เมื่อวันอังคาร Cyberspace Administration of China (CAC) หน่วยงานกำกับดูแลบริการออนไลน์ของจีน ได้เสนอร่างกฎหมายควบคุมเทคโนโลยีจดจำใบหน้า หลังเทคโนโลยีดังกล่าวถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลายทั้งในภาครัฐและภาคเอกชนของประเทศ เช่น การสแกนใบหน้าเพื่อชำระสินค้าในซูเปอร์มาร์เก็ต การสแกนใบหน้าเพื่อเข้าออกอาคาร หรือแม้แต่การยืนยันตัวตนที่สนามบิน จนผู้คนจำนวนมากแสดงความกังวลเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว
CAC ได้กำหนดให้การใช้เทคโนโลยีจดจำใบหน้าจะต้องมีวัตถุประสงค์เฉพาะ หรือมีความจำเป็นในการใช้เทคโนโลยีที่มากพอ และต้องได้รับการอนุมัติรายบุคคล หรือความยินยอมในรูปแบบลายลักษณ์อักษร ภายใต้ร่างกฎหมายควบคุมนี้ CAC ยังระบุว่า
- การรวบรวมข้อมูลใบหน้าของบุคคลที่อายุต่ำกว่า 14 ปี จะต้องได้รับความยินยอมจากพ่อแม่ หรือผู้ปกครองตามกฎหมาย
- หน่วยงานที่ครอบครองข้อมูลใบหน้าของบุคคลมากกว่า 10,000 คน จะต้องลงทะเบียนกับสาขาท้องถิ่นของ CAC พร้อมยื่นวัตถุประสงค์ของการรวบรวมข้อมูล และมาตรการคุ้มครองข้อมูล
- การใช้เทคโนโลยีจดจำใบหน้าในพื้นที่สาธารณะจะต้องมีป้ายระบุการใช้เทคโนโลยีกำกับไว้อย่างชัดเจน
- ไม่ติดตั้งอุปกรณ์จับภาพและอุปกรณ์ระบุตัวตนภายในห้องพักของโรงแรม ห้องน้ำสาธารณะ และสถานที่อื่นๆ ที่อาจละเมิดความเป็นส่วนตัวของผู้อื่น
- สถานที่เช่น โรงแรม สนามบิน และพิพิธภัณฑ์ ไม่ควรบังคับให้บุคคลยินยอมการสแกนใบหน้า เพื่อการดำเนินธุรกิจ หรือ เพื่อปรับปรุงการบริการของตน
- อาคารต่าง ๆ ควรเพิ่มตัวเลือกอื่นนอกเหนือจากการจดจำใบหน้า เพื่อเข้าสู่อาคาร
นอกจากความกังวลด้านความเป็นส่วนตัวแล้ว ผู้คนยังกังวลเกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยีจดจำใบหน้าในจีนเพื่อระบุชาติพันธุ์ โดยเฉพาะการระบุตัวตนและติดตามชาวอุยกูร์
แม้ร่างกฎหมายควบคุมนี้จะเสนอให้องค์กรหรือบุคคลใด ๆ ละเว้นการใช้เทคโนโลยีจดจำใบหน้าเพื่อสร้างโปรไฟล์ตามเชื้อชาติ กลุ่มชาติพันธุ์ ศาสนา สุขภาพ ชนชั้นทางสังคม หรือข้อมูลที่ละเอียดอ่อนอื่น ๆ แต่ก็ยังมีข้อยกเว้น ไม่ต้องขอความยินยอมรายบุคคล หากข้อมูลที่รวบรวมมีความสำคัญต่อความมั่นคงของชาติและความปลอดภัยของสาธารณะ
ร่างกฎหมายดังกล่าวได้เปิดให้ประชาชนร่วมแสดงความคิดเห็นถึงวันที่ 7 กันยายน
ที่มา : TechCrunch , Reuters
Comments
ป้องกันความเป็นส่วนตัว -> ปกป้องความเป็นส่วนตัว
พึ่งมาทำหรอก่อนหน้านี้ที่ก้าวหน้าที่สุดในโลกเพราะไม่แคร์ประชาชน แต่ตอนนี้มาแคร์แล้วหรอ
เกือบจะดีแล้ว มาสะดุดตรงข้อยกเว้นเนี่ยแหละ
กฎหมายควรอ่านจากหลังมาหน้าสินะ
ขาวแบบนี้ เหมือนจะบอกว่าเราก็มีกฎหมายควบคุมความเป็นส่วนตัว ไม่ต่างจากฝั่่งตะวันตกเหมือนกัน แต่ก็มีข้อยกเว้นแบบที่่หลายคนคาดเดาได้ (เผลอๆ อีกฝั่่งก็เป็นเหมือนกันด้วย แต่ไม่ระบุในข่าวหรือ ToS ชัดเจนแบบนี้)
ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว
ดีม๊วกกกกก
ค.. 😂