รัฐบาลสหรัฐอเมริกา ประกาศแผนการสร้างเครือข่ายสถานีชาร์จ EV จำนวน 500,000 จุดทั่วประเทศ พร้อมกำหนดสเปกกลางของที่ชาร์จ EV ให้รถยนต์ทุกยี่ห้อใช้ร่วมกันได้
ก่อนหน้านี้รัฐบาลสหรัฐผ่านกฎหมายลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure Law) มาตั้งแต่ปี 2021 โดยมีงบประมาณลงทุนสร้างสถานีชาร์จ 7.5 พันล้านดอลลาร์ เงินจำนวนนี้จะใช้อุดหนุนการสร้างสถานีชาร์จของเอกชน ภายใต้เงื่อนไขว่าต้องเป็นสถานีที่ปฏิบัติตามสเปกกลางของรัฐบาล และใช้วัสดุในการก่อสร้างอย่างน้อย 55% จากในสหรัฐอเมริกาเอง
รัฐบาลสหรัฐมอบหมายให้กรมทางหลวง (Federal Highway Administration หรือ FHWA) เป็นผู้ออกสเปกมาตรฐานสถานีชาร์จ EV ซึ่ง FHWA ได้กำหนดกรอบกว้างๆ ของสถานีชาร์จ ดังนี้
- การชาร์จต้องมีมาตรฐานที่เชื่อถือได้(predictable and reliable experience) ตั้งแต่หัวชาร์จ ระดับกำลังไฟ จำนวนจุดชาร์จเร็วขั้นต่ำต่อสถานี
- สถานีชาร์จต้องทำงานได้เสมอกำหนดค่า uptime reliability ของจุดชาร์จที่ 97%
- ผู้ขับรถยนต์ต้องค้นหาสถานีชาร์จที่ต้องการได้ง่ายเป็นเรื่องการแชร์ข้อมูลพิกัด ราคา ข้อมูลหัวชาร์จที่ว่าง ข้อมูลการเข้าถึงอื่นๆ ผ่านแอพแผนที่ต่างๆ
- ผู้ขับรถยนต์ไม่จำเป็นต้องใช้แอพและบัญชีหลายอันเพื่อชาร์จกำหนดเรื่อง ID กลางสำหรับใช้งานชาร์จ เพื่อใช้ได้กับสถานีชาร์จทุกแห่ง
- การชาร์จต้องง่ายสามารถเสียบปลั๊กแล้วชาร์จได้เลย (Plug and Charge) รถยนต์และสถานีชาร์จจะสื่อสารเรื่องบัญชี ค่าใช้จ่ายกันเอง (ผ่านกระบวนการสื่อสารแบบเข้ารหัส) ไม่ใช่ว่าผู้ใช้ต้องแตะบัตรเครดิต แตะแท็ก RFID หรือเปิดใช้งานแอพก่อน
บริษัทรถยนต์และสถานีชาร์จหลายแห่งในสหรัฐอเมริกา ออกมาสนับสนุนแผนการนี้ของรัฐบาลสหรัฐ ที่สำคัญคือ Tesla ประกาศเปิดเครือข่ายสถานีชาร์จ Supercharger ของตัวเองให้รถยนต์ยี่ห้ออื่นใช้เป็นครั้งแรก ส่วนบริษัทรถยนต์อื่นๆ อย่าง GM, Volvo, Mercedes-Benz, Ford, Electrify America (ของ VW) ก็ประกาศแผนการสร้างสถานีชาร์จเพิ่มขึ้นเช่นกัน
ที่มา - Whitehouse , FHWA , Electrek , The Register
ภาพจาก Electrify America
Comments
ไทยควรเอาแบบนี้ด้วย app เยอะมาก
แล้วคำว่า เป๋าตัง ก็แว๊บเข้าหัวมาทันที
แอพใหม่ รถพร้อม
เป็นสิ่งหนึ่งที่อยาให้เป็นจริงเลยครับMe : หันมามองระบบตั๋วร่วมของระบบขนส่งสาธารณะ....
นั่นนะสิ ขนาด M-Flow กับ EasyPass ยังใช้รวมกันได้ ทำไมแค่ MRT กับ BTS ยังจะรวมไม่ได้ แม้แต่แค่เปิด EDC บัตรเดบิต/เครดิต ก็มีแค่ ขสมก, สายสีแดง กับ MRT เท่าที่เคยใช้บริการมานะ
มันติดแค่ไม่กี่อย่างหรอก ไม่พ้นเรื่องผลประโยชน์ และความเห็นแก่ตัวของแต่ละหน่วยงาน
ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว
กฏแบบมีแค่ Tesla supercharger เจ้าเดียวที่ผ่านจริงๆ
ออกมาเพื่อกระตุ้นให้เจ้าอื่นพัฒนาให้ดีเท่า + บีบให้ tesla เปิดให้รถยี่ห้ออื่นใช้ได้ด้วย = ผู้ใช้งานได้ประโยชน์ทุกทาง
ทำได้จริงคง simplify ลงได้เยอะ ให้ charger infra ได้ลงมือทำ infra จริงจังได้สักที
บล็อกส่วนตัวที่อัพเดตตามอารมณ์และความขยัน :P
แอพเยอะผมเฉยๆ แต่ให้สามารถใช้จ่ายได้ทุกแอพไม่ใช่หัวนี้ได้เฉพาะแอพนี้ เท่านั้น
ไทยควรเริ่มวางมาตรฐานแบบนี้ก่อนเลยมั้ยครับ หรือต้องรอรถน้ำมันหมดไปก่อน
ผมว่าอย่ารอรถน้ำมันหมดเลยครับ รีบไปเติมก่อนดีกว่า
สาดน้ำมนต์ใส่
ใช่ครับ ควรเริ่มทำตอน early นี่แหล่ะ ไม่งั้นเริ่มโตแล้วจะมาควบคุมยาก เอกชนก็อ้างเรื่องลงทุนไปแล้วPEA , MEA มีประกาศเรื่องค่าไฟราคาถูกสำหรับจุดชาร์จ EV ก็เอาจุดนี้แหล่ะมาควบคุมมาตรฐานจุดชาร์จ EV ของเอกชนเอาเลย
+1
อยากให้ไทยวาง Roadmap ไว้ตอนนี้เลย ตั้งแต่ตอนที่ยังมีน้อย ๆ ยังไม่ลงลึกกันมาก ยังพอแก้ได้ง่าย ถ้านานกว่านี้ เยอะกว่านี้ การจะแก้จะยากขึ้นเยอะ
เห็นด้วยกับหลายๆคอมเมนท์ที่ว่า ไทยควรวางรากฐานแบบนี้ได้แล้ว อย่าไปวางตอนที่ระบบและติดตั้งไปเยอะแล้ว มันจะแก้ไม่ทัน
ชาร์ท DC ขั้นต่ำควรเริ่มที่ 100 Kw/h ขึ้นไป
เรื่องมาตรฐานของไทยยังต้องทำใจจริงๆ
ทุกวันนี้ กฎหมายสำหรับตั้งสถานีชาร์จ ยังไม่มีเลย ยังต้องเอา กฎกระทรวงสถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิง, กฎกระทรวงระบบไฟฟ้าและระบบป้องกันอันตรายจากฟ้าผ่าของสถานที่ประกอบกิจการน้ำมัน ฯลฯ มาประกอบๆร่างกัน เพื่อให้ครอบคลุมเรื่องสถานีชาร์จ
ทั้งๆที่ปากบอกว่าผลักดันรถยนต์ไฟฟ้า แต่การวางรากฐานไม่มี ไม่สิ จริงๆแล้วเมืองไทยจะผลักดันอะไร ก็มักจะแบบนี้ ทำๆไป ไม่ค่อยได้วางรากฐานให้ดี ดูอย่างปัญหากัญชาเป็นตัวอย่าง เสร็จแล้วก็จะมีช่วงสุญญากาศทางกฎหมายของเรื่องนั้นๆ
จริงๆ อยากให้ทำให้จ่ายเงินง่ายๆ ไม่ต้องมีแอพอะไรหรอก เหมือนที่กิ้งก่าไฟทำลังจะทำ หรือทำเหมือนเวลาจ่ายเงินในห้างแค่เอาบัตรแตะก็เสร็จเลยอะไรแบบนี้
ผมก็คิดแบบนี้เหมือนกัน แค่มีระบบจ่ายเงินหน้าตู้ก็จบแล้ว ทั้งเงินสด, บัตรเดบิต/เครดิต และบัตรเติมเงิน ทำง่ายด้วย
ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว