Hideaki Itsuno ผู้กำกับเกม Dragon's Dogma 2 ให้สัมภาษณ์กับ IGN เกี่ยวกับระบบ Fast Travel ในเกมว่าทีมพัฒนาต้องการให้ผู้เล่นได้สัมผัสกับโลกของเกมอย่างเต็มที่ จึงจำกัดจุด Fast Travel ให้มีน้อยที่สุด
Itsuno เข้าใจว่าเกมเมอร์บางคนอาจคิดว่าการเดินทางแบบไม่ Fast Travel น่าเบื่อ แต่เขาเชื่อว่าการเดินทางไม่ได้น่าเบื่อ แต่เป็นเกมนั้นต่างหากที่น่าเบื่อ ทางแก้คือทำยังไงก็ได้ให้การเดินทางในเกมมันสนุก
นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมทีมงานต้องวางองค์ประกอบของเกมไว้ในตำแหน่งที่เหมาะสม เช่น การทำให้ศัตรูเกิดแบบสุ่มเพื่อสร้างประสบการณ์ที่แตกต่างกันทุกครั้งที่เจอ หรือการบีบให้ผู้เล่นเข้าสู่สถานการณ์ที่มองไม่เห็นว่าข้างหน้า 10 เมตรว่าปลอดภัยหรือไม่
ในเกม Dragon's Dogma 2 มี Fast Travel อยู่ 2 แบบ แต่ละแบบจะมีข้อจำกัดเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้เล่นพึ่งพาระบบนี้มากเกินไปดังนี้
- Port Crystalsผู้เล่นสามารถวาร์ปไปยัง Port Crystals ที่วางไว้ทั่วแผนที่ได้แต่ต้องใช้ไอเทมหายากอย่าง Ferrystone
- Oxcartsรถเกวียนที่เคลื่อนที่ด้วยวัวขนาดยักษ์สำหรับ Fast Travel ตามเส้นทางเฉพาะ แต่ระหว่างทางอาจถูกศัตรูซุ่มโจมตีได้
Itsuno ยกตัวอย่างสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นว่าระหว่างที่กำลังนั่งรถเกวียนว่าอาจมีก๊อบลินขวางทาง ทำให้ต้องลงไปสู้ และระหว่างสู้ กริฟฟินตัวหนึ่งอาจโฉบลงมาแล้วทำลายรถทั้งคันด้วยโจมตีเดียว บังคับให้ผู้เล่นต้องเดินเท้าต่อและสาปส่งกริฟฟินตัวนั้นไปตลอดทาง
ระยะหลังมานี้ระบบ Fast Travel ถูกวิจารณ์ในวงกว้างว่าทำให้เกมเต็มไปด้วยฉากโหลด บางเกมจึงเลือกปรับเปลี่ยนฟีเจอร์นี้ หรือไม่ก็ตัดออกไปเลย ซึ่งตัว Itsuno เองก็ชอบระบบ Fast Travel เพราะมันสะดวกดี แต่ตัวเขาเชื่อว่าการจำกัดจุด Fast Travel ในเกม Dragon’s Dogma เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง และเชื่อว่าจะทำให้ผู้เล่นเข้าถึงเกมได้อย่างเต็มรูปแบบ
ที่มา - IGN
Comments
ต่างหาก
แก้ไขแล้วครับ ขอบคุณครับผม
จำกัดยังไงก็ปล่อยให้ใช้ได้อิสระช่วงท้ายๆเกมบ้างก็ได้นะเผื่อจะทำภารกิจเก็บของ เก็บเควสไม่ได้หมายถึงเกมนี้นะ หมายถึงรวมๆถ้าหากมีการจำกัด fast travel
ยังนึกภาพไม่ออกว่าคนที่ออกสำรวจหาโน้นหานี่ท้ายๆเกมเค้าจะรู้สึกสนุกกับการเดินทางซ้ำๆซากๆที่ผ่านมาแล้วกว่า100hrได้ยังไง ยิ่งถ้าเดินทางไกลๆยิ่งเซ็งพาลจะทำให้คนไม่สำรวจ พอผ่านจุดไหนไปแล้วก็คือไม่วนกลับไปอีก
โรโรโนอา โซโร ไม่ถูกใจสิ่งนี้ :)
คอนเซปโอเคนะ คือการเดินทางในเกมแนวๆ Medieval มันควรจะลำบากนิดนึง จะไปไหนไกลๆต้องคิดก่อน มีราคาและเวลาที่ต้องจ่าย ไม่ใช่แค่กดปุ่มแล้ววาปไปได้ทั่ว
นึกเร็วๆก็แบบ World of Warcraft Classic การเดินทางมันก็พอจะสนุกอยู่นะ ขึ้นวินกริฟฟิน รอเรือเมล์ ฯลฯหรืออีกแนวก็ Project Zomboid ผมและเพื่อนจะย้ายเมืองนี่ต้องเตรียมตัวและวางแผนพอสมควรเลยนะ
แต่เกมมันก็ต้องออกแบบ quest flow มาให้ดี ถ้าต้องทำเควสโง่ๆระหว่างเมือง เดินไปเดินมาส่งจดหมายส่งโพชั่นมันน่าเบื่อ
อย่างที่เขาว่า จุดหมายมันไม่ได้สำคัญมากไปกว่าการเดินทาง
คนเข้าจะสำรวจ เขาก็จะทำเองถ้ามันดูน่าสำรวจอะ ไม่ใช่บังคับเขาเดินอย่างเดียว แปลว่ามั่นใจมากสินะที่จะทำให้การเดินทางไกลๆ ของเกมตัวเองมันไม่น่าเบื่อ ขนาดภาคแรก แค่เดินขึ้นเขาตรงหมู่บ้านก็ง่วงเวอร์
The Dream hacker..