Bitwarden ผู้ให้บริการซอฟต์แวร์จัดการรหัสผ่านโอเพนซอร์สชื่อดังได้ประกาศเข้าซื้อกิจการ Passwordless.dev บริษัทสัญชาติสวีเดนผู้พัฒนา API สำหรับการเปิดให้เว็บไซต์ต่างๆ รองรับการล็อกอินแบบไร้รหัสผ่านได้ง่ายๆ
บริการของ Passwordless.dev นั้นพัฒนาขึ้นบนมาตรฐานกลางอย่าง WebAuthn ที่รองรับการล็อกอินด้วย Face ID, Windows Hello, สแกนนิ้ว และ security key โดยที่นักพัฒนาไม่ต้องศึกษามาตรฐานของ W3C รวมถึงเสี่ยงพัฒนาเองแล้วเกิดช่องโหว่ด้านความปลอดภัย
ภาพโดย Passwordless.dev
ปัจจุบันปัญหารหัสผ่านหลุดทวีความรุนแรงขึ้น ดังที่เราเห็นข่าวกันเรื่อยๆ ว่าบริการต่างๆ โดนเจาะอยู่ตลอด แม้กระทั่ง LastPass ที่เป็นผู้ให้บริการซอฟต์แวร์จัดการรหัสผ่านก็โดนมาแล้ว ทำให้เทรนด์การล็อกอินโดยไม่ใช้รหัสผ่านกำลังมาแรง เช่น Apple ก็เปิดตัว Passkeys สำหรับการล็อกอินไร้รหัสผ่าน หรือเมื่อปี 2021 Microsoft ก็อนุญาตให้ผู้ใช้ลบรหัสผ่านทิ้ง และใช้แอพ Microsoft Authenticator หรือกุญแจ U2F อย่างเดียว
หากผู้พัฒนาท่านใดสนใจ สามารถลองเวอร์ชันเบต้าได้ฟรีจนถึงเดือนเมษายนนี้ และหลังจากนั้นจะมีค่าใช้จ่าย หรือหากใครยังนึกไม่ออกว่าการล็อกอินแบบไร้รหัสผ่านเป็นอย่างไรก็สามารถเข้าไปหน้าเว็บของ Passwordless.dev แล้วกดที่ Experience Passwordless.dev in action เพื่อทดลองเล่นได้ โดยเบราว์เซอร์เจ้าใหญ่รองรับกันหมดแล้วเช่น Chrome, Edge, Firefox, Opera และ Safari
ที่มา - TechCrunch
Comments
ยังงงๆ อยู่ว่าถ้าใช้ Windows Hello นี่จะย้ายเครื่องหรือข้ามเครื่องยังไงได้บ้าง พยายามจะใช้โทรศัพท์มา login ให้คอมก็ยังทำไม่สำเร็จ ตอนนี้ที่กล้าลบรหัสผ่านออกเปิด passwordless ก็แค่เพราะมี hardware key อยู่ไม่งั้นก็ไม่กล้าเหมือนกัน
ก็ดีนะ ใช้สแกนนิ้ว สแกนหน้า แทนระหัสผ่านไป น่าจะป้องกันได้ระดับหนึ่ง แต่ผู้ใช้ยังชอบกดอะไรไม่อ่านอีก ก็รอดยาก
ถ้าคนปกติใช้ biometric นี้ไม่มีปัญหาเท่าไรแต่ถ้าพวก celebrity นี้ไม่ควรใช้ เพราะตัวเองทิ้งรอย biometric ไว้ที่ public เยอะมาก
เอาจริงผมว่า biometric กับ password ไม่ปลอดภัยพอๆ กัน มันมีข้อดี/เสียหักล้างกันไปแค่ตอนนี้คนใช้ password เยอะกว่ามากเลยดูเหมือนจะไม่ปลอดภัยกว่าเท่านั้น
ตามที่ผมเข้าใจมันไม่ได้ใช้ biometric โดยตรงนะครับ แต่ใช้ biometric ในการปลดล็อคอุปกรณ์ที่เก็บ key อีกชั้นนึง เหมือนเป็น master password ของ password manager แต่เป็น master unlock key ของ passwordless manager แทน
อย่างสมมติ ของ Apple คือต้องใช้ biometric เราในการเทียบและปลดล็อค biometric device ก่อนชั้นนึง (อันนี้ถ้าผมเข้าใจไม่ผิด) ตัว biometric device ถึงจะส่งข้อมูลกับ OS ยืนยันว่าเป็นผู้ใช้จริงก่อน แล้ว OS ถึงจะเอาข้อมูลนั้นไปปลดล็อค passkey ออกมาจาก iCloud Keychain มาแล้วส่งเพื่อ login กับ app อีกทีนึง
อย่างน้อยๆ ก็ต้องได้อุปกรณ์สมประกอบไปทั้งชุดก่อนด้วยน่ะครับ