ทรูคอร์ปอเรชั่น หรือ ทรู แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่ามติที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2565 ซึ่งจัดขึ้นในวันนี้ 4 เมษายน 2565 ได้อนุมัติให้มีการควบบริษัทกับ โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น หรือ ดีแทค โดยมีคะแนนเสียงเห็นด้วยคิดเป็น 99.3713%
ขั้นตอนถัดไปคือการจัดสรรหุ้นในบริษัทร่วมทุนใหม่ที่จัดตั้งขึ้น ซิทริน โกลบอล และให้บริษัทใหม่เป็นผู้ดำเนินการเกลี่ยและปัดเศษหุ้น ตามขั้นตอนการควบบริษัทให้แล้วเสร็จ
ในวันนี้ ดีแทคก็จัดประชุมผู้ถือหุ้น และที่ประชุมมีมติอนุมัติการควบรวมกิจการกับทรูเช่นกัน
ที่มา: ทรู
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Comments
รอดูว่าหน่วยงานต่างๆ ของไทยว่าไง ถ้าควบรวมได้ก็เตรียมย้าย
โปรนายทุนกันขนาดนี้ ก็คงอิ่มๆกันไปรอบวงอ่ะครับ
ประชาชนก็รอรับเคราะห์ได้เลย
เคยได้ยินไหมครับ
"เจ้าสัวบางคนมีความฝัน อยากได้อะไรก็ต้องได้"(เคยถึงกับมีข่าวลือที่ไม่ทราบแหล่งที่มาเปรยๆ
ว่าอยากเป็นซัมซุง หรือ อาลีบาบา)
แต่ถ้าเกิดไทยมีบริษัทที่ไประดับโลกได้แบบนั้น มันก็ดีนะครับมันจะสามารถยกระดับค่าแรงของคนในประเทศได้เลย
จริง ๆ รัฐควรจะเริ่มผลักดันได้แล้ว ปั้นสัก 1-2 บริษัทที่มีแววให้ไปสู่ระดับโลกให้ได้
ถ้าเป็นบริษัทเกี่ยวกับเทคโนโลยีจะดีมาก ๆ
กลัวจะเก่งแค่ในประเทศ ผูกขาดจนไม่เหลือที่ให้คนที่มีศักยภาพจริงๆ แทรกขึ้นมาได้มากกว่าน่ะสิครับ
ว่ากันตามตรง... ผมแทบไม่เคยเห็นหน่วยงานไหนในไทยทำอะไรให้นายทุนเสียผลประโยชน์เลยครับ
ไม่ใช่แค่เรื่องการผูกขาดแต่หน่วยงานอื่นๆก็ด้วย เวลามีปัญหาอะไรก็เห็นแต่ออกมาตรการไปเยียวยาคนที่มีปัญหาหรือควบคุมผู้ประกอบการปลายน้ำ แทนที่จะจัดการนายทุนที่อยู่ตรงกลาง
นายทุนรายใหม่ รายย่อย รายเล็กโดนทุกอย่าง กฎหมายจะยุติธรรมกับนายทุนเล็กๆ มากกว่านายทุนใหญ่ๆ
ถ้ากรณีล่าสุดก็แบบแพลตฟอร์มขายหวยมังกรฟ้าที่ถูกบังคับใช้กฎหมายอย่างยุติธรรมมากกว่าผู้ขายรายเดิมๆ ที่ขายแพงมาไม่รู้กี่สิบปี แต่ตรวจจับไม่เคยเจอ แล้วก็แก้ปัญหาหวยแพงไม่เคยได้
แต่มังกรฟ้าโดนเต็มๆ
แต่ละรบ.ก็ทุนนิยมทั้งหมดแหละ แค่ว่าสนับสนุนนายทุนต่างคนกันแค่นั้น ดีนะที่ผมไม่เล่นหวย แต่กรณีดีแทคนี่กระทบเต็มๆ เพราะดีแทคคือเป็ดเบอร์หนึ่งของผม ราคาดี, ผมใช้มาเกินสิบปี, ไม่มี SMS บ้าบอ, ไม่มีลูกเล่นตุกติกแอบขึ้นราคา (แต่ก่อนก็มีนะ), ระบบไม่ล่มบ่อย, เน็ตไม่ได้ทั่วถึงทุกที่ แต่เป็นส่วนใหญ่ของที่ผมไป, เน็ตไม่ได้ช้า แต่ก็ไม่ได้เร็วอะไรมากมาย, ลูกค้าเก่ามากอย่างผมได้รีวอร์ดมากสุดก็ประมาณนำ้ 1 แก้วใน MK
ถ้าผมจะย้ายก็คงไป AIS นี่แหละครับ
จำ Lotus, Makro ได้ไหมละครับ ? ยังจะหวังกับหน่วยงานประเทศนี้อีกเหรอครับ ?
ผมเป็นคนมองโลกในแง่ดีมากครับ
อยากให้ควบ
ทำไมเหรอครับ?
เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!
อยากเห็นการเปลี่ยนแปลง
แข่งขันกัน 3 เจ้ายังไม่มีการเปลี่ยนแปลงมากพอ ทำไมคุณคิดว่าแข่งขันกันแค่ 2 เจ้ามันจะเปลี่ยนแปลงเยอะขึ้นเหรอครับ?
เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!
ผมว่าเค้าน่าจะหมายถึง Dtac น่ะครับ ทุกวันนี้นิ่งมาก ไม่ทำอะไร มีแต่รอวันตายอย่างเดียว ผมใช้ Dtac มา 20 ปี ตอนนี้เรียกได้ว่า อะไรก็สู้สองเจ้าที่เหลือไม่ได้เลย ต่อให้ไม่ควบ สักวันก็ต้องจากไปอยู่ดี
ส่วนเรื่องที่กังวลว่าผู้บริโภคจะเสียผลประโยชน์ ก็อาจจะใช่ แต่ตอนนี้มันยังไม่เกิด และก็ผมมองว่าจะเกิดก็น่าจะยาก เพราะคนไทยอ่อนไหวเรื่องราคา แล้วโดนสปอยกับเรื่องราคาโปรมือถือกันมานานแล้ว ตอนนี้แพกเกจถูกจนไม่รู้จะถูกยังไง Unlimited เดือนละร้อยกว่าก็ยังมีแบบเติมเงิน ถ้ารวมหัวกันขึ้นราคาจริง มันก็ต้องมีทางเลือกที่สามเกิดขึ้นนะผมว่า เช่น TOT?
ส่วนเรื่องค่าโทรนี่ ถ้ามันแพงมากจนจับต้องไม่ได้ ก็โทรผ่านเนตเอาแทน
ยังไงซะ การแข่งขันบ้านเรามันก็ยังอยู่แหละครับ แต่แข่งกับรายได้ของลูกค้ามากกว่าที่จะแข่งกันเอง เพราะต่อให้ขึ้นราคาไป 10 เท่า แต่รายได้ลูกค้าไม่ได้ขึ้นตามแล้วจะไปขายใครล่ะครับ
ปัญหาคือเรื่องควบรวมถ้าควบไปแล้วมักจะแก้ปัญหาลำบากกว่า เพราะลูกค้าจะกลายเป็นตัวประกันไปแล้ว บริษัทจะถือไพ่เหนือกว่าทันที เรื่องนี้ทางหน่วยงานรัฐจะต้องมองให้ออกและป้องกันก่อนควบรวม
ส่วนเรื่องราคาถูกสปอยก็จริงอยู่ แต่ก็เป็นเพราะการแข่งขันจนถึงมีราคาสปอยลูกค้าแบบนี้ได้ ตัวอย่างก็มีให้เห็นอยู่
อย่างเมื่อหลายปีก่อนโลตัสมีคูปองซื้อ 600 ลด 100 บาท Tops ก็ออกโปรมาอัดคล้าย ๆ กัน แข่งกันมันอยู่พักหนึ่ง สุดท้ายก็จับมือกันเลิก ลูกค้าก็ยังต้องไปซื้อแบบไม่มีโปรอยู่ดีเพราะไม่มีทางเลือก เรื่องนี้ก็คล้าย ๆ กัน
การกำกับที่ดีคือต้องสร้างตลาดให้อยู่ในสภาวะมีการแข่งขันตลอดเวลา อย่าปล่อยให้เอกชนนอนกินสบาย ๆ เพราะปกติธรรมชาติของเอกชนเขาหาลู่ทางเก่งกว่ารัฐอยู่แล้ว
ในเรื่องการแข่งขัน ผมมองว่ามันก็ดีสำหรับผู้บริโภค แต่ส่วนตัวผมเฉย ๆ ครับ เฉยมาก ๆ แต่ผมไม่ได้คิดแทนใครนะ ส่วนตัวผมมองว่า ถ้าแข่งแล้วมันไปไม่รอด ก็ตาย อัดโปรมาก ๆ ขาดทุน แข่งกันจนตายไปข้างนึง แบบนี้ที่ Dtac กำลังเป็น ผมว่ามันก็ไม่ยั่งยืนน่ะครับ ส่วนตัวผม ถ้าสามารถเลือกได้ระหว่างให้ Dtac อยู่ แล้วจ่ายแพงกว่าหน่อย กับให้เค้าลดราคาจนตายไป ผมเลือกอย่างแรกนะ แต่เหมือนจะไม่เป็นแบบนั้น เพราะคนส่วนใหญ่ก็จะมองของถูกอย่างเดียว ซึ่งมันก็ไม่ผิด สุดท้ายแล้ว ถ้าเหลือ 2 เจ้า แล้วเลิกแข่ง จับมือกันหากำไร ก็แล้วแต่ครับ ผมอาจจะเดือดร้อน แต่มันก็จะมีทางออกของมันเอง ใช้น้อยลง หรือไม่ก็เลิกใช้ เปลี่ยนเป็นเติมเงิน แต่ถ้ามันทำให้ธุรกิจเค้าอยู่รอด มีกำไร พนักงานอยู่ได้ มีสวัสดิการที่ดี ผมโอเคนะ ไม่ใช่แข่งกันจนตายไปแบบนี้ ูอย่าง Apple ขายของแพงหูตูบ กำไรล้น ๆ คนก็ยังซื้อ เพราะเค้ามีของดี และมีทุนไปพัฒนาของเค้า ค่ายมือถือก็เหมือนกัน เอาเงินเยอะ ๆ ไปพัฒนาคุณภาพ แล้วดึงลูกค้าจากตรงนั้นดีกว่า อย่ามาแข่งกันลดราคา แล้วมาหาทางลดคุณภาพเลย
ทุกวันนี้แพกเกจผมก็เหมือนจ่ายทิ้งอยู่แล้วเดือน ๆ นึง โทร 300 นาที เนต 32 กิก ใช้เดือนละไม่ถึง 10% แต่ผมก็ยังจ่าย โทร 30-50 นาที เนตไม่ได้ใช้เลย เพราะใช้เนต AIS สองซิม
แต่นั่นคือการใช้จ่ายและความคิดส่วนตัวของผมนะครับ
แนวคิดคุณแปลกดีครับ คุณเป็นห่วงบริษัทมหาชนจะกำไรน้อย จนอยู่ไม่ได้
ยกตัวอย่างบริษัทแบบนี้ให้ซัก 2-3 บริษัทได้ไหมครับ ว่ามีบริษัทไหนบ้างที่ใช้วิธีแบบนี้ จนบริษัทอยู่ไม่ได้ ?
ต้งขอโทษจริง ๆ ครับ ผมไม่ทราบเลยครับ เพราะไม่มีความรู้ทางด้านนี้เลย แค่คิดตื้น ๆ แค่ว่า ถ้าบริษัทมีกำไร ก็น่าจะอยู่ได้น่ะครับ แต่ถ้าขาดทุนเรื่อย ๆ ก็อาจจะเจ๊งแล้วปิดตัวลงไปเอง แล้วปกติกำไรก็มาจาก สัดส่วนของต้นทุนและรายได้น่ะครับ ผมทราบแค่นี้จริง ๆ ถ้ารายได้น้อยกว่าต้นทุนก็คือขาดทุน ถ้ารายได้มากกว่าต้นทุนคือกำไร
ส่วนเรื่องการบริหารยังไงให้ได้กำไร แล้วใช้วิธีไหนถึงทำให้ขาดทุน อันนี้ผมไม่รู้เลยครับ ผมแค่คิดว่าบริษัทที่สู้ไม่ไหวด้านราคา และไม่สามารถลดต้นทุนได้จนทำให้ขาดทุนและปิดตัวลง มันต้องมีบ้างแหละครับ หรืออาจจะไม่มีก็ได้
Dtac ล้ม ก็เหลือสองเจ้าอยู่ดีครับ
จริงๆ พลังอยู่ที่ผู้บริโภคครับ ทุกคนที่ไม่เห็นด้วย ก็ต้องไปช่วยจ่าย ช่วยใช้ ให้ Dtac กลับมาอยู่ที่ตำแหน่งที่สามารถจะแข่งขันได้ และมีกำไรมากพอจนสามารถนำไปต่อยอด Infrastructure ได้ครับ
ส่วนคนที่ไม่เห็นด้วยกับการควบรวม แต่ก็ใช้ True AIS อันนี้ผมมองว่าเค้าโอเคกับการที่ค่ายเค้าไม่พัง แล้วก็สบายแล้วครับedit: เพิ่มความชัดเจนของรูปประโยค
ผมไม่คิดว่าปัญหาคือเรื่องการแข่งขันในการตลาดแต่เป็นเรื่องกำลังภายใน และพลังในทางอื่นๆ ครับ
และคิดว่าจริงๆ น่าจะเป็นปัญหาแบบ Uber VS Grab ที่ทำให้ Uber ต้องถอนตัวด้วย (มังกรต่างถิ่น VS งูเจ้าที่)
"แต่ถ้ามันทำให้ธุรกิจเค้าอยู่รอด มีกำไร พนักงานอยู่ได้ มีสวัสดิการที่ดี ผมโอเคนะ ไม่ใช่แข่งกันจนตายไปแบบนี้"
ปัญหาคือมันไม่มีอะไรการันตีครับว่าเค้ากำไรมากขึ้นจะเกิดเหตุการณ์อย่างคุณว่ามา ส่วนใหญ่เราเห็นในโลกนี้คือบริษัทกำไรมากขึ้นคือเจ้าของรวยขึ้นครับ พนักงานได้แค่เศษเงิน ยิ่งธุรกิจผูกขาดมากแค่ไหน ก็มีแนวโน้มจะเป็นอย่างที่ผมว่ามากขึ้นเท่านั้น เพราะไม่จำเป็นต้องไปง้อลูกค้ามาก พนักงานก็เช่นกัน
เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!
ในมุมมองผู้ถือหุ้นการควบรวม เป็นผู้ผูกขาดจะส่งผลต่อกำไรของผู้ถือหุ้นที่สุดครับ โดยตั้งสมตติฐานการร่วมกันไม่แข่งขันกัน
ส่วนตัวที่ผมมองนะครับที่ตลาดโอเปอร์เรเตอร์บ้านเรายังแข่งกันได้นี่เพราะผู้ถือหุ้นใหญ่มันไม่ใช่คนไทย ไงครับ
หมายถึงว่าคุณคิดว่าคุณ freeriod เป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นเหรอครับ?
เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!
ผมไม่ได้พูดอย่างงั้นนะครับผมหมายถึงใน General term
แต่เอาจริงๆส่วนตัวถ้าไม่มีผลประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
คงไม่อยากให้ใครควบรวมกันหรอกครับ เพราะการแข่งขันแล้วๆมานี่
ผมเห็นแต่ประโยชน์แก่คนหมู่มาก
มีแต่ ผถห. ทรูนี่หละน้ำตาตกแล้วตกอีก ความหวังของผู้ถือหุ้นเอาจริงๆ
มันก็ต้องอย่างงี้นี่หละครับ
แต่มองในมุมมองเม่าที่รีบกระโดดเข้าช่วงโควิด
......คือผมมองไม่เห็นเลยดีแทคจะคว่ำอีก 2 รายได้ยังไง
ถ้าไม่ควบรวม ธุรกิจข้างเคียงก็ไม่ทำ ธุรกิจเกี่ยวเนื่องก็ไม่มี
ขอ edit ที่จริงดีแทคก็ทำนะ แต่คว่ำที่ผมจำได้
ร่วมกับ JAS ยอดน่าจะได้น้อยเลยเลิก
ทำ DTAC แจ๋ว แต่เหมือนจะไม่เป็นท่าเหมือนกันจากการ Disrupt
ของ Internet Banking + Mobile Banking
ส่วน C* group ก็หนี้พะรุงพะรัง จะขยับขยายก็ยาก
จะมีอะไรตื่นเต้นๆก็ต้องควบรวมกิจการนี่หละครับ
นักวิเคราะห์ยังมองเลยว่าหลังควบรวมเสร็จต้องขายเสาเข้าไปใน DIFแล้วต่ออายุหรือไม่
ผมไม่เข้าใจอะ ผมเห็นคุณ freeriod เมนต์ว่าอยากให้รวม ผมก็ถามเขาว่าทำไมอะ แต่คุณมาตอบในมุมมองผู้ถือหุ้น ผมก็ถามว่าคุณคิดว่าคุณ freeriod เป็นผู้ถือหุ้นเหรอถึงอยากให้ควบ คุณก็บอกว่าไม่ เอ๊า ผมต้องทำความเข้าใจยังไงอะ อ่านกี่รอบก็ยังงงอยู่ดี
เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!
ผมตอบอ้อมๆแบบไม่ให้เอาประโยคมาฟ้องได้นะครับ(ช่วงนี้ติดนิสัย)
คือแก่น แต่ไหนๆเคลียร์เลยละกัน
ถ้าไม่มีผลประโยชน์ทางตรง/อ้อมมีใครอยากให้ควบรวมหรือครับ?
"ถ้าไม่มีผลประโยชน์ทางตรง/อ้อม มีใครอยากให้ควบรวมหรือครับ?"
ตอบ: ไม่มีครับและก็นั่นแหละครับ ผมถึงถามไงว่าทำไมคุณ freeriod ถึงอยากให้ควบรวม ผมก็อยากรู้เค้ามีผลประโยชน์ทางตรง/อ้อมกับการควบรวมนี้ตรงไหน? ผมก็ยังงงกับคุณอยู่ดีว่าต้องการจะบอกอะไร...
เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!
ผมว่าคุณ ash_to_ash น่าจะอธิบายเหตุผลในมุมมองธุรกิจอยู่นะ
ไม่อยากให้ควบ เพราะขายหมูไปตั้งแต่ 38 บาทเลี้ยววววว วนรถกลับมารับก่อนนนนน XD
OTCC มีไว้ทำไม?
เพิ่งรู้ว่ามีชื่อย่อหน่วยงานอะไรแบบนี้ก็ตอนที่ท่านพิมพ์ในนี้นี่แหละครับ...
DTAC สิ้นสภาพแข่งขันมานานแล้วการควบรวม จะทำให้ 2 รายใหญ่ แข่งขันกันได้ต่อไป (ไม่งั้นเบอร์ #1 จะทิ้งห่าง เบอร์ #2 เกินไป)
งงอะ ถ้ามี 2 รายจะแข่งกันรแบบปัจจุบันให้กำไรเรี่ยดินทำไม เป็นผมคงแข่งแค่ให้ได้ optimal profit ดีกว่าแล้วการควบรวมแบบนี้ประชาชนมีแต่เสียประโยชน์
ถ้าแข่งไม่ไหว ก็ขายกิจการให้คนอื่นมาซื้อครับการควบรวมกับเจ้าใหญ่อีกเจ้า จะทำให้มีอำนาจเหนือตลาด ถ้าเป็นประเทศที่คุ้มครองผู้บริโภคจริงๆ เคสนี้เดาตอนจบได้เลยครับ
คุยเรื่องนี้กันไปเป็นเดือนเป็นปี ก็ไม่มีอะไรเปลี่ยน
ถ้าได้ควบกันจริงหน่วยงานควบคุมบ้านเราจะมีไว้ทำไม?
คิดว่าถ้า dtac ขายให้ jas/3bb ไปผมสนับสนุนนะ คิดว่าตลาดน่าจะแข่งกันดีกว่าเดิม
ส่วนข้ออ้างเรื่องนวัตกรรมอะไรนั่นถ้ามันมีอยู่จริงก็สร้างบริษัทใหม่ไปเลยแบบแบงค์ม่วงไม่ต้องรอมาควบรวมกันก่อนแล้วค่อยทำ เพราะถ้านวัตกรรมมันดีจริงมันก็จะเกิดได้ด้วยตัวมันเองอยู่แล้ว
+
ผมอยากให้ขายให้ JAS มากกว่า
ค่าใบอนุญาตใช้คลื่นความถี่แพงไปหน่อย จนไม่เกิดเจ้าใหม่ เสียดายตอนนั้น JAS อยากเข้ามาเล่นด้วย ดันกดราคากันแพงมาก
ถ้ามองในแง่ร้ายไปเลยคือ เจ้าตลาดเดิมไม่อยากให้มีขั้วที่ 4 จะทำให้แข่งขันมากขึ้นส่งผลต่อกำไรที่จะหายไป