เมื่อปี 2019 มีข่าวใหญ่ในวงการคลาวด์คือกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ได้ ประกาศว่า Microsoft เป็นผู้ชนะการประมูล โครงการ JEDI Cloud ซึ่งเป็นโครงการพัฒนาพื้นฐานระบบคลาวด์ที่จะนำไปใช้ทางการทหาร เป็นโครงการยาว 10 ปี มีมูลค่าสูงถึง 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
หลังจากประกาศว่า Microsoft เป็นผู้ชนะการประมูลก็เกิดเรื่องทันที โดย Amazon ผู้ร่วมประมูลได้ฟ้องศาลว่าอดีตประธานาธิบดี Trump ได้กดดันเพนตากอนไม่ให้ Amazon ได้งานนี้ เนื่องจาก Jeff Bezos ซีอีโอ Amazon เป็นเจ้าของสื่อ Washington Post ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ Trump
ล่าสุดกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ได้ประกาศยกเลิกโครงการ JEDI แล้ว โดย John Sherman รักษาการซีไอโอของกระทรวงกลาโหมระบุว่าในตอนนั้นโครงการ JEDI ก็เหมาะสม แต่ตอนนี้มันกลายเป็นล้าสมัยไปเสียแล้ว และได้ตั้งโครงการใหม่ชื่อ Joint Warfighter Cloud Capability แทน เปิดรับผู้ประมูลทุกรายที่ผ่านเกณฑ์ของกระทรวง ทำให้เป็นโครงการ multi-cloud ไม่มีผู้ชนะรายเดียว ซึ่ง Microsoft, Amazon, Google, Oracle และ IBM อาจผ่านเกณฑ์ของโครงการ
โครงการใหม่นี้จะประกาศผู้ที่ได้งานก่อนกลางปี 2022 และระยะเวลาจะไม่นานกว่า 5 ปี ส่วนมูลค่ายังไม่เปิดเผย
ภาพจาก เฟซบุ๊กกระทรวงกลาโหมสหรัฐ
ฝั่ง Microsoft ที่ดูจะเสียประโยชน์ที่สุดก็ไม่ได้งอแง ออกแถลงการณ์ยอมรับการตัดสินใจนี้โดยระบุว่ากระทรวงกลาโหมเจอการตัดสินใจที่ยากลำบากว่าจะไปต่อกับโครงการเดิมที่ต้องสู้คดีกันไม่จบสิ้น หรือหาทางใหม่ที่จะไปต่อได้ และเพราะความปลอดภัยของสหรัฐอเมริกานั้นสำคัญกว่าสัญญาจ้างฉบับเดียว Microsoft จึงเคารพและยอมรับการตัดสินใจนี้ของกระทรวงกลาโหมเพื่อที่จะไปต่อได้ในเส้นทางอื่น
ด้าน AWS ที่น่าจะได้ร่วมโครงการใหม่แน่ๆ ก็ออกมาบอกว่าสัญญาโครงการ JEDI ไม่ได้ถูกพิจารณาจากข้อเสนอแต่ถูกอิทธิพลภายนอกเข้ามากดดันทั้งที่ไม่ควรเกิดขึ้นในการจัดซื้อจัดจ้างของรัฐบาล
อย่างไรก็ดี กระทรวงกลาโหมก็ไม่ได้ปล่อย Microsoft ที่เริ่มงานไปแล้วให้ขาดทุน โดยระบุว่า Microsoft มีสิทธิ์ยื่นข้อเสนอปิดงานและเรียกร้องค่าเสียหายได้
ที่มา - The Wall Street Journal
Comments
สงสาร ms
ยกเลิกง่ายๆงี้เลยหรอ
ก็ฟัองกันไป
สงสาร Microsoft เลยอันนี้
SITH ถูกใจสิ่งนี้
?
AUTONET ยิ้มสิครับ /ผิด
"ตอนนั้นโครงการ JEDI ก็เหมาะสม แต่ตอนนี้มันกลายเป็นล้าสมัยไปเสียแล้ว" ผ่านมาแค่ 3 ปีเอง ไปกันไวจริงๆ
จริงๆจะบอกว่าเพราะเป็นโครงการของทรัมป์ 555
MS ตอบล้อหล่อ
เห็นนักข่าวสายWindows ิเคราะห์ว่าสุดท้ายก็ต้อง multi cloud มาจริงด้วย แต่ยังสงสัยว่าเวลา implement แต่ละองค์กรต้องไปเลือกเอง
เหมือนทุกฝ่ายจะเข้าใจกันดี เมื่อไม่มีทรัมป์