หลังก่อนหน้านี้มีกรณี Samsung ลดประสิทธิภาพแอปหลายแอปยกเว้น Geekbench และบางเกม เพื่อประหยัดพลังงานและลดความร้อน จนประสิทธิภาพในแอปทดสอบ ไม่สะท้อนการใช้งานจริง ทำให้ ซีอีโอบริษัทต้องออกมาขอโทษ ล่าสุด John Poole ผู้ก่อตั้ง Primate Labs ทีมพัฒนาแอปทดสอบ Geekbench ออกมา โพสต์ทวิตเตอร์ว่าพบพฤติกรรมคล้ายกันบนมือถือ Xiaomi
Poole ทดสอบด้วยการลองเปลี่ยน app identifier ทำให้ Xiaomi Mi 11 มองเห็นแอป Geekbench เป็นเกม Fortnite และลองรันทดสอบ พบว่าคะแนน single-core ลดลง 30% ส่วน multi-core ลดลง 15% เขาระบุว่ากับเกมเช่น Genshin Impact ก็พบผลแบบเดียวกัน รวมถึงชี้แจงกับ Android Police ว่ากำลังเตรียมนำผลทดสอบของมือถือ Xiaomi ออกจากฐานคะแนน Geekbench ภายในสัปดาห์นี้
เว็บไซต์ Android Police เองก็ทำการทดสอบข้อสงสัยนี้ด้วยเช่นกัน บนมือถือ Xiaomi 12 Pro และรุ่นรองลงมาอย่าง Xiaomi 12x พบข้อสังเกตเดียวกัน คือประสิทธิภาพเมื่อหลอกเครื่องว่า Geekbench เป็น Netflix หรือ Chrome น้อยกว่าเมื่อทดสอบแบบปกติ ยกเว้นแค่ การหลอกว่าเป็น Genshin Impact ใน Xiaomi 12 Pro ที่ประสิทธิภาพใกล้เคียงการทดสอบจริง
การปรับประสิทธิซีพียูภาพตามแอปที่ใช้ อาจเป็นวิธีประหยัดพลังงานและจำกัดความร้อนที่มีประโยชน์ แต่ปัญหาที่เกิดในกรณีเหล่านี้คือทำให้ผลคะแนนในแอปทดสอบ ไม่สะท้อนการใช้งานจริง คงต้องรอดูในอนาคตว่าแบรนด์มือถือต่างๆ จะแก้ปัญหานี้อย่างไร เพื่อให้สามารถปรับประสิทธิภาพซีพียูให้เหมาะสม และให้แอปทดสอบสะท้อนการใช้งานจริงได้เช่นกัน
ที่มา - John Poole , Android Police
Comments
กะแล้วว่าหลังกรณี S22 Ultra มือถือยี่ห้ออื่นจะต้องโดนด้วย แล้วก็เป็นไปตามนั้นจริงๆ
แค่มนุษย์คนนึงที่อยากรู้เกี่ยวกับวงการไอที
ไม่จริงหน่าาาา แบรนด์เขาใจดีกำไร 5% สเปคเกินราคาแบบนี้ ไม่ทำไรทุเรศๆ หรอก สงสัยผลไม้จ้างคนมาดิสเครดิตแน่ๆ ไอ้ผลไม้ชั่วๆ แบร่ๆ ?
ถ้าให้แฟร์ ผมว่าเรื่องแบบนี้ควรจะแก้ที่ Geekbench เพราะในเมื่อระบบจัดการพลังงานมันอ้างอิงตาม app identifier และ Android ก็ไม่ได้ออกแบบมาให้จัดการพลังงานเหมือนกับพวกคอมพิวเตอร์อยู่แล้ว จะให้ชี้วัด peak performance ไปพร้อม ๆ กับ UX นี่แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย (จะมีแอปธรรมดาที่ถูกเขียนให้ใช้งานพลังงานต่ำสักกี่ตัวกันเชียว) ควรจะทำแอปแยกหมวดออกไป เช่น Geekbench Gaming หรือ Geekbench UX ทีนี้ถ้าบริษัทมันจะโกงจริง ๆ จะได้จับแบบคาหนังคาเขาไปเลย ตอนนี้มันคารังคาซังเพราะมันไม่มีวิธีไหนที่เหมาะสมเลยที่จะให้แอป Benchmark พวกนี้สะท้อนการใช้งานจริงได้แบบจริง ๆ ตราบใดที่ยังรวม app ไว้เป็นก้อนเดียวแบบนี้
เห็นด้วย
เห็นด้วยอย่างแรงครับ
ผมว่ายากแฮะ เพราะสุดท้ายตัว OS ก็จะพยายามหลอก benchmark อยู่ดี
ของssใช้gosบีบ แล้วของเสียวใช้อะไรบีบ
ก็ไม่น่ายากนี่ครับ ในเมื่อมันควบคุมโดย software งั้นก็เพิ่มการตั้งค่าโดยใช้ชื่อเป็นโหมด default และมีโหมด performance ให้เลือกโดยระบุว่าจะไม่มีการปรับลดความเร็ว และอายุแบตจะสั้นลง กับโหมดประหยัดแบตซึ่งหลายยี่ห้อก็มีอยู่แล้ว ก็น่าจะจบปัญหา….
เรื่องแบตน่าจะเรื่องรอง แต่เรื่องร้อนจนเกมกระตุกนี่ น่าจะปัญหาหลักกว่า
Facebook group กลุ่มเสี่ยวหมีไม่ถูกใจสิ่งนี้
ในกลุ่มไปดูมาแล้วครับ มีทั้งรับได้ และเข้าใจกับกรณีนี้ และรับไม่ได้ แต่ยังแถ เอ๊ย ปกป้องสุดฤทธิ์ครับ ลามไปแซะไอโฟนสมัยเรื่องแบตเสื่อมอีก
แค่มนุษย์คนนึงที่อยากรู้เกี่ยวกับวงการไอที
ผมเลิกใช้แบรนด์นี้ไปเลย เพราะสาวกหัวรุนแรงของกลุ่มนี้แหละ เคยใช้ 2 รุ่น เข้ากลุ่มสมัยสมาชิกหลักร้อย หลังๆ นี้ สมาชิกหลากหลาย วุฒิภาวะต่ำลงมาก บายดีกว่า ไม่คิดกลับไปใช้อีกเลย
WE ARE THE 99%
ผมเองก็ด้วย หลังๆไม่รู้จะแยกรุ่นทำอะไรนักหนา segment เดียวกันย่อยอะไรมามั่งก็ไม่รู้ เลือกไม่ถูก ขี้เกียจตาม สุดท้ายไม่ซื้อเพราะรุ่นมันเยอะเกินไปจริงๆ ทำรุ่นออกมาแบบนี้ทำเป็นเครื่องประกอบไปเลยดีกว่ามั้ง