder | Designer | Thinker | Blogger
1 ) คอมเมนต์ที่สองคุณยืนยันว่า ศาลยุบพรรคอนาคตใหม่เพราะตัดสินว่าเป็น "เงินกู้"คอมเมนต์ที่สามของคุณก็ดูเหมือนจะไม่มีการพูดเรื่อง "เงินกู้" ซะแล้ว
เอกสารคำพิพากษาก็ระบุว่าการตัดสินเนื่องจากเป็น "นิติกรรมอำพราง" และเป็นรูปแบบการบริจาคนี่ครับ ? ตรงใหนที่ตัดสินว่า "เป็นเงินกู้" ? จนทำให้คุณนำไปเปรียบเทียบกับการกู้เงินของพรรคอื่นๆที่ถูกกฎหมาย เป็นการกู้โดยมีการชำระดอกเบี้ยตามปรกติ
พรรค อคม ทำสัญญากู้ แต่พอไม่ชำระดอกเบี้ยตามสัญญา เจ้าหนี้ก็ไม่บังคับคดีแถมยังแก้ไขสัญญาเอื้อประโยชน์ในการหลีกเลี่ยงการจ่ายดอกเบี้ยอีก .
ก็แปลว่าคุณยอมรับคำตัดสินของศาลในประเด็นนี้แล้วใช่หรือไม่
ถ้าไม่ใช่ ช่วยยืนยันหน่อยได้ใหมครับว่าในความคิดของคุณ. ศาลตัดสินลงโทษเพราะเป็น "เงินกู้"
ตามที่คุณกล่าวในคอมเมนต์ที่สองใช่หรือไม่ ?
ประเด็นที่คุณพยายามบ่ายเบี่ยงไม่ตอบผมจะพิมพ์ไว้ข้างบน เพื่อไม่ให้ปะปะกับประเด็น [ออกทะเล] ที่คุณพยายามสร้างใหม่นะครับ :) ไม่ต้องห่วงครับ ออกนอกเรื่อง 100 ประเด็น ผมก็จะ retain ประเด็นที่คุณหลบเลี่ยงไว้ข้างบนเสมอครับ
1) แม้แต่คำพิพากษาที่มีรายละเอียด และเปิดโอกาสให้คุณโต้แย้งเป็นประเด็นได้อย่างละเอียด คุณก็ไม่สามารถอธิบายได้ว่าอยุติธรรมตรงใหนอย่างไร ซ้ำยังอ้างว่าศาลตัดสินว่าเป็นเงินกู้ ทั้งที่ไม่เห็นมีในคำตัดสินสักนิด
2) [ที่ไม่ได้ตัดสินว่าผิดกฎหมายแต่อย่างไร] --> ศาลสามารถตัดสิน "สิ่งที่ไม่เคยถูกฟ้องร้องเรียนเป็นคดี" ได้ด้วยหรอครับ ?
ดังปรากฏในคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ 14/2562 วันที่ 20 พ.ย. 2562 ปรากฏข้อเท็จจริงในคำวินิจฉัย หน้าที่ 22 และ หน้าที่23 ว่านายธนาธร อ้างว่าได้ขายหุ้นสื่อให้แก่ นางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจในวันที่ 8 ม.ค. 2562 และนางสมพร ได้ชำระเงินค่าหุ้นสื่อจำนวนเงิน 6,750,000 บาท โดยสั่งจ่ายด้วยเช็ดธนาคารกรุงศรีอยุธยา ฉบับ ลงวันที่ 8 มกราคม 2562 แต่ปรากฏว่านำเช็คไปเรียกเก็บเงินเข้าบัญชีนายธนาธร ในวันที่ 16 พ.ค. 2562 เป็นระยะเวลานานถึง 128 วัน เป็นเวลาถึง 4 เดือนเศษนับจากวันออกเช็ค ซึ่งเป็นวันที่ 8 ม.ค. 2562 ศาลเห็นว่า นายธนาธร สามารถนำเช็คเข้าบัญชีตั้งแต่ วันที่ 9 ม.ค. 2562 แต่กลับนำเข้าบัญชี วันที่ 16 พ.ค. 2562 ประเด็นดังกล่าวเป็นข้อเท็จจริงสำคัญ ศาลจึงไม่เชื่อว่ามีการซื้อขายหุ้นเกิดขึ้นจริงในวันที่ 8 ม.ค. 2562
ซึ่งแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับกรณีการขายหุ้นสื่อของน.ส.วทันยา วงษ์โอภาสี ซึ่งปรากฏหลักฐานการสั่งขายหุ้นเกิดขึ้นในวันที่ 11และ12 ธ.ค. 2561โดยขายหุ้นสื่อทั้งหมดผ่านโบรกเกอร์ 3 บริษัท ซึ่งเป็นบริษัทหลักทรัพย์ตัวแทนขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ และต่อมาบริษัทตัวแทนขายหุ้น ก็ได้โอนเงินค่าหุ้นสื่อเข้าบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ ธนาคารไทยพาณิชย์ ชื่อบัญชี น.ส.วทันยา วงษ์โอภาสี ในวันที่ 13 และ 14 ธ.ค. 2561 ยอดเงินรวม 41 ล้านบาท ซึ่งมีหลักฐานการโอนเงินปรากฏอยู่ในสมุดเงินฝากธนาคารของน.ส.วทันยา วงษ์โอภาสี
ตามกฏหมายแล้วจึงถือว่าได้มีการขายหุ้นสื่อเสร็จสิ้นสมบูรณ์แล้ว ดังนั้น น.ส.วทันยา วงษ์โอภาสี จึงขาดจากการเป็นผู้ถือหุ้นสื่อ ตั้งแต่วันที่ 14 ธ.ค. 2561 ซึ่งต่อมาอีกประมาณ 2 เดือน ได้ไปสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส จึงไม่มีปัญหาเรื่องการขาดคุณสมบัติเพราะเหตุแห่งการถือหุ้นสื่อ ดังที่ น.ส.พรรณิการ์ วานิช ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคอนาคตใหม่ ร้องต่อ กกต.
3) ถ้าคุณพิสูจน์ประพจน์สองข้อข้างบนไม่ได้ ประพจน์ที่สามของคุณย่อมไม่สามารถเป็น true ได้
4) ตัวคุณเองโจมตีศาลว่าไม่ยุติธรรม แต่ไม่เห็นลงรายละเอียดว่าไม่ยุติธรรมยังไงแถมยังเอาคดีที่ฟ้องในระบบยุติธรรม มาปะปนกับข่าวลือเล่าอ้างที่ไม่มีการฟ้องดำเนินคดี ( และก็ไม่เห็นมีใครไป ฟ้องมาตั้งเป็นปีแล้ว)
5) พยานบอกเล่าไม่สามารถรับฟังได้ ผมจึงไม่จำเป็นต้องเชื่อและ ไม่จำเป็นต้องสนเรื่องรัฐมนตรี ซึ่งไม่เกี่ยวอะไรเลย
กับประเด็นของเรื่องคือเรื่องคดี "เงินกู้" พรรคอนาคตใหม่แต่การพิสูจน์ " การรับรู้เรื่องคดีความเงินกู้พรรค อคม ของคุณ " จะเป็นบทพิสูจน์ต่อความสำคัญของ
"ระบบข่าวปลอมในอินเตอร์เนต" ซึ่งสัมพันธ์กับหัวข้อกระทู้นี้โดยตรง :)
6) ทำไมคนที่อ้างเรื่องมาตรฐาณระดับสากล / องกรณ์สากล
จึงนำคดีความที่อยู่ในศาล มาเปรียบเทียบปะปนกับ
สิ่งที่ไม่เคยถูกฟ้องดำเนินคดีความ
และตั้งคำถามว่าทำไมศาลตัดสินอันแรก แต่ไม่ตัดสินอันที่สอง ??
นี่คือมาตรฐาณสากล หรือมาตรฐาณของคุณกันแน่
ถ้าไม่ตอบ ก็แปลว่าคุณยอมรับโดยสดุดี ว่าคดี "เงินกู้" ของธนาธร และการยุบพรรคอนาคตใหม่ เป็นการพิพากษาด้วยความสุจริตและเที่ยงธรรม
ส่วนคอมเมนต์ที่อ้างแต่ว่า "อย่าไปเชื่อเอกสารของรัฐบาล"
การพิพากษาของศาลมาจากข้อมูลที่พรรคอนาคตใหม่มอบให้เอง ทั้งวันเดือนปีที่มีการชำระหนี้ หลักฐาณการชำระดอกเบี้ย
หลักฐาณการทำสัญญากู้ การแก้ไขสัญญากู้กลางคัน ทุกอย่างมาจากพรรคอนาคตใหม่ และธนาธร เองทั้งนั้นนะครับ
>>>>>>>>>>>>>>>
แปลกใหม ? คุณอ้างเรื่องต่อต้านข่าวปลอมสากล แต่คุณไปเอาข่าวเรื่องหุ้นสื่อมาดามเดียร์ (ไม่เคยเป็นคดี ไม่เคยมีใครฟ้องร้อง เพราะมันไม่มีมูล) มาอ้างว่าศาลไม่ยุติธรรมเพราะไป ตัดสินคดี วีลัค แต่ไม่ตัดสินข่าวลือ ของมาดามเดียร์
แปลกใหม ? คุณอ้างกฎหมายไทยบิดเบี้ยวได้อิสระ แต่ตัวคุณอ้างศาลตัดสินหุ้นสื่อว่าเป็น "เงินกู้" ทั้งที่ศาลตัดสินว่า "เป็นการรับประโยชน์"
แปลกใหม ? คุณบอกว่าเรารู้ ทุกคนรู้ รู้ดีไปหมดทุกเรื่อง แต่คุณกลับไม่รู้รายละเอียดของคดีเงินกู้ธนาธรเลยแปลกใหม ? คุณบอกว่ามีการตั้งธงไว้ มีการกลั่นแกล้งรุมกลั่นแกล้ง แบบนั้นแบบนี้ แต่เอกสารหลักฐาณ
วันเดือนปีการชำระหนี้ การแก้ไขสัญญา ล้วนมาจากฝ่าย พรรคอนาคตใหม่ และเจ้าหนี้ ธนาธร เองทั้งนั้น ?
จบนะครับ ผมไม่ตอบคุณทุกประเด็นทั้งในนี้และในที่คุณเขียนมาด้วย เพราะผมย้ำอีกรอบว่ามัน "เปล่าประโยชน์" สำหรับคนอย่างคุณ
Coder | Designer | Thinker | Blogger
นอกเรื่อง "ต่อล้อต่อเถียง" นะครับ
ครับผม โทษที
Coder | Designer | Thinker | Blogger
ประหารรรรรรรร
* *
* ඞ * ** * * *
* Be1con was not the imposter *
Coder | Designer | Thinker | Blogger
1) ปล่าวนะครับ จนถึงตอนนี้คุณก็ ไม่ได้ตอบคำถามแม้แต่คำตอบเดียว ไม่มีรายละเอียดใดๆแม้แต่นิดเดียว มีแต่นอกเรื่องชักแม่น้ำไปเรื่องโน่นไม่น่าเชื่อ นี่ไม่เป็นธรรม แต่พอคุยรายละเอียดคุณหนีหมดเลย
2) ประเด็น 2.1) คดีเงินกู้ อคม คุณอ้างว่าศาลตัดสินว่าเป็นเงินกู้ แต่พรรคอื่นทำไมกู้ได้2.2) ประเด็นใหม่ที่คุณเปิดมาเองเละเอง คดีหุ้นวีลัค vs ทำไมมาดามเดียร์ไม่โดนศาลตัดสิน
3) คงไม่มีใครกดติดตามคนที่ดูเหมือนจะว่างงานหรอกครับ (ฮา) เพียงแต่ HR เค้าสนใจผมก็เลยส่งไปให้เค้าติด black label ไว้แค่นั้นเอง คงไม่ว่างไปตามดูชีวิตเด็กว่างน่ะครับ junior ในทีมก็เยอะแล้ว ขออภัยที่ทำให้ผิดหวัง
4) แยกให้อ่านง่ายๆ เพราะเกรงเด็กอ่านไม่รู้เรื่อง
5) น่าจะปล่าวประโยชน์อยู่พอสมควรเลย (ฮา)
การแสดงความคิดเห็นในอินเตอร์เนตเป็นเรื่องเสรี แต่ต้องไม่ลืมว่าทัศนคติ ตรรกศาสตร์ที่แสดงออกมา ล้วนแต่เข้ามือ HR ทั้งสิ้นนะครับ
ส่ง friend request ไปให้คนอื่นเพื่อให้ hr แปะป้ายบัญชีดำ? (งงกับวิธีการใช้เฟสบุค ส่งชื่อเจ้าตัวให้ hr ก็จบแล้วป่ะครับ? ทำไมต้องส่ง friend request อ่ะ)
ฟ้อง hr ด้วย?
ไม่สนใจ แต่รู้ด้วยว่าเค้าว่างงาน?
ไม่สนใจ แต่ตามหา Facebook ของเค้าจนเจอ?
ไม่เคยส่ง Friend Request และก็ไม่ได้ยุ่งกับ FB ด้วยนะครับHR เขาแค่เอาชื่อไปเสิร์จในเวบสมัครงานยอดนิยมก็มีโปรไฟล์โผล่มาเป็นพรืดแล้ว
ของมันต้องหาด้วยหรอครับ ก็แปะไว้ใน blognone profile อวดชาวโลกเองโฆษณาตัวเองอย่างนี้ จะคาดหวังอะไร ?
ถามเฉยๆ ครับ จะขิงอะไรนักหนา
เพียงแค่จะเอาชนะทางความคิด นำเสนอเหตุและผลในมุมตนเองก็น่าจะเพียงพอนะครับต้องระรานกันถึงขนาดนี้เลย?
คำว่า "ปล่าว" ไม่มีความหมายนะครับ
โอ้ เพิ่งเห็นว่านี่เป็น account ใหม่ สมัครมาเพื่อถกเเถียงโดยเฉพาะ ผมว่าดูคุณก็ให้ความสนใจกับการถกเถียงพอสมควรเลยนะครับ ทั้งเสียเวลาสมัคร เสียเวลาพิมพ์ตอบ ยังเสียเวลาไปคัดลอกรายชื่อส่งไปให้ HR อีก
That is the way things are.
HR เค้าอ่านเมนต์แล้วสนใจเองน่ะครับ ผมไม่ได้ทำอะไรเรยยยยยหน้าแตกภาพพจน์จอมปลอมพังทลายแล้วร้อนหัวกันใหญ่ (ฮา) สนุกฝุดๆเลยครับ
เคยลองวิเคราะห์จิตใจตัวเองไหมครับ น่าจะลองถามตัวเองดูบ้างนะครับว่าทำไมสนุกกับเรื่องแบบนี้ การสนุกกับเรื่องแบบนี้ดีหรือไม่ดีอย่างไร น่าสนใจนะครับ เผื่อจะได้เข้าใจกระบวนการคิดของตัวเองมากขึ้น
ส่วนเรื่องโดนขึ้นบัญชีโดย HR ผมว่านะ ท่าน Be1con อาจจะไม่ได้สนใจก็ได้ บริษัทคุณไม่สนใจเขา เขาก็อาจจะไม่ได้สนใจบริษัทคุณเช่นกัน อีกอย่างเรื่องบลัฟพวกนี้ใครก็พิมพ์ได้ครับ ความน่าเชื่อถือมันไม่ได้มากขนาดนั้น ยิ่งกับคนที่มีพฤติกรรม "ร้อนตัว" จนต้องไปสมัคร account ใหม่มาเถียงกับคนอื่น คำพูดนี่ผมแทบไม่ได้ให้ค่าอะไรเลยครับ
ส่วนที่บอก "หน้าแตก" "ภาพพจน์จอมปลอม" อ่านแล้วก็ไม่ค่อยเข้าใจว่าหมายถึงเรื่องไหนของผมนะ ผมไม่มีอะไรต้องหน้าแตก ไม่มีภาพพจน์อะไรที่นี่ด้วย เป็นแค่สมาชิกที่มาอ่านข่าวและนาน ๆ จะเขียนข่าวที่ผมสนใจสักทีแค่นั้นเอง คุณน่าจะเข้าใจอะไรผิด หรือไม่ก็หลงอยู่ใน "จินตนาการ" อะไรบางอย่างนะครับ
อ่อ แล้วเรียก HR มาอ่านต่อด้วยก็ดีนะครับ อยากรู้ว่าเขาอ่านแล้วเขาคิดอย่างไรกับวิธีการใช้เหตุผลในการโต้เถียง วิธีการหยิบคำพูดลอย ๆ มาจากไหนก็ไม่รู้ ถ้า HR ที่คุณว่ามีตัวตนอยู่จริง ไม่ได้คิดมโนไปเองนะครับ
ดูจากลักษณะวิธีการพิมพ์ของคุณ คุณเองก็ไม่ได้อายุเยอะเท่าไรหรอกครับ ;D
That is the way things are.
เจ้าตัวไม่อยู่แล้ว ผมเขียนเลยละกัน
เอาจริง ๆ ผมไม่สนคนพวกนี้เท่าไรนะ และผมเองก็ไม่คิดสนใจที่จะสมัครงานกับคนเหล่านี้ด้วย แบนได้แบนไป ผมหางานทำกับคนอื่น ๆ ได้ ไม่ซีเรียส (และเอาจริง ๆ เขากล่าวหาว่าผมว่างงาน แต่หารู้ไม่ว่าผมมีงานทำนะ ส่วนที่พิมพ์ไปยาว ๆ เรื่องช่วงหลังนี่ เพราะว่าผมสัมผัสกับระบบราชการจริง ๆ เลยเล่าให้ฟังได้)
ส่วนภาพพจน์ที่ว่า เขาเห็นภาพโปรไฟล์ผมใน Facebook (คิดว่าใน LinkedIn ด้วย เห็นมีแจ้งเตือนมาว่ามีคนมาดูโปรไฟล์คนนึง) ซึ่งผมเฉย ๆ นะ เพราะเอาเข้าจริง ผมเปิด profile เป็น public ไว้นานละ และใครจะกดติดตามอะไรต่าง ๆ ก็กดได้ แต่ผมเพิ่งปิดรับไม่ให้แอดไป เพราะส่วนใหญ่คนเข้ามาถามหลังไมค์เรื่องเกมเสียส่วนใหญ่ (ฮา)
ผมไม่แคร์นะว่าจะแบนหรืออะไรก็ตาม เพราะนั่นเป็นเพียงแค่ dimension เดียวของการคัดคน ส่วนมากเขาคัดที่ประสบการณ์และทัศนคดิในการทำงาน ถ้าเขาคิดว่าผมไม่ fit กับองค์กรเขา ผมก็ไม่ได้ซีเรียสอะไร ดีไม่ดี คนที่เขียนนั้นอาจจะทำ software house เล็ก ๆ ที่ได้รับผลประโยชน์จากภาครัฐหรือฝ่ายรัฐบาลก็ได้ ใครจะไปรู้ (ย้ำว่าสันนิษฐานไว้เฉย ๆ ไม่ได้บอกว่าต้องเป็นแบบนี้นะ)
TL; DR: I don't care...
Coder | Designer | Thinker | Blogger
ยังอยู่ครับ มีบัญชี Nibbu (ยังอยู่) กับ Nubbu (โดนแบน)
เข้าใจว่าเกินโควต้าจำนวนเม้นใน 1 วันเลยต้องสมัครมาเม้น
ผมก็ยังอยากรู้ว่าทำไมบัญชีอีกอันโดนแบน
ถือว่าสมัครบัญชีอีกอันมาปั๊มครับ แบนเพราะเรื่องนี้
ป.ล. โควต้าต่อเดือนครับ ไม่ใช่ต่อวัน... ถ้าจะกลับมาอีกรอบ ก็คงเดือนหน้าเลย
Coder | Designer | Thinker | Blogger
Nubbu > Nabbu เขียนผิดครับพี่สรุป - Nabbu (Banned) - Nibbu (still not banned)
ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว
ประสพการณ์เขียนบล้อกอันยิ่งใหญ่วิจิตรสมาหลา ทีมอ่านแล้วขำกันทั้งออฟฟิสเลยอ่ะครับ (ฮา)ขอบคุณที่เรียกเสียงหัวเราะยามเย็นให้กับทีมนะครับ lol
It's up to you, enjoy your fantasy world. I don't care.
Coder | Designer | Thinker | Blogger
บังเอิญทีมผ่านเข้าไปอ่านอีก?
หยุดโกหกเถอะครับ โกหกว่าขำ โกหกเรื่องทีมงาน โกหกอะไรก็แล้วแต่ เกรียนรับประทานไปเรียบร้อย
ไหวมั้ยครับเนี่ย
ผมไม่รู้ว่าอันไหนโกหกอ่ะนะ หรือโกหกทั้งหมดก็ไม่รู้ เห็นบอกว่า HR มาเห็นเอง แต่เม้นก่อนบอกว่าส่งให้
คืออยากรู้ว่าอันไหนจริงอ่ะครับ ไม่ต้องขิงนะ ผมไม่ได้เข้าข้างใคร แค่สงสัย ไม่ต้อง insecure มาโจมตีผมอีกนะ
เขาน่าจะโรคจิตแล้วล่ะ อ้างแถมขู่สารพัด หัวเราะเองสะใจเองอะไรก็ไม่รู้ ผมนี่งงเลย
แหม พวกชอบทหารทำไมนิสัย(หรือสติปัญญา?)แบบนี้ทุกคนเลยหล่ะครับนี่ ไม่สนุกเลย
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
HR คุณเก่งมากครับ มาไล่อ่านจนสนใจ ผมนี่เป็นคนในเว็บแท้ๆยังทำใจอ่านไม่หมดเลยครับ คุณแถมาไกลเกินอ่ะ
เค้าอาจเป็น hr เองแต่พูดให้คลุมเครือดูเหมือนว่ามีคนอีกคนที่เป็น hr ก็ได้ครับ
หรืออาจไม่มี hr ไม่มีอะไรแบบที่เค้ากล่าวมา แต่พูดเพราะคิดว่าจะ intimidate คนอื่นได้
ผมยังงงๆ ว่าใครเค้าจะแคร์ว่า hr ของบ.เค้าขึ้นบัญชีดำนี่สิ
+1
อ่านก็งงเอา HR มาขู่มันน่ากลัวตรงไหน
แต่ที่สงสัยกว่าคือ ทำไมต้องระรานด้วยการข่มขู่
ถกกันไปมา โน้มน้าวเหตุผลไม่ได้ก็จบ แยกย้าย
เคยเห็นแต่เด็กนักเรียนวิ่งไปฟ้องคุณครู
หรือแก่แล้วเลยต้องวิ่งไปฟ้อง HR
พอตอนจบวันก็ทึกทักเอาเองว่าทุกคนหัวร้อน แล้วก็หัวเราะสะใจ ไม่แน่ใจว่าโกหกตัวเอง หรือคิดแบบนั้นจริงๆ แล้วก็ไม่แน่ใจว่าสะใจจริงๆ หรือคิดว่าทำให้คนอื่นรู้สึกแย่ได้ (ผมดูแล้วสมเพชอ่ะนะ แทนที่จะคุมตัวเองให้อยู่ในประเด็น)
ผมถึงบอกว่าไม่แน่ใจว่าอันไหนโกหก เหมือนกลไกการเอาตัวรอดสั่งให้ทำนั่นทำนี่ ก็เลยดู fake ไปหมด
อันนี้ไม่รวมในส่วนของการโต้เถียงในตอนแรกนะ อันนั้นถือว่ามีความพยายามมากอยู่ แม้จะไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ เลย เพราะเล่น quote มาแปะอย่างเดียว
เห็นว่า Nabbu น่าจะถูกแบน (ชั่วคราว?) ไม่แน่ใจว่าด้วยสาเหตุอะไรครับ?
คุกคาม?
น่าจะโดนแบนถาวรครับ เพราะเข้าดูหน้า Profile ไม่ได้แล้ว ขึ้นว่า Unauthorized ส่วน Nibba ก็พึ่งสมัครไม่ถึงวันด้วย คนเดียวกันอยู่แล้ว ชื่อคล้ายกันอีก
ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว
สาเหตุคือลอกหนังทำความปวดร้าวให้ขาใหญ่ประจำบอร์ดหน้าแตกทางเหตุผล ไปสองรายรัวๆครับ ( LoL )
อินเตอร์เนตมันต้องยังงี้
ผมแซะเค้าอ่ะครับ HR บ้าที่ไหนทำงานแบบนี้ ตัวเค้าเองก็พูดไปแพ้ไปแล้วก็เริ่มพาลแค่นั้นแหละครับ
นับถือคุณ Be1con ที่ตั้งใจทั้งอ่านทั้งพิมพ์เถียงขนาดนี้ แต่ส่วนตัวผมว่ากับคนบางคนที่เราเห็นท่าที่เค้าชัดตั้งแต่แรกว่าเปล่าประโยชน์แล้วก็ไม่ต้องทำตัวให้เสียเวลาก็ได้ครับ ไร้สาระมากๆ
เอาจริง ๆ ผมอ่านไม่หมดหรอกครับ (ฮา) แต่ผมพอจะเดาได้ว่าพล็อตเดิม defend แบบเดิม กันแบบเดิม
คนพวกนี้มันมีในสังคม กลุ่มคนที่สักแต่ว่าโจมตีคนที่เห็นต่าง คิดต่าง สิ่งที่ชัดเจนมาก ๆ ก็ไม่จัดการ เพราะเป็นพวกเดียวกัน แต่ฝั่งตรงข้ามจัดการตลอด
เท่าที่ดูผมคิดว่าน่าจะเป็นไบโพล่าและโรคซีมเศร้านะครับ เพราะมีคนที่เรียนรุ่นเดียวกันจบมาเป็นแบบนี้เหมือนกัน และกำลังรักษาตัวอยู่
Coder | Designer | Thinker | Blogger
ท่องเป็นนกแก้วนกขุนทองเลย 55555
จะเอาอะไรมากกับคนที่เชื่อเอกสารจากรัฐบาลทุกอย่าง และกฎหมายที่คุณก็รู้ว่าอยู่ในมือใคร 55555
นั่นแหละครับ เชื่อเอกสารจากรัฐบาล และเชื่อสื่อเพียงข้างเดียว
Coder | Designer | Thinker | Blogger
**หลักฐาน
โคตรฮา เหมือนคนในยุคที่ยึดกรมประชาสัมพันธ์ได้ ก็ยึดช่องทางการสื่อสารได้ สมัยแบบนั้นเลย ฮา
ที่รู้สึกว่าวิปริตขึ้นเรื่อยๆเพราะ Twitter Facebook มันแสดงโพสเรียงตาม Controversial นี่แหละ โพสไหนดราม่าเยอะๆยิ่งแสดงเยอะ เพราะโพสแบบนี้มันดึงให้คนอยู่ในเว็บได้ หันไปทางไหนเลยรู้สึกว่ามีแต่เรื่องเลวร้ายเต็มไปหมด
ถ้ารู้ว่าโลกวิปริต เพราะอินเตอร์เนต แล้วก่อนที่คุณเข้ามาพิมพ์เนี่ยต้องต่อเนตก่อนไหม
เขาไม่รู้ว่ามันคืออะไร ควบคุมก็ไม่ได้ ก็เลยไม่ชอบมั้ง
ขำในความพยายามจะกล่าวร้าย จริง ๆ คุณเลือกเองได้อ่ะว่าจะเอาข้อมูลอะไรใส่เข้าไปมั่ง เลือกได้ว่าจะเสพอะไร เลือกได้ว่าจะเชื่อหรือไม่เชื่อ
จะว่าไปนะครับ
ฟีดผม ทั้ง Twitter และ Facebook มีการแนะนำเนื้อหาที่ "ต่อต้านรัฐบาล" น้อยมาก มีแต่คนรู้จักที่เป็นคนโพสต์เนื้อหาโดยตรง
ยิ่งบน Twitter ผมสงบสุขมาก เพราะอะไร เพราะมันมีแต่รูปสาว ๆ กับรูปการ์ตูน เท่านั้นเอง
คือผมคิดว่า อัลกอริทึ่มที่เขาใช้เนี่ยคือ เขาจะดูที่ความสนใจส่วนบุคลลด้วย ไม่ใช่แค่เรื่องเทรนด์ของบ้านเมือง หรือการปั่นเทรนด์จากใครบางคน รวมทั้งเจ้าของแพลตฟอร์มเองด้วย
อย่างฟีดผมนี่บอกเลย รูปวาบหวิว เยอะที่สุดทั้งสองแพลตฟอร์ม (เป็นชายโสดก็งี้ล่ะครับ)
เรื่องการเมืองทั้งหมดเป็นเรื่องที่คนรู้จักเค้าโพสต์กัน (รวมทั้งพี่ @Hoo ข้างล่างด้วย) ผมไม่ค่อยโพสต์อะไรพวกนี้เท่าไหร่ นาน ๆ ทีเจอเรื่องสนุกทีก็เขียนถึงที หรือถ้าเป็นเรื่องที่เราเดือดร้อนตรง ๆ ก็อาจจะบ่นๆ บ้างนิดหน่อย (เช่นการมีพระออกมาบอกว่า การฆาตกรรมในเกมเป็นบาป ... ดีนะผมเลิกนับถือพุทธแล้ว เอ่อ ผมเดือดร้อนเพราะทำงานสายนี้ครับ ไม่มีอะไร)
เรื่อง Social Media เนี่ย ผมว่าสุดท้ายแล้วมันขึ้นอยู่กับการเลือกที่จะใช้ ถ้าเราดันไปชอบดูพวกข่าวแบบนึง ข่าวแบบนี้มันก็จะโผล่มาเรื่อย ๆ ดังนั้น สิ่งที่เราเห็นก็คือสิ่งที่เราเป็นคนเลือกเองในแง่นึง คือมันก็แนะนำอะไรบางอย่างให้เราดูแหละ แต่ก็เลือกจากสิ่งที่เรามักจะกดเข้าไปดู
อย่าง Lazada, Shopee, AliExpress, พวกนี้เนี่ย ชอบแนะนำจริง ๆ ไอ้ชุดนอนวาบหวิว ผมจะซื้อไปให้ใครใส่ฟะ?
แต่ผมว่าข้อดีอย่างนึงของ Social Media คือ เราพบว่า เนื้อหารายการข่าวบ้านเราก็ชอบไปเอาข่าวที่ไม่จำเป็นต้องรู้มานำเสนอ อย่างพวกข่าวคนถูกหวยอะไรพวกนี้ ผมจะทราบไปทำไม หรือข่าวแบบผู้ชายมีเมียห้าสิบคนเนี่ย เราก็ไม่ได้สนใจขนาดนั้น (เพราะผมมีความสุขกับการเป็นหนุ่มโสด ฮา)
สุดท้าย เรื่อง IO ผมว่ามีจริง ซึ่งปฎิบัติการณ์ที่ใหญ่ที่สุดของ IO ก็น่าจะอยู่บนทีวี และหนังสือพิมพ์นี่ล่ะ คือดูจากว่าข่าวที่เค้านำเสนอมามันทำไมมันดูไร้สาระ ไร้แก่นสารกัน โดยเฉพาะในช่วงที่มันมีเหตุการณ์ใหญ่ ๆ เกิดขึ้น ก็ยังไปเล่นข่าวไร้ราคาแบบนี้มันดูน่าสงสัย อันนี้ผมคิดว่าเค้าก็ทำกันทั่วโลกนั่นแหละครับ ในแพลตฟอร์มต่าง ๆ ก็ต้องระบุไว้เลยว่า ช่องนี้ คนนี้ ถูกสนับสนุนโดยรัฐบาล เพื่อให้คนตั้งข้อสังเกตเป็นพิเศษว่าอาจจะมีวัตถุประสงค์แอบแฝงในการนำเสนออะไรบางอย่างด้วย
แต่ผมชอบดู TPBS นะ ถึงจะไม่ดูข่าวก็ตาม
ถ้าจะแบนอะไรเพราะคิดว่ามันมีแต่สิ่งไม่ดีมากกว่าสิ่งที่ดี นะครับ
แบน IO เนี่ยแหละครับ ถูกแล้ว
ผมก็แปลกใจว่าแทนที่คุณพุทธิพงษ์จะเอาเวลาไปส่งเสริมธุรกิจ หรือกิจการที่เกี่ยวข้องกับกระทรวง ทบวง กรมที่ตนรับผิดชอบในเชิงสร้างสรรค์ แต่งานหลักกลับกลายเป็นมาคอยแจ้งความ ดำเนินคดีคนที่เห็นต่าง
ผมว่าการทำงานมันควรเป็นไปในเชิงสร้างมากกว่าอ่ะนะ
สิ่งที่ผมแปลกใจกว่ามาก คือ ทำไมปล่อยให้เว็บพนัน online อยู่กันเต็มไปหมด อยู่มาอย่างช้านาน หากบอกว่าไม่เคยเห็นเว็บพวกนี้ ก็เข้าไปในเว็บดูหนังการ์ตูน anime ดู จะพบว่า โอ้แม่เจ้า
เอาเวลา ความคิด งบประมาณ มาทำเรื่องเหล่านี้ด้วยครับ และเรื่องเหล่านี้กระทรวงมีอำนาจเต็มที่อยู่แล้วสามารถทำได้เลย“ก่อนทำเรื่องอื่น เพื่อพิสูจน์ตัวเอง”
จริง ยุคนี้เว็บพนัน เว็บโป๊เต็มไปหมด เต็ม fb เลย เดี๋ยวๆ ก็เด้งขึ้นมา ถ้าfb จัดการให้ไม่ได้ก็สั่งปิดกั้น fb จากประเทศนี้ไปเลย
ถ้าคิดขำๆ นี่อาจจะเป็นนโยบายส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัลของกระทรวง DE ก็ได้
จริง ๆ ผมก็สงสัยอยู่ว่าทำไมการพนันถึงต้องผูกขาดโดยรัฐบาล
พวกบุหรี่ด้วยครับ
ผมว่าแกพูดไปงั้นแหละ ทวิตเตอร์ทำตามซิเรื่องแปลก เราไม่ใช่ประเทศมหาอำนาจก็ทำได้แค่นี twitter ก็อยู่ได้ด้วยค่าโฆษณามีประเด็นอะไรใหม่ๆ ที่ทำให้เด็กไปนั่งจ้องน่าจอได้ ก็เอาทั้งนั้น ขอให้เห็นโฆษณาก็พอ ส่วน save นู่นนี่นั่นสำเร็จ ไม่สำเร็จมั๊ย นั่นคืออีกเรื่องนึง เจ้าของแพลตฟอร์มไม่ได้สนใจอยู่แล้ว
บ็อกนันมีพวกคนแก่ว่างงานเยอะเหมือนกันนะ
น่าจะถามตัวเองกลับบ้างนะ ว่างานหลักกระทรวงตัวเองคืออะไร แทนที่จะส่งเสริมให้คนไทยเข้าถึง Digital literacy ให้มากๆ กลับมัวแต่ไล่ฟ้องไล่แบน แล้วเวปพนันเกลือนเมืองขนาดนั้นหลับหูหลับตาไปได้ยังไง อยากรู้เหมือนกัน
ช่วยบอกผลงานดีๆของกระทรวงนี้มาบ้างจะได้ไหม ที่ทำแล้วส่งผลให้ประเทศพัฒนาขึ้นอะ
ทำไมแต่ก่อนตั้งกระทรวงนี้มาเพื่อจัดสรรคลื่นควบคุมคลื่นสร้างผลประโยชน์ได้นะพอสมัยนี้กระทรวงนี้มันทำหน้าที่อะไรของมันหว่าเสียดายภาษีจังเลยครับ มีแต่ข่าวแบบนี้อย่ามาทำให้เสียชื่อเลย
แปลกใจ รมต ต้องทำอะไรบ้าง
เค้าเรียนจบอะไร มาครับ
มัธยม : สาธิตเกษตร
ปริญญาตรี : เศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยโอไฮโอสเตต สหรัฐอเมริกา
ปริญญาโท : MBA จากสวิตเซอร์แลนด์
ประวัติก็ดูดีนี่ครับ แต่ทำไมคิดอะไรไม่เข้าตาซักอย่าง
ผลงานไม่ได้เรื่องสูญเปล่าทางการปฏิรูป
สูญเปล่าทางการศึกษาจริงๆ
ไม่แปลก เรียกว่าการโดนกลืนครับ
ไม่เข้าตาแต่ทำคนเข้าคุก ทำให้กระเช้าขายออกมาหลายรายแล้ว
จบอะไรมาก็ยังไม่สำคัญกว่า เข้ามาตำแหน่งนี้ได้ยังไง
อยากแบนก็แบนเลยครับ จะรออะไรบอกเด็กรุ่นใหม่เอาแต่พูด เอาแต่เรียกร้อง แล้วเจนตัวเองละลงมือทำให้ดูเป็นตัวอย่างหน่อย
ผมว่าเขารู้ตัว แต่ยังดื้อดึงที่จะเชื่อในสิ่งที่ตัวเองคิดอยู่ เพราะผลประโยชน์และอำนาจยังค้ำคออยู่ หรือไม่ได้รู้เลยตั้งแต่แรกอยู่แล้ว
เวลาเท่านั้นที่จะพิสูจน์ผลของการกระทำ หรือต้องรอภัยธรรมชาติทวงคืนแล้วทำลายเผ่าพันธ์มนุษย์จนหมดโลก ทุกอย่างถึงจะดีขึ้นอย่างทันตาเห็น เพราะมนุษย์คือต้นเหตุของปัญหาทั้งปวง
ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว
ต้องขอขอบคุณปลาตัวหนึ่งประมาณ 375 ล้านปีก่อนที่อยากขึ้นมากินอาหารบนบก จนทำให้เกิดปฏิกิริยาลูกโซ่กลายเป็นมนุษย์ยุคปัจจุบัน
ถ้าคิดว่าคำสั่งมันสำคัญ มีความจำเป็นต้องปิดกั้น แทนที่จะเอาเวลามาสงสัย เอาเวลาไปสั่งปิดกั้น facebook, Twitter เลยดีกว่า กล้าหรือเปล่า?
แน่จริงก็สั่งปิดกั้น FB twitter ทั้งเว็บเลยสิเห่าอยู่เนี่ย
บล็อคFacebook,twitter ง่ายกว่าไหมคนไทยเราเก่ง ไม่มีโซเชียลแบบนี้ก็น่าจะอยุ่กันได้นะ
แต่น่าจะเป็นไปไม่ได้ เดี่ยวกระทรวงโดนแบนแถมคนสมัยนี้ก็ให้ความสำคัญกับสื่อโซเชียลสะด้วยสิ
twitter ผมไม่เคยอ่านเจอข่าวปลอมเลยสักข่าวนะครับ // หาาาา มันเป็นไปได้ยังไง
-เพราะผมไม่เคยอ่านข่าวใน twitter ครับ // อ้อออ มันเป็นยังงี้นี้เอง คือคุณไม่ได้เล่น twitter-เปล่าครับผมเล่น twitter ครับแต่เล่นเดือนละไม่กี่ครั้งเท่านั้นและตามแต่ช่องที่น่าเชื่อถือ // ช่องอะไรบ้างที่มันน่าเชื่อถือ
-ผมตามแค่ช่องเกมครับ
twitter นะมันไม่ผิดหลอกเค้าก็แบนทุกอย่างที่เค้ามองว่าไม่ดีแต่งานมันเยอะแบนทุกอย่างก็ทำไม่ทันถ้าแค่ข่าวปลอมนะ จดหมาย หนังสือพิมย์ ข่าวช่อง 3 5 7 9 มันก็มีหมดและครับ
โซเชียลจะดีหรือเลวมันอยู่ที่คน
สังคมจะดีจะเลว ก็อยู่ที่คนเหมือนกัน
แบนไป คนเขาก็หาตัวอื่นได้ แถมแก๊งสามนิ้วเพิ่มขึ้นอีก
DE ที่ไม่ใช่ DEไม่เห็นนโยบายเกี่ยวกับ E เลย
คนที่เถียงนี่เค้ากล้าเถียงได้ไงนะ หลักฐานเต็มหน้าขนาดนี้ กล่าวหาอินเตอร์เน็ตเสมือนว่าเป็นสิ่งชั่วร้าย ทั้งๆที่ฝ่ายตัวเองก็ใช้วิธีเผยแพร่เรื่องชั่วร้ายผ่านทางอินเตอร์เน็ตอ่ะนะ
ผมขอนอกประเด็นนิดนึงครับ อยากทราบว่าข่าวที่มีความเห็นสูงสุดใน Blognone นี่เท่าไรอ่ะครับ (แต่ผมชอบนะครับ ได้รับมุมมองหลายๆ ทางดี)
เคยเป็นข่าวการเสียชีวิตของสตีฟจ็อบส์นะครับ จำไม่ได้ว่าเปลี่ยนมือหรือยัง (หรือกระทั่งว่าจำผิดหรือเปล่า) คือหน้าสถิติถูกถอดไปแล้ว orz
ขอบคุณครับ
ข่าว Apple นี่แหละ แต่ข่าวไหนผมจำไม่ได้ละ จำนวนก็จำชัวร์ๆไม่ได้ ไม่แน่ใจว่า 200+ หรือเปล่า แต่จำได้แน่ๆคือมีขึ้นหน้าสองอ่ะครับ
ตอนนั้นยังไม่ได้สมัครสมาชิกเลย อ่านอย่างเดียว
ขอบคุณครับ
มีข่าว 300+ ความเห็นนะครับ จำได้ว่าเป็นดราม่าไม่เรื่องในไทย ก็ดราม่าแอปเปิล
แก้ไข: ข่าวนี้ครับ
Coder | Designer | Thinker | Blogger
อุตส่าห์มี ref มาให้ด้วย ขอบคุณมากครับ